แฟนนางงามแห่ต้อนรับ “โอปอล สุชาตา” มิสเวิลด์ 2025 กลับไทยแน่นสนามบิน

เมื่อวันที่ 14 มิถุนายน โอปอล สุชาตา ช่วงศรี มิสเวิลด์ 2025 เดินทางกลับประเทศไทย โดยสายการบิน Thai Airways หมายเลขไฟลต์ TG603 เพื่อร่วมกิจกรรม Home Coming 72nd Miss World 2025 หลังจากเสร็จสิ้นภารกิจที่ประเทศอินเดีย โดยมีแฟนนางงามพร้อมใจแปลงโฉม จัดเต็มแฟชั่นมงฟ้ารอต้อนรับอย่างอบอุ่นแน่นบริเวณท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ

โดยพิธีต้อนรับในครั้งนี้ จัดโดย กลุ่มเดอะมอลล์ กรุ๊ป ร่วมกับ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เทโร เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ และ TPN GLOBAL โดยมี ฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.), ไบรอัน แอล มาร์คาร์ จากเทโร เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ เจ้าของลิขสิทธิ์ MISS WORLD THAILAND, ศุภลักษณ์ อัมพุช ประธานกรรมการบริหารกลุ่มเดอะมอลล์, ปิยาภรณ์ แสนโกศิก ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ทีพีเอ็น โกลบอล จำกัด กรกฎ ชาตะสิงห์  ประธานเจ้าหน้าที่สายการพาณิชย์ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) พร้อมด้วย น้ำตาล ชลิตา ส่วนเสน่ห์ มิสยูนิเวิร์ส ไทยแลนด์ 2016, แนท อนิพรณ์ เฉลิมบูรณะวงศ์ มิสยูนิเวิร์ส ไทยแลนด์ 2015, เบลล่า ภาวิตา สุนทรพงษ์ มิสโกลบอล ไทยแลนด์ 2025, กานต์ ชนนิกานต์ สุพิทยาพร นางสาวไทย 2566 และรองอันดับ 3 มิสโกลบอล 2023, หมูแฮม โชตินภา แก้วจรูญ นางสาวไทย 2568 และทีมนางสาวไทย, แบงค์ อนุสิทธิ แสงนิ่มนวล ร่วมต้อนรับ

โดยบรรยากาศเวลา 13.30 น. โอปอล สุชาตา ปรากฏตัวพร้อมกับ จูเลีย มอร์ลีย์ ประธานองค์กรมิสเวิลด์ ท่ามกลางแฟน ๆ ที่มารอต้อนรับอย่างอบอุ่น ซโดยเธอสวมชุดราตรีคัตติ้งไหล่เบี่ยงรับสายสะพาย ผลงาน custom made สุดเอ็กซ์คลูซีฟจาก SIRIVANNAVARI เนรมิตด้วยผ้ามัวเร่ (Moiré) อันหรูหราในโทนสีงาช้าง ประณีตด้วยเทคนิคงานจัปเดรปสไตล์กูตูร์และเพิ่มความโดดเด่นด้วยงานปักอันพิถีพิถันจาก SIRIVANNAVARI Atelier & Academy ที่เพิ่มมิติและความโดดเด่นให้กับชุดราตรีอันเป็นบทสรุปแห่งความงามสง่าและมาดมั่น ถ่ายทอดถึงปรัชญาในงานออกแบบแฟชั่นของแบรนด์ SIRIVANNAVARI ที่รังสรรค์อาภรณ์ที่เสริมความมาดมั่นให้กับสุภาพสตรี (Empowering Woman)

สำหรับเครื่องประดับเป็นเซ็ตจิวเวลรีชั้นสูงจากคอลเลคชั่น Heirlooms of Elegance และ Amour Eternel รังสรรค์โดย SIRIVANNAVARI x Beauty Gems ทุกชิ้นเป็นผลงานมาสเตอร์พีซที่งดงามด้วยดีไซน์ร่วมสมัยและเลอค่าจากเพชรและอัญมณีหายากหลากชนิดอันเปี่ยมไปด้วยความหมายที่แสนพิเศษ พร้อมมงกุฏมิสเวิลด์ 2025 ในประวัติศาสตร์ ภายหลังการปรากฏตัวของโอปอล แฟนคลับต่างโบกสะบัดธงชาติไทย ควบคู่กับธงมิสเวิลด์สีฟ้า ด้วยความตื่นเต้น โดยโอปอลส่งรอยยิ้มหวาน โบกมือทักทายแฟนนางงามที่มารอรับเนืองแน่นบริเวณท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ

โดยระหว่างการปรากฏตัวของเธอนั้น แฟนนางงามยืนขนาบทั้งสองฟากฝั่งโบกสะบัดธงชาติไทยและธงมิสเวิลด์ พร้อมกับตะโกนเรียก"โอปอล" กระหึ่มสนามบิน บางส่วนถึงกับน้ำตาคลอด้วยความตื้นตัน
สวดคืนสุดท้าย แม่บอย ปกรณ์ คนบันเทิงร่วมอาลัยแน่นศาลา
วันที่ 13 มิถุนายน 2568 ณ ศาลาเกสนี วัดพระศรีมหาธาตุวรมหาวิหาร เขตบางเขน พิธีสวดพระอภิธรรมคืนสุดท้ายของ คุณแม่งามทิพย์ ฉัตรบริรักษ์ มารดาของนักแสดงชื่อดัง บอย ปกรณ์, หน่อง ธนา, ภัทร์ ฉัตรบริรักษ์ และ น้องวันใหม่ ซึ่งจากไปอย่างสงบในวัย 68 ปี หลังจากต่อสู้อาการป่วยโรคมะเร็งไตมานาน 6 ปี

โดยคืนนี้แฟนคลับบ้านฉัตรบริรักษ์เป็นเจ้าภาพ ในวันสวดอภิธรรมคืนสุดท้ายของ”คุณแม่งามทิพย์“แม้วันนี้จะมีฝนตกลงมาปรอยๆ แต่ก็มิได้เป็นอุปสรรคต่อผู้ที่มาร่วมไว้อาลัยคุณแม่งามทิพย์แต่อย่างใด คนบันเทิง-แฟนคลับที่เดินทางมาร่วมพิธีบำเพ็ญกุศลกันจนแน่นศาลาและนอกศาลาอย่างเช่นทุกคืน

สำหรับพิธีฌาปนกิจ คุณแม่งามทิพย์ จะมีขึ้นในวันพรุ่งนี้ (วันเสาร์ที่ 14 มิ.ย. 2568) เวลา 08.00 น. สวดพระพุทธมนต์ มาติกา บังสุกุล ถวายภัตตาหารเช้า 12.30 น. เชิญหีบเวียนเมรุ เวลา 13.00 น. ประชุมเพลิง ณ ฌาปนสถานกองทัพอากาศ เมรุ2 วัดพระศรีมหาธาตุวรมหาวิหาร บางเขน

#บอยปกรณ์ #สยามดารา #ภัทร #อาลัยรัก
"เจมส์ เรืองศักดิ์" ขนลุก! โพสต์ถึงคนรอดชีวิตเครื่องบินตกอินเดีย นั่งหมายเลข 11A เหมือนตนในอดีต
จากกรณีเมื่อวันที่ 12 มิ.ย. 2568 เครื่องบินโบอิ้ง 787 ของสายการบินแอร์อินเดีย (Air India) ประสบเหตุตกในรัฐคุชราตของอินเดีย หลังจากเพิ่งขึ้นบินเพียงไม่นาน โดยสายการบินระบุว่า ผู้โดยสารและลูกเรือทั้งหมด 242 มีผู้รอดชีวิตเพียงคนเดียว ซึ่งชายผู้รอดชีวิตคือหนุ่มอังกฤษ เชื้อสายอินเดีย วัย 40 ปี ซึ่งนั่งอยู่ที่ ที่นั่ง 11A ใกล้ประตูฉุกเฉิน เหนือปีกซ้ายของ เครื่องบิน

เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้นักร้อง-นักแสดงดัง "เจมส์ เรืองศักดิ์ ลอยชูศักดิ์" ออกมาโพสต์ถึงความบังเอิญ ว่าตอนที่ตนรอดชีวิตจากเหตุการณ์เครื่องบินตก ก็นั่งที่นั่งหมายเลข 11A ด้วยเหมือนกัน โดยเผยข้อความไว้ว่า "ผู้รอดชีวิตจากเครื่องบินตกที่อินเดีย เขานั่งที่นั่งหมายเลขเดียวกับผม คือ 11 A #ขนลุก"

ซึ่งหากย้อนกลับไปในช่วงปลายปี พ.ศ. 2541 เจมส์ ได้ รอดชีวิตจากเหตุเครื่องบินตกที่ จ.สุราษฎร์ธานี จนได้รับฉายาว่า "เจมส์กระดูกเหล็ก" โดยเจมส์ได้นั่งโดยสารเครื่องบินแอร์บัส เอ 310-300 เที่ยวบินที่ TG 261 ของสายการบินไทย มุ่งหน้าจากกรุงเทพฯ ไปยัง จ.สุราษฎร์ธานี

-พุ่งตกลงไปในป่ายาง ห่างออกไป 2 ไมล์ทางตะวันตกเฉียงใต้ของท่าอากาศยาน มีผู้เสียชีวิต 101 คน และได้รับบาดเจ็บ 45 คน ซึ่งเจมส์เป็นหนึ่งในผู้รอดชีวิต

Cr. ig : Jamesruangsak
#เจมส์เรืองศักดิ์ #เครื่องบินตก #สยามดารา
ดีเจ.แมน หอบหลักฐานมอบตำรวจกองปราบฯ แจ้งเอาผิดอดีตพระเอกดัง ฐานเป็นคนกลางเรียกรับทรัพย์ให้เจ้าพนักงาน
เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 11 มิ.ย.68 ที่ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ถนนพหลโยธิน เขตจตุจักร กทม. นายพัฒนพล กุญชร (ดีเจแมน) พร้อมนายอมร กุศล หรือทนายจิ้ง เดินทางเข้าพบ พงส.กก.1 บก.ป.ให้ปากคำและแจ้งความกลับกรณี เป็นคดีความกับอดีตพระเอกชื่อดัง

ดีเจ แมน บอกว่า ใบเตย ไปรับลูก และตาเจ็บ จึงยังไม่มาพบ พงส.บก.ป.ในวันนี้ด้วย ก่อนจะเปิดเผยว่า วันนี้ตนมาพร้อมทนายพบพนักงานสอบสวน กก.1 กองบังคับการปราบปราม เพื่อแจ้งความเอาผิดนายฟิล์ม รัฐภูมิ โตคงทรัพย์ ซึ่งถึงเวลาแล้ว ตนคิดอยู่นานว่าจะเริ่มตนเมื่อไรดี ตนไม่อยากเห็นเขากระทำอย่างนี้กับคนอื่นอีก ต้องออกมายอมรับความจริงอย่างลูกผู้ชาย มีอะไรก็สู้กันตรงๆ วันนี้ตนก็ให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นหลักฐานรวมทั้งข้อมูลต่างๆ

จากที่ตนเพิ่งออกจากเรือนจำมาเจอเรื่องเลวร้ายแบบนี้ก็มีความรู้สึก ที่ไม่อยากจะมาเผชิญเรื่องเดิมๆ มีนักข่าวมาตอนเวลาเรามาหาตำรวจฟิวนั้นเราไม่อยากจะเจอ ซึ่งทำให้ตนและครอบครัว ยังไม่เข้าที่ แต่ถึงวันนี้ เรารู้อะไรหลายๆ อย่าง เกี่ยวกับบริบทของสังคม จะเห็นว่าแปลกมากๆ เช่น ไปทำร้ายคนอื่นแล้วยังใช้กฎหมายมาไล่ฟ้องรังแกคนอื่นอีกทั้งที่ตัวเองเป็นคนผิด แต่คนที่ไม่เกี่ยวข้องหรือโดนกระทำกลับถูกดำเนินคดี เป็น การใช้กฎหมายในทางที่ผิด ในเมื่อเขาใช้กฎหมายในทางที่เราก็ต้องมาต่อสู้กัน ด้วยความถูกต้องและความจริง ความจริงมีสิ่งเดียว

ตนพร้อมมานานแล้ว คุยกับทนายความมาตลอดแล้วเริ่มมาให้ปากคำในวันนี้ ถ้าพนักงานสอบสวนเรียกก็จะมาอีก ตนเชื่อว่าเรื่องนี้เป็นประโยชน์ต่อสาธารณะชน ยิ่งเขาเป็นบุคคลสาธารณะด้วย ว่าจะได้ไม่ควรไปกระทำแบบนี้กับใครอีก ไม่ว่าจะเป็นบุคคลในอาชีพใดก็ตาม ในวันนี้ตนมาให้ปากคำเกี่ยวกับบุคคลคนนี้ ซึ่งเขาก็เป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงด้วย

ที่ไปบอกว่าทางเราทำกันเป็นขบวนการ มีพี่หนุ่ม พี่อี้ ร่วมด้วยนั้น วันนี้ก็เห็นถ้าตนเตรียมการตั้งแต่แรก ก็จะต้องโพสต์ลงเฟซบุ๊กเพื่อเรียกให้สื่อฯ มาทำข่าวกันเยอะๆ เราแยกกันทำ ซึ่งมันเป็นคนละส่วนกัน เราไม่เคยมีการเตรียมกันว่าใครจะต้องทำอย่างโน้นอย่างนี้ เหมือนที่เขาคิดว่าเราทำกันเป็นขบวนการ

ถ้าใครดูข่าวนี้อยู่แล้วยังไม่กล้าออกมา ขอเรียกร้องให้ออกมาอาจจะติดต่อมาที่ตนก็ได้ เหมือนที่ตนกล้าที่ออกมาในวันนี้ เพื่อทำให้สังคมมาตรฐานดีขึ้น เช่น บางเรื่องผ่านไป 5 ปี 10 ปี ก็ปรากฎออกมาให้เห็นกันในวันนี้ เชื่อว่าเวรกรรมมีจริง ให้ผลเร็วขึ้นในชาตินี้ เรียกร้องขอให้ลองกล้าที่จะออกมาพูด ในสิ่งที่ตัวเองเจอมา ตนเข้าใจว่า อาจจะไม่อยากมีปัญหาหรือไม่อยากขึ้นโรงขึ้นศาล สำหรับตนวันนี้ตัดสินใจแล้วว่าคนๆ นี้ปล่อยไว้ไม่ได้ ตั้งแต่ตนเข้าไปอยู่ข้างใน ก็ไม่เคยคุยกับเขาเลย หลังจากออกมาจนถึงวันนี้ก็ยังไม่เคยคุยกับเขาอีกเลย ถ้าจะเจรจาคิดว่าไม่ทันแล้ว สิ่งที่เขากระทำ วันนี้ตนมาเพื่อแจ้งความเอาผิดเขาในฐานะตัวการเรียกรับทรัพย์สินให้กับเจ้าพนักงาน ไม่ใช่ว่าตำรวจเรียกมาสอบปากคำ

ส่วนใบเตยนั้นจริงๆตนก็ไม่อยากให้มาออกสื่อฯในเรื่องเหล่านี้ แต่สุดท้ายแล้วก็จะต้องออกมาพูด ว่าได้ยินอะไรอย่างไรมา ตนและใบเตยฝากเตือนถึงทนายอื่นๆ ด้วย หลังมีคนให้ข้อมูลเข้ามาเป็นสิบๆ คดีแอบอ้างว่าช่วยทำคดีให้เรา ตนยืนยันอีกครั้งหนึ่งว่าเรามีทนายเพียงคนเดียวคือพี่จิ้งเท่านั้น ที่ไปเที่ยวแอบอ้างไม่ว่าจะเป็นที่หน้าเรือนจำ หรือที่ใดก็ตาม ว่ามาช่วยเราสองคน ตนขอยืนยันว่าไม่จริงมีทนายจิ้ง ช่วยเราเพียงคนเดียว

ด้านทนายจิ้ง อมร กล่าวว่า ถ้าตนไม่มาก็แสดงว่ายังไม่พร้อม เมื่อตอนมาวันนี้ก็แสดงว่าพร้อม ฉะนั้นหลักฐานต่างๆ ก็พร้อม ขอให้มาพิสูจน์กันในชั้นศาลว่าเขากับ ดีเจ แมน พูดอะไรก็รู้เห็นกันอยู่แค่สองคน จะบิดเบือนกันอย่างไรก็แล้วแต่ขอให้มาว่ากันในชั้นศาล หรือขบวนการยุติธรรมดีกว่า ทั้งตนและ ดีเจ แมน พร้อมแล้ว ส่วนกองเชียร์อาจจะรู้สึกว่าช้าไม่ทันใจ ก็ต้องฝากบอกไปว่าขอเวลาสักนิด รอให้อาครอบครัวของแมนและใบเตยซึ่งยังมีสภาพความฝันที่เคยโดนมาก่อนฝังอยู่ เมื่อมาถึงวันนี้ตนยืนยันว่าดีเจแมนและน้องใบเตยพร้อมทั้งคู่ ครึ่งน้องใบเตยก็ไปเขียวให้ ดีเจ แมน ว่าถึงเวลาแล้ว ดำเนินการในเรื่องนี้ ตนในฐานะทนายความ ขอยืนยันว่าพร้อมถ้าไม่พร้อมฝนก็จะยังไม่มาแน่นอน สำหรับในข้อกฎหมายอาจจะเป็นในเรื่องของตัวกลางของการเรียกทรัพย์ให้กับเจ้าพนักงานโดยมิชอบ อัตราโทษจำคุก 5 ปี ขึ้นอยู่กับพยานหลักฐานว่าเขาจะแก้ข้อกล่าวหาได้หรือไม่ เราได้ให้หลักฐานต่อพนักงานสอบสวนไปหมดแล้ว

ไม่ใช่เรื่องฉ้อโกง ส่วนข้อหาอื่นถ้ามีก็ต้องให้พนักงานสอบสวนเป็นผู้พิจารณา ส่วน รายละเอียดสำนวนของหนุ่มกรรชัย หรืออี้แทนคุณ มาแจ้งความตนไม่ทราบ ซึ่งเราไม่ได้ร่วมทำกันเป็น ขบวนการ หรือร่วมมือกันเล่นงานคุณฟิล์ม โดยพยานหลักฐานของแมนและใบเตยจริงๆ ไม่เกี่ยวข้องกับ 2 ท่านเลย
"แม่นกน้อย อุไรพร" เกิดอุบัติเหตุ รถพลิกคว่ำ ไหปลาร้าหัก-เปลือกตาแตก แฟนหมอลำแห่ส่งกำลังใจ
ทำเอาแฟนเพลงหมอลำช็อกไปตามๆ กันหลังจากที่กลางดึกของวันที่ 11 มิ.ย 68 เฟซบุ๊ก "เฟซบุ๊กหมอลำเสียงอิสาน นกน้อย อุไรพร" ได้โพสต์แจ้งข่าวว่า “นกน้อย อุไรพร” ลูกทุ่งหมอลำชื่อดัง เกิดอุบัติเหตุรถยนต์พลิกคว่ำ

บริเวณภูเขาทอง-เมยวดี หลังกลับมาจากแสดงงานที่จ.อุบลราชธานี ทำให้ แม่นกน้อย คิ้วแตกบวม ไหปลาร้าหัก โดยแม่นกน้อย มีสติดี ตอนนี้ถึงมือคุณหมอแล้ว

โดยล่าสุดเช้าวันนี้ 12 มิ.ย 68ได้มีอัปเดตอาการแม่นกน้อย เพิ่มเติมว่า "คุณแม่นกน้อย ไหปลาร้าหักและเปลือกตาแตก อาการโดยรวมปลอดภัย แพทย์ส่งใบให้แม่นกน้อย ไปรักษาตัวและดูอาการต่อที่โรงพยาบาลอุดร กราบขอบพระคุณทุกกำลังใจ" ส่วนอาการของบอสเมย์ ผู้จัดการหมอลำเสียงอิสาน ที่ติดตามไปกับคุณแม่นกน้อย ตอนนี้ปลอดภัยแล้ว ยังมีอาการบาดเจ็บจากแรงกระแทกจากตัวรถและกระจกรถ ต้องพักรักษาตัวอีก 1 สัปดาห์

#นกน้อยอุไรพร #สยามดารา #หมอลำเสียงอิสาน
มิน พีชญา ปรากฏตัวในรอบ 5 เดือน หลังได้กลับบ้านเผยรอยยิ้มสดใส
ไม่ได้อัปเดตโซเชียลใดๆ มานานพักใหญ่แล้วสำหรับนางเอกสาว“ มิน พีชญา วัฒนามนตรี” ล่าสุดเจ้าตัวก็ได้ปรากฏตัวอีกครั้งบนโซเชียลในรอบ 5 เดือน

โดยในอินสตาแกรมของ @new_thanasitch ได้โพสต์ภาพขณะไปเล่นแบดมินตันโดยปรากฏภาพของนางเอกสาวและแฟนหนุ่ม ”เคลวิน ตีรวัฒนานนท์“อยู่ด้วยซึ่งจะเห็นได้ว่าภาพปัจจุบันของ มิน พีชญา มาพร้อมดับรอยยิ้มสดใส ทำเอาแฟนๆ เข้าไปร่วมคอมเมนต์ส่งความคิดถึงกันอย่างล้นหลาม

Cr. ig : @new_thanasitch #มินพีชญา #สยามดารา
โดนอีก! “อาร์ต พศุตม์” เจอดราม่ายิ้มในงานศพ”แม่บอย ปกรณ์“ เจ้าตัวลั่นจะตอบยังไงดี
ทำเอาพระเอกหนุ่ม "อาร์ต พศุตม์ บานแย้ม" ถึงกับงงกันเลยทีเดียวหลังจากที่ได้เดินทางไปร่วมไว้อาลัยและให้กำลังใจ "บอย ปกรณ์" ในงานสวดอธิธรรมศพ“คุณแม่งามทิพย์” และได้โพสต์ภาพคู่ให้กำลังใจ บอยปกรณ์ แต่กลับเจอชาวเน็ตดราม่าหนัก เสียใจแต่ยิ้มทำไม?

ล่าสุด 11 มิ.ย 68 อาร์ต พศุตม์ ไม่ทนได้ตอบโต้ดราม่าดังกล่าวด้วยการแคปภาพคอมเมนต์ต่างๆ ที่เข้ามา พร้อมข้อความว่า "เรื่องมันมีอยู่ว่าตอนนี้ไปงานศพห้ามยิ้มแล้วนะ จะตอบยังไงดี กับ คนพวกนี้ 5555 ขำดีหวะ"

#อาร์ตพศุตม์ #สยามดารา
ทูน หิรัญทรัพย์ นักแสดงชื่อดัง แจ้งความถูก 2 วัยรุ่นทำร้ายระหว่างซื้อของที่ย่านคลอดถม เหตุพูดจาไม่ให้เกียรติผู้จึงต้องอบรมสั่งสอนทำให้ไม่พอใจดารารุ่นใหญ่
เมื่อเวลา 16.45 น.วันที่ 11 มิถุนายนทูน หิรัญทรัพย์ หรือ นายสพัชญ์นนทน์ เซสพีเดส อายุ 69 ปี ดารานักแสดงรุ่นใหญ่ เข้าแจ้งความกับร.ต.ท.ศิริโชค ขันติบัญชากุล รอง สว.สอบสวน สน.พลับพลาไชย 1 กรณีถูกวัยรุ่น 2 คน รุมทำร้ายร่างกาย ได้รับบาดเจ็บ ขณะไปเดินซื้อของในซอยข้างคลองถมพลาซ่า เหตุเกิดเมื่อเวลา 15:00 น. ที่ผ่านมา

ทูน หิรัญทรัพย์ เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุตนเองและครอบครัวได้ไปเดินหาซื้อไฟในย่านคลองถม ระหว่างนั้นก็มีผู้คนมาทักทายเพราะเห็นว่าตนเองเป็นดารา แต่ก็มีวัยรุ่นคนหนึ่งพูดจาไม่น่าฟังบอกว่าดาราอะไรเคยไม่รู้จัก ตนเองจึงตักเตือนในฐานะที่เป็นผู้ใหญ่ว่า จะพูดจาอะไรก็ต้องให้เกียรติคนอื่น โดยเฉพาะคนที่อาวุโสกว่า จนเกิดปากเสียงกัน จากนั้นวัยรุ่นดังกล่าวก็ชกเข้าที่เบ้าตาขวา ซึ่งเป็นตาข้างที่บอดอยู่ จึงไม่เห็นหมัด จากนั้นจึงมีตำรวจเข้ามาระงับเหตุ แต่วัยรุ่นคู่กรณีก็ยังทำท่าไม่พอใจฮึดฮัดใส่อยู่ ก่อนจะถูกควบคุมตัวไปที่ สน.พลับพลาไชย ซึ่งตนเองก็ได้เดินทางไปแจ้งความดำเนินคดีด้วยเช่นกัน

ทูน หิรัญทรัพย์ ยังบอกว่า ตลอดชีวิตที่เป็นนักแสดงนั้นเคยแต่เจอผู้คนเข้ามาทักทาย ขอถ่ายรูป ด้วยความมีมิตรไมตรี นี่เป็นครั้งแรกที่ถูกทำร้ายและได้รับบาดเจ็บ ซึ่งตนเองก็ไม่เข้าใจว่าทำไมวัยรุ่นสมัยนี้ จึงไม่รู้จักการให้เกียรติผู้อาวุโสกว่า ไม่รู้จักตนเองว่าเป็นดาราไม่เป็นไร แต่การพูดจาอะไรก็ควรจะให้เกียรติผู้อื่น ซึ่งตนเองยืนยันจะดำเนินคดีตามกฎหมายให้เป็นเยี่ยงอย่าง

ส่วนผู้ก่อเหตุคือ นายเอ็ม นามสมมุติอายุ 17 ปี และ นายชาติ อายุ 19 ปี โดยนายเอ็ม เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุตนเองและนายชาติ ซึ่งเป็นพนักงานขายของเครื่องใช้ไฟฟ้า กำลังขายของอยู่ภายในร้าน ซึ่งกับร้านที่ ทูน หิรัญทรัพย์ เข้าไปซื้อของอยู่ จากนั้นเจ้าของร้านข้าง ๆ ก็ถามตนเองว่ารู้จักไหมว่าเป็นใคร ตนเองก็ตอบไปว่าไม่รู้จัก พอดารารุ่นใหญ่ได้ยิน จึงได้บอกกับตนเองว่า ถ้าไม่รู้จักก็ไม่ต้องพูดก็ได้ ซึ่งตนเองก็ไม่ได้เถียงหรือตอบโต้ และเดินกลับเข้าร้านของตนเองไป ดารารุ่นใหญ่ก็ได้เดินมาถาม ตนเองว่าใครเป็นคนพูดแบบนี้ระวังอายุสั้นนะ เป็นคนขายของต้องพูดดี ๆ หน่อย และก็มีคำพูดอีกจำนวนมากตนเองก็ไม่ได้ตอบโต้ และยังยกมือไหว้ แต่ไม่ได้พูดว่าขอโทษ และเมื่อตนเองจะเดินหนีก็ถูกดารารุ่นใหญ่ ดึงแขน 2 ครั้ง จนตนเองเสียหลักล้มลง จึงเกิดความโมโหลุกขึ้นมาชกไปที่ใบหน้าของดารารุ่นใหญ่ 3 ครั้ง ยืนยันว่าตนเองไม่ได้มีการรุมทำร้ายแต่กลับถูกแฟนของดารารุ่นใหญ่มาช่วยรุมทำร้ายตนเองจึงทำให้เพื่อนคือนายชาติ ที่อยู่ด้วยกันเข้ามาห้าม ไม่ใช่เป็นการไปรุม

หลังจากเกิดเหตุการณ์แล้วอยากให้ทุกอย่างจบลงเพราะตนเองต้องการทำงานทำมาหากินแต่สิ่งที่เกิดขึ้นตนเองยืนยันว่าถูกกระทำก่อน รู้ตัวดีว่าตนเองเป็นเด็กแต่หากผู้ใหญ่ไม่กระทำกับตนเองแบบนั้นก่อนตนเองก็คงจะไม่ก่อเหตุดังกล่าวขึ้น

เบื้องต้นพนักงานสอบสวนสน.พลับพลาไชย 1 ได้สอบปากคำคู่กรณีทั้ง 2 ฝ่ายไว้ และได้ทำใบส่งตัวเพื่อให้ทั้ง 2 ฝ่าย ไปพบแพทย์เพื่อตรวจร่างกาย เมื่อผลตรวจร่างกายออกมาแล้ว จะเรียกคู่กรณีทั้งสองมาสอบสวนเพิ่มเติมเพื่อหาข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ก่อนจะพิจารณาการแจ้งข้อกล่าวหากับฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งต่อไป
“ก้านตอง ทุ่งเงิน” โดนดราม่าว่าเด็กเส้น เข้าวงการได้เพราะพี่สาว!
รายการ “เกิดมาเว่า” สัปดาห์นี้พบกับ "ก้านตอง ทุ่งเงิน" เจ้าของเพลงฮิตติดหูอย่างเพลง "จื่อบ่" พาไปเปิดเรื่องราวชีวิตของเธอ ตั้งแต่เส้นทางในการเป็นนักร้องกว่าจะมาถึงวันที่ผลงานเพลงกลายเป็นกระแสโด่งดังทั่วบ้านทั่วเมือง ทำให้มีงานอย่างไม่ขาดสาย จากที่เคยโดนดราม่าว่าเป็นเด็กเส้น เข้าวงการได้เพราะพี่สาว

เพลง "จื่อบ่" กระแสดีมาก ชีวิตเปลี่ยนไปยังไงบ้าง ?
ก้านตอง : จริง ๆ เป็นนักร้องมานานแล้วค่ะ เป็นมาหลายปีจนรู้สึกว่าเพลงเราไม่ดังสักที พอมาถึงเพลง "จื่อบ่" ก็ดังมาก ก็ทำให้เรามีงานมากขึ้น มีคอนเสิร์ตตลอด ภาษากลางคำว่า จื่อบ่ แปลว่า จำไหม เข็ดไหม

เคยคิดไหมว่าวันหนึ่งคนจะรู้จักเพลงเราทั่วประเทศขนาดนี้ ?
ก้านตอง : จริง ๆ ก็มีเพลงที่ร้องกัน 3 คน เพลง “ไปถอนคำสาบาน“ ตอนนั้นก็มีคนรู้จักเพลงนะคะ แต่คนอาจจะยังไม่รู้จักตัวเราชัดเจนเท่าไร หลังจากนั้นก็เริ่มมีเพลงออกมาเรื่อย ๆ มียอดวิวประมาณ 20 ล้าน 30 ล้าน แต่มันจะดังเฉพาะในโซนภาคอีสาน คนทั่วประเทศอาจจะยังไม่รู้จักเราดีพอ ชื่อของเราคือ ดอกอ้อ ทุ่งทอง และก้านตอง ทุ่งเงิน ซึ่งตอนนั้นก็ยังไม่มีใครรู้จักเราแบบเดี่ยว ๆ มากนัก

ดอกอ้อ ทุ่งทอง กับ ก้านตอง ทุ่งเงิน เป็นอะไรกัน ?
ก้านตอง : พี่ดอกอ้อเป็นพี่สาวแท้ ๆ เป็นในนามของศิลปิน คือดอกอ้อ ทุ่งทอง ทุ่งทองคู่กับทุ่งเงิน เป็นชื่อในวงการที่ตั้งขึ้นเพื่อให้เข้าคู่กัน เพราะเงินกับทองต้องคู่กัน ซึ่งครูสลาเป็นคนตั้งให้ค่ะ พอใช้ชื่อนี้ก็ทำให้บางคนสับสนว่าใครคือดอกอ้อ ใครคือก้านตอง แต่พอเริ่มมีเพลงออกมาเรื่อย ๆ คนก็เริ่มจำเสียงได้ว่าเสียงใครเป็นใคร และจนมาถึงเพลง “จื่อบ่” เพลงนี้เหมือนเป็นจุดเปลี่ยนเลยค่ะ ทำให้เป็นที่รู้จักแบบตูมเดียวทั่วประเทศเลย

มีมุมมองยังไงกับโซเชียลมีเดียที่ทำให้ผลงานของเรากลับมากระแสแรงขึ้น ?
ก้านตอง : โซเชียลมีผลเยอะมาก ทุกวันนี้โลกโซเชียลมันเข้าถึงง่าย ไปทางไหนใคร ๆ ก็เล่นโซเชียลกันหมด ทุกคนมีช่องทางของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นเพศไหน วัยไหน แม้แต่เด็กเล็ก ๆ ก็ยังเล่นได้แล้ว มันเหมือนเป็นสื่อกลางที่ทำให้คนเข้าถึงเราได้ง่าย สมัยก่อนจะปล่อยเพลงต้องเป็นเทป เป็นซีดี ออกทางวิทยุ หรือถ้าอยากออกทีวีต้องดังจริง ๆ ถึงจะได้ออก ทำให้คนเห็นผลงานเรายากมากพอมีโซเชียลแล้วมันเปลี่ยนหมดเลย ทุกอย่างเร็วขึ้น เข้าถึงง่ายขึ้น แต่ข้อเสียก็คือ คู่แข่งก็เยอะขึ้นตามไปด้วย เพราะใครก็สามารถปล่อยงานได้เหมือนกัน ทำให้เราต้องพัฒนางานให้ดีกว่าเดิม

เป็นคนที่ไหน ?
ก้านตอง : เป็นคนจังหวัดอุบลราชธานี อำเภอบุณฑริกค่ะ

ชีวิตตอนเด็กเป็นยังไง ?
ก้านตอง : ก็เหมือนเด็กน้อยทั่วไป แต่ว่าบ้านค่อนข้างยากจน มีพี่น้อง 5 คน บางครั้งไม่มีข้าวกิน แม่ต้องไปยืมข้าวจากเพื่อนบ้านมาเลี้ยงลูก พ่อแม่ก็ทำนาทำงานธรรมดาทั่วไป เราเป็นลูกคนที่ 5 พี่ดอกอ้อเป็นลูกคนโตต้องคอยดูแลน้อง ๆ เหมือนเป็นผู้ใหญ่ คอยสอน คอยเตือน ช่วยเลี้ยงน้อง ๆ ด้วย

เพราะว่าเงิน 500 ทำให้พบพรสวรรค์ในการร้องเพลง ?
ก้านตอง : จริงค่ะ ตอนนั้นยังเด็กมากเลยค่ะ จำได้ว่าประมาณ 4-5 ขวบเอง พี่ดอกอ้อเป็นคนพาไปงานเลี้ยงของข้าราชการ ซึ่งมีดนตรีอิเล็กโทนเล่นอยู่ แล้วเขาก็จ้างนักร้องมาร้องเพลง ตอนนั้นพี่ดอกอ้อก็บอกกับคนที่นั่นว่า “น้องหนูร้องเพลงได้” แล้วก็อุ้มเราขึ้นเวทีเลย โดยที่ยังไม่ได้ถามเราด้วยซ้ำว่าเราพร้อมไหม หรือกล้าร้องหรือเปล่า ตอนนั้นก็คือ ทั้งร้องไปและร้องไห้ไปพร้อมกันเลย ก็ต้องร้อง เพราะเขาอุ้มเราขึ้นเวทีแล้ว ถ้าไม่ร้องก็กลัวจะขายหน้าพี่สาว

การร้องเพลงทำให้หาเงินเองตั้งแต่เด็กจนสามารถส่งตัวเองเรียนจบปริญญาตรีเลย ?
ก้านตอง : จริงค่ะ ตั้งแต่ ม.2 ก็เริ่มไปร้องเพลงกับวงอิเล็กโทน หาเงินมาเป็นค่าหนังสือ ค่าเรียน แล้วพอตอนเรียนมหาวิทยาลัย ก็ได้ทุนเรียนค่ะ เพราะเป็นเด็กกิจกรรม ไม่ได้เสียค่าใช้จ่ายอะไรเลย พ่อก็เสียชีวิต เลยต้องพยายามดูแลตัวเอง ส่งตัวเองเรียนจนจบ คือเรามาจากครอบครัวที่ลำบาก ฐานะไม่ดี ก็เลยต้องขยันต้องพยายาม

มาเป็นนักร้องในแกรมมี่โกลด์ได้ยังไง ?
ก้านตอง : พูดตรง ๆ เลย พี่ดอกอ้อเป็นคนพามาฝากไว้กับทางค่าย ครูที่แกรมมี่โกลด์เขาก็กำลังมองหานักร้องอยู่ แล้วพี่ดอกอ้อก็แนะนำเราไป เพราะครูเคยเห็นเราตอนประกวดมาก่อน แม้ตอนนั้นเราจะไม่ชนะ ครูเขาก็ให้โอกาสลองร้องในเพลง “ไม่ใช่แฟนทำแทนไม่ได้” ของพี่นาง ศิริพร เป็นเหมือนการแจมในอัลบั้มค่ะ นั่นคือจุดเริ่มต้นของการเข้าสู่แกรมมี่โกลด์ ตอนนั้นเรายังไม่ได้ออกเพลงเต็ม ๆ เลยนะ คือเขาจะให้ลองร้องก่อน เหมือนฝึกก่อน

เคยเจอดราม่าว่าเราเป็น “เด็กเส้น” บ้างไหม ?
ก้านตอง : เจอค่ะ เข้ามาได้เพราะพี่สาว แต่จริง ๆ เด็กฝากมีความกดดันในตัวเองอยู่แล้วว่าคนจะมองยังไง จะคิดว่าเราเข้ามาเพราะมีเส้นสาย ไม่ใช่เพราะความสามารถของเราเราต้องพิสูจน์ให้เขาเห็นว่าเราไม่ได้เข้ามาเพราะเส้นสาย เรามีความสามารถจริง ๆ ต้องทำให้เห็นว่าสิ่งที่เขาพูด มันไม่ใช่ความจริง บางครั้งเราก็รู้สึกอิจฉาคนที่เข้ามาได้ด้วยตัวเอง แต่เราก็พยายามคิดว่าเราโชคดีแล้วที่มีพี่พาเข้ามา แต่สิ่งที่ไม่โชคดีคือเราต้องเจอกับการเปรียบเทียบตลอดเวลา สุดท้ายเราต้องถามตัวเองว่าทำไมเราต้องกดดันกับสิ่งที่ไม่ใช่ความผิดเรา ถ้าเราไม่พัฒนาตัวเอง ถ้าไม่ขยันจริง เราก็ไม่มีทางอยู่ได้ถึง วันนี้

เคยมีช่วงที่ท้อแท้ไหมกว่าจะมีทุกวันนี้ ?
ก้านตอง : มีค่ะ เราไม่ใช่คนที่ร้องเพลงเก่งเท่าคนอื่น คิดตลอดเวลาว่าคนอื่นเสียงดีกว่าเราแต่สิ่งที่พี่มีมากกว่าคนอื่น ความอดทนและพยายามสูงกว่าคนอื่น จะเก่งได้เราก็ต้องใช้ความพยายามมาก ๆ คนที่เก่งมาก ๆ มักจะไม่ค่อยฝึก แต่คนที่ไม่เก่งจริง ๆ จะฝึกตลอดเวลา

ความรักเป็นยังไง ?
ก้านตอง : จริง ๆ ความรักก็มีเข้ามาเรื่อย ๆ ค่ะ มีคนดี ๆ เข้ามาก็คุย เราต้องค่อย ๆ ดูกันไป อย่างตอนรักกันก็ดูดีไปหมดพอเลิกกันเราก็กลายเป็นคนแปลกหน้ากัน เพราะฉะนั้นเรื่องรัก ๆ เลิก ๆ มันเป็นเรื่องธรรมดา เรามองมันเป็นสัจธรรมของชีวิต ไม่มีใครอยู่กับเราไปตลอดชีวิต แล้วไม่มีใครอยู่กับเราจนถึงวันตายนอกจากตัวเราเอง สเปกที่ชอบแค่เข้าใจก็พอแล้ว ถ้าเกิดว่าเขารักเราแล้วเขาก็ต้องรักครอบครัวเราด้วย ถ้าเขาไม่รักครอบครัวเรามันก็ไม่มีประโยชน์สุดท้ายแล้วคนที่อยู่กับเรามาตลอดก็คือครอบครัวเรา

เป้าหมายต่อจากนี้จะเป็นในทิศทางไหน ?
ก้านตอง : ไม่ได้มีเป้าหมายที่เป็นอยู่ตอนนี้ก็เกินฝันมากแล้ว ร้องเพลงให้มีความสุขทำหน้าที่ให้เต็มที่ เพราะอาชีพนี้ทำให้เรามีทุกอย่างในวันนี้ อาชีพนี้ทำให้เรามีกิน มีใช้ ชีวิตต่อจากนี้คือ มันคือกำไรชีวิตแล้ว คำว่ากำไรชีวิตคือเราได้ดังสมใจเราแล้ว มีคนรู้จักเราเพิ่มขึ้น ถ้าเราไปคาดหวังกับชีวิตมากมันก็จะไม่มีความสุข

สามารถติดตาม “เกิดมาเว่า” ได้ที่ช่องทาง Facebook: WE DO , Youtube: WE DO วันอังคาร เวลา 18.00 น.

คลิกชมคลิปย้อนหลัง : https://www.youtube.com/watch?v=TyXkgZPKY4k
คนบันเทิงร่วมอาลัย สวดอภิธรรมคืนที่ 4 แม่งามทิพย์ -เกรท วรินทร ให้กำลังใจ บอย ปกรณ์
เมื่อวันที่ 10 มิถุนายน 2568 เวลา 19.00 น. ณ ศาลาเกสนี วัดพระศรีมหาธาตุวรมหาวิหาร เขตบางเขน ได้มีพิธีสวดพระอภิธรรมเป็นคืนที่ 4 ของ คุณแม่งามทิพย์ ฉัตรบริรักษ์ มารดาของนักแสดงชื่อดัง บอย ปกรณ์, หน่อง ธนา, ภัทร์ ฉัตรบริรักษ์ และ น้องวันใหม่ ซึ่งจากไปอย่างสงบในช่วงเช้ามืดของวันที่ 7 มิถุนายน ที่ผ่านมา ด้วยโรคมะเร็ง สิริอายุ 68 ปี

โดยค่ำคืนนี้ บริษัท จีดีเอช ห้าห้าเก้า จำกัด เป็นเจ้าภาพในการสวดพระอภิธรรม

บรรยากาศภายในงานยังคงเต็มไปด้วยความเศร้า ท่ามกลางคนบันเทิงและแขกเหรื่อที่เดินทางมาร่วมไว้อาลัยคุณแม่งามทิพย์กันอย่างเนืองแน่น อาทิ เต๋า สมชาย, แม่นีย์ (คุณแม่แมท ภีรนีย์) เฟย์ พรปวีณ์, ฟาง ธนันต์ธรญ์, ศรีริต้า เจนเซ่น, กรณ์ ณรงค์เดช, อาร์ต พศุตม์, เกรท วรินทร, อาเล็ก ธีรเดช, มิ้นต์ ชาลิดา, ชิปปี้ ศิรินทร์, ชาย ชาตโยดม, วิกกี้ สุนิสา เจทท์, ก้อย อรัชพร, นัตตี้ นันทนัท, ดรีม อภิชญา,เอินเอิน ฟาติมา, แจ็บ เพ็ญเพ็ชร, โบว์ แวนด้า, น้องมะลิ พาขวัญ, เจย์ กาญจน์โสภณ, บอม ธนิน, ป้อง ณวัฒน์, เป๊ก เปรมณัช, จีน่า ญีนา, ตูน อาทิวราห์, ปาน ธนพร, กิ๊ก สุวัจนี, ป๋อ ณัฐวุฒิ, แฟร์รี่ กิรณา, มินนี่ ภัณฑิรา และ ปอป้อ ทรัพย์สิรี เป็นต้น

ทั้งนี้ก่อนพิธีสวดอภิธรรมจะเริ่มขึ้น เกรท วรินทร พระเอกชื่อดัง ที่เดินทางมาร่วมพิธีสวดอภิธรรมคุณแม่งามทิพย์ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่า "สำหรับผมมาวันนี้เป็นวันที่ 2 ก็หลักๆ คือผมอยากมาเป็นกำลังใจให้เพื่อนด้วย เพราะว่าวันแรกผมไม่ได้มา แล้วผมเห็นน้องวันใหม่ร้องไห้ เรารู้สึกไปด้วย ผมรู้สึกว่าบอยเป็นเพื่อนสนิทผมและใกล้ตัวผมมาก ตอนที่รู้ข่าวก็ทำงานอยู่แล้วรู้สึกหวิวๆมากๆ เหมือนกัน หลักๆ เลยคือตั้งใจมาฟังสวด มาอยู่ข้างๆ และมาเป็นกำลังใจให้

อย่างวันแรกที่มาผมก็นั่งอยู่กับบอย อยู่กับน้องจนเสร็จงานเลย เป็นความรู้สึกที่ว่าอยากมาอยู่ด้วย เอาจริงๆ พี่ๆ ก็โตกันแล้ว ทุกคนต้องเจอความสูญเสียหมด แต่ในมุมมองของผมคิดว่าต่อให้คนเราจะเตรียมใจมานานแค่ไหน ยังไงก็เสียใจอยู่ดี รู้สึกว่าทำหน้าที่เพื่อนให้ดีที่สุด

ความน่ารักของครอบครัวนี้เป็นยังไงบ้าง ?
"น่ารักมาก แม่บอยกับแม่ผมก็เคยคุยกันแบบออกรสออกชาติอยู่เหมือนกัน แม่ผมก็รู้สึกใจหายมาก ก็เป็นบ้านที่น่ารักมากๆ ผมมีความรู้สึกว่าครอบครัวพี่น้อง 3 คนของบอยกับที่บ้านผมรู้สึกว่าการเลี้ยงดูคล้ายๆ กัน และบอยก็เป็นพี่คนโต ผมก็เป็นพี่คนโต คุณแม่บอยสอนลูกๆ ดีมากจริงๆ

ทั้งนี้เกรทยังเผยถึงโมเมนต์ความประทับใจของคุณแม่งามทิพย์ให้ฟังว่า คุณแม่เป็นคนร่าเริง และผมก็จำได้ว่าแม่บอยและแม่ผมเคยเจอที่ธนาคาร คุยกันฟีลประมาณลูกมีแฟนหรือยัง ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่แม่ผมก็ประทับใจแม่บอย

สำหรับกำหนดการพิธีสวดอภิธรรมศพคุณแม่งามทิพย์ ฉัตรบริรักษ์ จะมีตั้งแต่วันที่ 7-13 มิ.ย. 2568 ในเวลา 19.00 น.

และพิธีฌาปนกิจ ในวันเสาร์ที่ 14 มิ.ย. 2568 เวลา 08.00 น. สวดพระพุทธมนต์ มาติกา บังสุกุล ถวายภัตตาหารเช้า 12.30 น. เชิญหีบเวียนเมรุ เวลา 13.00 น. ประชุมเพลิง ณ ฌาปนสถานกองทัพอากาศ เมรุ2 วัดพระศรีมหาธาตุวรมหาวิหาร บางเขน
พิธีฌาปนกิจ “คุณแม่เพ็กแฮ”คนทั้งวงการสุดอาลัยส่งกำลังให้ “นนกุล”บรรยากาศเต็มไปด้วยความโศกเศร้า
วันที่ 10 มิถุนายน 2568 ที่วัดธาตุทอง พระอารามหลวง ได้มีพิธีฌาปนกิจ ‘คุณแม่เพ็กแฮ สันตินธรกุล’ (คุณแม่นนกุล) ที่จากไปอย่างสงบ เมื่อวันที่ 1 มิถุนายน 2568 หลังป่วยเป็นมะเร็งมานาน 10 ปี

เวลา 15.00 น. ครอบครัวได้เคลื่อนร่าง ‘คุณแม่เพ็กแฮ’ มาที่เมรุ 2 (ดำรงชัยกุล) จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้เคลื่อนหีบศพเวียนรอบเมรุ 3 รอบ โดย นนกุล ชานน ถือกระถางธูป, ลูกน้ำ เพ็ญพิชชา พี่สาว ถือรูปถ่ายคุณแม่ และนุ่น พิชชาธร น้องสาว ถือผ้าไตร ตามด้วย แอฟ ทักษอร เดินตามหีบบรรจุร่างคุณแม่เพ็กแฮ

ต่อมาเวลา 16.50 น. ลูกๆ ทั้งสาม ได้อ่านประวัติคุณแม่ พร้อมกล่าวคำอาลัย โดย นนกุล ชานน เผยความในใจถึงคุณแม่เพ็กแฮ ความว่า “จากลูกที่ไม่ได้เรื่องของคุณแม่ ในมุมมองของผม คุณแม่เป็นคนที่ขี้บ่นมาก จู้จี้จุกจิก บางทีเรื่องบางเรื่องที่เป็นเรื่องเล็กๆคุณแม่ก็ชอบทำให้เรื่องนั้นเป็นเรื่องใหญ่ แล้วผมก็จะเป็นคนที่ขี้รำคาญ เราก็เลยจะทะเลาะกันบ่อย ถ้าถามว่าใครดื้อที่สุดในบ้านทุกคนจะพูดเป็นเสียงเดียวกันเลยว่าคือผม ตัวผมไม่เถียงในข้อนี้เลย

หลายๆท่านอาจจะเป็นลูกที่ดีของคุณแม่ เมื่อหวนคิดถึงคุณแม่ของตัวเองก็อาจจะเห็นรอยยิ้ม แต่สำหรับผมผมจะนึกถึงคำบ่นของคุณแม่ หลายคนอาจจะนึกถึงคำสอนของท่านแต่ผมจะนึกถึงเวลาที่คุณแม่จู้จี้จุกจิก ทำไมไม่เตรียมเสื้อผ้าตั้งแต่ตอนกลางคืน ตอนเช้าจะได้ไม่ต้องมาหา หลายคนอาจจะคิดถึงคุณแม่เวลาที่กอดท่าน แต่สำหรับผมเวลาที่ท่านมาปลุกผมตอนเช้าว่าสายแล้ว ทำไมไม่ตั้งปลุกไว้ตอน 6 โมง แต่ตอนนี้มันเพิ่งตี 5 ผมจะคิดถึงสิ่งเหล่านี้มากๆ เพราะเสียงของคุณแม่ตอนนั้นที่ผมแสนจะรำคาญ วันนี้ผมกลับคิดถึงและโหยหามันมาก ที่สุด

การบอกรักของครอบครัวของเราอาจจะไม่ใช่สิ่งที่เราทำได้ดีเท่าไหร่ การที่พวกเราลูกๆปากแข็งในการที่จะบอกรักคุณแม่ตรงๆ ก็เหมือนกับที่คุณแม่ปากแข็งไม่กล้าชมพวกเราตรงๆ ครับ ผมก็เพิ่งได้ยินสิ่งเหล่านี้เป็นครั้งแรกด้วยซ้ำไป หลังจากที่แม่เสียได้ไม่นาน จากคุณหมอที่ดูแลครอบครัวเรามา 30 กว่าปี เราเพิ่งรู้ว่าคุณแม่บอกกับคุณหมอว่าแม่ดีใจมากๆที่คุณพ่อของเราพยายามอย่างสุดความสามารถที่จะหาทางออกให้กับโรคร้ายของคุณแม่มาโดยตลอด 19 ปีที่ ผ่านมา

จากเพื่อนๆของคุณแม่มากมายหลายคน บอกพวกเราว่าคุณแม่มักจะบอกกับเพื่อนๆตัวเองเสมอว่าภูมิใจในตัวลูกสาวทั้งสองคนที่ดำเนินชีวิตได้ดีโดยไม่ต้องทำให้ใครกังวล และจากพี่คนหนึ่งที่ผมได้ร่วมงานด้วยไม่นาน คุณแม่บอกกับพี่คนนั้นว่าประทับใจที่ผมเคยบ้าๆบอๆ ที่ผมอยากเป็นนักแสดงที่ไปให้ไกลถึงระดับโลกนู่นนี่นั่น คุณแม่อยากจะให้ผมไปได้ไกลถึงตรงนั้นจังเลย แต่น่าเสียดายที่เป็นอีกข้อที่ผมยังทำให้คุณแม่ไม่ได้

ถ้าคุณแม่ยังเฝ้ามองผมอยู่ตอนนี้ ผมอยากจะบอกกับคุณแม่ผมว่า…. ไม่ต้องเป็นห่วงเลย วันหนึ่งนนจะทำให้ได้แน่นอน แต่อาจจะขอเวลาสักหน่อย เพราะคนเก่งกว่าผมเยอะมากจริงๆ สุดท้ายนี้ผมอยากจะบอกกับคุณแม่ว่าผมคงไม่ได้ขออโหสิกรรมอะไรให้นนนะครับในชาตินี้ เพราะถ้าเกิดชาติหน้ามีจริงคุณแม่จะได้อยู่จองเวรจองกรรมกับผมต่อ สำหรับตอนนี้ขอให้คุณแม่ปล่อยใจ ปล่อยจอยให้สบาย ไม่ต้องห่วงตรงนี้ พวกเราจะดูแลกันและกันอย่างดี เหมือนที่แม่เคยดูแลพวกเรา อาจจะใช้เวลาสักหน่อยในการทำให้ความเศร้านี้มันเบาบางลงไปบ้าง แต่แม่จะไม่หายไปไหนจากพวกเราแน่นอน อาจจะเพราะว่าแม่ไม่ได้อยู่ตรงนี้แล้วก็เลยไม่ค่อยเขินที่จะบอกรัก ผมรักแม่มากๆครับ“

และในเวลา 18.00 น. นนกุล และครอบครัว ได้ก้มกราบลา คุณแม่ เพ็กแฮ เป็นครั้งสุดท้าย โดยมี แอฟ ทักษอร และ น้องปีใหม่ อยู่เคียงข้าง ก่อนจะเข้าพิธีประชุมเพลิง ในลำดับ ต่อไป

ในวันที่ (11 มิ.ย.68) ครอบครัวนนกุล เตรียมทำพิธีเก็บอัฐิของ คุณแม่เพ็กแฮ ในเวลา 06.00 น. ก่อนจะนำไปลอยอังคารที่สัตหีบ จ.ชลบุรี สถานที่เดียวกับคุณตา
ท้อง3แล้ว! แมท ภีรนีย์-เฟม ประกาศข่าวดีทายาทคนแรกมาแล้วจ้า
ขอแสดงความยินดีกับว่าที่คุณพ่อคุณแม่ป้ายแดงนางเอกสาว“แมท ภีรนีย์” กับสามี “เฟม ภีมเดช” ที่บ่าสุดวันนี้ 9 มิ.ย ได้ออกมาประกาศข่าวดีกำลังตั้งท้องลูกคนแรก ได้ 3 เดือนแล้ว

โดย เฟม ได้โพสต์คลิปของภรรยาที่ได้ประกาศข่าวดีว่ากำลังตั้งครรภ์ได้ 3 เดือนแล้ว พร้อมกับเผยภาพขณะที่ แมท กำลังอัลตราซาวนด์ดูลูกในท้อง ทำเอาเจ้าตัวถึงกับกลั้นน้ำตาไม่อยู่เลยทีเดียว พร้อมระบุแคปชั่นว่า “My sunshines”

#แมทภีรนีย์ #สยามดารา
งานสวดอภิธรรม “คุณแม่งามทิพย์” คืนที่ 3 คนบันเทิงร่วมอาลัยแน่นศาลา ส่งกำลังใจให้ครอบครัวฉัตรบริรักษ์
เมื่อเวลา 19.00 น. วันที่ 9 มิถุนายน 2568 ณ ศาลาเกสนี วัดพระศรีมหาธาตุวรมหาวิหาร เขตบางเขน ได้มีพิธีสวดพระอภิธรรม คุณแม่งามทิพย์ ฉัตรบริรักษ์ มารดาของนักแสดงชื่อดัง บอย ปกรณ์, หน่อง ธนา, ภัทร์ ฉัตรบริรักษ์ และ น้องวันใหม่

คุณแม่งามทิพย์ถึงแก่กรรมอย่างสงบในช่วงเช้ามืดของวันที่ 7 มิถุนายน ที่ผ่านมา ด้วยโรคมะเร็ง สิริอายุ 68 ปี

ในค่ำคืนที่ 3 นี้ สถานีโทรทัศน์ทีวีสี ช่อง3 ร่วมกับ ตรีเพชรอีซูซุเซลล์ จำกัด - สถานีโทรทัศน์ช่อง MONO 29 เป็นเจ้าภาพพิธีสวดพระอภิธรรม โดยมีแขกผู้มีเกียรติจากทั้งในและนอกวงการบันเทิงเดินทางมาร่วมแสดงความอาลัย อาทิ สมรักษ์ ณรงค์วิชัย, ดิว ปิ่นกมล, หน่อง อรุโณชา, ชุ ชุดาภา จันทเขตต์, นก จริยา แอนโฟเน่, อ๊อฟพงษ์พัฒน์, เดี่ยว สุริยนต์ อรุณวัฒนกูลง, ป้าแจ๋ว ยุทธนา, กิ๊ก มยุริญ, เดียร์น่า ฟลีโป, เต้ย พงศกร, น้ำตาล พิจักขณา, เต๋า เศรษฐพงศ์, สรยุทธ สุทัศนะจินดา, ไบร์ท พิชญ์นันท์, เฟย์ พรปวีณ์ และครอบครัว, ต่าย เพ็ญพักตร์, แจง วราพรรณ, แดง ธัญญา, ดีเจนุ้ย ธนวัฒน์, บอย อนุวัฒน์, เจี๊ยบ พิจิตตรา, ป๋อมแป๋ม นิติ, จันจิ จันจิรา, กิ๊ฟท์ซ่า ปิยา พงศ์กุลภา, เมจิ คัดกิ่งรักส์, อ้อม พิยดา, กอล์ฟ เบญจพล, กลัฟ คณาวุฒิ, ไมกี้ ปณิธาน, นิว ชัยพล, จุ๋ย วรัทยา, ดีเจพุฒ พุฒิชัย, มิว นิษฐา, แมทธิว ดีน, ลีเดีย ศรัณย์รัชต์, เก๋ ชลลดา, ท็อป จรณ, อ๊อฟ จุมพล , แคร์ ฉัตรฑริกา สิทธิพรม, พิชญ์ กาไชย, แพรว คณิตกุล, ออม สุชาร์ เป็นต้น

สำหรับกำหนดการพิธีสวดอภิธรรมศพคุณแม่งามทิพย์ ฉัตรบริรักษ์ จะมีตั้งแต่วันที่ 7-13 มิ.ย. 2568 ในเวลา 19.00 น.

และพิธีฌาปนกิจ ในวันเสาร์ที่ 14 มิ.ย. 2568 เวลา 08.00 น. สวดพระพุทธมนต์ มาติกา บังสุกุล ถวายภัตตาหารเช้า 12.30 น. เชิญหีบเวียนเมรุ เวลา 13.00 น. ประชุมเพลิง ณ ฌาปนสถานกองทัพอากาศ เมรุ2 วัดพระศรีมหาธาตุวรมหาวิหาร บางเขน

#อาลัย #สยามดารา #คุณแม่งามทิพย์ #บอยปกรณ์
พระราชทานเพลิงศพเป็นกรณีพิเศษ “ยอดชาย เมฆสุวรรณ”
วันที่ 8 มิถุนายน 2568 เวลาประมาณ 14.00 น. ที่วัดมกุฏกษัตริยาราม ราชวรวิหาร เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ผู้แทนพระองค์ไปในการพระราชทานเพลิงศพเป็นกรณีพิเศษ “ยอดชาย เมฆสุวรรณ” อดีตพระเอกภาพยนตร์ไทย และศิลปินประติมากร ผู้บุกเบิกการปั้นหุ่นรูปเหมือนคนบันเทิง ที่เสียชีวิตเมื่อวันที่ 2 มีนาคม 2568 ด้วยภาวะหัวใจขาดเลือด ที่โรงพยาบาลศิริราช ปิยมหาราชการุณย์ สิริอายุ 82 ปี 8 เดือน นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้นแก่ครอบครัวผู้วายชนม์

บรรยากาศเป็นไปด้วยความโศกเศร้า โดยในช่วงเช้า เวลา 10.00 น. มีพิธีแสดงพระธรรมเทศนา สวดมาติกา บังสุกุล ถวายภัตตาหารเพล จากนั้นเวลา 12.30 น. ทำการเคลื่อนร่างไปยังเมรุ เพื่อประกอบพิธีเผาจริงในเวลา 14.30 น. โดยลูกของ “ยอดชาย เมฆสุวรรณ” ทั้ง 3 คน ได้แก่ โน้ต วรรธนศม เมฆสุวรรณ, หนุ่ม ชมวิชัย และ นนท์ วงศ์สมรรถ เป็นผู้ดูแลความเรียบร้อยและดูแลแขกเหรื่อในงาน

ภายในงานมีคนในวงการบันเทิงเดินทางมาร่วมไว้อาลัยเป็นจำนวนมาก อาทิ รอง เค้ามูลคดี, กรุง ศรีวิไล, ก้อย ทาริกา ธิดาทิตย์, ครรชิต ขวัญประชา, อมรา อัศวนนท์, ธานินทร์ อินทรเทพ, ฤทธิ์ ลือชา, พิมพ์แข กุญชร ณ อยุธยา, กอบสุข จารุจินดา, ไก่ วรายุฑ มิลินทจินดา, ณัฐนี สิทธิสมาน ฯลฯ

#อาลัย #ยอดชายเมฆสุวรรณ #สยามดารา
ใหม่-ดาวิกา ขึ้นศาลไต่สวนมูลฟ้อง คดีหมิ่นประมาท ปมถูกกล่าวหา “ดาราอกตัญญู”
เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลได้นัดไต่สวนมูลฟ้องในคดีหมายเลขดำ อ.810/2568 ซึ่งน.ส.ดาวิกา โฮร์เน หรือ “ใหม่-ดาวิกา” นักแสดงชื่อดัง เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนางรวีกร (ขอสงวนนามสกุล) ในความผิดฐานหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา

คดีดังกล่าวสืบเนื่องจากจำเลยเป็นผู้ใช้โซเชียลมีเดียที่โพสต์ข้อความในลักษณะหมิ่นประมาท โดยมีเนื้อหากล่าวหาโจทก์ว่าเป็น “ดาราอกตัญญู” ซึ่งไม่เป็นความจริง และเป็นสร้างความเสียหายต่อชื่อเสียงของน.ส.ดาวิกา

ในวันนี้ น.ส.ดาวิกาเดินทางมาศาลพร้อมทนายความเพื่อขึ้นเบิกความฟ้องตามกระบวนการของศาล โดยไม่ได้ให้สัมภาษณ์หรือแถลงใด ๆ ต่อสื่อมวลชน และขอไม่ให้ผู้สื่อข่าวเข้าฟังการพิจารณา พร้อมทั้งขอศาลไม่ให้สื่อลงข้อมูลเนื่องจากเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ต่อมาหลังจากที่เสร็จสิ้นกระบวนการพิจารณา น.ส.ดาวิกา ให้สัมภาษณ์สื่อสั้น ๆ ว่า เรื่องนี้ไม่อยากให้นำเสนอข้อมูล เพราะเป็นเรื่องส่วนตัว ส่วนเรื่องที่มีการเข้าใจผิดว่าการที่มาศาลในครั้งนี้้เป็นคดีดราม่าจากละครเรื่อง “แม่หยัว” ตนไม่ติดใจอะไร

โดยวันนี้ศาลนัดไต่สวนมูลฟ้องฝ่ายน.ส.ดาวิกาเพียงฝ่ายเดียวเนื่องจากทนายฝ่ายจำเลยติดว่าความคดีอื่นที่ศาลอื่น ศาลจึงนัดซักค้านฝ่ายจำเลยไปเป็นวันที่ 18 ส.ค. เวลา 13.00 น.
คนบันเทิงแห่ร่วมอาลัยรดน้ำ - สวดพระอภิธรรมศพ คืนแรก ของ “คุณแม่งามทิพย์ ฉัตรบริรักษ์”
เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 7 มิถุนายน 2568 ณ ศาลาเกสนี วัดพระศรีมหาธาตุวรมหาวิหาร บางเขน ได้มีพิธีรดน้ำศพ “คุณแม่งามทิพย์ ฉัตรบริรักษ์” มารดาของ 3 นักแสดงชื่อดัง บอย ปกรณ์, หน่อง ธนา และภัทร์ ฉัตรบริรักษ์ รวมถึง “น้องวันใหม่” น้องสาวคนเล็กของ ครอบครัว

ซึ่งทางครอบครัว ได้เปิดเผยสาเหตุการจากไปอย่างสงบของคุณแม่งามทิพย์ ในช่วงเช้ามืดของวันที่ 7 มิถุนายน 2568 ด้วยอาการของโรคมะเร็ง ในวัย 68 ปี หลังเข้ารับการรักษามาสักระยะหนึ่ง โดยมีลูก ๆ และครอบครัวคอยเป็นกำลังใจและอยู่เคียงข้างตลอดเวลาที่คุณแม่ต่อสู้กับโรคร้าย ที่ผ่านมาเพราะคุณแม่ไม่อยากให้ทุกคนเป็นห่วง จึงไม่ได้แจ้งให้หลาย ๆ ท่านทราบ

โดยทางครอบครัวฉัตรบริรักษ์ขอขอบพระคุณทุกกำลังใจและความห่วงใยที่ทุกท่านส่งมาให้ และขออภัยพี่ ๆ สื่อมวลทุกท่านที่ทางครอบครัวฉัตรบริรักษ์ยังไม่สามารถให้สัมภาษณ์ได้ เนื่องจากสภาวะจิตใจยังไม่พร้อม

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศภายในศาลา เต็มไปด้วยความโศกเศร้า โดย 3 พี่น้อง “บอย-หน่อง-ภัทร์” คอยต้อนรับแขกที่ทยอยเดินทางมาร่วมไว้อาลัยคุณแม่ และร่วมกันกอดปลอบให้กำลังใจ “น้องวันใหม่” ที่ร่ำไห้ตลอดเวลาใจสลายสูญเสียคุณแม่ผู้เป็นที่รัก

ทั้งนี้ก่อนพิธีรดน้ำศพคุณแม่งามทิพย์ในเวลา 17.00 น. ทางด้าน นักร้องสาว “เฟย์ พรปวีณ์” แฟนสาวของ บอย ปกรณ์ ได้เดินทางมาพร้อมกับคุณแม่ มาร่วมไว้อาลัย รดน้ำศพคุณแม่งามทิพย์ ให้กำลังใจแฟนหนุ่ม และเข้าไปกอดปลอบให้กำลังใจ น้องวันใหม่ พร้อมอยู่เคียงข้าง ไม่ห่าง

สำหรับ งานสวดพระอภิธรรมคืนแรก ในเวลา 19.00 น. ทางครอบครัวฉัตรบริรักษ์ เป็นเจ้าภาพ โดยมีคนในวงการบันเทิง เดินทางมาร่วมไว้อาลัย และแสดงความเสียใจกับนักแสดงหนุ่มและครอบครัว อาทิ อ๊อฟ พงษ์พัฒน์, หนุ่ม กรรชัย, เต้ย จรินทร์พร, เต้ย พงศกร, เฟย ภัทร, ติ๊ก กัญญารัตน์, หมอก้อง สรวิชญ์, อิ้งค์ วรันธร, เชา ชวลิต ลฯ

สำหรับกำหนดการพิธีสวดอภิธรรมศพคุณแม่งามทิพย์ จะมีตั้งแต่วันที่ 7-13 มิ.ย. 2568 ในเวลา 19.00 น. และพิธีฌาปนกิจ ในวันเสาร์ที่ 14 มิ.ย. 2568 เวลา 08.00 น. สวดพระพุทธมนต์ มาติกา บังสุกุล ถวายภัตตาหารเช้า 12.30 น. เชิญหีบเวียนเมรุ เวลา 13.00 น. ประชุมเพลิง ณ ฌาปนสถานกองทัพอากาศ เมรุ2 วัดพระศรีมหาธาตุวรมหาวิหาร บางเขน
“บอย ปกรณ์”แจ้งข่าวเศร้า “คุณแม่งามทิพย์”เสียชีวิตลงอย่างสงบในวัย 69 ปี
ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวฉัตรบริรักษ์ ของ 3 หนุ่ม บอย ปกรณ์, หน่อง ธนา, ภัทร และ น้องวันใหม่ ที่ต้องพบกับความสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ กับการจากไปอย่างสงบของ คุณแม่งามทิพย์ ฉัตรบริรักษ์ คุณแม่ผู้เป็นที่รักอย่างไม่มีวันกลับ

โดยวันที่ 7 มิ.ย 68 บอยได้โพสต์รูปพร้อมแจ้งข่าวเศร้าว่า "คุณแม่เดินทางไกลแล้วครับ เรียนเชิญทุกท่านมาส่งคุณแม่ครับ"

ซึ่งกำหนดการงานศพของคุณแม่งามทิพย์ จะจัดขึ้นที่วัดพระศรีมหาธาตุวรมหาวิหาร บางเขน ณ ศาลาเกศณี วันที่ 7-14 มิ.ย. ในวันที่ 7 มิ.ย.จะมีการรดน้ำศพในเวลา 17.00 น. และสวดอภิธรรมเวลา 19.00 น. และจะมีพิธีฌาปนกิจในวันที่ 14 มิ.ย. เมรุ 2 เวลา 13.00 น.
#สยามดารา #บอยปกรณ์ #อาลัย
ทรงคุณค่า แม่ปุ้ย ต่อสู้แฟนแอนตี้ใช้สุขภาพจิตและมายด์เซ็ทที่ดี ฉลองมงฟ้า โอปอล ส่งพี่เลี้ยงบวช แก้บนพญานาค
ยังปลื้มปริ่มไม่หายกับความภาคภูมิใจของคนไทยทั้งประเทศ กับมงฟ้ามงแรก บันทึกหน้าประวัติศาสตร์ชาติไทย "โอปอล สุชาตา" Miss world 2025 ภายใต้ลมใต้ปีกคนสำคัญของสองหัวเรือใหญ่ "แม่ปุ้ย ปิยาภรณ์" แห่งบ้านทีพีเอ็นโกลบอล และ "โป้ง ชยาภรณ์ บุนนาค” แห่งTERO งานนี้คนเบื้องหลังอย่าง "แม่ปุ้ย" โดดมาเปิดใจถึงความสำเร็จมงฟ้าลงหัวลูกสาวผ่านรายการ "โต๊ะหนูแหม่ม" ช่องเวิร์คพอยท์หมายเลข23 กับพิธีกรตัวแม่ "หนูแหม่ม สุริวิภา" เผยถึงเบื้องหลังความเชื่อที่ยึดเหนียวจิตใจของคนไทย ถึงการแก้บน และตอบทุกดราม่าวงการนางงามที่ช่วงนี้มรสุมคลื่นลูกใหญ่ซัดเข้าฝั่งแรงเหลือเกิน

อดถามไม่ได้ตามความเชื่อ..เตรียมตัววางแผนแก้บนยังไงบ้าง?
"เรามีแผนกกระทรวงมูฯ (หัวเราะ) คือพี่เลี้ยงบนจนต้องบอกว่าจดไว้บ้างนะ ถ้าไม่จดเดี๋ยวลืมไปแก้ไม่ได้นะ คือในทีมงานก็มีคนบอกว่าเดี๋ยวบวชเลย พี่เลี้ยงพี่ปอนด์เค้าบอกว่าจะบวช พอมงเค้าก็บอกว่าแม่ต้องบวชอ่ะ เราก็บอกว่าฉันรู้ใจเธอ เธอได้พูดกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์หรือเปล่า ได้มีกำหนดหรือเปล่า เราก็บอกโอเคเดี๋ยวรอน้องมง ตอนนี้เดี๋ยวไม่มีคนทำงาน แต่ก็มีคนบนแทนเดี๋ยวคุณแม่ต้องไปกราบพญานาคนะ เราก็ถามว่าฉันบนเมื่อไรอะ เค้าบอกว่าเค้าบนแทนเรียบร้อยแล้ว คุณแม่ต้องไป แต่เราก็นับถือตอนแรกตกใจว่าบนเมื่อไรนะ อ๋อ..มีคนบนแทน"

พอมาเข้าสู่วงการนางงามเตรียมตัวยังไง เพราะย้อนไปเมื่อก่อน แม่ปุ้ย เป็นน้องใหม่มากๆ?
"พอเราเข้ามาสู่ในวงการนางงาม เราก็ทำงานหนักมาก ทีมงานเราไม่ได้หลับไม่ได้นอน เรามีเวลากระชั้นเข้ามาแล้วเป็นมือใหม่เราก็มาศึกษางาน ในวงการเค้าทำงานเป็นยังไงบ้างได้ แล้วเข้ามาทำงานตรงนี้เราก็อยากเกิดให้รูปแบบใหม่ แล้วที่สำคัญเราให้คุณค่ากับคนที่เป็นนางงามมากๆ เรารู้สึกว่าคนพวกนี้เป็นตัวแทนที่ยอดเยี่ยมมากๆ ในการที่จะสื่อสารสิ่งที่ดีให้กับเป็นตัวแทนประเทศชาติเรา เราก็คิดทำการบ้านที่จะทำยังไงให้ถูกจริตคนดู"

ซึ่งก็มีแอนตี้แฟนเยอะมาก รับมือกับเรื่องนี้ยังไง?
"สมัยใหม่ๆ ก็รับมือไม่ได้นะเอาเรื่อง มีฟ้องมีอะไรไป ฝ่ายกฎหมายก็ทำงานกันไป จนวันนึงมาถึงจุดพีคไปกันที่ สน.นึง เค้าเรียกตัวไปแล้ว ไปถึงเราก็ปลงเพราะว่าคนที่ตำรวจเชิญมามันเป็นเด็กน้อยมากเลย ยังเรียนมัธยมอยู่เลยไม่ได้มีอะไรเลย กลายเป็นว่าเราไป ต้องไปให้ตังค์เค้า เพราะว่าเค้าไม่มีเงินค่ารถกลับบ้าน เราเลยบอกว่าไม่ต้องเรียกมาแล้ว มาแล้วเสียตังค์500บาท มายด์เซ็ทเราเลยเปลี่ยนว่า ถ้าเป็นคนที่สุขภาพจิตดี มีมายด์เซ็ทที่ดี อยู่ในสภาพครอบครัวที่ดี เค้าจะไม่ทำแบบนี้ เป็นเราเราจะลุกขึ้นมาด่าหยาบคาย หรือมาพูดพิมพ์ๆ คนพวกนีัแม่ปุ้ยว่าต่อหลังแป้นพิมพ์เค้าจะเก่ง พออยู่ต่อหน้าผู้คนหรืออยู่ต่อหน้าความจริงมันจะอีกเรื่องนึง ก็เลยเลิกใส่ใจ"

มันเลยทำให้เราเลิกแยกออกห่างจากเรื่องพวกนี้?
"พยายามจะสอนทุกคนที่เอาตัวเองไปผูกกับพลังลบพวกนี้ ว่าอย่าๆเค้าไม่ได้มาเลี้ยงดูพวกเราเลย ไม่ได้มาให้ข้าวเราซักมื้อเราอย่าไปแคร์"
อาม ชุติมา ยอมรับลงมิสแกรนด์เพราะอยากเกาะกระแส! เคยถูกดราม่าหนักถึงขั้นคิดอำลาวงการ
จากนักร้องลูกทุ่ง สู่นางงามเวทีมิสแกรนด์ “อาม ชุติมา” ล่าสุดมาเปิดใจในรายการ “เบิ้ล AM” ถึงเส้นทางชีวิตตั้งแต่จุดเริ่มต้นที่ยากลำบากจนมาเป็นนักร้องที่มีชื่อเสียง แม้ต้องเผชิญความกดดันมากมายแต่ก็ไม่หยุดพัฒนาตัวเอง กล้าตัดสินใจเข้าร่วมประกวดมิสแกรนด์ไทยแลนด์ โดยเริ่มต้นจากศูนย์อีกครั้ง ยอมรับลงประกวดมิสแกรนด์ เพราะอยากเกาะกระแสเวทีดัง เผยครั้งหนึ่งเคยโดนดราม่าหนักถึงขั้นคิดอยากอำลาวงการ

เป็นยังไงถึงได้ลงมิสแกรนด์ทั้งที่ตัวเองยังทัวร์คอนเสิร์ตอยู่ ?
อาม ชุติมา : หนูคิดว่ามันความสวยเรามันต่อยอดได้ ถ้าเราไปประกวดเราอาจจะได้ตำแหน่งมาได้รางวัล มันต้องมีอะไรสักอย่าง มันไปได้อีก

พอมาอยู่ในวงการมิสแกรนด์ มีความกดดันหรือมีคนมาบูลลี่เราหรือเปล่า ?
อาม ชุติมา : ถ้าย้อนกลับไปช่วงแรกมีเยอะ ตั้งแต่ก่อนที่เราจะตัดสินใจ road to เลยด้วยซ้ำ คือมันกดดันหลายๆ เรื่อง ด้วยความที่เราเองก็ไม่ใช่สายบิวตี้ควีนเลย รู้อยู่แล้วว่ามันต้องมี เรามาเปลี่ยน mindset ตัวเองด้วยว่าถ้าจะมาอยู่จุดนี้ ต้องยอมรับให้ได้ พอปรับกับความคิดได้ทุกอย่าง มันก็สบายใจ

เป็นตัวแทนของแพร่ แล้วมีกระแสดราม่าใน TikTok คำว่า แพร่แว้ คืออะไร ?
อาม ชุติมา : คำนี้มาจากไวรัลในโซเชียลนี่แหละ แพร่แว้ ในภาษาอีสาน แพร่แว้มันเป็นตาฮักเด้ ( น่ารัก ) อยู่ที่บริบท มันอยู่ที่เรา

ประสบความสำเร็จได้อันดับเท่าไหร่ ?
อาม ชุติมา : รองอันดับ 5 ( อันดับที่ 6 มิสแกรนด์ไทยแลนด์ )

พอใจไหมกับสิ่งที่ตัวเองได้รับหลังจากจบมิสแกรนด์ไทยแลนด์ในปีนี้ ?
อาม ชุติมา : พอใจ เราได้ฐานแฟนคลับที่เพิ่มมากขึ้น ได้เฉิดฉาย จริงๆ แค่อยากมาเดินตรงเวทีนี้ เป็นแค่ 1 ใน 77 คนก็ดีใจแล้วที่ได้ยืนอยู่ตรงนั้นแบบเรียงแถวยากมากๆ นะ กว่าจะเป็นตัวแทนจังหวัดได้

จริงๆแล้วเราเป็นคนที่ไหน จังหวัดอะไร ?
อาม ชุติมา : เป็นคนจังหวัดบึงกาฬ

สิ่งที่ทำให้เรามีแรงบันดาลใจในการที่อยากจะมาเป็นศิลปินในวงการบันเทิง ?
อาม ชุติมา : หนูชอบ พี่เบิ้ล ปทุมราช กับ พี่ก้อง ห้วยไร่ ชอบที่เป็นตัวอย่าง เป็นแบบอย่าง เป็นคนที่แต่งเพลงร้องเพลง เป็นศิลปินต้นแบบเรา เป็นไอดอล หนูไม่มีศิลปินผู้หญิงที่เป็นไอดอล

จุดที่เข้ามาอยู่ในวงการในช่วงนั้นคิดว่าตัวเองประสบความสำเร็จหรือยัง ?
อาม ชุติมา : จริงๆ แค่ได้ทำตามความฝัน หนูประสบความสำเร็จ มีบ้านซื้อบ้านให้พ่อให้แม่สร้างบ้านให้พ่อให้แม่ ดูแลทุกคนในครอบครัว อันนี้คือประสบความสำเร็จในวงการเพลง

ตอนช่วงที่มีดราม่าเยอะ ชีวิตช่วงนั้นคือตกต่ำสุดประมาณไหน ?
อาม ชุติมา : ถ้าย้อนกลับไปดราม่าตอนนั้น เป็นช่วงพีคของเรา อันนี้ภูมิใจมาก ออกมา 4 ครั้งทำให้เรารู้จักการกลัวออกสื่อ แล้วก็เรามีงานเยอะมาก คนสงสารเยอะมาก แต่เราไม่ได้อยากดังแบบนั้น มีงานเยอะมาก เพราะออกจากค่าย พอเรามารับงานเอง ก็ไม่รู้ว่าต้องจัดการยังไง มันก็เป็นฟีลที่เรารับมั่วมาเลยก็มี พี่มาช่วยให้พี่มาช่วยรับโทรศัพท์ แต่เราเป็นคนวางแผนเองทั้งหมด คิดเองหมด ทุกอย่าง

ตอนนั้นมีแฟนหรือยัง
อาม ชุติมา : ตอนนั้นไม่มีแฟน ตอนนี้ก็ไม่มี โสดมาตลอด
ช่วงโควิดเจอปัญหาเรื่องงานไหม

อาม ชุติมา : ตั้งแต่อายุ 18 จนถึง 21 ปีมานี้ เราทำงานแบบเอางานอย่างเดียวเลย พอมาอายุ 21 ปีโควิดมันรับงานไม่ได้เรียกว่า ล็อกดาวน์ ทำงานที่บ้าน ซึ่งเราไม่สามารถร้องเพลงที่บ้านได้ ตอนนั้นก็ยังไม่รู้จักการไลฟ์สตรีม ช่วงนั้นก็เงียบไปเลยแต่เราเป็นเด็ก รู้สึกว่าโอเคฉันได้พักผ่อน เพราะฉันไม่เคยได้พักเลยอยู่กับบ้าน ถ้าอยู่บ้านอยู่ไปเรื่อยๆ มันจะเป็นฟีลกลับไปเป็นคนเดิมก่อนที่จะเข้าวงการ ก็เลยรู้สึกว่าไม่ได้แล้ว ฉันอยู่ที่นี่ไม่ได้ ฉต้องมากรุงเทพฯ เพื่อที่จะมาขายเสื้อผ้า ขายออนไลน์ ใน TikTok

เคยดิ่งสุดแบบร้องไห้คนเดียวหรือว่ารู้สึกว่าฉันไม่อยู่วงการนี้ ไม่อยากทำอะไรเลยไหม ?
อาม ชุติมา : มีช่วงที่ทุกอย่างมันลงตัวกลับมารับงาน มันไม่เหมือนเดิม นักร้องใหม่ๆ เยอะมาก แปลว่าเขามีสิทธิ์ที่จะเลือกใครใหม่ๆ ขึ้นมาได้เสมอ ซึ่งเราก็รู้สึกว่าฉันก็ต้องแข่งกับตัวเองด้วยแข่งกับนักร้องใหม่ๆ แข่งกับงาน แข่งกับเวลา แข่งกับวงด้วย เพราะว่าวงเราก็มันจะไม่เหมือนเดิม วงเก่าเราก็แยกย้ายกันไปเรียน

ช่วงที่เราเงียบไปอายุ เท่าไหร่ ?
อาม ชุติมา : 23 ปี ช่วงนั้นเป็นช่วงที่งานก็รับแต่เป็นการทำงานที่ทำไปเฉยๆ ทำตามความรับผิดชอบ เพราะเรารับมาแล้วไม่ได้มีความสนุกหรือไม่มีไอเดีย แต่ว่าใช้ชีวิตเราก็ยังรับงานอยู่ตลอดเรื่อยๆไม่เคยหายจากวงการแต่พอมาอายุ 25 คือปีที่แล้ว รู้สึกว่าเราทำอะไรมันไม่แมส กดดันตัวเองมากคือทำอะไรก็ไม่สนุก แต่งตัวแบบนี้คนด่า ร้องเพลงแบบนี้คนด่า คนด่าทุกอย่าง พอด่ามากๆ ตอนเด็กมันก็ไม่ได้คิดอะไรพอมันมาสะสมเรื่อยๆแล้วก็เลยรู้สึกว่าเราหนีออกจากโซเชียลดีกว่า แต่งานเรามันเป็นงานที่ต้องทำกับโซเชียล จนอยากอำลาวงการเลยถึงขั้นนั้น

สิ่งที่ทำให้เราตัดสินใจที่ลงประกวดมิสแกรนด์
อาม ชุติมา : เราอยากเกาะกระแสตรงนี้พูดตรงๆ เลย ก็คือเวทีนี้เขาดัง หนูรู้สึกว่าหนูไปได้อีก ฉันจะไม่ยอมหยุดอยู่แค่นี้ หนูกลัวว่าจะได้สามีก่อน เพราะถ้าได้สามีจะไม่สามารถลงมิสแกรนด์ได้ เราอยากทำตามความฝันก่อนที่มันจะไม่มีโอกาส ตอนเข้ากองไปแรกๆ จะมีช่วงที่เขาจะให้โหวตเอาคะแนนตรงนั้น แล้วก็ใครที่เข้า top 10 คน จากคะแนนโหวตวันแรกจะให้ไปนั่งโต๊ะกินข้าวทานข้าวร่วมกับบอส แล้วพอเราได้เข้าไปเป็น 1 ในนั้น เข้าใจเลย แปลว่าเป็นตัวของตัวเองได้เลย เราเข้าใจว่าต้องเป็นนางงามนั่งแบบนี้ตลอดเวลา ก็เลยรู้สึกเครียดในช่วงแรก พอเข้าไปแล้วบอสบอกว่าเป็นตัวของตัวเองได้เลย จอยเลยเต็มที่เลยสนุก ก็เริ่มตั้งแต่วันแรกเลยสนุกกับการอยู่ในกองประกวด

ในวงการมิสแกรนด์มีจริงไหม ที่จะสนับสนุนแค่คนที่ดูมีแววว่าจะไปต่อได้ ?
อาม ชุติมา : สำหรับหนูคิดว่ามันอยู่ที่ความขยันของแต่ละคน ถึงคุณจะมีชื่อเสียงในวงการนักร้อง แต่ว่าอันนี้มันคือเวทีของมิสแกรนด์ มันคนละบริบท เพราะฉะนั้นถ้าหนูไม่มีความพยายาม หรือว่าไม่มีความขยัน หรือขี้เกียจ หรือหนูเอาแต่ใจ ถ้าทำตัวไม่น่ารักก็ทำงานกับคนอื่นได้ยาก แต่เชื่อว่าหนูเป็นคนที่ตั้งใจมาก ๆ คนหนึ่ง เราเริ่มจากศูนย์ บางคนอาจจะเริ่มนับ 1 หนูเริ่มจากติดลบเลยด้วยซ้ำกับวงการ นี้

ทำไมถึงรู้สึกว่าตัวเองเริ่มจากติดลบ ?
อาม ชุติมา : เพราะเราไม่ได้มีความรู้เลย แล้วก็มาตอนอายุ 25 แต่คนอื่นอาจจะมาตั้งแต่อายุ 18 เขาก็ประกวดไปเรื่อยๆ จะมีประสบการณ์มากกว่า
ถ้าคิดว่าเรามาจากติดลบ ก็แสดงว่าชื่อที่เราเดินมา หรือสิ่งที่เคยทำมามันไม่มีคุณค่าสำหรับเราเหรอ ?
อาม ชุติมา : สำหรับหนูมองว่าเป็นคนละคนกัน คือเราเคยเป็นคนที่มีทีมงาน มีผู้จัดการคอยดูแลทุกอย่าง เวลาไปทำงานเราก็แค่ไปถึงหน้างาน มีคนขับรถ มีคนจัดคอสตูม เปลี่ยนเสื้อผ้าให้ทุกอย่างเรียบร้อย แต่พอเข้ากองมิสแกรนด์ มันไม่ใช่แบบนั้นเลย ทุกคนต้องเปลี่ยนชุดเอง แต่งหน้าเอง ทำผมเอง อยู่กับเพื่อนๆ เหมือนเข้าค่าย ต้องทำกิจกรรมร่วมกัน หนูก็เลยตั้งใจบอกกับตัวเองว่า ….”.โอเค จากนี้ไป 1 เดือนกว่าๆ ที่อยู่ในกอง ฉันจะไม่ใช่อามที่เป็นนักร้อง ฉันจะเป็นอามอีกคนหนึ่งที่เริ่มจากศูนย์” เหมือนตอนที่เราเคยอยากเป็นนักร้องใหม่ๆ เลย เป็นฟีลแบบไม่มีน้ำในแก้วเลย กลับมาเริ่มจากศูนย์ใหม่แบบนั้นจริงๆ เราจะไม่มีอารมณ์วีนใส่ใคร ไม่งอแงใส่ใคร ไม่มีเลย หนูเลยรู้สึกว่างั้นฉันเอาตัวตนอีกคนหนึ่ง มาอยู่ในบทบาทใหม่แล้วมันก็เลยทำให้เรารู้สึกว่ามันสนุกนะ

มีสเปกที่ชอบไหม?
อาม ชุติมา : หนูไม่ได้เจาะจงว่าต้องเป็นผู้ชาย ผู้หญิง หรือทอมหรืออะไร หนูได้หมดเลยทุกเพศ หนูเป็น LGBTQ อยู่แล้ว ถ้าในเรื่องของลักษณะ หนูชอบคนที่สุขุม เป็นคนอบอุ่น อาจจะดูทรงแบบ Bad ก็ได้ แต่ต้องเป็นคนที่อ่อนโยนกับเรา

คิดถึงการร้องเพลงอยู่ไหม ?
อาม ชุติมา : คิดถึงค่ะ เพราะว่าตอนนี้หนูก็มีการวางแผนเรื่องการรับคอนเสิร์ตทัวร์กับมิสแกรนด์ด้วย ทั้ง Grand voice ด้วย

เร็ว ๆ นี้จะมีโอกาสได้ฟังเพลงซิงเกิลใหม่ไหม ?
อาม ชุติมา : มีค่ะ มีโอกาส ตอนนี้ชื่อเพลงยังไม่ได้ตั้ง แต่ว่าแต่งตามบรีฟที่บอสวางมาให้ อยากให้เราแต่งในเพลงให้มีคำว่า เด็กบึงกาฬ ผู้สาวบึงกาฬ มาจากบึงกาฬ มีป่ายาง อะไรแบบนี้ แต่งเสร็จ แล้วตอนนี้อยู๋ในกระบวนการของการทำดนตรีค่ะ

สามารถติดตาม “เบิ้ล AM” ได้ที่ช่องทาง Facebook: WE DO , Youtube: WE DO วันพฤหัสบดี เวลา 19.00 น.
คลิกชมคลิปย้อนหลัง : https://www.youtube.com/watch?v=UbAoeXR-OXA&ab_channel=WEDO
"กระแต - หนิง" ส่งกำลังใจ “เอ๋”หลังป่วยเป็นโรคมะเร็งปอด เผยซึ้งอยู่ข้าง ๆ เป็นกำลังใจให้เสมอ"
หลังจาก เอ๋ พรทิพย์ ภรรยาของนักแสดงชื่อดัง ป๋อ ณัฐวุฒิ ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็น มะเร็งปอดระยะเริ่มต้น ซึ่งจำเป็นต้องเข้ารับการผ่าตัดอย่างเร่งด่วน ท่ามกลางความห่วงใยจากแฟนคลับและ คนใกล้ชิด

จนกระทั่งทั้งคู่ได้ออกมาเล่าเรื่องราวผ่านรายการ ป๋อสะกิดเอ๋ พร้อมอัปเดตว่า ขณะนี้การรักษาสิ้นสุดลงแล้ว และ เอ๋ หายจากโรคมะเร็งอย่างสมบูรณ์ แม้ยังต้องใช้เวลาฟื้นฟูร่างกายอีกระยะ แต่หัวใจก็เปี่ยมไปด้วยกำลังใจ

ล่าสุด 5 มิ.ย 68 สองสาวเพื่อนสนิทอย่าง “หนิง ปณิตา” และ “กระแต ศุภักษร” ได้เปิดภาพเข้าเยี่ยมให้กำลังใจข้างเตียงรพ. พร้อมเผยข้อความซึ้งว่า “อยู่ข้างๆ เสมอไม่ว่าเมื่อไหร่ ไม่ต้องพูดเยอะแต่รัก” #หนิงปณิตา #กระแตศุภักษร #เอ๋พรทิพย์ #สยามดารา
บรรยากาศโศกเศร้าพิธีรดน้ำศพ "เอ๋ ไพโรจน์" คนบันเทิง-เพื่อนร่ำไห้ร่วมไว้อาลัยเนืองแน่น
เป็นอีกหนึ่งข่าวการสูญเสียบุคคลสำคัญของวงการบันเทิง สร้างความโศกเศร้าเสียใจให้กับคนในครอบครัว และเพื่อนพ่องในวงการบันเทิงอีกครั้งหนึ่ง เมื่อผู้กำกับ-นักแสดงอาวุโส ‘เอ๋ ไพโรจน์ สังวริบุตร’ ได้เสียชีวิตกะทันหัน ระหว่างเดินทางไปพักผ่อนและเยี่ยมเพื่อนที่จังหวัดนครราชสีมา โดยมีอาการวูบขณะอยู่ที่โรงแรม ทางโรงแรมก็ได้เรียกรถกู้ชีพพร้อมนำส่งโรงพยาบาล แต่สุดท้ายก็สุดยื้อ เอ๋ ไพโรจน์ ได้เสียชีวิตลงอย่างสงบ สิริอายุ 72 ปี

เมื่อ 16.00 น. วันที่ 4 มิถุนายน เวลา ณ วัดมกุฏกษัตริยารามราชวรวิหาร ศาลา 7 มีพิธีรดน้ำศพ ‘เอ๋ ไพโรจน์’ ท่ามกลางบรรยากาศโศกเศร้าของครอบครัว รวมถึงคนในวงการบันเทิงที่เดินทางมาร่วมแสดงความอาลัย

คนในครอบครัว คนใกล้ชิด และบุคคลในวงการบันเทิง ต่างทยอยเดินทางมาร่วมแสดงความเสียใจจำนวนมาก เช่น ลลนา สุลาวัลย์, บริพันธ์ ชัยภูมิ, ชัยรัตน์ เทียบเทียม, ปัทมา ปานทอง, กษมา นิสสัยพันธุ์, สยาม สังวริบุตร, สยม สังวริบุตร, โยโกะ ทาคาโน่, วินัย พันธุรักษ์ ฯลฯ

ก่อนเริ่มพิธีรดน้ำศพ ‘เบส ปณิชา’ ลูกสาว ’เอ๋ ไพโรจน์‘ ได้เปิดใจอีกครั้งหลังสูญเสียครั้งสำคัญ โดย เบส เผยว่า “กะทันหัน ปกติคุณพ่อแข็งแรง คุณพ่อเคยบายพาสต์หัวใจ เมื่อ 20 ปีที่แล้ว จากนั่นมาก็ไม่เคยเจ็บป่วย ไม่เคยมีอาการอะไรเลย เราไปเรียนเรื่อง Anti Aging เข้าใจเรื่องการดูแลสุขภาพ ก็ดูเรื่องอาหารการกิน การออกกำลังกายเท่าไหนเหมาะสม นอนยังไงดี ทำมาโดยตลอดไม่มีอาการเจ็บป่วย และเพิ่งเริ่มมีอาการเมื่อ 3 อาทิตย์ที่แล้วเขาพูดแล้วลิ้นแข็งๆ ตอนนี่นไปหาหมอได้ยาขยายหลอดเลือดมา อาการก็กลับมาปกติ เลยคิดว่าทานยามาเรื่อยๆ คือควบคุมอาการได้แล้ว ไม่ได้นึกไปถึงอย่างอื่นเลย ทีแรกคิดว่าสโตรกไหม อย่างที่บอกคือคล้ายๆ วูบไป

คุณพ่อแข็งแรง เวลาเจอเพื่อนก็จะให้กำลังใจเพื่อน แนะนำวิธีการกินอาหาร คุณพ่ออธิบายและแนะนำคนอื่นได้อย่างดี จริงๆ คุณพ่แใช้ชีวิตปกติไม่ได้หักโหมอะไร แข็งแรงมาก ทุกวันจะเดินสายพาน ลูกหรือใครโทรไปจะบอกว่าเดี๋ยวโทรกลับนะ เขาจะรู้สึกว่าต้องทำสิ่งที่ให้จบก่อน เดินทุกวัน”

“คุณพ่อขับรถไปเองและมีเพื่อนนั่งไปด้วย ไปหาเพื่อนที่มีโรงงานอยู่ที่โคราช เพื่อนอีกฝั่งหนึ่งทำเกี่ยวกับอะไหล่เครื่องจักร เขาเลยจะนัดเพื่อนเพื่อจะแมชต์งานกัน เลยพาเพื่อนที่มาจากใต้ไปด้วย คุณพ่อบอกไว้ว่าจะไปกับคนนี้นะ เท่าที่ทราบคือคุณพ่อไปประมาณ 31 หรือ 1 นี่แหละค่ะ เท่าที่ทราบเขามีกินข้าวกับเพื่อนหลายกลุ่ม เลิกจากกลุ่มนี้ก็ไปอีกกลุ่มหนึ่งค่ะ เท่าที่รู้คือช่วงดึกวูบไป โรงแรมก็นำส่งโรงพยาบาล คิดว่าช่วงนำส่งโรงพยาบาลน่าจะไม่ทันแล้ว ตอนนั้นคงอยู่คนเดียว แล้วเราก็ไม่ได้รู้เรื่องเป็นคนแรกๆ มีหลายคนโทรมาช่วงเกิดเหตุ แต่ตั้งโหมดสลีฟไว้ แต่ตั้งปต่เขาไปโคราชเราก็ไม่ได้ไปไล่เลี้ยงว่าใครทำอะไรบ้างยังไง ตอนนั้นก็โฟกัสแต่ว่าจะเอาพ่อกลับมายังไง”

“ถ้าถามว่าเรื่องงานมีอะไรค้างไว้ไหม คุณพ่อมีงานภาพยนตร์ที่ถ่ายไว้ เรื่องย่าม่าน ถ่ายทำเสร็จแล้ว คุณพ่อมีความตั้งใจกับสิ่งนี้ เขาเข้าวงการตั้งแต่หนุ่ม เขาอยากตอบแทนวงการนี้ อยากทำหนังเพื่อสังคมโดยไม่ได้คำนึงว่าเจ็นตอนนี้เป็นยังไง คนดูแบบไหน เขาสนใจแค่ว่าสิ่งที่เขาทำปัจจุบันไม่ค่อยมี คือการพูดเรื่องการท่องเที่ยววัฒนธรรม เขาอยากทำท่องเที่ยว”

ต่อมา 18. 00 น. เจ้าภาพนิมนต์พระสงฆ์ 4 รูป สวดอภิธรรมคืนแรก บรรยากาศเต็มไปด้วยความโศกเศร้าอาลัยจากการจากไปของนักแสดงผู้กำกับคนดัง ‘ไพโรจน์ สังวริบุตร‘ สำหรับกำหนดการรดน้ำศพ สวดอภิธรรม และฌาปนกิจ คุณไพโรจน์ สังวริบุตร ณ วัดมกุฏกษัตริยารามราชวรวิหาร ดังนี้ พิธีรดน้ำศพ วันพุธที่ 4 มิถุนายน พุทธศักราช 2568 เวลา 16.00 น.

พิธีสวดอภิธรรม วันพุธที่ 4 มิถุนายน 2538 เวลา 18.00 น. ระหว่างวันที่ 5-8 มิถุนายน 2568 เวลา 18.30 น. และ ประกอบพิธีฌาปนกิจศพ ในวันจันทร์ที่ 9 มิถุนายน 2568 เวลา 17.00 น. ครอบครัว “สังวริบุตร” ขอเรียนเชิญท่านผู้มีเกียรติร่วมแสดงความอาลัย และร่วมพิธีตามวัน เวลา และสถานที่ดังกล่าว ขออภัยหากมิได้เรียนเชิญด้วยตนเอง

#เอ๋ไพโรจน์ #อาลัย #สยามดารา
ส่งกำลังใจ “ป๋อ ณัฐวุฒิ” ประกาศข่าวช็อก “เอ๋ พรทิพย์” ป่วยเป็นโรคมะเร็ง
ทำเอาหลายคนต่างช็อกไปตามๆ กัน หลังจากที่วันนี้ 3 มิ.ย 68 “ป๋อ ณัฐวุฒิ” ได้ออกมาเผยแพร่คลิปวิดีโอตอนที่ภรรยาสุดที่รัก เอ๋ พรทิพย์ กำลังรักษาตัวพร้อมระบุว่า “เอ๋เป็นมะเร็ง” พร้อมยังบอกว่าไม่มีเวลามานั่งเสียใจ ต้องคิดต่อไปว่าจะทำอะไร? และรู้สึกสงสารภรรยาที่ต้องเจอโรคร้าย

ส่วนรายละเอียดต่างๆ “ป๋อ-เอ๋” จะชี้แจงอีกครั้ง ในวันพุธเวลา 17.00 น. #เอ๋พรทิพย์ #ป๋อณัฐวุฒิ #สยามดารา
สิ้น“เอ๋ ไพโรจน์ ” พระเอกรุ่นใหญ่-ผู้กำกับในตำนานเสียชีวิตแล้วในวัย 72 ปี
Lนับเป็นการสูญเสียบุคคลสำคัญของวงการบันเทิงไทย อีกครั้ง ที่ล่าสุดวันนี้ 3 มิ.ย 68 มีรายงานข่าวเผยว่า เอ๋-ไพโรจน์ สังวริบุตร พระเอกรุ่นใหญ่-ผู้กำกับชื่อดังที่ฝากผลงานไว้อย่างยาวนานและหลากหลายทั้งในภาพยนตร์ ละครโทรทัศน์ และบทบาทเบื้องหลัง

ได้เสียชีวิตอย่างสงบเมื่อเวลา 03.00 น วันที่ 3 มิถุนายน 2568 ที่จังหวัดนครราชสีมา สิริอายุได้ 72 ปี โดยมีกำหนดสวดพระอภิธรรม ณ วัดมกุฏกษัตริยารามราชวรวิหาร วันที่4 มิถุนายน - พิธีรดน้ำศพ สยามดาราขอแสดงความเสียใจด้วยนะคะ

Cr. Fb : ดาราภาพยนต์ #เอ๋ไพโรจน์ #สยามดารา
สุดเศร้า! บรรยากาศพิธีรดน้ำศพ “แม่นนกุล” ด้าน “แอฟ”ร่ำไห้เคียงข้างเป็นกำลังใจไม่ห่าง
คนบันเทิงแห่ส่งกำลังใจ หลังนักแสดงหนุ่ม ‘นนกุล – ชานน สันตินธรกุล’ กับการสูญเสียครั้งสำคัญของชีวิต เมื่อคุณแม่เพ็กแฮ จากไปอย่างไม่มีวันกลับ เมื่อวันที่ 1 มิถุนายน 2568 ด้วยโรคมะเร็งปอด โดยครอบครัวยังอยู่ในความโศกเศร้า

เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 2 มิถุนายน 2568 ณ ศาลา 23 (ศาลาดุรงคพิทยา) วัดธาตุทอง พระอารามหลวง มีการจัดพิธีรดน้ำศพคุณแม่เพ็กแฮ ท่ามกลางบรรยากาศอันสงบและโศกเศร้า โดย นนกุล พร้อมพี่น้อง เดินทางมาถึงก่อนเริ่มพิธี เพื่อเตรียมความพร้อมในช่วงเวลา 16.00 น. ขณะที่บุคคลใกล้ชิดทยอยดินทางมาร่วมไว้อาลัย และต่างแสดงความเสียใจและให้กำลังใจกับครอบครัวอย่าง อบอุ่น

ทั้งนี้ทางครอบครัวได้แจ้งข้อมูลว่า ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา คุณแม่เพ็กแฮอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด และสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ กระทั่งวันเกิดเหตุมีอาการไอและไอเป็นเลือด คุณพ่อจึงรีบนำส่งโรงพยาบาลในทันที แต่เกิดภาวะหัวใจหยุดเต้นกะทันหัน แม้ทีมแพทย์จะพยายามช่วยชีวิตอย่างสุดความสามารถ แต่สุดท้ายคุณแม่ก็จากไปอย่างสงบ

ตลอดช่วงพิธี แฟนสาวของนนกุล แอฟ ทักษอร คอยอยู่เคียงข้าง พร้อมให้ความช่วยเหลือดูแลแขกผู้มีเกียรติที่มาร่วมแสดงความอาลัยอย่างใกล้ชิด

กำหนดการพิธีสวดอภิธรรมและฌาปนกิจ
• วันจันทร์ที่ 2 มิถุนายน 2568 • พิธีรดน้ำศพ เวลา 16:00 น. • พิธีสวดพระอภิธรรม เวลา 18:00 น.
• วันพุธที่ 4 – วันจันทร์ที่ 9 มิถุนายน 2568 • พิธีสวดพระอภิธรรม เวลา 19:00 น. ของทุกวัน
• วันอังคารที่ 10 มิถุนายน 2568
• พิธีฌาปนกิจ เวลา 17:00 น.

และทางครอบครัว สันตินธรกุล ได้ชี้แจงอาการของคุณแม่ เพ็กแฮ สันตินธรกุล ได้ป่วยด้วยโรคมะเร็งปอด ที่ผ่านมาอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์มาตลอดและสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ วันเกิดเหตุ คุณแม่มีอาการไอและมีเลือดออก คุณพ่อรีบนำส่งโรงพยาบาลแผนกฉุกเฉินทันที แต่เกิดภาวะหัวใจหยุดเต้น ทีมแพทย์ได้พยายามช่วยชีวิตคุณแม่ แต่สุดท้ายคุณแม่ก็จากไปอย่างสงบ
นายกฯอิ๊งค์ โพสต์ร่วมยินดี”โอปอล-วิว“ 2 นักสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของเมืองไทย
เป็นตำนานครั้งใหม่ของนางงามไทย-วงการกีฬา สำหรับ โอปอล สุชาตา ช่วงศรี ที่เพิ่งไปคว้ามงกุฎ Miss World 2025 ครั้งที่ 72 ได้ ณ ประเทศอินเดีย นับเป็นมงกุฎแรกในประวัติศาสตร์ของประเทศไทย และ “วิว กุลวุฒิ” ที่โชว์ฟอร์มสุดยอดในรอบรองชนะเลิศ แบดมินตัน สิงคโปร์ โอเพ่น 2025 ด้วยการเอาชนะ หลิน ชุนยี่ จากไต้หวัน 2-0 เกม พร้อมทะลุเข้ารอบชิงชนะเลิศ โดยผลงานในรายการนี้เพียงพอให้คะแนนสะสมแซงหน้า ฉี หยู่ฉี จากจีน ขึ้นแท่นมือ 1 โลกทันที

ล่าสุด (1 มิ.ย.68) นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้โพสต์กล่าวแสดงความยินดี และชื่นชมความสำเร็จกับ ”โอปอล-วิว“ ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวไว้ว่า ”ขอแสดงความยินดีกับคุณโอปอล-สุชาตา มิสเวิลด์ 2025 คนแรกของประเทศไทย และคุณวิว-กุลวุฒิ วิทิตศานต์ นักแบดมินตันชายเดี่ยว คนแรกของไทยที่ขึ้นมือ 1 โลกอย่างไม่เป็นทางการค่ะ“

ทั้ง 2 ข่าวใหญ่ในวันนี้สร้างความภูมิใจให้คนไทยทั้งประเทศ ด้วยความพยายาม ความมุ่งมั่น ของคุณโอปอลและคุณวิว ได้สร้างประวัติศาสตร์ให้คนไทยทั้งประเทศความสำเร็จของทั้ง 2 ท่านในวันนี้ จะเป็นแรงบันดาลใจให้น้องๆ เยาวชนและคนไทยค่ะ

#โอปอลสุชาตา #วิวกุลวุฒิ #MissWorldThailand #สยามดารา
“นนกุล” แจ้งข่าวเศร้า สูญเสียคุณแม่สุดที่รัก เพื่อนคนบันเทิงแห่ส่งกำลังใจแน่น
ขอแสดงความเสียใจกับพระเอกหนุ่ม นนกุล ชานน สันตินธรกุล หลังจากวันนี้ 1 มิถุนายน 2568 ได้โพสต์แจ้งข่าวเศร้าสูญเสีย คุณแม่เพ็กแฮ สันตินธรกุล พร้อมแจ้งกำหนดการพิธีรดน้ำ สวดอภิธรรมและฌาปนกิจ ณ วัดธาตุทอง ศาลา 23

โดยมีเพื่อนพ้องพี่น้องในวงการและแฟนๆ รวมถึง แอฟ ทักษอร คอมเม้นท์แสดงความเสียใจและส่งกำลังใจให้ครอบครัวสันตินธรกุลกันจำนวนมาก

Cr. IG @ nonkul #นนกุล #สยามดารา
สุดเศร้า!!!รดน้ำศพวิรดาคนดังร่วมพิธีพร้อมแฟนคลับแน่นบ้าน
วันที่ 1 มิถุนายน 2568บรรยากาศการรดน้ำศพ น้องวิ วรดา วงศ์เทวัญ นางเอกลิเกชื่อดัง คณะกุ้งสุทธิราชวงศ์เทวัญ ที่บ้านในตลาดเทศบาลตำบลสรรคบุรี อ.สรรคบุรี จ.ชัยนาทเป็นไปด้วยความเศร้าโศก โดยมีคนดังในวงการลิเก-นักร้อง อย่าง เอ ไชยา มิตรไชย ที่เดินทางมาทั้งครอบครัว ทั้งนางเอกลิเกประจำคณะไชยามิตรไชย น้องแป้งลูกสาวของเอไชยา และ น้องมิตร น้องชาย นอกจากนี้ยังมีคุณ อ๊อด โฟร์เอส และศิลปินนักร้องลูกทุ่งอีกหลายคน พร้อมทั้งแฟนคลับที่เดินทางมาจากหลายๆจังหวัด เพื่อร่วมพิธีกันจนแน่นบ้าน ซึ่งแต่ละคนต่างน้ำตานองหน้า ด้วยความอาลัยน้องวิ นางเอกลิเกที่แฟนคลับรักและห่วงใย เฝ้าให้กำลังใจด้วยความหวังว่าจะหายนดีกลับมาแสดงลิเกสร้างผลงานการแสดงให้ได้ชมกันอีก แต่โรคร้ายก็มาพรากน้องวิไป

โดยเอ ไชยา มิตรไชย กล่าวว่าครอบครัวของตนกับครอบครัววงศ์เทวัญ ถือว่ามีความใกล้ชิดสนิมสนมกันมานาน ตนเองเห็นน้องวิมาตั้งแต่เด็ก ซึ่งวิมีความสนิทสนมกับน้องแป้ง ลูกสาวจองคุณเอ ที่มักจะเล่นมุกตลกแลกนามสกุลกันอยู่เป็นประจำ โดนน้องวิก็จะพูดแนะนำตัวว่า น้องวิ วิรดา มิตรไชย ส่วนน้องแป้งก็จะแนะนำตัวว่า น้องแป้ง วงศ์เทวัญ มาวันนี้ความสูญเสียของครอบครัววงศ์เทวัญ ก็เสมอืนการสูญเสียของครอบครัวมิตรไชยด้วย

ด้านกุ้ง สุทธิราช วงศ์เทวัญ กล่าวว่า1ปีที่ผ่านมา ที่น้องสาวรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล ทุกคนในครอบครัวและแฟนคลับ คอยเฝ้ารอคอยการกลับมาของน้องวิ ด้วยความหวัง เพราะน้องวิเป็นคนดี ชอบทำบุญ บุยกุศลที่น้องทำน่าจะนำพาน้องกลับมาสู฿อ้อมกอดของครอบครัวและแฟนคลับได้ แต่มาวันนี้ ทุกคนคงต้องพยายามสทำใจยอมรับให้ได้ว่า ปาฏิหารย์ไม่มีแล้วสำหรับน้องวิ ทุกคนก็ได้แต่อวยพรให้น้องไปจุติในภพภูมิที่สูงขึ้น ส่วนเรื่องคณะลิเกรวมทั้งน้องวาคิน ลูกชายของน้องวิ คุณกุ้งบอกว่า วิไม่ต้องห่วง เรื่องคระลิเก พวกเราที่ยังอยุ่จะสืบสานต่อไปให้นานเท่านาน และส่วนของน้องวาคินลูกชายของน้องวิ ทางครอบครัวก็จะดุแลอย่างดีที่สุด รวมทั้งจะสานฝันของน้องวิ ในการผลักดันให้น้องวาคิมได้เป้นสิลปินสืบทอดศิลปะการเล่นลิเกต่อไป รวมทั้งเรื่องของการเข้าสู่วงการบันเทิงในอนาคตด้วย

โดยครอบครัววงศ์เทวัญจะตั้งร่างน้องวิเพื่อสวดบำเพ็ญกุศลเป็นเวลา4วันคือวันที่ 1-2เว้นวันที่3และสวดวันที่4-5และ6 จากนั้นจะมีพิธีฌาปรกิจในวันที่7มิถุนายนที่วัดวิหารทอง อ.สรรคบุรี จ.ชัยนาท เวลา 15.00น.
“โอปอล-สุชาตา” พลิกประวัติศาสตร์ไทยคว้ามงกุฎมิสเวิลด์ครั้งที่ 72
ยิ่งใหญ่สมการรอคอยกับการประกวดมิสเวิลด์ครั้งที่ 72 รอบตัดสินที่จัดขึ้นค่ำคืนวันที่ 31 พฤษภาคม 2568 ณ HITEX Convention Center เมืองไฮเดอราบัด รัฐเตลังคานา ประเทศอินเดีย โดยสาวงามจากประเทศไทย “โอปอล-สุชาตา ช่วงศรี” สามารถคว้ามงกุฎมิสเวิลด์มงแรกแห่งประวัติศาสตร์มาให้คนไทยได้สำเร็จ ถือว่าเป็น 72 ปีที่รอคอยทำให้คนไทยได้สมหวังแล้ว!!

โดยการประกวดในปีนี้จัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่อลังการเปิดตัวด้วยพาเหรดสาวงามในชุดประจำชาติจากนั้นสาวงามทั้งหมดจะเดินโชว์โฉมด้วยชุดราตรีอันเจิดจรัสแบบทีละคนเรียงตามทวีปแล้วจึงประกาศรายชื่อสาวงามที่เข้ารอบ 40 คนสุดท้ายจากนางงาม 108 ประเทศ โดยแบ่งเป็น 4 ทวีป ทวีปละ 10 คน ดังนี้

อเมริกา&แคริบเบียน แอฟริกา ยุโรป และ เอเชีย&โอเชียเนีย ซึ่งสาวงามบางส่วนที่ชนะในรอบเก็บคะแนนหรือ Fast Track ต่างจะผ่านเข้ารอบ 40 คนนี้แบบอัตโนมัติ ซึ่งหนึ่งในนั้นมีสาวงามจากประเทศไทย “โอปอล-สุชาตา ช่วงศรี” ที่คว้าอันดับ 1 การแข่งขันมัลติมีเดียชาเลนจ์เอเชีย&โอเชียเนีย ผ่านเข้ารอบเป็นที่เรียบร้อย

จากนั้นมาลุ้นกันต่อกับรอบ 20 คนสุดท้าย ซึ่งแต่ละประเทศที่ทะลุผ่านเข้ารอบนี้มานั้นล้วนเป็นสายแข็งของปีนี้ทั้งนั้นอย่างทวีปอเมริกา ได้แก่ อาร์เจนตินา บราซิล เปอร์โตริโก อเมริกา มาร์ตินีกเป็น แอฟริกาได้แก่ แคเมอรูน เอธิโอเปีย นามิเบีย ไนจีเรีย และ ตูนิเซีย ต่อมายุโรปได้แก่ ไอซ์แลนด์ อิตาลี โปแลนด์ ยูเครน และ เวลล์ สุดท้ายเป็นทวีปเอเชียได้แก่ ออสเตรเลีย อินเดีย เลบานอน ฟิลิปปินส์ และประเทศไทย เรียกว่าทำกองเชียใจหายใจคว่ำมากๆ จากนั้นประกาศรอบ 8 คนสุดท้ายต่อเลย ได้แก่ บราซิล มาร์ตินีก เอธิโอเปีย นามิเบีย โปแลนด์ ยูเครน ฟิลิปปินส์ และ ประเทศไทย จากนั้นจะเป็นรอบสุดหินที่สาวงามทั้ง 8 คนจะต้องมาวัดกันที่คำถามที่ว่า คุณคิดว่าคุณควรได้เป็นมิสเวิลด์ ตัวแทนจากเอเชียและโอเชียเนียหรือไม่?

ซึ่งคำตอบของโอปอลคือ “สำหรับคำถามนี้ โอปอลมองว่ามันเหมือนกับการดูแลสวนดอกไม้ค่ะ ใคร ๆ ก็สามารถรดน้ำต้นไม้ได้ แต่ถ้าจะทำให้สวนงดงามและยั่งยืนจริง ๆ ต้องมีใครสักคนที่อยู่ดูแลมันอย่างต่อเนื่อง และสิ่งนี้ก็เหมือนกับบทบาทของ Miss Asia & Oceania ไม่ใช่แค่การแนะนำตัวเองพร้อมตำแหน่งที่ได้รับ แต่คือการทำให้ผู้คนรู้สึกได้ว่า โอปอลอยู่ตรงนี้เพื่อพวกเขา ยืนหยัดเคียงข้างพวกเขาจริง ๆ ผ่านโครงการ Beauty with a Purpose โอปอลได้เรียนรู้ว่า การใช้ชีวิตอย่างมีคุณค่าคือการมอบชีวิตและความฝันกลับคืนให้กับผู้ที่เคยสูญเสียมันไป และนั่นคือเหตุผลที่โอปอลยืนอยู่ตรงนี้ในวันนี้ เพื่อเป็นแสงแห่งความหวัง เป็นพลังแห่งความเข้มแข็ง และเพื่อทิ้งไว้ซึ่งร่องรอยของความหมายจนถึงลมหายใจสุดท้าย ของชีวิต”

สำหรับผลผู้ชนะ 4 คนสุดท้ายของแต่ละทวีปได้แก่ มาร์ตินีก ผู้ชนะจากอเมริกา และแคริบเบียน เอธิโอเปีย ผู้ชนะจากทวีป แอฟริกา โปแลนด์ ผู้ชนะจากทวีป ยุโรป และที่ทำคนไทยทั้งประเทศเกือบหยุดหายใจก็คือทวีปสุดท้ายเอเชีย ซึ่ง “โอปอล” จากประเทศไทยสามารถผ่านด่านหินมาได้สำเร็จ จากนั้นทั้ง 4 คนต้องมาวัดกันที่คำถามสุดท้ายซึ่งโอปอลได้คำถามที่ว่า “การเดินทางครั้งนี้สอนคุณอย่างไรเกี่ยวกับความจริง และความรับผิดชอบส่วนบุคคลในการกำหนดเรื่องราวที่ถูกเล่าขาน?”

โดยโอปอลตอบว่า “ขอบคุณมากสำหรับคำถามนี้ค่ะ และการได้มายืนอยู่ตรงนี้ ถือเป็นโอกาสที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตของโอปอลเลยค่ะสิ่งหนึ่งที่โอปอลได้เรียนรู้จากการอยู่บนเวที Miss World คือ ความรับผิดชอบต่อการที่ความจริงจะถูกถ่ายทอดออกไปอย่างไร และสิ่งที่สำคัญที่สุดที่โอปอล รวมถึงผู้เข้าประกวดทุกคน รวมถึงทุกคนในห้องนี้สามารถทำได้ ก็คือ การเป็นบุคคลต้นแบบที่คนรอบตัวสามารถยึดถือเป็นแบบอย่างได้โอปอลเชื่อมาเสมอว่า ไม่ว่าเราจะเป็นใคร จะอายุเท่าไหร่ หรือจะมีบทบาทหรือหน้าที่ใดในชีวิต ยังไงก็ต้องมีใครสักคนหนึ่งที่มองขึ้นมาหาเรา อาจเป็นเด็กเล็ก คนรอบตัว หรือแม้แต่พ่อแม่ของเราเองและวิธีที่ดีที่สุดในการนำทางคนเหล่านั้น ก็คือ การเป็นผู้นำผ่านความอ่อนโยนและการกระทำของเราเองเพราะการกระทำของเรานั้น เสียงดังกว่าคำพูดเสมอ นั่นคือสิ่งที่ดีที่สุดที่เราสามารถมอบให้กับคนรอบข้าง และกับโลกใบนี้ขอบคุณมากค่ะ ขอให้ทุกคนโชคดี และอย่าลืมว่า จงมั่นคง และใช้การกระทำเป็นเสียงที่ดังกว่าคำพูด”

และนี่คือคำตอบที่พิชิตใจกรรมการ และทำให้ “โอปอล-สุชาตา ช่วงศรี” คว้ามงกุฎมิสเวิลด์ครั้งที่ 72 สร้างประวัติศาสตร์มงฟ้ามงแรกให้คนไทยได้สำเร็จ สำหรับตัวแทนสาวไทย “โอปอล-สุชาตา ช่วงศรี” ถือว่าได้ทำหน้าที่อย่างสมบูรณ์แบบในการประกวดครั้งนี้อย่างที่สุดแล้ว กับตำแหน่งชนะเลิศมิสเวิลด์ครั้งที่ 72 รวมถึงการชนะเลิศ Miss World Multi-Media ทวีปเอเชีย-โอเชียเนีย และอันดับ 2 Miss World Head2Head Challenge ทวีปเอเชีย-โอเชียเนีย พร้อมคะแนนโหวตจากมหาชนทั่วโลกกว่า 2 ล้านโหวตบนแอปพลิเคชั่น มิสเวิลด์ ฯลฯ และเต็มที่ในทุกกิจกรรม ที่สำคัญที่สุด “โอปอล” ยังได้นำโครงการ “Opal for Her” ที่รณรงค์การตระหนักรู้และรับมือกับมะเร็งเต้านมให้คนทั่วโลกได้รับรู้ แสดงให้เห็นถึงศักยภาพที่เต็มไปด้วยคุณภาพของโอปอล ที่สร้างความภาคภูมิใจให้คนไทยเป็นอย่างยิ่ง
เป็นงูสวัด อาจทรมานทั้งชีวิต? เชื้อเงียบหลบในตัวนาน 50 ปี
รายการ Tuck Talk สัปดาห์นี้ พบกับเรื่องราวของภัยเงียบ “งูสวัด” ไม่ใช่แค่โรคคนแก่! แต่คือภัยที่อาจทำให้ผู้ติดเชื้องูสวัดทรมาน และเจ็บนานไปทั้งชีวิต เชื้อแฝงอยู่ในร่างกายได้นานกว่า 50 ปี ภูมิตกเมื่อไหร่อาการออกทันที ตาบอด อัมพาต และอาจส่งผลต่อสมอง ทำให้ใช้ชีวิตยากขึ้น! รู้ทันงูสวัดก่อนชีวิตพังกับ “หมอตี๋ โกเมศ” แพทย์ผู้เชี่ยวชาญสาขาเวชศาสตร์ป้องกัน ดูแลคนไข้โรคผิวหนัง

ภูมิคุ้มกันมันตกและเสื่อมไปตามวัยจริงไหมคะ ?
หมอตี๋ : จริงครับ ยิ่งอายุมากขึ้น ภูมิคุ้มกันยิ่งอ่อนแอลงร่างกายป้องกันเชื้อโรคได้น้อยลง เสี่ยงติดเชื้อง่ายขึ้นไม่ว่าจะเป็นไข้หวัดใหญ่ โรคติดเชื้อ หรือแม้แต่มะเร็ง เพราะฉะนั้นผู้สูงอายุควรฉีดวัคซีน เพื่อเสริมภูมิต้านทานเป็นเหมือนการเติมอาวุธให้ร่างกาย เช่น ไข้หวัดใหญ่ก็ควรต้องฉีดทุกปี วัคซีนคอตีบฉีดทุก 10 ปี อายุมากกว่า65 ปีก็ควรฉีดวัคซีนปอดอักเสบ ยังไม่รวมถึงวัคซีนทางเลือก เช่น งูสวัด ซึ่งก็ควรจะต้องฉีดเมื่ออายุ 50 ปีขึ้นไปก็สามารถที่จะฉีดได้ เพราะว่าเวลาเราอายุ 50 ปีขึ้นไปป่วยเป็นโรคงูสวัดค่อนข้างรุนแรง แล้วก็ภาวะแทรกซ้อนค่อนข้างสูง

โรคอิสุกอิใสกับงูสวัด คล้ายกันหรือแตกต่างกันยังไง ?
หมอตี๋ : อิสุกอิใสกับงูสวัดเป็นคนละโรคกัน แต่เป็นเชื้อเดียวกัน คือ เชื้อ VZV (Varicella Zoster Virus) จินตนาการว่าเมื่อเราได้รับเชื้อ VZV เป็นครั้งแรกซึ่งส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นตอนเด็ก อิสุกอิใสมีลักษณะเป็นเป็นตุ่มน้ำ มีผื่นที่จำเพาะ คือ เห็นผื่นทุกระยะในเวลาเดียวกัน ตั้งแต่ผื่นราบ, ผื่นนูนแดง, เป็นตุ่มน้ำ, ไปจนถึงแตกเป็นแผล ผื่นมักจะขึ้นเด่นที่ลำตัว ใบหน้า แล้วกระจายไปแขนขา มีการแพร่กระจายได้สูงมาก เพียงแค่อยู่ห้องเดียวกันหายใจผ่านละอองฝอยก็ติดกันได้หมด

อิสุกอิใสมันเป็นทุกคนไหม ?
หมอตี๋ : เกือบทุกคนมีโอกาสเป็นครับ เพราะเชื้อไวรัสอีสุกอีใสแพร่กระจายได้ง่ายมาก แค่อยู่ในห้องเดียวกัน หายใจร่วมหรือรับละอองฝอยจากคนที่ติดเชื้อก็สามารถแพร่ต่อกันได้แล้ว ที่น่ากลัวคือเชื้อสามารถแพร่ได้ตั้งแต่ 48 ชั่วโมงก่อนผื่นจะขึ้นช่วงที่เรามีแค่ไข้ต่ำ ๆ ยังไม่รู้ตัวว่าเป็นอะไรก็สามารถแพร่เชื้อให้คนอื่นได้แล้ว หลังจากอาการอีสุกอีใสหายภายใน 1–2 สัปดาห์ ไวรัสไม่ได้หายไปจากร่างกาย แต่จะแอบไปซ่อนอยู่ในปมประสาท ซึ่งเกี่ยวข้องกับการรับความรู้สึกตามร่างกาย และสามารถซ่อนตัวอยู่ได้นานถึง10, 20, 30 ปี หรือแม้แต่ 50 ปี โดยไม่มีอาการอะไรเลย เมื่อร่างกายอ่อนแอ ภูมิคุ้มกันตกไวรัสจะแสดงอาการอีกครั้งในรูปแบบใหม่ คือ “งูสวัด” แต่เป็นตุ่มน้ำแบบเรียงเป็นเส้นตามแนวปมประสาท ซึ่งต่างจากอีสุกอีใสที่ขึ้นทั่วร่าง และที่สำคัญคนที่จะเป็นงูสวัดได้ ต้องเคยติดเชื้ออีสุกอีใสมาก่อน เพราะงูสวัดคือการกลับมาของเชื้อตัวเดิม ไม่ใช่การติดเชื้อใหม่

งูสวัดกับอิสุกอิใสหน้าตาเหมือนกันไหม ?
หมอตี๋ : ไม่เหมือน งูสวัดเป็นตุ่มน้ำและอยู่เป็นกลุ่มเรียงเป็นเส้น ตามแนวปมประสาท ขึ้นเฉพาะจุด เช่น ศีรษะ ลำตัว แขน ขา หน้า และมักเป็นแค่ข้างเดียว (ซ้ายหรือขวา) ส่วนใหญ่เป็นข้างเดียวยกเว้นว่าภูมิคุ้มกันแย่จริง ๆ จะมีโอกาสที่จะขึ้นทั้ง 2 ข้าง หลายคนเริ่มจากปวดก่อน โดยไม่เห็นผื่น บางคนคิดว่าแค่ปวดเมื่อยธรรมดา แล้วอีก 1–2 วันตุ่มน้ำถึงจะขึ้น อิสุกอิใสเป็นจะมีตุ่มน้ำขึ้นกระจายทั่วตัวภายใน 1–2 วัน แตกเร็วและเป็น ทั้งตัว

ทำไมเราถึงต้องรีบสังเกต ?
หมอตี๋ : เพราะถ้ารีบไปหาหมอ ภายใน 72 ชั่วโมงแรก (3 วันหลังจากตุ่มขึ้น) แล้วได้รับยาต้านไวรัส จะสามารถช่วยได้มาก เช่น ลดปริมาณเชื้อ ลดความรุนแรงของโรค ลดโอกาสเกิดแผลพุพองหรือภาวะแทรกซ้อน แต่ในชีวิตจริง คนส่วนใหญ่มักไปหาหมอช้า โดยเฉพาะผู้สูงอายุ เพราะทนเก่งหรือไม่อยากรบกวนลูกหลาน บางคนกว่าจะไปถึงมือหมอ ตุ่มพองเต็มตัวแล้ว เจ็บแสบและทรมานมาก

ถ้าขึ้นแค่ตุ่มเดียวไม่เป็นกลุ่ม ไม่เป็นแนวใช่งูสวัดไหม?
หมอตี๋ : มันจะคล้ายกับเริมมากกว่า เพราะงูสวัดจะขึ้นเรียงเป็นเส้นตามแนวเส้นประสาท และเริมจะขึ้นเป็นตุ่มน้ำใสเป็นหย่อมไม่เรียงเป็นเส้น ซึ่สามารถขึ้นได้ทุกที่แต่ที่เจอบ่อยคือ ริมฝีปากและอวัยวะเพศ (ส่วนใหญ่ติดจากการมีเพศสัมพันธ์) ผู้ที่เสี่ยงเป็นเริมคือคนที่นอนหลับไม่เพียงพอ หรือ ทำงานเป็นกะ

จริงไหมที่เขาว่าถ้าเป็นงูสวัดแล้วตุ่มพันรอบตัวจะตาย ?
หมอตี๋ : ปกติงูสวัดจะขึ้นแค่ข้างเดียว ไม่พันรอบตัว แต่ถ้าพันหรือกระจายทั้งตัวจะเจอในคนที่ภูมิคุ้มกันแย่มาก เช่น เป็นมะเร็ง ให้ยาคีโมฉายแสง หรือกินยากดภูมิ บางคนที่ภูมิคุ้มกันแย่มาก ๆ จะขึ้นทั้ง 2 ข้างได้ แต่จะไม่เกิดขึ้นบ่อยมันเลยจะดูคล้ายพันรอบตัว หรืออีกกลุ่มก็คือกระจายทั้งตัวเรียกว่าเป็นงูสวัดแบบรุนแรง ชนิดแพร่กระจาย โรครุนแรงได้จริง และเสี่ยงติดเชื้อแทรกซ้อนจนถึงขั้นเสียชีวิต

เวลาเสียชีวิตจากงูสวัดหมอเขาวินิจฉัยว่าอะไร ?
หมอตี๋ : ส่วนใหญ่จะมีภาวะแทรกซ้อน มีภาวะติดเชื้อกระแสเลือด หรือภาวะอื่น ๆ ที่ตามมาค่อนข้างเยอะ

งูสวัดขึ้นหน้าอันตรายแค่ไหน ?
หมอตี๋ : งูสวัดที่ขึ้นบนใบหน้าต้องระวังมาก เพราะว่าคือพื้นที่มันน้อยครับแล้วก็มันใกล้กับอวัยวะสำคัญหลายอย่าง เช่น ถ้าขึ้นหน้าผากกับปลายจมูกเสี่ยงเข้าตาอาจตาบอดได้ ถ้าขึ้นใกล้หูอาจโดนเส้นประสาทใบหน้าทำให้หน้าเบี้ยวสามารถอัมพาตครึ่งซีกได้ หลับตาไม่สนิท ถ้าขึ้นคางเคยมีรายงานว่าฟันโยกฟันหลุด โดยเฉพาะคนที่เป็นเบาหวานหรือภูมิคุ้มกันต่ำจะเกิดภาวะแทรกซ้อนแผลก็หายช้า เกิดการติดเชื้อซ้ำซ้อน

งูสวัดทำให้สมองเสื่อมได้จริงไหม ?
หมอตี๋ : โดยทั่วไปไม่ถึงขั้นสมองเสื่อมโดยตรง แต่ถ้าเป็นงูสวัดโดยเฉพาะขึ้นที่บริเวณใบหน้ามีอวัยวะสำคัญค่อนข้างเยอะ จึงมีความกังวลหลายอย่างและแนะนำให้รีบไปโรงพยาบาลทันทีไม่ต้องรอ

คนกลุ่มไหนที่มีโอกาสที่จะเสี่ยงเป็นงูสวัดง่ายกว่าคนทั่วไป ?
หมอตี๋ : ต่อให้ไม่ได้ป่วยเป็นโรคไหนเลยแค่เรามีอายุมากขึ้นความเสี่ยงก็สูงขึ้นแล้ว เนื่องจากภูมิคุ้มกันไม่แข็งแรงเท่าเดิมคนที่อายุ 50 ปีขึ้นไปเสี่ยงมากที่สุด เพราะภูมิคุ้มกันเริ่มอ่อนแอลงตามวัย โดยเฉพาะถ้ามีโรคประจำตัว เช่น โรคเบาหวาน โรคไตเรื้อรัง โรคปอดเรื้อรัง ผู้ป่วยมะเร็งหรือเป็น HIV ยิ่งเสี่ยงเพิ่มอีก 30–40% และมีโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อนสูง ส่วนคนวัยทำงานที่เครียด พักผ่อนน้อย หรือทำงานเป็นกะก็เสี่ยงเช่นกัน เพราะภูมิคุ้มกันลดไว ทำให้ไวรัสที่ซ่อนอยู่ในร่างกายกำเริบขึ้นมาได้ทุกเมื่อ

ภาวะแทรกซ้อนที่เกิดจากงูสวัดมีอะไรบ้าง ร้ายแรงแค่ไหน ?
หมอตี๋ : ภาวะแทรกซ้อนจากงูสวัดที่เจอบ่อยคือ การติดเชื้อแบคทีเรียที่แผล โดยเฉพาะถ้าแผลเปิดแล้วไม่สะอาด เช่น มีคนไปเป่าหรือพ่นน้ำลายใส่ อาจลุกลามจนถึงขั้นติดเชื้อในกระแสเลือดได้ ส่วนที่อันตรายอีกอย่างคือ ถ้างูสวัดขึ้นใกล้ตาอาจทำให้ตาบอดได้ หรือถ้าโดนเส้นประสาทสำคัญอาจปวดเรื้อรังแม้จะหายแล้ว เช่น ปวดแสบปวดร้อน ปวดเหมือนเข็มทิ่มอยู่ตลอดเวลา บางรายปวดนานหลายเดือนถึงเป็นปี โดยเฉพาะในผู้สูงอายุ อาการปวดเรื้อรังหลังหายพบได้ถึง 50–60% ส่งผลต่อคุณภาพชีวิตอย่างมาก แม้ผื่นหายแล้วแต่ความเจ็บปวดยังอยู่

บางคนเขาว่าเป็นแล้วเจ็บมาก ทรมานมาก แสบร้อนจนนอนไม่ได้ จริงไหม ?
หมอตี๋ : จริงครับ ธรรมชาติแล้วงูสวัดก็จะมีอาการปวดแสบปวดร้อนเกิดขึ้น แต่ความรุนแรงของอาการขึ้นอยู่กับแต่ละคน โดยบางคนเจ็บมากจนนอนไม่ได้ บางรายเป็นแค่ตุ่มน้ำไม่ปวดเลยก็มี แต่บางรายแค่เป็นนิดเดียวก็แสบมาก ซึ่งขึ้นกับความไวของเส้นประสาทและภูมิคุ้มกันของแต่ละคน ถ้ารักษาทันใน 1–2 สัปดาห์ อาการปวดมักหายไปพร้อมผื่น ยกเว้นในคนที่อายุเยอะหรือมีโรคร่วม อาจมีอาการปวดค้างอยู่ร่วมด้วยแม้ผื่นจะหายแล้ว ซึ่งเป็นปัญหาใหญ่ได้ในระยะยาว

เจอเคสอายุเยอะสุดเท่าไหร่ ?
หมอตี๋ : เคยเจอคนอายุ 80–90 ปีก็ยังเป็นงูสวัดได้ เพราะโรคนี้ไม่มีข้อจำกัดเรื่องอายุ ยิ่งอายุมาก ความเสี่ยงยิ่งสูง และยิ่งดูแลยากขึ้น ต้องคำนึงถึงโรคประจำตัว ยาที่กินอยู่ รวมถึงตับและไตด้วย แต่โชคดีที่ยารักษาเบิกได้ทุกสิทธิ์ และมีในแทบทุกโรงพยาบาล หมอเลยแนะนำว่า ถ้าเริ่มเป็นให้รีบไปโรงพยาบาลทันที ไม่ต้องรอ

ถ้าเป็นงูสวัด ต้องนอนโรงพยาบาลไหม หรือแค่กินยาที่บ้านก็พอ ?
หมอตี๋ : ส่วนใหญ่ถ้าไม่ได้เป็นรุนแรงจะสามารถรักษาแบบกินยาที่บ้านได้เลยไม่ต้องนอนโรงพยาบาล โดยยาหลัก ๆ คือ ยาต้านไวรัสที่ต้องกิน วันละ 5 เวลา ตามเวลาเป๊ะ ๆ (6 โมง, 10 โมง, บ่าย 2, 6 โมงเย็น, 4 ทุ่ม) ต่อเนื่องกัน 7 วัน ยาฆ่าเชื้อ และ ยาปฏิชีวนะถ้าเกิดว่ามีความเสี่ยงติดเชื้อแทรกซ้อน ยาแก้ปวด หรือ ยาลดการอักเสบของปลายประสาท เพื่อบรรเทาอาการปวดแสบปวดร้อน แนะนำให้พักผ่อนให้เพียงพอ ดื่มน้ำเยอะ ๆ และถ้าทำได้ควรลางานเพื่อให้ร่างกายฟื้นตัว ได้เร็ว

เคสที่รุนแรงขนาดไหน ?
หมอตี๋ : มี 2 เคส คือ งูสวัดกระจายทั้งตัว โดยปกติงูสวัดจะขึ้นเป็นเส้น ๆ ข้างเดียว แต่เคสนี้กระจายทั่วตัวเลยทั้งหน้า ทั้งลำตัว เกิดขึ้นจากคนไข้มีภูมิคุ้มกันต่ำมาก เช่น กินยากดภูมิ หรือมีโรคประจำต้องแอดมิตนอนโรงพยาบาล และ ให้ยาทางเส้นเลือด อีกเคสคือผู้สูงอายุอายุ 70 ปี งูสวัดขึ้นข้างเดียวแต่เส้นใหญ่มากและลามครึ่งตัว คนไข้มาช้าเพราะเกรงใจลูกหลาน คิดว่าเดี๋ยวคงหายสุดท้ายตุ่มพุพองมาก ปวดเยอะ และลำบากในการ ดูแล

ถ้าคนที่บ้านเป็นงูสวัด คนรอบข้างต้องกลัวไหม เหมือนเวลาอยู่ใกล้คนเป็นอีสุกอีใสหรือไม่ ?
หมอตี๋ : ไม่ต้องระวังเท่าอีสุกอีใสแต่ต้องระวังเป็นพิเศษในบางคน เช่น เด็กเล็ก คนท้อง คนที่ไม่เคยเป็นอีสุกอีใสมาก่อน เพราะงูสวัดกับอีสุกอีใสเกิดจากไวรัสตัวเดียวกัน (VZV) ถ้าเราไม่เคยเป็นอีสุกอีใสมาก่อนแล้วไปสัมผัส ตุ่มน้ำของคนที่เป็นงูสวัด โดยตรง (โดยเฉพาะตอนตุ่มแตก) เราอาจจะ ติดเชื้อและเป็น อีสุกอีใสได้ ถ้าไม่ได้จับตุ่มน้ำโดยตรง ไม่ได้อยู่ใกล้จนแนบชิดมาก ก็ ไม่ค่อยมีโอกาสติด

คนท้องเป็นงูสวัดได้ไหม ?
หมอตี๋ : คนท้องก็สามารถเป็นงูสวัดได้ โดยเฉพาะคนที่ไม่เคยเป็นอีสุกอีใสมาก่อนหรือคนที่ไม่มีภูมิคุ้มกันต่อไวรัส VZV ถ้าคนท้องติดเชื้อนี้ครั้งแรก จะเป็นอีสุกอีใสไม่ใช่งูสวัด มีความเสี่ยงต่อทารกในครรภ์มีโอกาสเกิด ภาวะแทรกซ้อนรุนแรง เช่น คลอดก่อนกำหนด ลูกตัวเล็ก ติดเชื้อในมดลูก ที่ร้ายแรงที่สุดทารกอาจเสียชีวิตในครรภ์ ถ้ามีคนในบ้านเป็นงูสวัด คนท้องควรหลีกเลี่ยงการอยู่ใกล้ ห้ามสัมผัสแผลหรือตุ่มน้ำเด็ดขาดและควรแยกเสื้อผ้า ของใช้ และควรอยู่ห่าง กัน

อีสุกอีใสเป็นได้ทุกวัยไหม หรือเป็นแค่ตอนเด็ก ๆ ?
หมอตี๋ : อิสุกอิใสส่วนใหญ่ที่เรารู้ก็คือมันเป็นตั้งแต่เด็ก ซึ่งอาจจะมี 3 กรณี คือ เป็นมาตั้งนานแล้วแต่จำไม่ได้ เป็นแบบเบามากจนไม่รู้ตัวว่าเคยเป็น ไม่เคยเป็นเลยจริงๆ ถ้าไม่เคยเป็นตอนเด็ก แล้วไปเป็นตอนโต จะมีอาการรุนแรงกว่า เช่น ไข้สูง ตุ่มน้ำแตกเยอะ และแผลขึ้นง่าย โดยเฉพาะถ้าเป็นที่หน้าจะทำให้เป็นแผลและรอยน่ากลัว

งูสวัดมีวิธีป้องกันยังไง ป้องกันได้ไหม ?
หมอตี๋ : ป้องกันได้ โรคงูสวัดเนี่ยเป็นโรคที่คาดการณ์ไม่ได้มันพร้อมที่จะเห่อขึ้นได้ทุกเมื่อ ขึ้นกับภูมิคุ้มกันที่มีดังนั้นการดูแลสุขภาพไม่ว่าจะเป็นการดื่มน้ำ พักผ่อนให้เพียพอ กินอาหารให้ครบ5หมู่ และการฉีดวัคซีนโปรตีนเฉพาะของไวรัสฉีดได้ในอายุ 50 ปีขึ้นไป ประสิทธิภาพค่อนข้างดีจากงานวิจัยสามารถที่จะป้องกันตัวงูสวัดได้ถึง 97 % แล้วก็ป้องกันเรื่องอาการปวดได้ 91%

ฉีดวัคซีนงูสวัดต้องเตรียมตัวยังไง ?
หมอตี๋ : ไม่ต้องเตรียมตัวอะไรมาก เหมือนวัคซีนทั่วไป อาจจะมีปวดเล็กน้อยมีไข้ต่ำ ๆ ฉีดทั้งหมด 2 เข็ม เข็มที่ 2 ห่างจากเข็มแรก 2 – 6 เดือน เมื่อฉีดครบแล้วไม่จำเป็นต้องไปฉีดซ้ำทุกปี จากการวินิจฉัยพบว่าภูมิคุ้มกันอยู่ได้นานกว่า 10 ปี
“หนูนา หนึ่งธิดา" ทำถึง! เสริฟ์ลุคแซ่บ นุ่งชุดวันพีชทำทะเลมัลดีฟส์ร้อนระอุ
เรียกว่าทริปเที่ยวทะเลมัลดีฟส์ของนักร้องสาว "หนูนา หนึ่งธิดา" ทำเอาแฟนๆ ฮือฮาร้องโอ้โหกันเลยทีเดียว หลังจากเจ้าตัวได้เสิร์ฟภาพความแซ่บมาพร้อมท่าโพสแซ่บแบบเต็มพิกัด

ด้วยชุดว่ายน้ำลุควันพีซสีแดง-ขาวสุดเซ็กซี่โชว์หุ่นเป๊ะปังโชว์อกอึ๋มส่งท้ายซัมเมอร์แบบจัดเต็มถึงใจทำทะเลมัลดีฟส์แทบจะลุกเป็นไฟ

Cr. ig : @ noona_nuengtida #หนูนาหนึ่งธิดา #ข่าวบันเทิง #สยามดารา
กวาดเรียบ! ฟรีน-เบคกี้ ยืนหนึ่งความฮอต KAZZ AWARDS 2025 บ้านไอดอลแฟคทอรี่ ท๊อปฟอร์ม
จุดพลุฉลองความสำเร็จอย่างต่อเนื่อง สำหรับค่ายซีรีส์มากคุณภาพ ไอดอลแฟคทอรี่ (IDOL FACTORY) ผลงานครองความยอดนิยมด้านคอนเทนต์คุณภาพจากแฟนๆทั่วโลก ยังคงเดินหน้าคว้ารางวัลหลากหลายสถาบัน ล่าสุดตบเท้าศิลปินในสังกัดคว้ารางวัลที่สุดแห่งปีสูงสุดถึง 6 รางวัล ในงานประกาศรางวัลสุดยิ่งใหญ่ “Kazz Awards 2025" และฉลองครบรอบ 19 ปีจัดโดย นิตยสาร Kazz Magazine นิตยสารไลฟ์สไตล์และแฟชั่นชั้นนำของคนรุ่นใหม่ จัดมอบรางวัลให้กับศิลปิน นักแสดง เพื่อเป็นการเชิดชูเกียรติและเป็นกำลังใจให้เหล่าคนบันเทิง

ไฮไลท์ช่วงที่รอคอยกับการประกาศรางวัลให้กับคนบันเทิงที่ทรงอิทธิพลในโลกโซเชียล และปีนี้ "ฟรีน-สโรชา จันทร์กิมฮะ" และ "เบคกี้-รีเบคก้า แพทรีเซีย อาร์มสตรอง" นักแสดงสังกัด Idol Factory ควงคู่คว้ารางวัลพิเศษเพียบ ร่วมไปถึงหนุ่มน้อยหน้าใส “เบ้บ ธนทัต พรรณวิริยะกุล” ซิวรางวัล หนุ่มวัยใสโดนใจแห่งปี 2024 ไปครอง งานนี้ทีมนักแสดงในสังกัดยังแท็คทีมร่วมเดินพรมแดงกันอย่างพร้อมเพียง นำทีมโดย "ฟรีน-สโรชา" และ "เบคกี้-รีเบคก้า" ร่วมด้วย "ภูม-ณัฐภาสน์" และ "เซ้นต์-ศุภพงษ์" ร่วมถึง “บิลลี่ ภัทรชนน” และ “เบ้บ ธนทัต” และคู่GLเคมีปัง "เฟ กัญญาพัชร" และ "เมษ์ ญดา" พร้อมโชว์สุดพิเศษที่ตั้งใจมอบความสุขให้กับแฟนๆในงาน จัดเต็มไปด้วยมวลพลังงานแห่งความสุขชุดใหญ่ไฟกะพริบ

สรุปรางวัลแห่งความสำเร็จ Idol Factory ได้แก่
1. หนุ่มวัยใสโดนใจแห่งปี 2024
-ธนทัต พรรณวิริยะกุล
2.รางวัล Series Of The Year -The Loyal Pin ปิ่นภักดิ์
3.รางวัล วัยรุ่นหญิงยอดนิยมแห่งปี Popular Female Teenage Award -สโรชา จันทร์กิมฮะ
4.รางวัล นักแสดงหญิงยอดเยี่ยม The Best Actress Of The Year -รีเบคก้า แพทรีเชีย อาร์มสตรอง
5.รางวัล Superstar Award -สโรชา จันทร์กิมฮะ
6.รางวัล Couple Of The Year สโรชา จันทร์กิมฮะ - รีเบคก้า แพทรีเชีย อาร์มสตรอง

#KAZZAWARDS2025 #KazzAwards2025xFreenBecky #idolfactoryTH
สรุปดราม่า ”บอสณวัฒน์“ สับเละ “ราเชล” สู่การโชว์มงกุฏมิสแกรนด์อินเตอร์ฯ 2024 ของจริง
วงการนางงามยังคงร้อนฉ่าไม่แผ่วหลังจากวันที่ 28 พ.ค 68 เพจ Miss Grand International โพสต์ประกาศปลด ราเชล คุปตะ (Rachel Gupta) นางงามสาวชาวอินเดีย ออกจากตำแหน่ง มิสแกรนด์อินเตอร์เนชั่นแนล 2024 และต้องคืนมงกุฎภายใน 30 วัน นับจากวันที่ประกาศ จากนั้น ราเชล คุปตะ ก็ได้โพสต์ไอจีชี้แจงว่าตัดสินใจลาออกจากตำแหน่งมิสแกรนด์อินเตอร์เนชั่นแนล 2024 หลังจากเผชิญกับการผิดสัญญา ถูกปฏิบัติอย่างไม่ดี สภาพแวดล้อมที่เป็นพิษ จนไม่สามารถทนอยู่เงียบๆ ได้อีกต่อไปและบอกว่าความจริงจะปรากฏเร็วๆ นี้ *** ด้าน ณวัฒน์ บิ๊กบอสเวทีมิสแกรนด์ฯ ไม่ทนออกมาเผยพฤติกรรมสุดเอือมของราเชล ต่างๆ อาทิ เรเชลแอบรับงานนอก โดยที่กองไม่รู้ อ้างว่าเป็นงานกุศล

-แอบดีลสปอน MGI เอง โทรไปหา รพ.ที่เกาหลี ขอให้แม่และน้องสาวไปทำหน้าฟรี โดยไม่ขออนุญาตกอง

-เรเชลไม่ต้องการอยู่ห้องที่ Headquarter ต้องการอยู่เพนท์เฮาส์ของบอสณวัฒน์เท่านั้น

-อ้างว่าเงินหาย 1,000 เหรียญในที่พัก แล้วบีบให้กองเอาเงินมาคืน โทษทุกคนโทษแม่บ้านว่าขโมยเงินของเธอทางกอง ได้ดูกล้องวงจรปิดแล้ว ยืนยันกลับไปว่า ไม่มีใครเอาเงินเธอไป

-เรเชลรีบบินกลับอินเดีย โดยบังคับทางกองให้เอาเงิน 1,000 เหรียญไปให้เธอตอนนั้น เรเชลชอบเบิกเงินกอง พวกค่ารถ ค่ากาแฟ ค่าไปขอวีซ่า โดยที่ไม่เคยมีใบเสร็จกลับมา และเนียนเขียนเกินจริง

-ND Miss Grand India ปลอมสลิปการโอนเงินค่าลิขสิทธิ์ทั้ง MU และ MGI

-แอบไปเสริมหน้าอก โดยที่ไม่บอกทางกอง จนต้องแคนเซิลงาน พอไปถามบอกว่าแค่กินโปรตีน

-กองให้บิน Business Class ทุกครั้ง แต่เรเชลไม่เข้าเลาจ์ของสายการบิน ชอบไปเข้าเลาจ์อื่น แล้วมาเบิกเงินกองเพิ่มโดยที่ไม่มีใบเสร็จเ ช่นเคย

-เอามงกุฏไปใช้ไม่ดูแลมงกุฏ ถือกล่องมงเองไม่เป็น ขึ้นเครื่องบินก็เอามงไปโหลดใต้ท้องเครื่อง ซึ่งไม่เคยมีควีน MGI ใครไหนเคยทำ แบบนี้

***กระทั่งต่อมา “ราเชล” ออกมานั่งไลฟ์ร่ำไห้เปิดใจถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นว่า
-หลังจากได้ตำแหน่ง เธอเพิ่งทราบว่าในสัญญามีการแบ่งจ่ายรางวัล ซึ่งจะได้ครบก็ต่อเมื่อดำรงตำแหน่งจนครบวาระ ระว่างนั้นก็มีเงินเดือนให้นิดหน่อย แต่ทางองค์กรกลับไม่โอนเงินเดือนตามที่สัญญา เธอได้รับเงินเพียงเดือนแรกเท่านั้น หลังจากนั้นก็ไม่เคยได้รับเลย ที่น่าเศร้าคือเธอต้องขอเงินจากพ่อแม่ของเธอ

-ในช่วงไม่กี่เดือนมานี้ เป็นช่วงที่เลวร้ายที่สุดในชีวิต ต้องเผชิญทั้งความทรมานทางจิตใจ จากการถูกคุกคาม และได้รับการปฏิบัติที่ไม่เป็นธรรม เช่น การเดินมาบีบ จับร่างกายแล้วบอกให้ลดน้ำหนัก ถูกจำกัดให้อยู่ในพื้นที่ จะได้ออกไปข้างนอกก็ต่อเมื่อเธอถูกเรียกใช้งานเท่านั้น ไปจนถึงการไม่ได้รับเงินเดือนตามที่ระบุในสัญญา

-ปมเงินที่หายไป ราเชลเล่าว่าเธอออกไปทำงาน แต่พอกลับบ้านมาสภาพระเป๋าของเธอเหมือนถูกค้น และพบว่าเงินของเธอหายไป 1,000 USD เธอจึงส่งข้อความเพื่อขอความช่วยเหลือจากองค์กร ก็ไม่มีการช่วยเหลือใด ๆ แต่กลับถูกกล่าวหาว่ามันเป็นเพราะเธอไม่ล็อคกระเป๋า

-เธอผิดหวังกับวิสัยทัศน์ขององค์กรที่มุ่งแต่ “เรื่องเงิน” แทนที่จะเป็นการสร้างความตระหนักรู้ให้กับสังคม แต่กลับเน้นไปที่การไลฟ์ขายสินค้าบนติ๊กต็อก

-ช่วงเซ็นสัญญาเหมือนการถูกบีบบังคับ เธอพยายามเจรจาต่อรองเรื่องสัญญากับทางองค์กร อย่างน้อยที่สุดคือให้ทนายดูสัญญาฉบับนั้นให้ แต่กลับถูกปฏิเสธพร้อมกับคำพูดที่ว่า “ถ้าไม่อยากเซ็น ก็ไม่ต้องเซ็น กลับบ้านไป”

-หลังจากที่เธอได้ตำแหน่ง องค์กรจะดูแลเธออย่างดีนั่น “ไม่จริงเลย” เรื่องเดียวที่พวกเขาให้ความสนใจคือเงิน เท่านั้น

-ออกโรงเตือนผู้หญิงที่ต้องการเข้าร่วมประกวดว่า สิ่งที่เธอเล่ามาทั้งหมด เพื่อที่จะบอกว่าทางองค์กรไม่ได้ใส่ใจขนาดนั้น โปรดรับรู้และตระหนักไว้ว่าอาจจะต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยว และล่าสุดวันนี้ 29 พ.ค ทางด้าน บอสณวัฒน์ ยังได้ออกมาเปิดเผยความจริงอีกว่าตอนนี้มงกุฎ Miss Grand International 2024 ของจริงอยู่กับตนเองและมงกุฎจำลองอยู่กับราเชล เพราะก่อนหน้านี้มีเหตุการณ์แปลกๆ เกิดขึ้นจึงได้ให้ทางกองสลับของจริงกลับมา

#บอสณวัฒน์ #ราเชล #สยามดารา #MissGrandInternational2024
ลูกสาวมาแล้ว! "กวินท์" ยิ้มแก้มปริ "ปุ้มปุ้ย" ภรรยาคลอดลูกคนที่สอง ตั้งชื่อสุดคิวต์ "น้องวานิลลา สกาย"
เป็นคุณแม่ลูกสองแล้วสำหรับ“ปุ้มปุ้ย พรรณทิพา” ภรรยาสาวของนักร้องหนุ่ม “กวินท์ ดูวาล” ที่ล่าสุด 29 พ.ค 68 ได้คลอดลูกคนที่สองแล้ว ซึ่งตั้งชื่อลูกสาวว่าน้อง“วานิลลา สกาย“ (Vanilla sky duval) โดยมีคุณพ่อกวินท์และลูกชายคนโต น้องไซอัลบลู อยู่เคียงข้างให้กำลังใจให้คุณแม่ไม่ห่าง

และก่อนหน้านี้”ปุ้มปุ้ย“ได้เฉลยที่มาของชื่อลูกทั้ง2 ว่าลูกชายคือ “ไซอัลบลู สกาย ดูวาล“ คือ ฟ้าที่สดใส มีอิสระ ลูกสาวคือ วานิลลา สกาย คือฟ้าที่อบอุ่น นุ่มนวล ทั้งคู่มีชื่อกลาง Sky เหมือนกัน ฟ้าคนละเวลา แต่ก็เป็นฟ้าที่ปุ้ยกับกวินท์รักเสมอ”

#ปุ้มปุ้ย #สยามดารา #กวินท์
“อุ้ม ลักขณา” บอกชัดสาเหตุไม่เปิดหน้าแฟนคนล่าสุด เพราะเหตุผลนี้!?
เรียกว่าตั้งแต่เริ่มต้นความรักครั้งใหม่กับนักธุรกิจหนุ่ม นักแสดงสาวลูกหนึ่ง “อุ้ม ลักขณา” ก็ยิ่งทวีคูณความสวยและชีวิตดูแฮปปี้สุดๆแต่ก็ยังไม่เปิดหน้าแฟนหนุ่มให้เห็นชัดๆ สักทีจนทำให้หลายคนต่างต้องตั้งตารอกันว่าคือใคร กันแน่

ล่าสุด 28 พ.ค อุ้ม ลักขณา ก็ได้เล่นตอบคำถามกับแฟนๆ ในสตอรี่อินสตาแกรมของตัวเอง โดยอุ้มได้ตอบคำถามที่แฟนๆถามว่า "เมื่อไหร่ที่อุ้มจะเปิดตัวแฟนคะ อยากเห็นจังเลย ค่าา"

งานนี้สาวอุ้ม ตอบชัดเลยว่า "ไม่เคยปิดเลยนะคะ ใช้ชีวิตปกติเหมือนคนรักทั่วไปไม่มีลับลมคมใน พบเจออุ้มกับแฟนได้ทุกที่เข้ามาทักได้เลยเจอที่ไหนก็คือคนนี้เลย แต่พี่หวงแฟนค่ะ ไม่อยากออกสื่อ555 รักกันในโลกความจริง โซเชียลพักก่อน"
#อุ้มลักขณา #สยามดารา
ต่าย เพ็ญพักตร์ แฮปปี้ชีวิตโสด ถ้ามีแฟนแล้วไม่ช่วยอะไรก็อยู่คนเดียวได้!!
สาวสองพันปี ต่าย เพ็ญพักตร์ แชร์มุมมองชีวิตและประสบการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปในวัย 64 ในรายการ WOODY FM โดยเน้นย้ำถึงความสุขที่ได้จากการเป็นโสด ลั่น! ถ้ามีแฟนแล้วไม่ช่วยอะไรก็อยู่คนเดียวได้ และการทำงานในวงการบันเทิงที่เลือกรับงานที่ทำแล้วมีความสุข ปล่อยวางพลังงานลบจากการทำงาน

หลายคนคุ้นเคยกับพี่ต่าย เพ็ญพักตร์ จากละคร การแสดง แล้วก็นางแบบ ในวันนี้ช่วงซีวิตต่างๆ ตอนนี้ยังเป็น ศิริกุล อยู่ใช่ไหมครับ ?
ต่าย เพ็ญพักตร์ : ยังใช้ ศิริกุล นามสกุลเดิมอยู่ค่ะไม่ เปลี่ยน

ตอนนี้โสด เป็นยังไงบ้างชีวิตการที่ได้อย่คนเดียว ?
ต่าย เพ็ญพักตร์ : ดีมาก มีความสุข ถามว่าการมีความรักดีไหมดี มันก็จะทำให้เรามีพลังงานบางอย่าง มีความสุข แต่สำหรับพี่ผ่านช่วงนั้นมาหมดแล้ว เรารู้แล้วด้วยตัวเองว่าคงไม่สามารถมีใครที่อยู่ข้างๆ แล้ว ตอนนี้พลังที่ได้อยู่ตัวคนเดียว พี่ว่ามีความสุข ใช้ชีวิตแบบจะบอกว่าพอเพียงก็ไม่ได้ ก็ยังบ้าบอประเป๋าโน้นนี่อยู่ ใช้ชีวิตแบบที่เรารู้ว่าต้องการอะไรมากกว่า

รู้ตอนไหนว่าไม่ต้องการแล้ว ?
ต่าย เพ็ญพักตร์ : น่าจะรู้ตอนช่วงที่ประมาณอายุ 50 กว่า แล้วก็เป็นช่วงที่เรามีงานเยอะมาก ทำงานเยอะแต่เราไม่มีใครที่จะอยู่ข้างๆ ก็มีนะแต่ไม่สามารถพูดหรือปรึกษาอะไรได้ เรายังต้องนำอยู่ ถามว่าอย่างงี้สำหรับพี่ๆ ไม่ต้องการที่เราต้องนำเขา เขาต้องนำเราไหม แต่เขาไม่มีอะไรที่จะนำเราได้ ก็เลยคิดว่า เอาง่ายๆ รถพี่เสียถ้าเรามีแฟนอยู่ข้างๆ เราบอกว่า คุณรถฉันเสีย คุณเอารถไปทำหน่อย เขาบอกเอ้าเหรอ พี่บอกอืม! โอเคเอาไปทำเองก็ได้ แล้วพี่ก็ไปอู่เอง ไปซ่อมทั้งๆ ไม่รู้เรื่องอะไรเลย แล้วเหตุการณ์อย่างงี้ มันมีซ้ำๆ ก็เลยมีความรู้สึกว่า อยู่เองดีกว่า ฉันก็ทำได้ มันบ่อยขึ้นทำให้เรามีความรู้สึกว่าอยู่คนเดียว ได้

ความสัมพันธ์ล่าสุดก่อนที่จะหยุดคือกี่ปี ?
ต่าย เพ็ญพักตร์ : นาน ประมาณ 10 กว่าปีได้

ใน 10 กว่าปีที่มันสะสมเหรอหรือว่ายังไง ?
ต่าย เพ็ญพักตร์ : เขาเข้ามา เป็นมาอย่างที่เราชอบ โอเคก็เป็นแฟนอยู่กันไป แต่มันอยู่แบบอย่างงี้ อยู่แบบไม่มีอะไรที่จะเอื้อหรือช่วยอะไรเราได้ ก็เลยคิดว่าฉันอยู่คนเดียวก็ได้ เพราะฉันยังต้องช่วยเหลือตัวเองทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นงานไม่ว่าจะเป็นอะไรก็ตาม

ข้อดีของการอยู่คนเดียวที่ต้องจัดการทุกอย่างเองโดยที่ไม่ได้มี Supporter คืออะไร ?
ต่าย เพ็ญพักตร์ : การตัดสินใจไม่ว่าเราจะทำอะไร ตัดสินใจได้เลย โดยที่ไม่ต้องไปถามคนข้างๆ จะไปไหนเราไปได้เลย โดยที่ไม่ต้องตื่นเช้ามาแต่งตัวสวย หน้าตาสดใสเริงร่า วันนี้คุณจะกินอะไร ตกเย็นคุณจะกินอะไรมันจะเป็นอย่างงี้ตลอดเวลา แต่สำหรับพี่ทำอย่างงั้นไม่ได้แล้ว อีกอันหนึ่งที่ไม่ชอบคือตื่นมาก็เห็นนอนข้างอีกแล้ว ก่อนหลับก็เห็นอีกแล้วอันนี้พี่ไม่ชอบ พี่ไม่ชอบโมเมนต์นี้ มีบางวันพี่อยากเน่าอ่ะ นึกออกไหมคนเรามันต้องมีวันเน่า วันที่แบบเราตื่นมาด้วยชุดนอน นั่งดื่มกาแฟ ด้วยความที่ว่าเป็นเราเนาะ ตื่นเช้ามาต้องสวยเหมือนเขาเคยเห็นในหนังสือ ซึ่งบางวันฉันอยากเน่ารวบผมแบบเน่าอย่างนี้ ปากต้องมีสีสัน หน้าตาสดใส ผมก็ต้องรวบแบบเรียบร้อย ต้องตื่นมาสวยก่อนเขา ทุกวันนี้ก็เน่าได้เต็มที่ แล้วก็นั่งชิลๆ ตรงสวนตัวเอง ถือกรไกรอันหนึ่งเดินไปตัดต้นไม้ ที่พี่สามารถอยู่คนเดียวได้ เพราะเราอยากทำอะไรก็ได้ ฉันอยากนอนดึก ฉันก็นั่งดูซีรีส์ไป ก็เลยคิดว่าตัดเลยฉันอยู่คนเดียวได้

วินาทีที่ตัดขอถามว่ามัน landing ยังไง ?
ต่าย เพ็ญพักตร์ : พี่ตัดเขาก่อน โดยที่เขาไม่รู้ตัว คือแบบนี้ก็อยู่ที่บ้านกันแหล่ะ ก็จะถามเขาว่าคุณเมื่อไหร่จะกลับบ้านของคุณ แล้วเขาก็กลับไป พอเขากลับไปปุ๊บ เราก็เริ่มเก็บของเขาเลย คือใจมันคิดมาแล้วหลายวัน

ไม่ใช่สามีภรรยาคือคบกันเป็นแฟนถูกไหม ?
ต่าย เพ็ญพักตร์ : นี่คือแฟน แต่ทุกคนจะรู้ว่าเราถ้าแฟนก็คือเหมือนแบบสามีภรรยาแหล่ะ เพียงแต่ว่าเราไม่ได้แต่งงานอะไรกัน เขาก็มีคอนโด แต่ก็มาอยู่กับพี่ ก็บอกให้เค้ากลับบ้าน คุณกลับคอนโดหรือยังอ่ะ เดี๋ยวพรุ่งนี้ฉันต้องไปทำงานโน้นนี่ พี่ก็จะบอกเขาไป พอกลับไปปุ๊บพี่ก็เก็บข้าวของเลย เก็บเสื้อผ้าเก็บข้าวของให้หมดแล้ว เสร็จพี่ก็โทรบอกเพื่อนเขา โทรเรียกเพื่อนสนิทเขาให้มาหน่อย บอกว่าเนี้ยช่วยเอากล่องไปให้เพื่อนเธอหน่อย พอเพื่อนเขาถามว่าอะไร ก็บอกไม่มีอะไรหรอก เอาไปเถอะเอาไปส่งเขาหน่อย เพื่อนก็งงๆ แล้วก็แบกของไปส่งให้เขา พอเขารับก็โทรมาปุ๊บ พี่ก็พูดเลยบอกว่าเราเลิกกันเถอะ เพราะว่าอยู่กันไปมันก็ไม่มีดีหรือเลวลง แล้วคุณก็ไม่สามารถทำอะไรให้ฉันได้ ไม่สามารถช่วยเหลืออะไรฉันได้อยู่แล้ว คุณก็ไปใช้ชีวิตแบบที่เคยพูดอยู่เรื่อยๆ ไปเลย ฉันก็จะมีชีวิตของฉัน ก็เลิกกัน เราก็บอกว่าไม่ต้องโทรมาเบอร์นี้อีกนะ เดี๋ยวจะเปลี่ยนเบอร์แล้ว พี่ก็เปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์เลย ง่ายๆแบบนี้คือนี่คือสไตล์พี่ เค้าก็จะงงๆ เพราะมันไม่มีเหตุอะไรมาก่อน

แล้วไม่รู้สึกอะไรเลย ?
ต่าย เพ็ญพักตร์ : ไม่รู้สึกอะไรเลย ไม่สน เพราะเราตัดแล้ว ถ้ายังไปแคร์ความรู้สึกเขามันจะตัดไม่ได้ไง แคร์ไม่ได้ เราตัดแล้ว เขาก็ต้องมีชีวิตแบบเขา เราก็ต้องมีชีวิตแบบเรา แต่เจอได้นะก็เป็นแบบเพื่อนที่เคยรู้จักกัน

พลังงานที่เปลี่ยนไปในชีวิตตามวาระ ตอนนี้อยู่ในพลังงานไหน ?
ต่าย เพ็ญพักตร์ : มันด้วยวัยที่ผ่านมาของพี่ แต่ละช่วงอายุ อาจจะเป็นเพราะว่าตัวตนพี่จริงๆ เป็นคนไม่ได้ไม่ได้หวือหวาอะไรอยู่แล้ว เวลามีงานก็จะทำงานของเราไป เวลาใช้ชีวิตก็จะมีชีวิตแบบปกติ พี่สามารถกินข้าวข้างทางหรืออะไรได้หมดทุกสิ่งอย่าง แต่ถามว่ามีปาร์ตี้ไหมมี มันก็จะมีช่วงที่แบบปาร์ตี้ ๆ แล้ววันหนึ่งมันก็เหมือน ไม่แน่ใจจะใช้คำว่าตกตะกอนหรือเปล่า มานั่งมองตัวเองว่าเหนื่อยไหมเธอ เพื่อนมาเต็มบ้านเลยสนุกมาก แต่เพื่อนกลับไปปุ๊บ ตื่นเช้ามานั่งมองเก็บอะไรก่อนดีนะ มันจะมีอะไรอย่างงี้เข้ามาตลอดเวลา ถามว่าเราสนุกไหม เราแฮปปี้นะ สนุกมากตอนเพื่อนมา เก็บของไปแล้วมันก็เริ่มถอยแล้ว เริ่มบอกตัวเองว่าเอาตรงที่ตัวเองมีความสุข อายุ 30 จากที่เคยปาร์ตี้มันก็ลดลงๆ จนทุกวันนี้ก็จะน้อยมาก แล้วเราก็จะไม่มีปาร์ตี้อะไรที่บ้านแล้ว เจอกันข้างนอกเลย เพราะเป็นบ้านที่อยู่อาศัยเรา เราใช้ชีวิตที่เรานอน มันเป็นเซฟโซนของเราพอแล้ว

ชีวิตตอนนี้มีโซเชียลอะไรบ้าง ?
ต่าย เพ็ญพักตร์ : มี Instagram มี Tiktok เป็นเรื่องการแต่งตัวด้วยวัยนี้ เราควรจะแต่งตัวแบบไหนออกจากบ้าน บางคนอาจจะแบบพูดถึงเรื่องว่าอายุเยอะแล้ว เราต้องแต่งตัวสมวัย แต่สำหรับพี่เรื่องวัยไม่เกี่ยว เรื่องอายุไม่เกี่ยว มันเป็นเพียงตัวเลข มันอยู่ที่ตัวเรามากกว่า ว่าเราอยากจะแต่งตัวแบบไหนที่ให้มีความสุข เพราะผู้หญิงบางคนจะไปจำกัดเรื่องอายุตัวเอง แล้วก็จะแต่งตัวตามวัย แล้วมันก็จะยิ่งทำให้เราแก่ตามอายุไปด้วย พี่อายุ 64 แต่พี่ก็ยังแต่งตัวแบบนี้ เพราะว่าพี่ชอบแบบนี้ แต่ถามว่า in fashion ไหมนิดหนึ่งเอามาติดๆ ไว้ แต่เราก็ต้องดูว่าบอดี้เราได้ไหมแค่ไหนนั่นคือความสุข

ผู้หญิงคนนี้ตั้งแต่เข้าวงการเขาเรียกพี่ว่าสาว 2,000 ปี ?
ต่าย เพ็ญพักตร์ : ฉายานี่ได้มาน่าจะตอนอยู่วงการสัก 5 - 6 ปี ไม่แน่ใจ อาจจะเพราะแหวกแนวกว่านางเอกคนอื่นในยุคนั้นที่ใส่ชุดว่ายน้ำถ่ายแฟชั่นได้ แต่ในนางเอกในยุคนั้นเขาจะไม่ไง ต้องคงภาพลักษณ์ว่าเป็นนางเอก ด้วยความที่เราอยู่กับรุ่นพี่ที่เป็นกะเทย อยู่วงการแฟชั่นก็ได้รับอิทธิพลจากพี่ๆ พวกนี้มา มันไม่มีคำว่าเกษียณหรอกพี่ว่า ถ้าคุณยังอยู่ในวงการบันเทิง มันใช้คำว่าเกษียณไม่ได้ เพียงแต่ว่าเราจะดูว่าอันนี้เหมาะกับเราไหม เล่นบทนี้แล้วทำเรามีความสุขไหม ยกตัวอย่างของพี่ ตอนนี้จะเป็นแบบนี้ งานชิ้นนี้ที่ติดต่อมา เราก็จะมีการคุยกัน เจอผู้กำกับก็จะดูทั้งหมด attitude เป็นยังไง ที่เราจะต้องทำงาน ต้องอยู่กับเค้าประมาณ 1- 2 เดือน attitude โอเค บทเป็นยังไง น่าเล่นไหม มีอะไรเปลี่ยนแปลงจากที่เราเคยรับไหม ถ้ายังเป็นบทที่ 10 ปีที่แล้วทำงานมาบทเดิมก็จะต้องถอย เพราะด้วยอาชีพเรา ความเป็นนักแสดง ทุกคนอยากจะมีการแสดงอะไรที่เปลี่ยนได้ ไม่ใช่จำอยู่กับบทเดิมๆ ยิ่งอายุเยอะแล้ว เราควรจะหาบทอะไรที่แตกต่างจากที่ไม่เคยเล่น รับงานเฉพาะที่ทำแล้วเรามีความสุข ถ้าทำแล้วไปแล้วตัวเองเหนื่อย กลับมาแล้วเครียด มันไม่ใช่

สิ่งที่ ต่าย เพ็ญพักตร์ เจอในการทำงานที่รู้สึกว่าหมดพลังคือเรื่องอะไร ?
ต่าย เพ็ญพักตร์ : จากคน คิดดูนะอยู่ในกองถ่ายเราต้องเจอผู้คนเยอะมาก นักแสดง ทีมงานทั้งหมด บรรยากาศ ความร้อน ออกจากบ้านปุ๊บ ต้องทำใจทำจิตตัวเองจากบ้านเลย ว่าฉันไปทำงาน ต้องเจอผู้คนเยอะมาก เราจะไม่โกรธ จะไม่มีอารมณ์เสียสงบหลับตาซะข้างหนึ่งจะบอกตัวเองอย่างงี้ทุกครั้ง เดี๋ยวนี้เวลาออกไปทำงาน ยังไงมันก็ต้องเจอ เพราะว่าเราอยู่ท่ามกลางผู้คนเยอะแยะมาก มันไม่ได้ดั่งใจอะไรทุกอย่างอยู่แล้ว วันนั้นมันก็จะผ่านแบบนั้นไป จบไป ขึ้นรถ ก็ถอดหัวโขนออก มันต้องสร้างจากบ้านเราไป ถ้าไปแล้ว Energy ไม่ได้ มันก็ดูดไปหมดเลย แล้วเราจะโดนพลังงานเขาติดกลับบ้านด้วย แต่พี่ไม่ปล่อยเลย วางทุกอย่างทิ้งไว้ ถือว่างานวันนี้ที่รับผิดชอบมาทำสำเร็จแล้ว จบแล้วทิ้งไป กลับบ้านเราก็เป็น เพ็ญพักตร์ ปกติ

สามารถติดตาม Woody FM ได้ที่ช่องทาง Podcast : WOODY FM , Facebook: Woody, Youtube: Woody ทุกวันพุธ เวลา 19.00 น.

คลิกชมย้อนหลัง : https://www.youtube.com/watch?v=VyvTv42v9As&ab_channel=WOODY
เซย์เยส! “กระแต อาร์สยาม” ถูก “โตชิ”แฟนหนุ่มเซอร์ไพรส์คุกเข่าขอแต่งงานสุดหวาน
ขอแสดงความยินดีกับว่าที่เจ้าสาวคนต่อไปของวงการบันเทิงสำหรับนักร้องสาว “กระแต อาร์สยาม” ที่ล่าสุดวันนี้ 27 พ.ค 68 ถูกแฟนหนุ่ม “โตชิ” คุกเข่าขอแต่งงานแล้ว

โดยฝ่ายชายบอกว่า “ ผมขอขอบคุณทุกคน ทุกสิ่งทุกอย่างที่ทำให้ผมได้เจอกับที่รัก เป็นดวงดาวที่คอยส่องแสงนำทางชีวิตผมไปตลอดกาล ผมสัญญาจะอยู่เคียงข้างที่รัก ไม่ว่าจะยามสุขหรือยามทุกข์ ผมอยากใช้ชีวิตที่เหลืออยู่ทั้งชีวิตกับที่รัก แต่งงานกับผมนะครับ“

#กระแตอาร์สยาม #สยามดารา
ไม่โสดแล้ว! "แพรว คณิตกุล" เปิดตัวแฟนหนุ่ม "เควิน" อวยพรหวานฉ่ำในวันเกิดฝ่ายชาย
หัวใจกลับมาอินเลิฟอีกครั้งแล้วสำหรับนักร้องสาว “แพรว คณิตกุล” หลังจากครองสถานะโสดมาพักใหญ่ที่ล่าสุดได้เปิดภาพคู่โมเมนต์หวานทำเซอร์ไพรส์วันเกิดให้หวานใจหนุ่มชาวฮ่องกงที่มีชื่อว่า“เควิน”

พร้อมทั้งเขียนข้อความอวยพรไว้ว่า “HBD Calvin! ขอให้สุขภาพแข็งแรงอยู่ด้วยกันไปนานๆ นะ” ซึ่งก่อนหน้านี้ถ้าดูภาพในอินสตาแกรมของสาวแพรวก็เห็นว่ามีหนุ่มเควินอยู่ด้วยในหลายๆ โมเมนต์มาตั้งแต่ปีที่แล้ว ทำเอางานนี้แฟนเพลงแห่ร่วมยินดีไปกับรักครั้งนี้ของสาวแพรวกันเป็นจำนวนมาก

Cr. ig : preawkanitkul
#แพรวคณิตกุล #สยามดารา
“พีพี ปุญญ์ปรีดี” ขอยุติบทบาท “พี่เอ”ผู้จัดการส่วนตัว ยันจบกันด้วยดีทั้งสองฝ่าย
นางเอกสาวมากฝีมือ พีพี ปุญญ์ปรีดี คุ้มพร้อม รอดสวาสดิ์ ล่าสุด 25 พ.ค 68 ได้ออกมาประกาศแจ้งข่าวให้แฟนๆ ได้ทราบถึงการยุติบทบาทของ พี่เอ ผู้จัดการส่วนตัว โดยนับจากนี้เป็นต้นไปคุณแม่ของเธอจะเข้ามาดูแลงานทั้งหมด แทน

"การสิ้นสุดบทบาทผู้จัดการศิลปินของ พีพี ปุญญ์ปรีดี คุ้มพร้อม รอดสวาสดิ์ จากใจของพี วันนี้พีขอแจ้งให้ทุกท่านทราบว่า การทำงานร่วมกันระหว่างพีและพี่เอในฐานะผู้จัดการส่วนตัว ได้สิ้นสุดลงอย่างเป็นทางการแล้วค่ะ ตลอดระยะเวลาที่ได้ร่วมงานกัน พีขอขอบคุณพี่เอจากใจ สำหรับการดูแล สนับสนุน และอยู่เคียงข้างกันในทุกย่างก้าว ทั้งในฐานะศิลปิน และในฐานะของเพื่อนร่วมงาน ขอบคุณสำหรับความรัก ความหวังดี ความตั้งใจ และความทุ่มเทที่มีให้กับพีเสมอมา

การยุติบทบาทของผู้จัดการส่วนตัวในครั้งนี้ เกิดขึ้นจากการพูดคุยกันด้วยความเข้าใจกันทั้งสองฝ่าย และยังเปี่ยมไปด้วยความรู้สึกรักและปรารถนาดีต่อกัน ซึ่งพีเชื่อว่าเราจะยังคงเป็นเพื่อนร่วมงานที่ดี และเป็นแรงใจให้กันและกันในเส้นทางการทำงานต่อไปได้

นับจากนี้เป็นต้นไป คุณแม่ของพีจะเข้ามาช่วยดูแลและประสานงานเกี่ยวกับการทำงานในด้านต่างๆ เพื่อให้พีสามารถเดินหน้าต่อในฐานะศิลปินได้อย่างมั่นคง และเติบโตในเส้นทางสายนี้ด้วยหัวใจที่เข้มแข็งยิ่งขึ้น สุดท้ายนี้ พีขอขอบคุณแฟนคลับทุกคนที่อยู่เคียงข้างกันเสมอ พีซาบซึ้งในความรัก ความเข้าใจ และกำลังใจจากทุกคน และหวังว่าจะได้เดินต่อไปด้วยกันอย่างสวยงามในทุกบทของชีวิตต่อจากนี้ ด้วยความรักและขอบคุณจากใจ"
“ฟอง มุทิตา” คว้ามงกุฎ มิสยูนิเวิร์สเพชรบุรี - “เฮเลน จัสทิส” ซิวมง มิสยูนิเวิร์สพังงา เตรียมสู่เวทีมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2025
วันที่ 24 พฤษภาคม 2568 ณ หอประชุมเทศบาลเมืองเพชรบุรี นายณัฏฐ์ ใจมั่น และ นายธนิต พุ่มไสว ผู้ถือลิขสิทธิ์มิสยูนิเวิร์สเพชรบุรี-พังงา 2025 จัดการประกวดมิสยูนิเวิร์สประจำจังหวัดเพชรบุรี และพังงา ประจำปี 2025 ได้ประกาศผลผู้คว้าตำแหน่งอย่างเป็นทางการแล้ว โดย “ฟอง มุทิตา เครื่องถมยา” นักธุรกิจค้าปลีกรายใหญ่เจ้าของสาขากว่า 11 แห่ง ท่ามกลางเสียงชื่นชมในความงาม ความสามารถ และความมั่นใจ คว้ามงกุฎ มิสยูนิเวิร์สเพชรบุรี 2025 ไปครองอย่าง สมศักดิ์ศรี

ฟอง มุทิตา อายุ 30 ปี สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ สาขาการแสดงนาฏศิลป์ไทย และกำลังศึกษาต่อระดับปริญญาโท คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยรามคำแหง โดยการประกวดครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกในชีวิต ซึ่งเธอเผยว่า ตัดสินใจลงประกวดในวันที่ชีวิตมีความพร้อมทั้งด้านธุรกิจและจิตใจ ถึงแม้จะเริ่มต้นช้ากว่าคนอื่น แต่เธอเชื่อมั่นว่าความพร้อมในวันนี้คือจุดเริ่มต้นในการเติมเต็มและต่อยอดเส้นทางชีวิตให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น โดยเธอได้รับเงินรางวัลและของขวัญจากผู้สนับสนุนรวมมูลค่ากว่า 1 ล้านบาท

ในขณะที่ฝั่งจังหวัดพังงา “เฮเลน พิชชาภา จัสทิส” สาวลูกครึ่งไทย-อังกฤษวัย 21 ปี คว้ามงกุฎ มิสยูนิเวิร์สพังงา 2025 โดยเธอกำลังศึกษาอยู่ระดับปริญญาตรี ชั้นปีที่ 3 คณะบริหารการท่องเที่ยว มหาวิทยาลัยบูรพา และเคยผ่านเวทีใหญ่อย่าง มิสแกรนด์ศรีสะเกษ 2024 มาก่อน โดยเฮเลนตั้งใจใช้เส้นทางนางงามเป็นแรงผลักดันในการสร้างอนาคตให้ตนเองและครอบครัว พร้อมทั้งกล่าวว่าอยากเป็นแรงบันดาลใจให้คนรุ่นใหม่และทำให้ครอบครัวภูมิใจ โดยได้รับเงินรางวัลและของขวัญรวมมูลค่ากว่า 500,000 บาท

แฟนนางงามสามารถร่วมส่งแรงใจและติดตามการเดินทางของทั้ง ฟอง มุทิตา และ เฮเลน จัสติส ได้บนเวที มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2025 ซึ่งจะจัดขึ้นในเดือน สิงหาคมนี้ เพื่อค้นหาตัวแทนประเทศไทยสู่เวทีระดับโลก

#MissUniversePhetchaburi2025 #MissUniversePhangnga2025 #FongMutita #HelenJustice #MUThailand2025
“เดล นฤมล” หักปากกาเซียน!! เบียดตัวเต็ง คว้ามงกุฏ มิสยูนิเวิร์ส ภูเก็ต 2025
หักปากกาเซียนครั้งมโหฬาร!! เมื่อ “สาวผิวสีน้ำผึ้ง” เดล นฤมล พิมพ์ภักดี ซิวมงกุฎ “มิสยูนิเวิร์ส ภูเก็ต 2025” ไปครอง เฉือนชนะลูกรักสวยออร่าอย่าง ไพลิน ออลเซ่น จอดที่รองอันดับ 1 ในขณะที่ เพิร์ท – นัทกาญจน์ กุลชยวณัฐ ตัวเต็งทำดีที่สุดแค่รองอันดับ 2 “PD พี่กบ-พี่คิม” ยอมรับ “คนนี้มีของ” พร้อมปั้นสู้ศึก มิสยูนิเวิร์ส ไทยแลนด์ 2025 เต็มที่

เสร็จสิ้นไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วสำหรับภารกิจจักรวาลแห่งเมืองภูเก็ต บนเวทีการประกวด มิสยูนิเวิร์ส ภูเก็ต 2025 เมื่อ 2 PD คุณคิม ธีระศักดิ์ ผลงาม และ คุณกบ ธนพัฒน์ นวลสกุล ผู้ถือสิทธ์การประกวด Miss Universe Phuket 2025 ทุ่มงบจัดการประกวดอย่างยิ่งใหญ่ ท่ามกลางกองเชียร์และแฟนนางงามแน่น The Pago Design Hotel จ.ภูเก็ต พร้อมเปิดประตูบ้านต้อนรับ “ลูกสาวคนใหม่” เดล นฤมล พิมพ์ภักดี อย่างเป็นทางการ

ท่ามกลางกระแสดราม่าถาโถมทันที เพราะนี่เป็นการหักปากกาเซียนครั้งใหญ่ เดล ไม่ใช่เทสต์ “ลูกสาวภูเก็ต” เหมือนที่ผ่านมา แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าเธอคนนี้มีของ ทั้งความสวย ความรู้ ความสามารถ ยืนหนึ่งเป็น “New Era of Beauty Queen” อย่างที่ PD ทั้งสองต้องการจริงๆ แต่จะสามารถสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้ภูเก็ตได้หรือไม่ ต้องติดตามการประกวด มิสยูนิเวิร์ส ไทยแลนด์ 2025 ตลอดเดือนสิงหาคมนี้ แน่นอน

#missuniversephuket #MissUniverseThailand #mut #นางงาม #สยามดารา
มิตรภาพยังสวยงาม "ติ๊ก ชิโร่" ส่งกำลังใจให้ "เสก โลโซ" หลังเข้าเรือนจำ ชี้เป็นบททดสอบความแข็งแกร่งจิตใจ
หลังจากที่นักร้องชื่อดัง เสก โลโซ หรือ เสกสรรค์ ศุพิมาย โดนศาลฎีกาพิพากษา จำคุก 2 ปี 12 เดือน 20 วัน ไม่รอลงอาญา และถูกเจ้าหน้าที่คุมตัวเข้าเรือนจำเมื่อวันที่ 20 พ.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งทำเอาครอบครัว คนใกล้ชิด และแฟนเพลงต่างตกใจและให้กำลังใจนักร้องชื่อดังอย่าง มากมาย

ล่าสุด 23 พ.ค ด้าน ติ๊ก ชิโร่ ได้เปิดคู่ในอดีตคู่กับ เสกโลโซ พร้อมเขียนข้อความระบุว่า "เป็นกำลังใจให้เสมอแม้ยามทุกข์และยามสุข เราผ่านชีวิตอะไรมาเยอะแยะมากมาย นี่เป็นการทดสอบความแข็งแกร่งของจิตใจอีกครั้งนึง ตลอดระยะเวลาพี่ติ๊กและอ้อเป็นห่วงและอยู่เคียงข้างกันมาทุกครั้ง

ครั้งนี้ก็เป็นอีกครั้งหนึ่งที่พี่ติ๊กและอ้อก็ยังส่งกำลังใจให้เหมือนเดิม ชีวิตคนเรามันก็แบบนี้แหละไม่มีอะไรแน่นอน ความบังเอิญไม่มีจริง พี่ติ๊กและอ้อคิดอยู่เสมอ ว่าไม่นานเสกก็จะกลับมาเพื่อเป็นขวัญใจของแฟนเพลงอีก ขอเป็นกำลังใจให้นะครับ"

#เสกโลโซ #สยามดารา #ติ๊กชิโร่
“เบิร์ด เทคนิค” โพสต์เดือด! หลังศาลยกฟ้องคดี ”แตงโม นิดา“
หลังจากวันที่(23 พ.ค.68) ศาลจังหวัดนนทบุรี นัดฟังคำพิพากษา พิจารณาตัดสินคดีนักแสดงสาว แตงโม นิดา พัชรวีระพงษ์ ตกเรือเสียชีวิต เมื่อปี 2565 โดยศาลมีความเห็นยกฟ้องจำเลย 3 คน แซน วิศาพัช, กระติก อิจศรินทร์ และ ภีม ส่วนทางด้านของ จ๊อบ นิทัศน์ โดนข้อหาแจ้งความเท็จ-ทิ้งสิ่งปฏิกูล ลงแม่น้ำ

ล่าสุด 24 พ.ค 68 “เบิร์ด เทคนิค” แฟนหนุ่มของแตงโม ได้โพสต์ข้อความซัดเดือด ระบุว่า “กฎหมายประเทศไทยมันอ่อนเกินไป คนรวยมีตังค์ รู้จักคนใหญ่คนโตแม่xรอด คุกมีไว้ขังคนจนมากกว่าคนรวยใช่มั้ยเนี่ย” (อีโมจิชูนิ้วกลาง)

Cr. IG stonerbkk #เบิร์ดเทคนิค #สยามดารา #แตงโมนิดา
ปิดฉาก 3ปี สรุปผลคำพิพากษา“คดีแตงโม”ตกเรือสปีดโบ๊ท
วันนี้ (23 พ.ค.2568) ศาลจังหวัดนนทบุรี อ่านคำพิพากษา คดีอาญาหมายเลขดำที่ อ.292/1566 (คดีหมายเลขแดง อ.769/2568) ที่พนักงานอัยการจังหวัดนนทบุรี โจทก์ และนางภนิดา ศิระยุทธโยธิน โจทก์ร่วม ยื่นฟ้อง นายวิศาพัชหรือแซน มโนมัยรัตน์ กับพวกรวม 4 คน เป็นจำเลยที่ 1-4

โดยศาลจังหวัดนนทบุรี มีคำพิพากษาสรุปว่า จำเลยที่ 2 มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 184 พระราชบัญญัติการเดินเรือในน่านน้ำไทย พ.ศ.2456 มาตรา 119 การกระทำของจำเลยที่ 2 เป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไป ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 ฐานทำให้เสียหาย ทำลาย พยานหลักฐานในการกระทำความผิด เพื่อจะช่วยผู้อื่นมิให้ต้องรับโทษ จำคุก 4 เดือน และปรับ 16,000 บาท, ฐานเท ทิ้ง หรือทำด้วยประการใดๆ ให้หิน กรวด ทราย ดิน โคลน อับเฉา สิ่งของหรือสิ่งปฏิกูลใดๆ ลงในแม่น้ำ ลำคลอง บึง อ่างเก็บน้ำ หรือทะเลสาบอันเป็นทางสัญจรของประชาชนหรือที่ประชาชนใช้ประโยชน์ร่วมกันหรือทะเลภายในน่านน้ำไทย อันจะเป็นเหตุให้เกิดการตื้นเขิน ตกตะกอนหรือสกปรกโดยไม่ได้รับอนุญาต จำคุก 2 เดือน และปรับ 8,000 บาท รวมจำคุก 6 เดือน และปรับ 24,000 บาท โดยไม่ปรากฏว่าจำเลยที่ 2 เคยรับโทษจำคุกมาก่อน เห็นควรให้โอกาสกลับตนเป็นพลเมืองดีสักครั้ง จึงให้รอการลงโทษจำคุกไว้มีกำหนด 1 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 56 ทั้งนี้หากจำเลยที่ 2ไม่ชำระค่าปรับ ให้จัดการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 29, 30 โดยข้อหาอื่นนอกจากนี้ให้ยก

และศาลมีคำพิพากษาให้ยกฟ้องจำเลยที่ 1, 3, 4 กับยกคำร้องขอให้บังคับจำเลยที่ 1-3 ชดใช้ค่าสินไหมทดแทน ด้วย

นายนิทัศน์หรือจ๊อบหรือจ็อบ กีรติสุทธิสาธร จำเลยที่ 2 นางสาวอิจศรินทร์หรือกระติก จุฑาสุขสวัสดิ์ จำเลยที่ 3 นายภีมหรือเอ็ม ธรรมธีรศรี จำเลยที่ 4
“ตุ๊กกี้” สุดห่วง ”ตั้ม“ เผยลั่นรายชื่อเพื่อนตลกห้ามเยี่ยม เดี๋ยวแผลมันไม่สมานกัน
หลังจากที่นักร้องหนุ่ม ตั้ม วราวุธ โพธิ์ยิ้ม หรือ ตั้ม เดอะสตาร์ประสบอุบัติเหตุขี่มอเตอร์ไซค์ชนกับมอเตอร์ไซค์คู่กรณี ทำให้ได้รับบาดเจ็บ ต้องรักษาตัวในห้องไอซียู รพ. ทำเอาเพื่อนพ้องในวงการบันเทิงและแฟนๆ หลายคนที่ติดตามต่างส่งกำลังใจให้จำนวนมาก และขอให้ หายไวๆ

ล่าสุด 21 พ.ค 68 ด้าน ตุ๊กกี้ สุดารัตน์ พี่สาวคนสนิทได้มาเยี่ยม ตั้ม และได้เผยภาพของตั้มบนเตียงคนไข้ พร้อมเขียนข้อความฝากถึงเพื่อนตลกงดเยี่ยม เช่น นุ้ย สุจิรา และ ซานิ นิภาภรณ์ เพราะเดี๋ยวจะพากันขำ แผลจะไม่สมานกัน

ระบุข้อความไว้ว่า "มาเยี่ยมคนไข้สุดที่รัก @tumidol_ts9 ทำไมคนไข้หันหน้าหนีไม่สบตาด้วยคะ เรามาดีนะคะ เรียนคุณพยาบาล เราแค่มาทำให้คนไข้หัวเราะและหายเครียด ยอมรับค่ะ นิสัยพวกเราคือ สมานฉันท์ แต่ผลกระทบคือ แผลมันไม่สมานกัน แค่นี้เองค่ะ

#แผลไม่สมานเท่าความสัมพันธ์เรา #รายชื่อห้ามเยี่ยม @nuisujiraa @zanizina #คุณหมอเข้าใจแต่คนไข้ไม่เก็ต #เพื่อนตลกงดเยี่ยม #ไม่ดราม่านะคะ (ภาพนี้เราจัดท่าทำค่ะ ไม่ใช่ภาพน้องหลับนะคะ นี่คือภาพหลังจากคุยกัน 1 ชม. น้องตั้มโอเคค่ะ)"
มัดรวมโพสต์จาก “พลอย เฌอมาลย์” บอกลั่นอย่าเดา รอให้พร้อมเมื่อไหร่จัดให้ค่ะ
หลังจากที่ก่อนหน้านักแสดงสาว พลอย เฌอมาลย์ โพสต์ภาพแร็ปเปอร์ชื่อดัง โต้ง ทูพี ในสตอรีอินสตาแกรมแบบดุเด็ดเผ็ดร้อน จนสะเทือนไปทั้งวงการบันเทิง ก่อนที่วันต่อมาเจ้าตัวจะลบภาพเหล่านั้นออกไป

และล่าสุดเมื่อช่วงกลางดึกของคืน(21 พ.ค. 68) พลอยก็ได้โพสต์ข้อความต่อว่า "อย่าเดา...รอให้พร้อมเล่า ตอนนี้อยู่ในขั้นพิจารณา พร้อมเมื่อไหร่...จัดให้ค่ะ" และ "คนเห็นแก่ตัว จะไม่มีทางสำนึกในสิ่งที่ตัวเองทำกับคนอื่น จะจำแต่สิ่งที่ตัวเองโดนกระทำ"

ต่อมาได้แชร์โพสต์ที่มีข้อความภาษาอังกฤษว่า "No matter how good you are, if you are in a wrong place, you are worthless." ส่วนอีกอันเป็นข้อความว่า "เขาเคยรักฉันราวกับว่าไม่เหลือที่สำหรับใครอื่น ในขณะที่วันหนึ่งฉันเป็นแค่ใครอื่นราวกับว่าไม่เคยรัก กัน"

#พลอยเฌอมาลย์ #สยามดารา
โชนแสง!! “โอปอล-สุชาตา” โชว์ทักษะการพูดจับใจแฟนนางงามโลก ลุ้นให้ถึงชัยชนะ
21 พ.ค 68 วันนี้เป็นการแข่งขันในรอบ Head2Head Challenge หรือการพูดในที่ชุมนุมชน ของกลุ่มทวีปเอเชีย & โอเชียเนีย ซึ่งตัวแทนของประเทศไทย “โอปอล-สุชาตา ช่วงศรี” ก็ไม่ทำให้แฟนนางงามผิดหวังกับผลงานวันนี้โดยเปิดตัวมาด้วยชุดสีขาวแทนสัญลักษณ์ของแสงสว่างและความหวัง ก่อนจะขอเป็นตัวแทนของผู้ป่วยโรคมะเร็งเต้านมเผยถึง เมื่อตอนอายุ 16 โอปอลเคยเข้ารับการผ่าตัดซึ่งต้องเจออะไรมาบ้าง ถึงจะไม่ใช่เนื้อร้ายแต่ความตั้งใจของเธอคืออยากให้ทุกคนรู้เท่าทันมะเร็งและมีชีวิตที่ ปลอดภัย

“ตอนที่ดิฉันอายุ 16 ปี ดิฉันต้องเข้ารับการผ่าตัดนำก้อนเนื้อที่ไม่ใช่มะเร็งออกจากเต้านม ถึงแม้มันจะไม่ถึงชีวิต แต่ผลกระทบทางอารมณ์นั้นรุนแรงมาก ดิฉันยังจำเสียงเข็มนาฬิกา จำความเย็นในห้องผ่าตัด และน้ำตาที่ไหลลงอาบแก้ม ขณะคิดว่าบางทีเวลาของเราคงมาถึงแล้ว คงต้องเดินต่อไปคนเดียว

ประสบการณ์ครั้งนั้นทำให้มุมมองของดิฉันต่อโรคมะเร็งเต้านมเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง มันเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้กับทุกคน แม้แต่กับเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ อย่างดิฉันในวันนั้น และเมื่อมันเกิดขึ้น มันไม่ใช่แค่สัญญาณเตือนที่เรากดเลื่อนเหมือนตอนเช้า แต่มันเป็นการสั่นสะเทือนถึงจิตวิญญาณ และยังสั่นถึงจิตใจของคนที่รัก เราอีกด้วย

นี่จึงเป็นเหตุผลที่ “Opal for Her” หรือ “ความงามเพื่อจุดมุ่งหมาย” ของดิฉันถือกำเนิดขึ้น เราไม่ได้แค่สร้างความตระหนักรู้ แต่เรากำลังสร้างอนาคต ที่ความกลัวและอุปสรรคไม่สามารถขวางกั้นเราไว้ได้ ภายใต้ตำแหน่ง Miss World วิสัยทัศน์ของดิฉันคือการขยาย “Opal for Her” ออกไปไกลกว่าประเทศไทย สู่เอเชีย และไปทั่วโลก เพราะนี่คือสิ่งที่เราทุกคนเป็นหนี้ต่อผู้หญิงทุกคน เด็กหญิงทุกคน และคนรุ่นหลังของเราทุกคน” ...นี่คือเนื้อหาบางช่วงบางตอนจากคำกล่าวรอบ Head2Head Challenge ของ “โอปอล-สุชาตา ช่วงศรี” มิสเวิลด์ไทยแลนด์2025 ที่สามารถสร้างอิมแพ็คให้คนที่ได้ฟังเป็นอย่างมาก

อย่างไรก็ตามการแข่งขันรอบ Head2Head Challenge ในการประกวดมิสเวิลด์ครั้งที่ 72 ได้แข่งขันรอบแรกเสร็จสิ้นลงแล้ว ผู้เข้าประกวดหลายคนสามารถทำผลงานได้อย่างโดดเด่น ร่วมลุ้นตัวแทนสาวไทยน้อง “โอปอล-สุชาตา ช่วงศรี” ในการคว้าแชมป์ Head2Head ซึ่งจะประกาศผลผู้ผ่านเข้ารอบสุดท้าย 20 คนจาก 108 สาวงามก่อนจะไปตัดสินกันในวันที่ 23 พฤษภาคม และรอบสุดท้าย Final จะประกวดกันในคืนวันที่ 31 พฤษภาคม ต่อไป

#โอปอลสุชาตา #สยามดารา
“ซานิ” รุดเยี่ยม “ตั้ม”เจ็บหนักนอนพักฟื้นห้องไอซียู เล่าเหตุการณ์ก่อนมอเตอร์ไซค์ชน วอนตร.ช่วยหาหลักฐาน
แฟน ๆ ยังคงร่วมส่งกำลังใจกันให้กับนักร้องหนุ่ม ‘ตั้ม วราวุธ โพธิ์ยิ้ม’ หลังประสบอุบัติเหตุรถมอเตอร์ไซต์ชนขณะขับขี่กลับบ้านบริเวณถนนกรุงเทพกรีฑา 32 เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 19 พฤษภาคม 2568 ที่ผ่านมา ส่งผลให้ได้รับบาดเจ็บสาหัส ปากฉีกถึงจมูก จมูกหัก และฟันแตก

ล่าสุด ‘ซานิ นิภาภรณ์’ พี่สาวคนสนิทก็โพสต์ภาพขณะเยี่ยมน้องชายโดยภายในภาพมี เบสท์ คำสิงห์ และ ทอย ปฐมพงศ์ ก็ไปเยี่ยมให้กำลังใจหนุ่มตั้ม พร้อมทั้งเผยว่า “เมื่อวานยังอ๊อดแอ๋ดกะกูอยู่เลย กูกะแล้วเชียว เมื่อคืนเลิกงานกูตะหงิดใจว่าของมันพะรุงพะรัง แล้วจะขี่มอไซกลับได้มั้ย ดันตอบกูว่า สบายพี่ผมกลับได้ เรียบร้อยเลยทีนี้ สบายไปหลายวัน นอนยาว รั้นกูนัก!!!! บอกกี่รอบอย่าขี่ๆ แม่งไม่ฟังสักรอบ กูจะบ้า แล้วเป็นไง พอกูมาเยี่ยม สอนกูทำประกันอี๊กกก ว่าแต่ฝากพี่ๆตำรวจช่วยหาหลักฐานทีนะคะ น้องนู๋เจ็บมาก ไปหาเองลำบากค่ะ มีแต่คนรักมึง มึงรักตัวเองบ้างนะน้องรัก

#ตั้มวราวุธ #ซานินิภาภรณ์ #สยามดารา
ราชทัณฑ์ เผย “เสก โลโซ” คืนแรกในเรือนจำปรับตัวได้-พูดคุยกับเพื่อนปกติแต่มีปัญหาการนอน
(21 พ.ค.68) นางกนกวรรณ จิ๋วเชื้อพันธุ์ ผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดนนทบุรี ในฐานะรองโฆษกกรมราชทัณฑ์ เผยภายหลังศาลฎีกาพิพากษาแก้ให้ลงโทษจำคุก นายเสกสรรค์ ศุขพิมาย หรือ เสก โลโซ เสก โลโซ จำคุก 2 ปี 12 เดือน 20 วัน ในคดีอาวุธปืน, ขัดขวางเจ้าหน้าที่ และ พ.ร.บ.ยาเสพติด ว่า เรือนจำพิเศษมีนบุรีได้รับตัวนายเสกสรรค์มาคุมขังตามคำสั่งศาลฎีกาเมื่อบ่ายวานนี้

-หลังรับตัวเรือนจำได้คัดกรองแรกรับตามมาตรการกรมราชทัณฑ์ และส่งแยกกักโรคโควิด-19 ระยะเวลา 5 วันในพื้นที่ผู้ต้องขังรับใหม่ การดำเนินการตามกระบวนการของเรือนจำเป็นไปด้วยความ เรียบร้อย

-ส่วนสุขภาพทั่วไปปกติ พูดคุยและให้ความร่วมมือดี มีโรคประจำตัวที่จำเป็นต้องรับประทานยาต่อเนื่อง โดยผู้ต้องขังได้นำยามาด้วย ขณะที่ช่วงคืนแรกนายเสกสรรค์สามารถปรับตัวได้ พูดคุยกันเพื่อนผู้ต้องขังได้ปกติ มีปัญหาการนอน หลับๆ ตื่นๆ ช่วงเช้าทานอาหารที่เรือนจำจัดให้ได้
#เสกโลโซ #สยามดารา
“แสน นากา”เผยกลัวแม่ช็อกข่าว “เสก โลโซ”เข้าเรือนจำ ยังยึดมือถือไม่ให้รู้!
หลังจากที่ “เสก โลโซ” เสกสรรค์ ศุขพิมาย ถูกศาลตัดสินจำคุกจากคดียาเสพติดและขัดขวางการจับกุมเมื่อปี 2560 เป็นเวลา 2 ปี 12 เดือน 20 วัน ในคดีอาวุธปืน, ขัดขวางเจ้าหน้าที่ และ พ.ร.บ.ยาเสพติด ล่าสุด 21 พ.ค “แสน นากา” พี่ชายของเสกก็ได้โพสต์คลิปคุณแม่กำลังทานข้าวพร้อมทั้งเผยว่าคุณแม่ยังไม่ทราบเรื่องข่าวเสกเข้าเรือนจำ เพราะน้องสาวยึดโทรศัพท์ไว้

โดยเผยว่า“แม่ของผมยังไม่รู้เรื่องอะไรนะครับ โทรศัพท์น้องสาวยึดไว้ ผมมาถ่ายMVที่ปราณบุรี ส่วนน้องสาวก็ป่วยเป็นโควิดร้องไห้จนเสียงไม่มีทุกคนที่บ้านรอผมกลับไปก่อนค่อยบอกแม่พร้อมๆกัน” จากนั้น แสน นากา โพสต์คลิปที่คุณแม่นอนมาสก์หน้า และเขียนข้อความว่า “ในวันที่น้องมาเยี่ยมแม่ที่บ้านผม เราคุยกันถึงเรื่องคดีวันนี้ 5 คนพี่น้องรวมทั้งภรรยาผมด้วย วันนั้นผมก็รู้สึกเศร้าที่ใจลึกๆวันนี้ผมต้องยอมรับความจริงอย่างมีสติและเข้มแข็ง ฝากพี่ๆน้องๆข้างในนั้นดูแลน้องชายของพี่ด้วยเด้อครับ”

#แสนนากา #เสกโลโซ #สยามดารา
เจ็บสุด! “นนท์ อินทนนท์” ถูกแฟนเก่าหักหลังคบซ้อนกับคนใกล้ตัวที่ไว้ใจ
เปิดใจ “นนท์ อินทนนท์” นักแสดงและ Tiktoker สายฮา ในรายการ เบิ้ล AM ยอมรับเคยคบผู้หญิงทั้งที่รู้ตัวว่าไม่ใช่ เพราะกลัวทำพ่อแม่เสียใจต้องปิดบังตัวตน และครั้งหนึ่งเคยมีความรักกับศิลปินแต่ไม่สามารถเปิดเผยได้ เจ็บสุดในชีวิต! ที่ปรึกษาเรื่องรักกลายเป็นคนที่แย่งแฟนไปต่อหน้าต่อตา จากอดีตที่ต้องใช้ชีวิตภายใต้แรงกดดันมาตลอด จนวันนี้กล้าก้าวข้ามกำแพง เพื่อเป็นตัวเองอย่างแท้จริง

มีความรัก ?
นนท์ อินทนนท์ : ช่วงนี้มีแฟน มีความรัก มีเบบี้

แพ้ท้องแทนแฟนหรือว่าอะไร ?
นนท์ อินทนนท์ : แพ้จริงๆ
กี่เดือน ?
นนท์ อินทนนท์ : ตามฟีลแล้วแต่คนจะถาม ถ้าถามช่วงนี้ ออนแอร์ช่วงไหนล่ะ ตอบไม่ได้ให้คนหาคำตอบกันเอง คือเราถือเคล็ดจริงๆ ชอบดูดวงอย่างที่บอกไป แล้วก็จะมีผลต่อความรักเลยถ้าพูดว่ามีลูกกี่เดือน สามีคือใคร ถ้าเปิดหน้าจะเลิกกัน

ได้ปรึกษาหมอไหมพวกจิตเวช ?
นนท์ อินทนนท์ : เขาดูแล้วๆ เขาบอกว่ามันอยู่ที่จิต

ได้ข่าวว่าชอบ ใบเฟิร์น พิมพ์ชนก จริงไหม ?
เบิ้ล ปทุมราช : ชอบมากตั้งแต่เด็กแล้วครับ ชอบที่พี่เขาเป็นผู้หญิงห้าวๆ แล้วก็ตลก

ตอนนี้คิดว่าเราเป็นอะไรระหว่าง ดารา พิธีกร อินฟูลฯ หรือว่าคนที่อยุ่ในวงการเฉยๆ ?
นนท์ อินทนนท์ : เป็นคนที่ชอบทำงาน ชอบให้คนยิ้ม เป็นคนที่รู้สึกว่าอยากมอบ Positive ให้กับทุกคนตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของการทำงานหรือว่าลงคลิป คนที่เขาคอมเมนต์กลับมา หรือคนที่เป็นซึมเศร้า ทักเรามาหลายคนว่าเขาหายและรู้สึกดีขึ้น อย่างมีเคสหนึ่งที่เขากำลังจะปลิดชีพเขาแล้ว แล้วมีช่วงบังเอิญที่มือไปโดยหรืออะไรที่คลิป TikTok เด้งขึ้นมา เป็นคลิปที่เรากำลังแซวเพื่อนหรืออะไร แล้วเขาก็ขำคลิปนั้น แล้วเขาก็ดูคลิปของเราไปจนถึงอันสุดท้าย แล้วเขาก็รู้สึกว่าความสุขของเขาไม่จำเป็นต้องขึ้นอยู่กับใครเลย ซึ่งตอนนั้นเขาน่าจะอกหัก พอคนมีรอยยิ้ม หรือตลกในสิ่งที่เราทำ มันกลายเป็นความสุขของเรา

ถ้าเกิดคอมเมนต์ที่เราอ่านเป็นเรื่องดราม่า ?
นนท์ อินทนนท์ : มีคอมเมนต์ดราม่า ก็จะมีบอกว่าเพื่อนดาราเยอะจัง ไปเกาะหรือเปล่า คือคนจะติดภาพอินฟูลฯ อยู่ เขาก็จะรู้สึกว่าแบบพอเรามีเพื่อนดาราเยอะเหมือนเราไปเกาะดาราหรือเปล่า แต่ ณ ตอนนี้คนเข้าใจแล้ว พอเราเข้ามาอยู่ในวงการนี้ เราก็ต้องมีเพื่อนที่อยุ่ในวงการนี้ บางคนคือเรารู้จักกันมาเป็น 10 ปีแล้ว

แล้วถ้าเกิดวันหนึ่งที่รู้สึกเศร้าทำยังไงเพื่อฮีลใจตัวเอง ?
นนท์ อินทนนท์ : มีช่วงหนึ่งที่เราจัดการตัวเองไม่ได้เหมือนกัน พอเรามอบความสุขให้คนอื่นเยอะ คนคาดหวังจะได้เสียงหัวเราะ ไปนั่นไปนี่คนจะคาดหวังว่าทุกอย่างจะตลกหมด กลายเป็นว่าเรากดดันกับตัวเอง จนเราต้องไปหาที่พึ่ง คือเราต้องไปหาหมอเพื่อดูว่าเป็นอะไรหรือเปล่า ซึ่งเราเป็นคนเป็นแพนิก ซึ่งเกิดจากการที่เราเป็นคนขี้กังวล ขี้เกรงใจ คุณหมอก็เลยให้ทานยาอยุ่ช่วงหนึ่ง แต่ ณ ตอนนี้โอเคแล้ว รู้สึกว่าการออกกำลังกายช่วยได้ เพราะเราจะโฟกัสเรื่องกล้ามเนื้อนั่นนี่ แล้วก็ไปทำบุญ สวดมนต์ เราจะเป็นคนชอบให้ตัวเองฮีลตัวเอง ไม่ชอบเอาเรื่องไปให้ใคร

แสดงว่ามีปมเป็นคนซีเรียสไหม ?
นนท์ อินทนนท์ : ซีเรียส ยิ่งเรื่องงานซีเรียสมาก รวมถึงเรื่องชีวิตคู่ด้วย

จริงไหมที่เคยคบผู้หญิงเพื่อทดแทนความรู้สึก ?
นนท์ อินทนนท์ : ตอนนั้นไม่ได้คบทดแทน คบเพราะว่าเราชอบเขาจริงๆ คือตอนนั้นก็เริ่มน่าจะรู้ตัวว่าเป็น LGBTQ แต่ก็ไม่ได้ยอมรับเพราะลึกๆ เรามีกำแพง เพราะไม่อยากให้คุณพ่อคุณแม่เสียใจ ก็เลยปิดบังตัวเองมา ใช้ชีวิตในความกดดัน ใช้ชีวิตแบบที่เราต้องเป็นแบบที่คนอื่นอยากให้เป็นมาโดยตลอด พอมองย้อนกลับไปรู้สึกว่าเราสามารถเป็นตัวเองได้ เด็กๆสมัยนี้ที่ยังปิดบัง กดดัน ต้องทำเพื่อคนอื่นมากขนาดนั้นบางทีก็อยากให้แคร์หัวใจตัวเองบ้าง เพราะเราสามารถมีความสุขได้เลยไม่ได้เดือดร้อนใคร เราไม่ได้ทำอะไรผิด พอเราได้เป็นตัวเองรู้สึกว่ามีความสุขมากขึ้น เราสามารถทำอะไรทุกอย่างได้อย่างเต็มที่ มอบความสุขให้กับทุกคนได้อย่าง 100% พอเรามาทำงานตรงนี้ มาอยู่หน้ากล้อง มาเป็นแบบอย่างบางอย่างให้กับเด็กๆ หรือคนที่เขาดูเรา สามารถทำตัวของเราได้ดีขึ้นไปอีกโดยที่เป็นตัวเรา

ตอนที่คบผู้หญิงเป็นยังไง ?
นนท์ อินทนนท์ : เดี๋ยวไล่ Timeline ให้ฟัง คบผู้หญิงก่อน แล้วก็มีแฟนเป็นผู้ชาย 3 คน แล้วหลังจากแฟนผู้ชายก็มาคบกับผู้หญิงอีก 3 คน คือเราไม่ได้หาตัวเองไม่เจอนะ แต่เรารู้สึกดีกับเขา คุยเป็นเพื่อนเป็นอะไรคือฝั่งผู้หญิงเขาคิดกับเราเพราะเราเท่ห์มากครับช่วงนั้น แต่หลังจากที่บอกเลิกเขาไปผู้หญิงทุกคนเราโทรไปขอโทษ แล้วบอกเขาว่าไม่ได้ตั้งใจจะหลอก ไม่คิดจะหลอก ขออโหสิกรรม ซึ่งเขาก็บอกเราว่าก็ไม่ได้คิดว่าเราจะหลอก เพราะเขาก็รู้สึกดีกับเรา และคิดว่าเรารู้สึกดีกับเขาจริงๆ แต่หลังจากนี้ไม่ได้แล้วชาย ล้วน

เคยมีความรักที่เปิดเผยไม่ได้ ?
นนท์ อินทนนท์ : มี คือหลังจากคบผู้หญิงคนแรกไป มาอยู่ มศว. มีแฟนเป็นผู้ชายคนหนึ่ง เรายังปิดบังทุกคนอยู่มีแค่เพื่อน 2-3 ที่รุ้ว่าเราคุยกับคนนี้ คุยกันไปมาทุกอย่างแฮปปี้มาก แล้วมีช่วงหนึ่งที่เขาคนนี้กำลังจะเข้าไปเป็นนักร้องในสังกัดหนึ่ง แล้วเขาก็ต้องเก็บตัว แล้วสมัยก่อนยังไม่เปิดเรื่อง LGBTQ มาก แล้วก็มีช่วงที่เราพยายามที่จะเข้าใจ เพราะรู้ว่าสิ่งนี้คือการเจริญเติบโตของเขา ถึงแม้ว่าตอนนั้นเราจะเด็กมาก เพื่อนก็เป่าหูว่ารู้สึกว่าเขาไม่เหมือนเดิมกับเรา แต่เราก็พยายามที่จะไม่ตัดสินเขา แล้วก็มีโมเมนต์หนึ่งที่เราเดินกันที่ห้างสรรพสินค้า แล้วจะมีจุดหนึ่งที่คนเยอะมาก เขาก็หันมาบอกว่าเดี๋ยวไปเจอกันข้างหน้านะแล้วก็เดินออกไปเลย แล้วก็เลยรู้สึกไม่ดี เราก็มีความน้อยเนื้อต่ำใจเล็กๆ ด้อยค่าตัวเอง ตอนนั้นก็ยังไม่มีวุฒิภาวะมากพอ ก็เสียใจมาก จากนั้นความรักมันก็เริ่มมีคำถาม หาคำตอบไม่ได้กลายเป็นว่าทุกอย่างไม่มีความสุข พ่นสิ่งไม่ดีใส่กัน แล้วเขาก็ไปมีคนอื่น การมีคนอื่นของเขาในวันนั้นทำให้รู้สึกว่าเราไว้ใจคนยากขึ้นมาจนถึงวันนี้ เพราะว่าเขาไปคบกับคนที่ให้คำปรึกษาเรา คือเราขอคำปรึกษาจากคนๆหนึ่ง เรื่องแฟนของเรา ดีจังเลยเขาน่ารักกับเรามาก พาไปกินข้าวดูแลเขาเหมือนคนในบ้าน พอวันหนึ่งเรารู้จากพี่ที่สนิทมากๆ แล้วมีคลิปให้เราเห็นว่าแฟนเรากับคนนี้ที่เราไว้ใจขึ้นคอนโดไปด้วยกัน

สามารถติดตาม “เบิ้ล AM” ได้ที่ช่องทาง Facebook: WE DO , Youtube: WE DO วันพฤหัสบดี เวลา 19.00 น.
คลิกชมคลิปย้อนหลัง : https://www.youtube.com/watch?v=AotM9HBzu-Q&ab_channel=WEDO
ศาลฎีกาสั่งจำคุก เสก โลโซ 2 ปี12 เดือน20 วันคดีต่อสู้เจ้าพนักงาน-เสพยา-ปืน ช่วงตำรวจบุกบ้านปี 60 คุมตัวเข้าเรือนจำพิเศษมีนบุรี
เมื่อวันที่ 20 พ.ค.ที่ศาลอาญามีนบุรี ถนนสีหบุรานุกิจศาลอ่านคำพิพากษาศาลฎีกา คดีที่พนักงานอัยการ โจทก์ ยื่นฟ้อง นายเสกสรรค์หรือเสกโลโซ ศุขพิมาย จำเลยคดีหมายเลขคดีดำ อ.1662/2561 แดง อ.8288/2561 ความผิดฐานต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานในการปฏิบัติตามหน้าที่, เสพยาเสพติด และมีอาวุธปืนเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ตาม พ.ร.บ.อาวุธปืน และเครื่องกระสุนปืนฯ พ.ศ. 2490

กรณีนายเสกสรรค์ ถูกจับกุมเมื่อวันที่ 31 ธันวาคม 2560 ที่บ้านพักหลังจากศาลจังหวัดนครศรีธรรมราชออกหมายจับในข้อหาเกี่ยวกับการยิงปืนขึ้นฟ้าโดยไม่มีเหตุอันสมควร ในระหว่างการจับกุม เสก โลโซ ได้ขัดขืนและขู่จะใช้ปืนหากเจ้าหน้าที่บุกเข้ามาเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงต้องใช้หน่วยอรินทราชเข้าช่วยเหลือในการควบคุมตัว

โดยอัยการโจทก์ฟ้องว่าจำเลยมีอาวุธปืนพกออโตเมติกซึ่งมีทะเบียนพร้อมกระสุนปืนและต่อสู้หรือขัดขวางเจ้าพนักงานในการปฏิบัติการตามหน้าที่โดยมีหรือใช้อาวุธปืนและเสพยาเสพติดให้โทษในประเภท 1 ก่อนคดีนี้จำเลยเคยต้องคำพิพากษาถึงที่สุดของศาลอาญาให้ลงโทษ แต่โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 2 ปี

จำเลยกลับมากระทำความผิดในคดีนี้อีกและจำเลยเป็นบุคคลเดียวกันกับจำเลยในคดีอาญาของศาลจังหวัดนครศรีธรรมราชขอให้ลงโทษบวกโทษและนับโทษต่อจำเลยให้การรับสารภาพฐานมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้ใบอนุญาตส่วนความผิดอื่นในการปฏิเสธ แต่รับว่าเป็นบุคคลเดียวกันกับจำเลยที่โจทก์ขอให้บวกโทษและนับโทษต่อ คดีนี้ศาลชั้นต้นพิพากษาเมื่อวันที่ 25 ต.ค. 2561 พิพากษาว่าการกระทำของจำเลยเป็นความผิดทั้ง 3 ข้อหา ให้จำคุกตาม พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ 1 ปี รับสารภาพลดโทษเหลือ 6 เดือน, ฐานต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานที่ปฏิบัติหน้าที่โดยขู่เข็ญว่าจะประทุษร้ายโดยมีอาวุธปืน ให้จำคุก 1 ปี 6 เดือน และฐานเสพยาเสพติด จำคุกอีก 6 เดือน รวมจำคุก 1 ปี 18 เดือน และให้บวกโทษของศาลอาญาคดีทำร้ายร่างกายสาวคนสนิทภรรยาอีก 1 ปี 3 เดือน รวมจำคุกจำเลยทั้งสิ้น 2 ปี 21 เดือน โดยไม่รอการลงโทษ แม้ว่าจำเลยอ้างป่วยเป็นโรคไบโพลาร์ขณะกระทำผิด เนื่องจากเห็นว่าจากพฤติการณ์การสื่อสารกับเจ้าหน้าที่พบว่าจำเลยรู้ผิดชอบดี จึงไม่อาจอ้างภาวะป่วยดังกล่าวได้ การกระทำของจำเลยนั้นไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย และให้นับโทษจำเลยต่อจากคดี พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ ของศาลจังหวัดนครศรีธรรมราชด้วย

ต่อมาวันที่ 7 พ.ค. 2563 ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ความผิดฐานมีอาวุธปืนซึ่งเป็นของผู้อื่นที่ได้รับใบอนุญาตให้มีและใช้ตามกฎหมายและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับใบอนุญาต จำคุก 5 เดือน ลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุก 3 เดือน เมื่อรวมกับโทษฐานอื่นตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นเป็นจำคุก 1 ปี 15 เดือน บวกโทษจำคุก 1 ปี 3 เดือน ที่รอการลงโทษไว้ในคดีอาญาหมายเลขแดง ที่ อ.3705/2559 ของศาลอาญาเข้ากับโทษของจำเลยในคดีนี้ เป็นจำคุก 2 ปี 18 เดือน โดยไม่รอลงอาญา ซึ่งจำเลยได้รับการปล่อยชั่วคราวระหว่างฎีกา โดยศาลตีราคาประกัน 600,000 บาท

โดยศาลฎีกาพิพากษาแก้ ให้ลงโทษจำคุก 2 ปี 12 เดือน 20 วันหลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์คุมตัวนายเสกสรรค์ไปยังเรือนจำพิเศษมีนบุรี เพื่อรับโทษตามคำพิพากษาต่อไป #เสกโลโซ #สยามดารา
นักร้องสาว“ใบเฟิร์น สุทธิยา”โร่แจ้งความ สน.คันนายาวโดนเอารูปไปโยงเป็นสีกาคนสนิท”ทิดแย้ม”
เมื่อวันที่ 20 พ.ค.68 ที่ สน.คันนายาว “ใบเฟิร์น สุทธิยา” นักร้องสาว เวทีไมค์ทองคำ เจ้าของเพลง “ ทวงรักฝากลม” “ หนาวเพราะโสด”พร้อมนายสายน้ำ ไชยทองพันธ์ ทนายความ เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน สน.คันนายาว แจ้งความกรณีถูกเพจเฟซบุ๊กนำภาพถ่ายในชุดเดรสสีเหลือง ที่ถ่ายร่วมกับพระธรรมวชิรานุวัตร หรือ ทิดแย้ม อดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง เมื่อครั้งไปทำบุญ ลงในเฟซบุ๊กของตนเอง ไปวางจับคู่กับภาพหญิงสาวสองรายในชุดวาบหวิว พร้อมตั้งข้อสงสัยว่าเป็นบุคคลเดียวกัน สร้างความเข้าใจผิดอย่างมากในโลกออนไลน์พาดหัวโยงถึง "เจ้าอาวาสวัดไร่ขิง" ที่ขณะนี้มีคดียักยอกเงินวัด และโอนเงินให้หญิงสาวไปเล่นพนันออนไลน์กว่า 850 ล้านบาท

สร้างความเข้าใจผิดให้ ใบเฟิร์น สุทธิยา ว่าเป็นหญิงสาวคนสนิทที่รับโอนเงินจากอดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง และถูกวิพากษ์วิจารณ์ทำให้ ใบเฟิร์น สุทธิยา ได้รับความเสียหาย
ใบเฟิร์น สุทธิยา กล่าวว่า ตน“ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับภาพที่เป็นประเด็นในขณะนี้แต่อย่างใด “มีแฟนเพลงส่งโพสต์นี้มาให้ แล้วถามว่าใช่ตนหรือเปล่า ? ตนเห็นแล้วรู้สึกตกใจมาก จึงรีบบอกแฟนเพลงที่ส่งภาพมาว่า คนที่ใส่ชุดสีเหลืองในภาพคือหตนจริงๆ แต่รูปอื่นๆ ที่ประกบมานั้นไม่ใช่ตน ขอความกรุณาอย่าแชร์หรือเข้าใจผิดกันแบบนี้ เพราะมันทำให้ตนเสียหายมาก“

เบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้รับแจ้งความ สอบปากคำ ลงประจำวันไว้เพื่อดำเนินการตามกฏหมายต่อไป
ใหม่-ดาวิกา เสิร์ฟไม่หยุดลุคสุดปังเข้าร่วมงาน Women In Motionกระทบไหล่นักแสดงระดับโลก
เรียกว่าเป็นงานต่อเนื่องจากพรมแดงที่นางเอกสาว ใหม่-ดาวิกาโฮร์เน่“ ได้มีโอกาสเข้าร่วมกับ Women In Motion ที่เป็นการเฉลิมฉลองความสำเร็จของผู้หญิงในวงการภาพยนตร์ เมื่อค่ำคืนที่ผ่านมา

โดย “ใหม่” มาในโททัลลุคของกุชชี่ โดยเข้าร่วมในงานนี้ กระทบไหล่และร่วมโต๊ะกับคนดังระดับโลก ไม่ว่าจะเป็น จางหลิงเฮ่อ, ดาโกต้า จอห์นสัน, จูเลียร์ การ์เนอร์ และสเตฟาโน่ อีกด้วย โดยในปีนี้เป็นการฉลองครบรอบ 10 ปี รางวัลนี้ และมอบให้กับ นิโคล คิดแมน อีกด้วย

โดย ใหม่-ดาวิกา เปิดเผยถึงความรู้สึกในครั้งนี้ด้วยว่า รู้สึกดีใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของงานนี้ นอกเหนือจากการมาร่วมงานกับทาง Kering แล้ว ยังถือว่าเราได้ร่วมให้ความสำคัญกับวงการภาพยนตร์ และบุคคลในวงการเดียวกันอีกด้วยค่ะ ภายในงานถือว่า ใหม่ ได้รับความสนใจจากสื่อมวลชน ในโอกาสที่มาร่วมงานในครั้งนี้ และการร่วมเดินพรมแดงในฐานะนักแสดงจากภาพยนตร์ A Useful Ghost ซึ่งได้รับกระแสตอบรับที่ดีอย่างมาก จากผู้มาชมในรอบเวิลด์พรีเมียร์ที่ผ่านมา

#ใหม่ดาวิกา #สยามดารา
สวยสมมงฯ จักรวาลเมืองคอน “กิ๊ฟ กมลพร ทองพล" ครองตำแหน่ง มิสยูนิเวิร์ส นครศรีธรรมราช 2025 พร้อมปักธงรบ! คว้ามงฯ มิสยูนิเวิร์ส ไทยแลนด์
คึกคักตั้งแต่วันประกาศเปิดตัวเป็น PD MUT นครศรีธรรมราช 2025 สำหรับคู่รัก “เจนนี่ รัชนก” และ “ยิว ฉัตรมงคล“ ที่จับมือเปิดหัวใจให้กับการทำเวทีประกวดสาวงามเป็นครั้งแรก ซึ่งก็ได้กระแสตอบรับจากแฟนๆ นางงามทั่วประเทศ ที่ทางเจนนี่ สามารถถ่ายทอดเอกลักษณ์ของบ้านเกิดตัวเองที่ จ.นครศรีธรรมราช ผ่านบริบทของความเป็นนางงามได้อย่างลงตัว

และในที่สุดมงกุฏสาวงามจักรวาลเมืองคอน ตกเป็นของ "MUT NST 01 กิ๊ฟ กมลพร ทองพล" ที่สามารถคว้าตำแหน่ง มิสยูนิเวิร์ส นครศรีธรรมราช 2025 พร้อมกับได้รับสายสะพาน และเงินรางวัล 500,000 บาท พร้อมเป็นตัวแทนสาวงามของ จ.นครศรีธรรมราช ขึ้นสู่เวทีการประกวด มิสยูเวิร์ส ไทยแลนด์ 2025 ในช่วงเดือนสิงหาคม

ส่วนรองชนะเลิศอันดับ 1 มิสยูนิเวิร์ส นครศรีธรรมราช 2025 ได้แก่ "MUT NST 05 ครีม อาริยากร สุขภิทักษ์" ได้รับสายสะพาย พร้อมเงินสด 300,000 บาท และรองชนะเลิศอันดับ 2 ได้แก่ “MUT NST 09 ลูกเกศ เกศกนก สุขโข” ได้สายสะพาย พร้อมเงินสด 100,000 บาท

#กิ๊ฟกมลพร #สยามดารา #มิสยูนิเวิร์สนครศรีธรรมราช 2025
เปิดนาที "ใบเฟิร์น พิมพ์ชนก" หลั่งน้ำตา! คว้า 2 รางวัลนาฏราชเผยซึ่งขอบคุณทุกๆโอกาสที่มอบให้
นับเป็นอีกหนึ่งโมเมนต์สุดภาคภูมิใจที่ทำเอานางเอกสาว ใบเฟิร์น-พิมพ์ชนก ลือวิเศษไพบูลย์ ถึงกับกลั้นน้ำตาไม่ไหวขอปล่อยโฮกลางงานประกาศรางวัลนาฏราช ครั้งที่ 16 ประจำปี 2567 เลยทีเดียว

หลังได้ขึ้นรับรางวัลนักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมจากเวทีนาฎราช ทั้งจากละครยาวเรื่อง “ทองประกายแสด” และละครสั้น “ทิชา” ทั้งนี้“ใบเฟิร์น” ยังได้โพสต์ข้อความผ่านอินสตาแกรมขอบคุณที่เห็นคุณค่าและความตั้งใจ ขอเป็นส่วนหนึ่งที่เติบโตไปพร้อมๆ กัน

Cr. ig : baifernbah #ใบเฟิร์นพิมพ์ชนก #สยามดารา
ครบรอบวิวาห์ 1 ปี พีท กันตพร โพสต์ข้อความซึ้งถึงภรรยา แก้มบุ๋ม ปรียาดา จากคนที่เคยกลัวการแต่งงาน
นับเป็นอีกหนึ่งคู่สามี-ภรรยา ที่คอยเติมหวานให้กันตลอดเลยจริงๆ สำหรับคู่รักดังอย่างนักธุรกิจหนุ่มทายาท รพ.ดัง พีท กันตพร หาญพาณิชย์ และนางร้ายสาว แก้มบุ๋ม ปรียาดา สิทธาไชย

ที่ล่าสุดถึงวันครบรอบแต่งงาน 1 ปี (19 พ.ค. 2568) ด้าน พีท กันตพร ก็ได้โพสต์ภาพคู่พร้อมทั้งเขียนข้อความสุดหวานถึงภรรยาอย่างแก้มบุ๋ม โดยบอกว่า “ครบรอบ 1 ปี ของการแต่งงานของเราแล้ว จากคนที่เคยกลัวการแต่งงานมากที่สุด วันนี้พอมองย้อนกลับไปดูก็มีความรู้สึกว่า การแต่งงานครั้งนี้เราเลือกเจ้าสาวของเราได้ถูกต้องมากที่สุด เค้าคือส่วนนึงที่หายไปของชีวิต เราจริงๆ

ตลอดหนึ่งปีที่ผ่านมามีความสุข มีรอยยิ้ม เสียงหัวเราะ อาจจะมีเรื่องที่ไม่เข้าใจกันบ้าง แต่ในทุกๆ วันที่เราอยู่ด้วยกันก็ทำให้เราโตขึ้น และเดินไปข้างหน้าแบบที่เข้าใจกันมากยิ่งขึ้นในทุกวัน ถ้าวันนี้มีอะไรอยากจะบอกกับภรรยาคนนี้ อยากจะบอกเหมือนเดิมว่า “รักและจะรักหนูคนเดียวตลอดไปนะ” #แก้มพีท”
“ตูมตาม ยุทธนา” เข้าพิธีอุปสมบทรอบ2 เรียบง่าย คนบันเทิงร่วมอนุโมทนาบุญ
ละทางโลกเข้าสู่ทางธรรม อยู่ในร่มกาสาวพัสตร์แล้ว สำหรับนักร้องหนุ่ม“ตูมตาม เดอะสตาร์” หรือ ยุทธนา เปื้องกลาง ที่ล่าสุดเข้าพิธีอุปสมบทแบบเรียบง่ายเป็นครั้งที่ 2 โดยได้รับฉายาทางธรรมว่า “พระสุขจิตฺโต” ซึ่งแปลว่า “ผู้ที่มีจิตเป็นสุข”

ซึ่งด้านภรรยาสาว “อาหลี ลวัณญา” ได้เผยภาพบรรยากาศพิธีผ่านอินสตาแกรมส่วนตัวพร้อมข้อความไว้ว่า “ขอให้การบวชปฏิบัติในครั้งนี้ได้พบเจอความบริสุทธิ์ สงบ ปิติ และพบแสงสว่างนำทางธรรมตามที่ตั้งใจ ขอร่วมอนุโมทนาสาธุบุญกับพระด้วย นะคะ

ทั้งนี้ อาหลีได้ระบุเพิ่มเติมว่า การบวชในครั้งนี้เป็นความตั้งใจส่วนตัวของสามี ที่ต้องการบวชเงียบๆ เพื่อศึกษาพระธรรมและปฏิบัติอย่างสงบ จึงไม่ได้เรียนเชิญแขกมาร่วมพิธี พร้อมฝากขออภัยไว้ ณ โอกาสนี้ และเชิญชวนให้ร่วมอนุโมทนาบุญร่วมกัน

#สยามดารา #ตูมตามยุทธนา #ข่าวบันเทิง
“เบสท์ รักษ์วนีย์” ตัดพ้อหนูเหนื่อย! บอกชัดถ้า“พ่อบาส“สร้างเรื่องใหม่จะไม่ขอยุ่งแล้ว
เป็นอีกหนึ่งคู่พี่น้องบ้านคำสิงห์สุดกตัญญู ที่ครอบครัวก็คอยซัพพอร์ตมาตลอด สำหรับนักแสดง-ยูทูบเบอร์สาว เบสท์ รักษ์วนีย์ คำสิงห์ และน้องชาย โบ๊ท ภูวรักษ์ลูกสาว-ลูกชายของอดีตนักมวยชื่อดัง สมรักษ์ คำสิงห์

ล่าสุด 16 พ.ค ทั้งคู่ควงกันออกมาเปิดใจในรายการแฉโดยมีบางช่วงบางตอนที่ทั้งคู่ได้พูดถึงคุณพ่อ สมรักษ์ คำสิงห์ ว่าหลังจากที่พ่อป่วย ตอนนี้อาการดีขึ้นแล้วขับรถไปไหนมาไหนมาได้ พบปะเพื่อนฝูง -และยังมีประเด็นใหม่ๆ ต่อเนื่องมีโปรเจกต์ใหม่ๆ ตลอดเวลา ถ้าพ่อไปสร้างเรื่องอะไรใหม่ หนูขอไม่ยุ่งแล้ว เรื่องสร้างหนี้ให้มันจบที่คดีลอตเตอรี่20ล้าน ก็พอแล้ว ให้หนูได้ใช้ชีวิตบ้าง"

-ก็วอนชาวเน็ตและคนไทยถ้าวันนึงมันเกิดขึ้น แล้วหนูไม่ช่วย ก็อยากให้ย้อนดูว่าที่ผ่านมาหนูช่วยมาเต็มที่แล้ว คดีลอตเตอรี่ก็เคลียร์ให้จบแล้ว

-ก็เหลือโปรเจกต์น้องอายุ 17 ก็ไม่รู้คดีจะจบปีนี้หรือปีหน้า แต่ก็ให้จบแค่โปรเจกต์นี้ หลังจากนี้มีโปรเจกต์อะไรเกิดขึ้นอีกก็ขอไม่ยุ่งอีกแล้ว

-"หนูก็บอกเขาว่าหนูเหนื่อย เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมดมันก็ไม่ใช่สิ่งที่หนูทำ ก็อยากให้ช่วยเห็นหน่อยว่าสิ่งที่ทำมันไม่ใช่ว่าหนูมีความสุข กับการที่หาเงินได้เป็นล้าน แต่ต้องมาเสียไปแบบที่หนูไม่ได้ใช้เลย -ขณะที่ทาง “โบ๊ท” ก็บอกอีกว่าก็สุดลิมิต สุดจะทนกับคนอย่างเธอแล้วนะครับ ก็ถ้าพ่อมีโปรเจกต์หน้า ก็เดี๋ยวให้ตำรวจช่วยเอาแล้วกัน

#เบสท์รักษ์วนีย์ #สยามดารา
ดุจเทพสร้าง! หน้าไทยแท้ที่ใฝ่ฝัน แพรว แพรววณิยชฐ์ แอร์ไทม์ฉ่ำ เทสต์ฝอตัวจริง แจ้งเกิดพรมแดงคานส์2025
เข้าสู่เทศกาลพรมแดงเมืองคานส์2025 อย่างเป็นทางการ สำหรับเทศกาลงานพรมแดงระดับโลกที่ทุกคนรอคอย จุดเช็คอินความปังที่แจ้งเกิดซุปตาร์ไทยแลนด์มาแล้วมากมาย ที่ปีนี้ฉลองความยิ่งใหญ่กับ Cannes Film Festival ครั้งที่ 78 ได้เวลาเดบิวต์แจ้งเกิดครั้งแรกของนางงามตัวแม่สุดปัง ดีกรีมงใหญ่นานาชาติ "แพรว-แพรววณิชยฐ์ เรืองทอง"

ที่คืนสังเวียนหยิบส้นสูงกลับมา Road To Miss Universe Thailand 2025 ผู้เข้าประกวดตัวแทน กรุงเทพมหานคร งานนี้ไม่ธรรมดาขอประกาศศักดาความสวยตะโกนระดับโลก เหยียบพรมแดงเมืองคานส์ครั้งแรกในชีวิต ทำการบ้านพกความสวย Thai Power เรียกแสงแฟลชจากสื่อต่างชาติ ตรงตามธีมตามกฎขอบังคับของงานหนัง ห้ามชุดโป๊ ห้ามชุดใหญ่ สวยแพงแบบผู้ดีเมืองน้ำหอม "สาวแพรว" เลือกนำเสนอผลงานการรังสรรค์ และ เหยียบจักรโดยแบรนด์ไทยชื่อดัง “โพเอม” (POEM) จากผลงานการออกแบบของ "ฌอน–ชวนล ไคสิริ” ผู้ก่อตั้งและครีเอทีฟไดเรกเตอร์ประจำแบรนด์ “โพเอม” (POEM) แบรนด์แฟชั่นสัญชาติไทย กับวลีฮิตตลอดกาล "อยากขึ้นยานแม่ต้องแวร์โพเอม" ที่ออกแบบใหม่สำหรับพรมแดงคานส์2025นี้

โดยเฉพาะ ยิ่งได้มาอยู่ในร่างทอง ตัดกับสีผิวน้ำผึ้งไทยแท้ร้อยเปอร์เซ็นต์ของ "สาวแพรว" ทำเอาคอมเมนต์โลกโซเชียลพากันฉีดยาว่า "สวยราวเทพีเทพนิยายกรีก" หรือ "เทพสร้าง" โดยโลกออนไลน์พากันลงความคิดเห็นเป็นเอกฉันท์ว่า "แพรว" คือเครื่องหน้าไทยแท้ที่หลายคนใฝ่ฝัน พรีเซ็นต์ความเป็นไทยสู่สายตาชาวโลกที่สุด! ถือเป็นการแจ้งสมบูรณ์แบบกับปรากฎโฉมบนพรมแดงครั้งแรกในรอบพิเศษ ภาพยนตร์ Mission : Impossible The Final Reckoning เธอก็ทำผลงานได้ดีแบบสอบผ่าน ไม่จมไม่หายไม่ตายตากล้องGetty Images ชนิดที่ว่ากล้องหลักของงานพรมแดงยังต้องตามจับ ทุกย่างก้าว ในช่วงชุลมุนฝูงชน "สาวแพรว" ก็ยังได้แอร์ไทม์ฉ่ำๆ กับความสวยแบบฉบับสาวไทยหน้าคม และเดรสสีขาว เรียบหรู เทสต์ฝอไม่เผื่อใจ เรียกได้ว่าเพราะคานส์2025คือของหวาน "สาวแพรว" ไทยแลนด์ คนนี้ไม่ทำให้ผิดหวังจริงๆ

#แพรววณิชยฐ์พิชิตมง #praewwanichhxCannes2025 #Cannes2025 #CannesFilmFestival #RedCarpet
ค่ำคืนแห่งเกียรติยศ "คมชัดลึก อวอร์ด ครั้งที่ 21" เชิดชูเกียรติคนบันเทิงแห่งปี
กรุงเทพฯ – ปิดฉากอย่างยิ่งใหญ่ด้วยความประทับใจและความทรงจำอันงดงาม กับค่ำคืนแห่งความภาคภูมิใจของคนในแวดวงอุตสาหกรรมบันเทิงไทย สำหรับงานประกาศรางวัล "คมชัดลึก อวอร์ด ครั้งที่ 21" (KOM CHAD LUEK AWARDS 2025) จัดขึ้นเมื่อวันพุธที่ 14 พฤษภาคมที่ผ่านมา ณ ทรู ไอคอน ฮอลล์ ชั้น 7 ไอคอนสยาม เพื่อยกระดับมาตรฐานผลงานบันเทิงไทย และเชิดชูเกียรติบุคลากรทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลัง ผู้ทุ่มเทสร้างสรรค์ผลงานคุณภาพสู่สาธารณชน บรรยากาศภายในงานเต็มไปด้วยความคึกคัก มีแฟนคลับจำนวนมากมาเฝ้ารอแน่นขนัดตั้งแต่ห้างเปิด รอให้กำลังใจศิลปิน-นักแสดงจากทั่วฟ้าเมืองไทย รวมถึงบุคลากรในแวดวงบันเทิง ที่มาร่วมเป็นสักขีพยานในการเชิดชูเกียรติผู้สร้างสรรค์ผลงานอันโดดเด่นแห่งปี อาทิ หนุ่ม กรรชัย, แอฟ ทักษอร, เป้ อารักษ์, พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง, ภัทราวดี มีชูทน (ศิลปินแห่งชาติ), คลาวเดีย จักรพันธุ์ , เมทินี กิ่งโพยม, ทราย เจริญปุระ, Jeff Satur, BOWKYLION, ญดา นริลญา, ฟิล์ม ธนภัทร, พีช พชร, ป๊อก ปิยธิดา, ตั๊ก นภัสกร, เอม ภูมิภัทร, เบนจามิน โจเซฟ, ณัฏฐ์ กิจจริต, ท็อป ทศพล, เป้ย ปานวาด, โดม ปกรณ์ ลัม, ต้นหอม ศกุนตลา, รัศมีแข, ป๊ายปาย โอริโอ้, INK WARUNTORN, ดัง พันกร, 4EVE, ATLAS, ทับทิม อัญรินทร์, ณัฏฐ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา, เดียร์น่า ฟลีโป, D Gerrard, แก๊ป ธนเวทย์, ฟอร์ด ฐิติพงศ์, พีท วสุธร ฯลฯ นอกจากการประกาศรางวัลที่ทุกคนรอคอยแล้ว ภายในงานยังมีการแสดงสุดพิเศษจาก CHUANG ASIA S2 เรียกเสียงกรี๊ดสนั่นฮอลล์ ต่อด้วย ญดา นริลญา ที่โชว์เสียงเพราะๆ ในเพลงประกอบภาพยนตร์ ‘นากรักมาก…ม๊ากมาก’ และต่อด้วยความสนุกสนานแบบม่วนจอยจาก หมอลำไอดอล ก่อนจะปิดท้ายด้วยการแสดงสุดฮอตจากสองกลุ่มศิลปินมาแรง 4EVE และ ATLAS

งานประกาศรางวัล "คมชัดลึก อวอร์ด ครั้งที่ 21" ได้รับการสนับสนุนจาก ลอตเตอรี่พลัส, กระทรวงวัฒนธรรม, กรมส่งเสริมวัฒนธรรม, THACCA (Thailand Creative Culture Agency), บริษัท ศรีนานาพร มาร์เก็ตติ้ง จำกัด (มหาชน), สายการบินแอร์เอเชีย, ตลาดยิ่งเจริญ, บริษัท สยาม ไวน์เนอรี่ จำกัด, ยาสีฟัน เทพไทย, สายยาง ต้อง TOYOX by TTT Corporation, บริษัท วี บียอนด์ ดีเวลอปเม้นท์ จำกัด, บริษัท ไทยนครพัฒนา จำกัด, เมืองไทยประกันภัย, กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์, บริษัท แบงคอก เมโทร เน็ทเวิร์คส์ และ ไอคอนสยาม ร่วมกันผลักดันให้เกิดงานอันทรงคุณค่านี้ เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนผลงานที่มีคุณภาพ และขับเคลื่อนอุตสาหกรรมบันเทิงไทยให้ก้าวไกลสู่ระดับนานาชาติ

สรุปผลรางวัล "คมชัดลึก อวอร์ด ครั้งที่ 21" (ประจำปี 2567)
รางวัลเกียรติยศ
• รางวัลเกียรติยศ สาขาภาพยนตร์ นักแสดงทรงคุณค่าตลอดกาล: ภัทราวดี มีชูธน (ศิลปินแห่งชาติ)

• รางวัลเกียรติยศ สาขาละคร
นักแสดงทรงคุณค่าตลอดกาล: พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง
รางวัลพิเศษจากผู้สนับสนุน • รางวัลละคร-ซีรีส์-ภาพยนตร์ สร้างสรรค์ ศิลปวัฒนธรรม: ละครโทรทัศน์ "หนึ่งในร้อย" (ช่อง 3)
• รางวัลแต่งกาย ส่งเสริมอัตลักษณ์ไทย ยอดเยี่ยม: เดียร์น่า ฟลีโป
รางวัลประเภท เพลงไทยสากล ยอดเยี่ยม (6 สาขา) • ศิลปินหน้าใหม่ ยอดเยี่ยม: DREAMGALS - เพลง Sorry (YUPP!)

• ศิลปินหญิงเดี่ยว ยอดเยี่ยม: BOWKYLION - เพลง ส่วนต่าง (What the Duck)

• ศิลปินชายเดี่ยว ยอดเยี่ยม: Jeff Satur - เพลง ซ่อน(ไม่)หา (Wayfer Records)
• T-POP ยอดเยี่ยม: 4EVE - เพลง Hot2Hot (XOXO Entertainment)

• ศิลปินกลุ่ม ยอดเยี่ยม: Taitosmith - เพลง แอบเก็บความในใจไว้ภายในแว่นเรย์แบนสีดำ (GENELAB)
• เพลงไทยสากล ยอดเยี่ยม: Jeff Satur - เพลง ซ่อน(ไม่)หา (Wayfer Records)
รางวัลประเภท ภาพยนตร์ไทย ยอดเยี่ยม (7 สาขา) • บทภาพยนตร์ ยอดเยี่ยม: ทศพล ทิพย์ทินกร, พัฒน์ บุญนิธิพัฒน์ - หลานม่า (GDH) • ผู้กำกับภาพยนตร์ยอดเยี่ยม: บอส กูโน - วิมานหนาม (GDH ร่วมกับ ใจ สตูดิโอ)

• นักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยม: ทศพล หมายสุข - วัยหนุ่ม 2544 (เนรมิตรหนัง ฟิล์ม)
• นักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยม: สีดา พัวพิมล - วิมานหนาม (GDH)
• นักแสดงนำชายยอดเยี่ยม: วรกมล ซาเตอร์ - วิมานหนาม (GDH ร่วมกับ ใจ สตูดิโอ)
• นักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม: อิงฟ้า วราหะ - วิมานหนาม (GDH ร่วมกับ ใจ สตูดิโอ) • ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม: หลานม่า (GDH)

รางวัลประเภท ละครโทรทัศน์-ซีรีส์ ยอดเยี่ยม (8 สาขา) • บทละคร-ซีรีส์ ยอดเยี่ยม: พิมพ์มาดา พัฒนอลงกรณ์, วรรณถวิล สุขน้อย, พิมสิรินทร์ พงษ์วานิชสุข - สงครามสมรส (ช่องวัน31)

• ผู้กำกับละคร-ซีรีส์ยอดเยี่ยม: ชาติชาย เกษนัส, เยาวลักษณ์ เมฆกุลวิโรจน์ - เมืองลับแล (ช่องเวิร์คพอยท์)

• นักแสดงดาวรุ่งยอดเยี่ยม: กฤติน กิจจารุวรรณกุล, นเรศ พร้อมเผ่าพันธุ์ - PIT BABE THE SERIES (CHANGE2561)

• นักแสดงสมทบชายยอด
เยี่ยม: พันธ์ชนกชนม์ พันธ์สังข์ - สงครามสมรส (ช่องวัน31)
• นักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยม: เมทินี กิ่งโพยม - ทิชา (ช่องวัน31)

• นักแสดงนำชายยอดเยี่ยม: ศรัณย์ นราประเสริฐกุล - Good Doctor หมอใจพิเศษ (True CJ)

• นักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม: ทักษอร ภักดิ์สุขเจริญ - สงครามสมรส (ช่องวัน31)
• ละครโทรทัศน์-ซีรีส์ยอดเยี่ยม: สงครามสมรส (ช่องวัน31)
รางวัลประเภทยอดนิยม หรือ POPULAR VOTE (9 สาขา) • พิธีกร ยอดนิยม: หนุ่ม กรรชัย
• LGBTQ+ ยอดนิยม: ป๊ายปาย โอริโอ้
• ลูกทุ่ง-หมอลำ ยอดนิยม: ไรอัล กาจบัณฑิต
• นักร้องเพลงไทยสากล ยอดนิยม: นุนิว ชวรินทร์ • T-POP ยอดนิยม: 4EVE • นักแสดงชาย ยอดนิยม: พีท วสุธร
• นักแสดงหญิง ยอดนิยม: หลิงหลิง คอง
• คู่จิ้น ยูริ ยอดนิยม: ฟรีน สโรชา - เบคกี้ รีเบคก้า

• คู่จิ้น วาย ยอดนิยม: ฟอร์ด ฐิติพงศ์ - พีท วสุธร

ตลอดระยะเวลากว่า 2 ทศวรรษ "คมชัดลึก อวอร์ด" ได้ยืนหยัดเป็นหนึ่งในรางวัลอันทรงคุณค่าและได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางในวงการบันเทิงไทย และจะยังคงเป็นเวทีสำคัญในการเชิดชูเกียรติ สร้างขวัญและกำลังใจ พร้อมส่งต่อแรงบันดาลใจให้คนทำงานทุกภาคส่วน ได้สร้างสรรค์ผลงานคุณภาพสู่สายตาประชาชนต่อไป #Komchadluek #KomchadluekAwards #21thKomChadLuekAwards สามารถติดตามข่าวสารและความเคลื่อนไหวได้ทาง: www.komchadluek.net FB: @komchadluek / IG: @komchadluek_official / X: @kom_chad_luek / YT: @KOMCHADLUEK
“เด่นคุณ งามเนตร” ลั่น! ตอนนี้โสดสนิท ไม่มีสเปคตายตัว พร้อมเผยมุมมองเรื่องชื่อเสียง
รายการ "เกิดมาเว่า" สัปดาห์นี้ หนุ่ม ม้าม่วง ได้โคจรมาเจอกับพระเอกสุดหล่อคนบ้านเดียวกันอีกแล้ว เด่นคุณ งามเนตร นักแสดงชาวอุบลราชธานี ที่มาเปิดเรื่องราวชีวิตตั้งแต่วัยเด็กที่ค่อนข้างดื้อ ความผูกพันกับบ้านเกิดและครอบครัว ร่วมไปถึงการเข้าสู่วงการบันเทิง มุมมองที่มีต่อชื่อเสียงและการใช้ชีวิตอย่างมีความสุข ที่ต้องเรียนรู้และปรับตัวอยู่เสมอ พร้อมเผยเรื่องหัวใจที่ตอนนี้โสด สนิท ?!

ของดีจังหวัดอุบลราชธานีคืออะไร ?
เด่นคุณ : ก็ต้องเป็นผมสิ (หัวเราะ) สมัยก่อนที่ผมอยู่อุบลฯ ก็จะขี่มอเตอร์เลาะทุ่งศรีเมือง ไปกินปากหม้อ Robot เจ๊หุ่นยนต์ มีน้ำอัดลมวุ้น ด้วย

ได้กลับบ้านบ้างไหม ?
เด่นคุณ : น้อยครับ ปีหนึ่งกลับครั้งหนึ่ง แต่พวกเพื่อนๆของผมกลับกันแทบทุก เดือน

ได้ข่าวว่ามาอยู่กรุงเทพฯตั้งแต่อายุ 18 ปี ความทรงจำในอดีตตอนอยู่อุบลฯเป็นยังไง ?
เด่นคุณ : เวลาผ่านไปทุกอย่างมันเป็นไปหมด แต่ผมจะโชคดีหน่อยมีเพื่อนจากอุบลฯจะมาสังสรรค์กันที่บ้านกรุงเทพฯบ่อยๆ มาทำอะไรกินกันย่างหมูย่างเนื้อ

ชีวิตครอบครัวเป็นยังไงตอนนี้ ?
เด่นคุณ : ปัจจุบันพ่อแม่ก็มีความสุข ไม่ต้องห่วงเลย ไม่มีอะไรต้องกังวลใจ เขาก็เป็นหนึ่งในกำลังใจที่ดีที่สุด เวลาเรารู้สึกว่าเรามีปัญหากังวลไม่ว่าจะเรื่องอะไร เวลาคุยกับเขาจะมีคำตอบที่ถูกต้องให้เราตลอด พ่อแม่ก็จะอยู่บ้านที่ต่างจังหวัด นานๆมาหาที ครับ

ตอนเด็กๆ ได้ข่าวว่าแสบมาก ?
เด่นคุณ : ผมชอบชีวิตวัยเด็ก ตอนที่ดื้อมากๆ มันไม่ต้องคิดอะไร มีความสุขจะเล่นอะไรทำอะไร แต่ว่ายังไงมนุษย์เรามันก็คือสัตว์สังคมเราจะดื้อไม่สนใจใครไม่ได้ เราเข้ามากรุงเทพฯ ก็ต้องขอบคุณวงการบันเทิง ขอบคุณทุกคนที่ทำให้เป็นเด่นคุณในวันนี้ ซึ่งมีทั้งดีและไม่ดีเป็นประสบการณ์ชีวิต เราได้เรียนรู้เติบโต มันคือศิลปะ คือความรู้สึก ได้เรียนรู้จากพี่น้องในวงการเพื่อนฝูง ทุกคน

เข้าวงการบันเทิงมาได้ยังไง ?
เด่นคุณ : ตอนนี้ยังอยู่กับพี่เอ ศุภชัย เหมือนเดิม แต่จะบอกว่าทุกอย่างมันมีเรื่องราวสตอรี่ ตั้งแต่เราเป็นเด็กผมได้ไปงานอีเวนท์รถยนตร์งานหนึ่งก็มีแมวมองโทรมาตอนนั้นเราอยู่ ม.1-2 ว่าพี่เป็นผู้จัดการของ พลอย ชิดจันทร์ นะ ก็เล่าให้แม่ฟัง แม่ก็บอกให้เรียนหนังสือเถอะ ทีนี้เรื่องพวกนี้ก็เลยอยู่ในหัวเราว่ามีสิทธิ์ที่จะได้เป็นนักแสดงนะ จนมา ม.4 เขามาหานักแสดง กอล์ฟ ธัญญ์วาริน เขาก็เดินทางไปภาคอีสานตามโรงเรียนให้ส่งคนมาแคสติ้ง ในสมัยก่อนการจะมาเป็นดารามันยิ่งใหญ่มาก ห้องผมก็ส่งผมไปให้คนที่หน้าตาดีสุด ก็ได้ไปเล่นหนังตอนนั้นพี่ธันวาเป็นพระเอก แล้วผู้จัดการพี่ธันวาเขาก็บอกว่ามานั่งตรงนี้เดี๋ยวจะพาไปหาพี่เอ หลังจากนั้นพอจบ ม.6 รู้สึกว่าตัวเองไม่อยากอยู่บ้าน ก็ได้เข้ากรุงเทพฯ มาดูมหาวิทยาลัยกับเพื่อน ซึ่งโรงเรียนพาไปทัศนศึกษา พอจะพากันนั่งรถกลับ ผมไม่กลับ แล้วก็ให้น้าพาผมไปบ้านพี่เอ ช่วงนั้นเราก็ค่อนข้างดื้อ พ่อแม่ก็เข้มงวดเลยไม่อยากอยู่บ้าน จากนั้นพี่เอก็พาไปเรียนที่ ม.รังสิต

ช่วงแรกที่เข้าวงการดังมาก แต่พอเวลาผ่านไปชื่อเสียงเราก็ลดลง เคลียร์กับความรู้สึกตัวเองยังไง ?
เด่นคุณ : เข้าวงการมาตอนแรกๆ ผมไม่ได้เชื่อมั่นในความเป็นดาราเลย เขาบอกว่าผมดื้อ เพราะผมไม่เข้าใจว่ามันพิเศษยังไง หลังๆก็เริ่มเข้าใจแล้ว ก็อาจเป็นจุดที่ให้เรามาเป็นอย่างทุกวันนี้ ทุกวันนี้ด้วยความที่เราทำงานในวงการมานาน แล้วได้เห็นว่าความสำเร็จมันเกิดขึ้นเรื่อยๆ พอมันเกิดขึ้นสักหน่อยมันก็จะว่างเปล่า เหมือนเวลาเราได้ของที่อยากได้มากใหม่ๆ เราก็เห่อ แต่พอสักพักก็รู้สึกว่างเปล่า เรื่องชื่อเสียงผมก็ไม่รู้เหมือนกันก็อาจจะเป็นบุญของผม ผมไม่ได้ไปสังเกตว่างานน้อยลงหรือชื่อเสียงน้อยลง รู้แค่ว่าเราก็เฉยๆ ด้วยความที่เราใช้คำว่าหลงตัวเองได้ไหมนะประมาณหนึ่ง ว่าตัวเราก็มีความพิเศษของเราอยู่แล้ว เราดีใจที่ได้เกิดมาเป็นเด่นคุณมากๆ

เรื่องความรัก ?
เด่นคุณ : โสดสนิทครับ ไม่มีสเปคครับ

สามารถติดตาม “เกิดมาเว่า” ได้ที่ช่องทาง Facebook: WE DO , Youtube: WE DO วันอังคาร เวลา 18.00 น.

คลิกชมคลิปย้อนหลัง : https://www.youtube.com/watch?v=yr9AptNRxE8&ab_channel=WEDO
“เจนนี่ รัชนก” โร่แจงเรื่องชื่อลูกคนที่ 2 ยันไม่ขอเปลี่ยนตามใจชาวเน็ต ลั่นลูกตัวเองอยากตั้งเอง!
หลังจากนักร้องสาว "เจนนี่ รัชนก" หรือ "เจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น" ออกมาเฉลยชื่อลูกสาวคนที่ 2 โดยจะตั้งชื่อน้องเจ็นญ่า โดยพี่สาวคนโตชื่อ "น้องยูจิน" แต่ไม่วายเกิดประเด็นดราม่าหลังมีชาวเน็ตแห่คอมเมนต์แนะให้เปลี่ยนชื่อกันสนั่น

ล่าสุด เจนนี่ ได้ออกมาโพสต์ข้อความเกี่ยวกับหลายคนที่อยากให้เปลี่ยนเธอเปลี่ยนชื่อของลูกสาวคนที่2 โดยระบุข้อความว่า “JENYA = เจ็นญ่า JANEY = เจนนี่ ไม่เหมือนค่ะ แค่คล้ายล่าสุดอีให้ เปลี่ยนชื่อ”

ซึ่งทางเจนนี่ได้เขียนต่อผ่านคอมเมนต์ว่า “ขอบคุณทุกชื่อค่า น่ารักหมดเลย ถ้าท้องอีกจะเอามาพิจารณานะคะ แต่ท้องนี้น้องชื่อ Jenya ค่ะ ด้วยความเคารพค่ะ ,

ตอนแรกภาษาไทยอยากให้เขียน เจนญ่า แต่มีคนแนะนำว่าชื่อเหมือนแม่ตัวแรกไม่ดี เลยปรับให้เป็น เจ็นญ่า เพื่อจะได้แค่คล้ายไม่ต้องเหมือน แต่การออกเสียง JEN จะสั้นหวา JANE อยากขอถามอีกครั้งว่า ตั้งชื่อลูกคล้ายแม่ แล้วคล้องกับครอบครัวคือผิดไหมคะ , ขอไม่เปลี่ยนตามใจชาวเน็ตนะคะ ไม่ได้ดื้อค่ะ แต่ลูกตัวเองอยากตั้งเอง อีกอย่างคือ ตั้งเสร็จแล้ว ประกาศแล้ว ชอบแล้วค่ะ”
“วู้ดดี้” ภูมิใจ! เดินพรมทองในชุดไทย สะกดทั้งฮอลลีวูด ในงาน Gold Gala 2025 เวทีเอเชียระดับโลก
พิธีกรและครีเอเตอร์ชื่อดัง “วู้ดดี้ วุฒิธร มิลินทจินดา” เป็นชาวไทยได้รับเชิญเข้าร่วมงาน Gold Gala 2025 งานระดับนานาชาติที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของชาวเอเชียแปซิฟิกในสหรัฐฯ ซึ่งรวบรวมบุคคลสำคัญจากหลากหลายวงการ ทั้งเทคโนโลยี ความบันเทิง และแฟชั่น เพื่อเฉลิมฉลองความสำเร็จและเชิดชูความหลากหลายทางวัฒนธรรม ภายในงานมีการมอบรางวัล A100 ซึ่งเป็นรางวัลอันทรงเกียรติที่ยกย่องบุคคลผู้ทรงอิทธิพลและสร้างผลกระทบเชิงบวกให้กับชุมชนเอเชียแปซิฟิก พร้อมด้วยแขกคนสำคัญและผู้นำทางความคิดนับร้อยจากทั่วโลกที่มารวมตัวกัน และร่วมเดินพรมทองสุดหรูและเอ็กซ์คลูซีฟ ภายใต้ธีม Modern Gold ณ Dorothy Chandler Pavilion เมืองลอสแอนเจลิส ซึ่งจัดขึ้นเมื่อวันเสาร์ที่ 10 พฤษภาคม 2568 ที่ ผ่านมา

โดย วู้ดดี้ วุฒิธร มาในนามคนเอเชียที่ร่วมสนับสนุนให้เกิดคอนเทนส์ระดับโลกโดยคนเอเชีย อาทิ งาน S2O Songkran Music Festival เทศกาลดนตรีระดับโลกที่นำเสนอวัฒนธรรมสงกรานต์ไทยสู่สายตาผู้ชมระดับนานาชาติและส่งเสริมภาพลักษณ์ความเป็นไทยไปสู่อเมริกาอย่างภาคภูมิใจ และอื่นๆอีกมากมาย สำหรับค่ำคืนอันทรงเกียรตินี้ วู้ดดี้ ปรากฏตัวอย่างสง่างาม สวมชุดไทยประยุกต์ ชุดไทยร่วมสมัยงานผสานช่างดั้งเดิมเข้ากับดีไซน์สมัยใหม่ สะท้อนเอกลักษณ์ไทยผ่านผ้าไหมทอมือและลายกนกงานฝีมือชั้นสูงที่ร่วมสมัย ลวดลายมงคลแห่งศิลปะไทยเปรียบเหมือนเปลวไฟสื่อถึงความรุ่งเรือง ความงาม และพลังชีวิต ถ่ายทอดโดยช่างฝีมือชั้นสูงเพื่อสืบสานจิตวิญญาณแห่งความมั่นคงและความเจริญรุ่งเรือง และถือกระเป๋าย่านลิเภาที่ถักด้วยมืออย่างประณีตด้วยลวดลายละเอียดแบบโบราณทั้งใบด้วยผู้เชี่ยวชาญชั้นครู ทำลวดลายด้วยวิธีการถมเงินซึ่งเป็นเทคนิคแต่โบราณของทางใต้ เรียกว่าถมเงินนคร ที่สะท้อนเอกลักษณ์ความเป็นไทย ที่ออกแบบโดย เจี๊ยบ พิจิตรา บุณยรัตพันธุ์ เจ้าของแบรนด์ Atelier Pichita ดีไซเนอร์แถวหน้าของไทยผู้คร่ำหวอดในวงการแฟชั่นมากว่า 42 ปี อีกทั้งยังเป็นผู้ออกแบบฉลองพระองค์สมเด็จพระพันปี และพระราชินีองค์ปัจจุบัน

วู้ดดี้ วุฒิธร กล่าวว่า…. การที่ได้มาร่วมงาน GoldGala ที่ LA ถือเป็นความภาคภูมิใจที่ได้เห็นคนไทยหลายคนที่สร้างชื่อให้กับเมืองไทย ทั้งนักแสดงและผู้ประกอบการมากมายที่ภูมิใจสุดก็คือทุกคนทักว่านี่ชุดไทยใช่มั้ย #GoldGala #GoldHouse
"วีนา ปวีนา มิสยูนิเวิร์สสระบุรี" เริ่มภารกิจแรกร่วมงานกับกระทรวงวัฒนธรรมในวันวิสาขบูชา
วีนา ปวีนา ซิงห์ Miss Universe Saraburi 2025 และ ทูตการท่องเที่ยวสระบุรี เริ่มภารกิจแรกหลังคว้ามงกุฎโดยเข้าร่วมกับทีมงานจากหอมนสิการสระบุรี เข้าร่วมพิธีเจริญพระพุทธมนต์ ตักบาตร และเวียนเทียน เนื่องในเทศกาลวันวิสาขบูชา พุทธศักราช 2568 ณ วัดสุทัศนเทพวราราม เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร

ซึ่งงานนี้มีนางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ผู้แทนหน่วยงาน องค์กรเครือข่ายทางพระพุทธศาสนาเป็นประธานในพิธีฝ่ายฆารวาส และพระพรหมวชิรมุนี เจ้าอาวาสวัดสุทัศนเทพวราราม ประธานพิธีฝ่ายสงฆ์ โดยทำพิธีร่วมกับ นายชัยพล สุขเลี่ยม อธิบตีกรมการศาสนา นายประสพ เรียงเงิน ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม

ภายในงานหลังจบพิธีมีการเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ตำหนักสมเด็จพระอริยวงศาคตญาญาณ สมเด็จพระสังฆราช (แพ ติสสเทวมหาเถร) หลังจากนั้นเยี่ยมชมการสาธิตการกวนข้าวมธุปายาส จากสมาคมฮินดูสมา และมูลนิธิข้าวขวัญ และนิทรรศการให้ความรู้เรื่องวันวิสาขบูชา จากมูลนิธิโนอิ้ง บุดด้า เพื่อการปกป้องพระพุทธศาสนา และ เยี่ยมชมร้านจำหน่ายสินค้าและผลิตภัณฑ์จากชุมชมชนคุณธรรมพลังบวร และร้านค้าของดีประจำเขตกรุงเทพมหานคร

โดย วีนา เผยความรู้สึกการมาร่วมงานครั้งนี้ว่า "รู้สึกดีใจที่ได้มาร่วมงานนี้ ถือเป็นศิริมงคลแรกหลังจากคว้าตำแหน่ง มิสยูนิเวิร์สสระบุรี หลังจากนี้ก็พร้อมที่จะทำตามความตั้งใจในการพิชิตมง miss universe thailand ให้ได้สำเร็จแน่นอน" วีนากล่าว
"ตู่ ปิยวดี" คลอดลูกคนแรก ตั้งชื่อ “เหมียวหมี่“ น่ารักน่าชังสุดๆ
ต้องขอแสดงความยินดีกับเมื่อผู้จัดละครคนเก่ง "ตู่ ปิยวดี มาลีนนท์" ที่ล่าสุด 11 พ.ค ได้เป็นคุณแม่ป้ายแดงเต็มตัวแล้ว โดยได้คลอดลูกสาวคนแรกเป็นที่เรียบร้อยแล้วและได้ตั้งชื่อว่า น้อง “เหมียวหมี่“ ทำเอาคุณพ่อ “มาวิน ทวีผล”ยิ้มไม่หุบเลยทีเดียว

แถมงานนี้คุณแม่ยังได้ลั่นไว้ด้วยว่า “ดูกันชัดๆอีกทีว่า “เหมียวหมี่“ หน้าเหมือนใคร”

โดย "ตู่ ปิยวดี" ได้โพสต์ภาพครอบครัวพ่อแม่ลูก พร้อมข้อความ "หัวหน้าห้องรายงานตัวค่ะ ใหญ่สุดใน ward สังเกตเห็นง่าย ดูกันชัดๆอีกทีว่า “เหมียวหมี่“ หน้าเหมือนใคร #MawinWadeeBaby"

#น้องเหมียวหมี่ #สยามดารา #ข่าวบันเทิง #ตู่ปิยวดี #มาวิน
เบสท์ ชนิดาภา เปิดใจหลังถูกแก๊งมิจฉาชีพหลอก 1.2 ล้าน เผยอยากเล่าเป็นอุทาหรณ์-เตือนสติ
หลังจาก เบสท์ ชนิดาภา พงศ์ศิลป์พิพัฒน์ ดารานักแสดง เดินทางเข้าแจ้งความกับตำรวจ กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ บก.ปอท. หลังถูกมิจฉาชีพหลอกให้โอนเงินสมัครงานรีวิวโรงแรม อ้างเป็นแคมเปญรีวิวร่วมกับ Agency ชื่อดัง สูญเงินไปกว่า 1.2 ล้านบาท

ล่าสุด (11 พ.ค.68) เบสท์ ได้โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวเล่าเล่าอุทาหรณ์ เสียรู้มิจฉาชีพ สูญ 1.2 ล้าน เผยติดกับดัก ระบุว่า "จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้ เบสท์ มีเวลามาคิดทบทวนว่า เฮ้ย! เราโดนไปได้ยังไง ทั้งๆที่ “ปกติ” เป็นคนระวังตัวมาก ไม่เคยหลงเชื่ออะไรง่ายๆ   แต่เอาเข้าจริง จะใครหน้าไหน วันนึงที่เราหลวมตัวเข้าไปสู่โลกของมิจ มันเหมือนถูกดึงเข้าไปให้ติดกับดัก เพราะสนใจทำงานและอยากมีรายได้ (ซึ่งในกรณีนี้ไม่ได้เสียค่าสมัครนะคะ คนเข้าใจผิดกันเยอะ) และพวกนี้มืออาชีพทำงานเป็นทีม เล่นกับความรู้สึกคน กดดันเรื่องเวลา หน้าม้าก็รุมพิมพ์ต่อว่าเพื่อบีบให้เราต้องทำเพื่อส่วนรวม
 
ยอมรับว่า ณ เวลานั้น “ขาดสติ” และมัวแต่ใจจดใจต่อในการอยากได้เงินตัวเองคืน ทำให้โอนต่อ โอนเพิ่ม โดยไม่ทันได้ฉุกคิดหรือไหวตัวช้าไปมาก จนยอดความเสียหายสูงไปถึงหลักล้าน
 
ไม่มีใครอยากตกเป็นเหยื่อ ไม่มีใครอยากเสียค่าโง่ แต่ในเมื่อสิ่งนี้มันเกิดขึ้นแล้ว เราก็ต้องตั้งรับและยอมรับความจริงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และแก้ไขปัญหาต่อ   โชคดีที่คนในครอบครัวและคนรอบตัวไม่มีใครเหยียบย่ำซ้ำเติมหรือสมน้ำหน้า และบอกว่าต่อไปมีอะไรต้องรีบปรึกษาคนในครอบครัวหรือคนใกล้ตัว อย่ากลัวที่จะบอกหรือเล่า และอย่าแก้ไขปัญหาด้วยตัวเองคนเดียว ครั้งนี้ถือเป็นบทเรียนครั้งใหญ่ที่สุดในชีวิตที่เบสท์พลาดไปแล้วจริงๆ
 
ขอบคุณทุกคนที่ติดต่อเข้ามาทุกช่องทาง มาสอบถามถึงสภาพจิตใจ และให้กำลังใจ ทำให้รู้ว่ามีคนรอบตัวอีกหลายคนที่โดนแบบเบสท์ มีทั้งแบบเดียวกันเป๊ะๆและแบบที่คล้ายๆกัน แต่แค่พวกเขาไม่กล้าที่จะออกมาเล่ามาแชร์ในสิ่งที่ตัวเองเจอ เพราะกลัวโดนด่าว่า “โง่” นี่แหละค่ะ   เข้าใจว่าต่างคนต่างมุมมองต่างความคิด และทุกวันนี้มีข่าวออกอยู่เรื่อยๆจริง แต่มิจก็มีรูปแบบใหม่ๆที่แยบยลขึ้นทุกวัน จนบางทีเราก็ตามไม่ทันทุกข่าว เพราะตอนที่ไปแจ้งความที่สน. ตำรวจยังบอกเลยว่ามีเคสแบบนี้ทุกวัน วันนึงไม่ต่ำกว่า 5 รายที่มาแจ้ง ซึ่งฟังแล้วน่าตกใจ เห็นใจ และไม่คิดว่าวันนึงเราจะตกเป็นเหยื่อมิจฉาชีพเหมือนกัน
 
อยากให้เรื่องราวครั้งนี้ของเบสท์ เป็นอุทาหรณ์เตือนภัยสำหรับคนที่อาจจะหลงกล หลวมตัว ก้าวขาเข้าไปแล้วให้รีบถอยออกมาให้ไวที่สุด ยอมทิ้งเงินที่เสียจำนวนนั้นไปเลย ไม่ต้องไปสงสารหรือเห็นใจใคร (เพราะมันคือหน้าม้าที่เตี๊ยมการละครมาอย่างดี มี story ของตัวเอง) อย่างน้อยจะได้ไม่ต้องเสียเงินไปเยอะกว่านี้ หรือถ้าใครไหวตัวทันแต่แรกคือ คุณโชคดีมากๆที่มีสติและยินดีด้วยจริงๆที่ไม่โดนหลอก ค่ะ
 
ขอให้ทุกคนที่เคยโดน กล้าแชร์ กล้าบอกต่อเรื่องราวของตัวเอง ถึงแม้ว่าโดนด่า โดนตำหนิแน่ๆ 70-80% ว่าไม่มีสมอง สวยแต่โง่ การศึกษาสูงซะเปล่า แต่มันคือการช่วยเหลือคนอื่นๆอีกทางนึง   อย่างน้อยวันนี้คนที่เห็นข่าวเบสท์ ก็จะได้ระมัดระวังตัวเมื่อเห็นเพจเหล่านี้หรือลักษณะงานแบบนี้เด้งขึ้นมาใน feed ของตัวเอง (ซึ่งเพจได้ปลิวไปเรียบร้อย สลายตัวไวมาก)
 
หวังว่าทุกคนจะเข้าใจในสิ่งที่เบสท์ต้องการจะสื่อและบอกต่อ ขอบคุณคนที่เข้าใจว่า “ไม่โดนกับตัวไม่มีวันรู้หรอก” เศรษฐกิจแบบนี้ สถานการณ์แบบนี้ ทำให้ทุกคนมีสิทธิ์ที่จะตกเป็นเหยื่อ ได้เหมือนกันหมด"  
ปูมัณฑนา อวยพรวันเกิด บอสพอล ขอให้ออกมาสู้คดีโดยเร็ว ได้คุยกับผู้ใหญ่หลายคน เชื่อน่าจะโดนแกล้ง?!
นักแสดงรุ่นใหญ่ อย่าง ปู มัณฑนา ได้ออกมาโพสต์ภาพผ่านทางอินสตาแกรมส่วนตัว เป็นภาพคู่กับบอสพอล และภาพหมู่ที่มีบอสพอลอยู่ในเฟรม พร้อมข้อความอวยพรวันเกิด

โดย ปู ได้โพสต์ข้อความเอาไว้ว่า ***มองต่างมุม*** สุขสันต์วันเกิดบอสพอลนะคะ 10.พค. ขอให้บอสพอล และบอสทุกคน ได้ออกมาต่อสู้คดี โดยเร็ว

วันนี้นะคะเรื่องระหว่างเราเป็นเรื่องเข้าใจผิด ตอนนี้พี่ปูได้คุยกับทีมงานบอสพอลเข้าใจกันดีแล้ว ต่อไปนี้มีอะไรให้ช่วยเหลือ หรือไปให้ข้อมูลใดๆ พี่ปูยินดีนะคะ อยากให้บอสพอลได้ออกมาต่อสู้ความจริง เพราะได้คุยกับผู้ใหญ่หลายๆ ท่านก็บอกว่าน่าจะ "โดนกลั่นแกล้ง" อยากให้บอสพอลได้ออกมาจัดการเหล่าฮีโร่ทั้งหลาย และบุคคลที่ปั่นข่าว เต้าข่าว ปั่นกระแส ที่ทำให้บอสพอล และ The Icon ได้รับความเสียหายค่ะ มีทนวยตัวหนึ่งปากดี บอกว่ามันคือจุดเริ่มต้นที่ไปร้องเรียนบอสพอล และ The Icon ตัวแรกๆ ค่ะ และมันสมน้ำหน้าบอสพอล ที่ทำให้บอสพอลเข้าคุกได้ค่ะ พี่ปูได้ให้ข้อมูลไว้กับเลขาบอสพอลแล้วค่ะ
ต่าย อรทัย ปลื้มใจ ใส่ชุดไทยประยุกต์ ถ่ายรูปที่หอไอเฟล ประเทศฝรั่งเศส
สมชื่อ “ผู้หญิงหัวใจอีสาน” จริงๆ สำหรับ ต่าย อรทัย ที่เจ้าตัวเพิ่งเดินทางไปถึงประเทศฝรั่งเศส เพื่อเตรียมตัวจะขึ้นคอนเสิร์ต “เรารักประเทศไทย ดนตรีไม่มีพรมแดน เฟสติวัล” ร่วมกับ พี สะเดิด, ตุ๊กกี้ สุดารัตน์, อ.สวัสดิ์ สารคาม และ หนึ่ง จักรวาล ในวันที่ 10 พฤษภาคมนี้ และพอมีเวลาว่าง ต่าย อรทัย จึงใส่ชุดไทยอีสานประยุกต์ เพื่อไปถ่ายรูปกับหอไอเฟล สัญญลักษณ์สำคัญของประเทศฝรั่งเศส เก็บไว้เป็นความทรงจำครั้งหนึ่งของชีวิต

ต่าย อรทัย เปิดเผยว่า “มายุโรป 3-4 ครั้งแล้ว แต่ละครั้งห่างกันหลายปี มาคราวนี้ เพื่อร่วมแสดงคอนเสิร์ต “เรารักประเทศไทย ดนตรีไม่มีพรมแดน เฟสติวัล” กับพี่น้องศิลปินหลายคน วันนี้มีโอกาสแวะมาที่หอไอเฟล อากาศเย็นพอสู้ได้ แต่ลมแอบแรงไปนิดนึง พอแดดหุบ คืออากาศเย็นเจี๊ยบเลย นักท่องเที่ยวก็เยอะ กว่าจะได้ภาพนี้ออกมาต้องรอจังหวะคนว่างๆ ตั้งใจใส่ชุดไทยอีสานประยุกต์ชุดนี้ มาถ่ายกับหอไอเฟลโดยตรงเลยค่ะ หวังว่าแฟนๆคงจะชื่นชอบกันนะคะ”

#ต่ายอรทัย #ข่าวบันเทิง #สยามดารา
ส่งกำลังใจ "เนท My Mate Nate" แจ้งข่าวป่วยเป็นมะเร็งผิวหนัง ต้องผ่าตัด3จุด
เรียกว่าทำเอาแฟนๆ ส่งกำลังใจให้ เนท My Mate Nate หรือ นาธาน บาร์ทลิง ยูทูบเบอร์ชื่อดังกันอย่าง ล้นหลาม

เมื่อเจ้าตัวได้โพสต์แจ้งข่าวผ่านทางไอจีสตอรี่ของตัวเอง อยู่บนเตียงคนไข้ พร้อมเขียนแคปชันเอาไว้ว่า "เข้าโรงบาล มะเร็งผิวหนัง...ผมเป็นเด็กไม่ดี ไม่ยอมทาครีมกันแดด ต้องผ่าตัดสามจุดออก อย่าเล่นเรื่องมะเร็งผิวมันอันตราย มาก"

#เนทMyMateNate #ข่าวดารา #ข่าวบันเทิง #สยามดารา
ไม่พลิกโผ "วีนา ปวีนา" คว้ามงกุฎ "มิสยูนิเวิร์สสระบุรี 2025" สำเร็จ
ตัวเต็งอย่างไรก็ไม่มีวันพลิกโผสำหรับการประกวด Miss Universe Saraburi 2025 ในค่ำคืนที่ผ่านมา และ Mcc Hall The Mall งามวงศ์วาน ซึ่งผู้คว้ามงกุฎไปครองได้แก่ "วีนา ปวีนา ซิงห์" สาวลูกครึ่งอินเดีย -ไทย เธอมาพร้อมกับไฟนักสู้เพื่อมงกุฎ Miss Universe Thailand ที่ลงประกวดมาแล้วถึง 4 ครั้ง และครั้งนี้เธอก็สามารถคว้าตั๋วใบแรกเพื่อเปิดประตูเข้าใกล้มงกุฎ Miss Universe Thailand 2025 ได้สำเร็จและเป็นตัวแทนผู้เข้าประกวดคนแรก ในฐานะ "Miss Universe Saraburi 2025"

ในการประกวดครั้งนี้เรียกว่าไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับ วีนา เพราะเธอต้องปรับปรุงเปลี่ยนแปลงตัวเองครั้งยิ่งใหญ่เพื่อให้เข้ากับบริบทของความเป็นนางงามยุคใหม่ที่ต้องมาพร้อม 3B Brain Beauty และ Business. ซึ่งวีนาก็พิสูจน์ตัวเองให้เห็นแล้วว่าเธอเท่านั้นที่คู่ควรกับมงกุฎ Miss Universe สระบุรี 2025 อย่างแท้จริง เพราะคำถามในรอบสุดท้ายที่วีนาได้โชว์กึ๋นพิสูจน์ความสามารถ ในคำถามว่า "ในปัจจุบันปัญหาความรุนแรงในครอบครัวเพิ่มสูงขึ้นในสังคมหากมีโอกาสมาพูดกับผู้หญิงคนที่กำลังเผชิญกับสถานการณ์้เช่นนี้คุณอยากจะบอกเธอว่าอะไร"

โดยวีนาตอบคำถามว่า "อยากจะบอกผู้หญิงทุกคนที่กำลังเจอกับสถานการณ์นี้อยู่คุณไม่ได้ตัวคนเดียวและไม่มีใครสมควรที่จะได้รับการลดคุณค่าจากการกระทำเหล่านั้น วีนาอยากให้ทุกคนเห็นคุณค่าในตัวเองการเงียบไม่ได้หมายความว่าเรายอมจำนนและการขอความช่วยเหลือเราไม่ได้แสดงความอ่อนแอจงลุกขึ้นมาสู้เพื่อตนเอง ใช้เสียงของตัวเองปกป้องตัวเอง สร้างบรรทัดฐานในสังคมที่จะไม่มีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นกับผู้หญิงคนไหนอีกเพราะเราทุกคนมีคุณค่าในตัวเองคุณคือพลังคุณความหวังและสามารถเปลี่ยนสังคมและโลกนี้ได้" ซึ่งเหตุผลนี้ทำให้วีนากลายเป็นผู้ชนะในค่ำคืนที่ผ่านมาอย่าง ใสสะอาด

โดยหลังจากคว้าตำแหน่ง miss universe สระบุรี 2025 มาครองได้สำเร็จ วีนา ปวีนา ได้เปิดใจกับสื่อมวลชนครั้งแรกว่า "กว่าจะมีวันนี้ได้ไม่ใช่เรื่องง่ายการมาประกวดแต่ละครั้งที่ต้องพบเจอกับความผิดหวังครั้งแล้วครั้งเล่าทำให้เธอไม่ยอมแพ้ที่จะพิสูจน์ตัวเองและครั้งนี้ก็เป็นอีกหนึ่งความสำเร็จที่แลกมาพร้อมกับหลากหลายปัญหาแต่ก็ผ่านมาได้สำเร็จขอบคุณ ทั้ง 3 PD พี่มอร์ฟีน พี่เอส และพี่พิชชี่ ที่ให้โอกาสได้มาพิสูจน์ตัวเองบนเวทีนี้และขอบคุณแฟนคลับชาวนาวีที่คอยเป็นกำลังใจให้ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาจนมีวันนี้ได้และหวังว่าทุกคนจะสนับสนุนวีนาไปจนถึงวันที่ได้เป็น Miss Universe Thailand 2025 สัญญาจะทำให้ทุกวันหลังจากนี้เต็มที่และพาทุกคนสมหวังดั่งใจแน่นอน" วีนากล่าว

สำหรับรางวัลที่ มิสยูนิเวิร์สสระบุรี 2025 จะได้รับ คือ รางวัลเงินสด 1 ล้านบาท / รถยนต์อัลพาร์ทประจำตำแหน่งพร้อมคนขับ / ที่พักประจำตำแหน่งย่านเอกมัย-รามอินทรา มูลค่า 18 ล้านบาท / มงกุฎประจำตำแหน่งมูลค่า 3 แสนบาท และ เงินเดือนประจำตำแหน่งเดือนละ 1 แสนบาท ซึ่งวีนาถือเป็นตัวแทนจังหวัดคนแรกในการประกวด มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2025 ทุกคนสามารถร่วมส่งกำลังใจให้กับวีนากับภารกิจอันยิ่งใหญ่ในการคว้ามงกุฎ Miss Universe Thailand 2025 ในเดือนสิงหาคมนี้ รวมถึงติดตามข่าวสารของเธอในทุกบทบาทได้ที่ Facebook : Miss universe สระบุรี

#MUTสระบุรี #MissUniverseSaraburi2025 #MUT2025 #MissUniverseThailand2025
ภรรยา “ด้งเด้ง”พระเอกไทบ้านฯ เผยอาการล่าสุดสามีหัวใจหยุดเต้น 2 ครั้ง ตอนนี้ยังทรงตัว ลืมตาได้แล้ว
จากกรณี ด้งเด้ง – ณัฐวุฒิ แสนยะบุตร หรือที่รู้จักกันในชื่อ จ่าลอด นักแสดงจากไทบ้านเดอะซีรีส์ ประสบอุบัติเหตุ เมื่อช่วงเช้าของวันนี้ (9 พ.ค. 68) เวลาประมาณ 03.46 น. ขับรถฟอร์จูนเนอร์เสียหลักตกลงจากถนนทางหลวงพิเศษหมายเลข 6 นครราชสีมา-บางปะอิน (มอเตอร์เวย์ M6) บริเวณช่วงหลักกิโลเมตรที่ 155-154 ในพื้นที่ ต.สีคิ้ว อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา

โดยได้รับบาดเจ็บสาหัส ขาหัก 2 ข้าง และในรถยังมีผู้โดยสารอีก 2 คน ก่อนเจ้าหน้าที่อาสาสมัครกู้ภัยพรหมธรรมสีคิ้วปฐมพยาบาลเบื้องต้นที่เกิดเหตุและเคลื่อนย้ายผู้บาดเจ็บทั้งหมดส่งโรงพยาบาลสีคิ้วเพื่อให้แพทย์ดำเนินการรักษาต่อไป

ความคืบหน้าล่าสุด ภรรยาของด้งเด้ง ได้โพสต์อัปเดตอาการสามี ระบุว่า ก่อนหน้านี้หัวใจหยุดเต้นไป 2 ครั้ง และต้องผ่าตัดด่วน ตอนนี้ออกจากห้องผ่าตัดแล้วนะคะ อาการยังทรงตัวอยู่ ลืมตาได้ แต่ต้องใส่ท่อช่วยหายใจ

โดยก่อนหน้านี้ ภรรยาด้งเด้ง ยังโพสต์ไว้ด้วยว่า คุยกันไว้ว่าวันที่ 14 พ.คนี้ ไม่มีงานจะพาลูกสาวไปรักษาตัวที่กรุงเทพโดยการปลูกถ่ายไขกระดูก พี่ด้งบอกว่าจะเป็นคนทำเอง เป็นการปลูกถ่ายไขกระดูกพ่อสู่ลูกมาลินรอป๊ะป๋าอยู่น๊า
เจ๋ง บิ๊กแอส สุดเดือดเจอ ปอน นิพนธ์ ฟ้องโพสต์ลั่นผมไม่ทรงเยอะลูกผู้ชายพอเจอกันในศาล
หลังจากก่อนหน้านี้ได้มีประเด็นดราม่าเรื่องราวร้อนๆ ในแวดวงดนตรี หลังจากที่ “เจ๋ง บิ๊กแอส” หรือ “เดชา โคนาโล ให้สัมภาษณ์ไม่เห็นด้วยกับการที่ศิลปินใช้ยาเสพติด แต่ต่อมานักร้องหนุ่ม “ปอน นิพนธ์” เจ้าของเพลง “ไทม์แมชชีน” กลับโพสต์แซะโดยที่ไม่ได้มีการเอ่ยชื่อ แต่โซเชียลเชื่อมโยงไปถึงเจ๋ง จนทัวร์ลงหนัก และเจ๋งมาตอบโต้กลับ ก่อนที่ปอนจะลบโพสต์ และลงคลิปยกมือไหว้ขอโทษ ขอยุติดรามาในครั้งนั้นไป

แต่ล่าสุด 8 พ.ค “เจ๋ง บิ๊กแอส” ได้โพสต์ภาพหมายศาลที่โดน “ปอน นิพนธ์” ฟ้องพร้อมแคปชั่นว่า “คุณออกตัวเอง แล้วโพสต์เอง ผมก็อยู่ของผมเฉยๆ แต่มาพาดพิงผม ไม่เอ่ยชื่อผม เหตุการณ์จังหวะนั้นบวกกับถ้อยคำ คนอ่านก็รู้ว่าเป็นผม ผมโพสต์ถึงคุณเพราะคุณมาพาดพิง ถ้าผมผิดที่เอาโพสต์คุณมาลงผมก็พร้อมรับ คุณออกคลิปขอโทษสังคมในสิ่งที่คุณพูดไป แต่สุดท้ายคุณมาฟ้องผม? ผมไม่ทรงเยอะครับ ผมแมน ผมลูกผู้ชายพอ ..ก็เจอกันในศาล"

#ข่าวบันเทิง #เจ๋งบิ๊กแอส #ปอนนิพนธ์ #สยามดารา
ส่งกำลังใจ “ดิว อริสรา” สูญเสีย “คุณพ่อวิชิต” ชาวเน็ตแห่จับตาดาราสาวจะกลับไทยหรือไม่ ?
ขอแสดงความเสียใจกับนักแสดงสาว “ดิว อริสรา ทองบริสุทธิ์” ที่ได้สูญเสียคุณพ่อ “วิชิต ทองบริสุทธิ์”ไปอย่างกะทันหัน

โดยวันที่ 8 พ.ค 68 ทางด้านเพจ "บิ๊กเกรียน" ได้ออกมาโพสต์แจ้งข่าวและเผยกำหนดการพิธีสวดอภิธรรมศพของคุณพ่อดิวไว้ว่า จะมีพิธีสวดอภิธรรมที่วัดช่องลม จ.สิงห์บุรี ตั้งแต่วันที่ 8 - 10 พ.ค. และในวันที่ 11 จะมีการเคลื่อนร่างไปที่วัดหลักสี่ ทำเอาแฟนๆ หลายคนร่วมส่งกำลังใจให้จำนวนมากและยังจับตารอดูว่า“สาวดิว”จะบินกลับไทยเพื่อมากราบศพคุณพ่อครั้งสุดท้ายหรือไม่

Cr. เพจบิ๊กเกรียน #ดิวอริสรา #ข่าวบันเทิง #ข่าวเศร้า #สยามดารา
ปักหมุด! DRAG BANGKOK Festival 2025 ใจกลางกรุง! พร้อมเวทีประกวด “Thailand‘s Drag Star 2025” หนึ่งเดียวในประเทศไทยและเอเชีย
(กรุงเทพมหานคร, ประเทศไทย) - เยลโล่ แชนแนล (Yellow Channel) ร่วมกับ Bangkok Pride จัดยิ่งใหญ่งาน “DRAG BANGKOK Festival 2025” เทศกาลแดร็ก(DRAG) ครั้งที่ 2 ของประเทศไทยและเอเชีย ระหว่างวันที่ 30 พฤษภาคม - 1 มิถุนายน 2568 พร้อมปักหมุดลานพาร์ค พารากอน ใจกลางกรุงฯ จัดกระหึ่ม “Thailand‘s Drag Star 2025” (ไทยแลนด์ แดร็ก สตาร์ 2025) เวทีประกวดเฟ้นหา Drag Star หนึ่งเดียวของประเทศไทย เพื่อชูจุดยืนสนับสนุนศิลปินแดร็กไทยเป็นอาชีพ สร้างงานสร้างรายได้ กระตุ้นเศรษฐกิจประเทศ และตอกย้ำเมืองไทยเป็นดินแดนแห่ง LGBTQIAN+ ด้านศิลปะ วัฒนธรรม การท่องเที่ยว เตรียมปักหมุด! กิจกรรมใหญ่ประจำปีของชาวแดร็ก(DRAG) กับงาน “DRAG BANGKOK Festival 2025” และ “Thailand‘s Drag Star 2025” (ไทยแลนด์ แดร็ก สตาร์ 2025) ที่ Yellow Channel โดยคุณภัทร เลิศสุกิตติพงศา กรรมการ บริษัท เยลโล่ แชนแนล จำกัด ในฐานะผู้ก่อตั้งและผู้จัดงาน “DRAG BANGKOK Festival” พร้อมจัดยิ่งใหญ่ควบคู่ไปกับกิจกรรม “Bangkok Pride Festival 2025” (บางกอกไพรด์ เฟสติวัล 2025) ให้กระหึ่ม! เมืองไทย โดยคาดหวังให้งานนี้เป็นเวทีที่จะยกระดับศิลปะแดร็กไทยสู่เวทีโลก ภายใต้ธีม “Thaituristic Drag Scene” นำเสนออัตลักษณ์ไทย ผ่านการแสดงที่ทรงพลังและสร้างสรรค์ และยังเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในการรับรองศิลปิน “แดร็ก” ให้เป็นอาชีพที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล จะได้พบกับการแสดงมากมายจากศิลปินแดร็ก และการประกวด “Thailand‘s Drag Star 2025” (ไทยแลนด์ แดร็ก สตาร์ 2025) สุดอลังการ ในวันศุกร์ที่ 30 พฤษภาคม 2568 รวมถึงขบวนแดร็กพาเหรด “DRAG BANGKOK PRIDE PARADE” ที่ยิ่งใหญ่ตระการตาที่สุดของประเทศไทย ที่ร่วมแสดงพลังไปกับขบวน Bangkok Pride Festival 2025 ในวันอาทิตย์ที่ 1 มิถุนายน 2568 นี้ เพื่อผลักดันให้กรุงเทพมหานคร ประเทศไทย เป็น Global Festival และเป็นเทศกาลแห่งชาติ

งานนี้ถือเป็น DRAG Festival ปีที่ 2 ของประเทศไทยและเอเชีย ที่รวมตัวศิลปิน Drag จากทั่วทุกมุมโลก ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศกว่า 500 ชีวิต มาอยู่ในที่เดียว ถือเป็นการรวมตัวอย่างยิ่งใหญ่ของชุมชนแดร็กไทย และเป็นการรวมตัวยิ่งใหญ่ของตัวแทนกลุ่มผู้ประกอบการ ห้างร้าน ดารานักแสดง ที่ร่วมสนับสนุน Thai Drag Community เลยทีเดียว นอกจากนี้ยังเป็นการจัด “Thailand’s Drag Star 2025” (ไทยแลนด์ แดร็ก สตาร์ 2025) เวทีประกวดเพื่อค้นหาสุดยอด Drag Star(แดร็ก สตาร์) ของประเทศไทย ประจำปี 2025 ครั้งแรกสุดอลังการ สร้างมาตรฐาน และตำนานให้กับเหล่าศิลปินแดร็กในประเทศไทย คุณภัทร เลิศสุกิตติพงศา กรรมการบริษัท เยลโล่ แชนแนล จำกัด ในฐานะผู้ก่อตั้งและผู้จัดงาน “DRAG BANGKOK Festival” กล่าวว่า Yellow Channel ก่อตั้งขึ้นในปี 2017 โดยเป็นกลุ่มผู้จัดทำข้อมูลข่าวสาร และกิจกรรมเกี่ยวกับแดร็กในประเทศไทย เจตนารมณ์ของการจัดงานครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อกระจายข่าวและสร้างการรับรู้ ความเข้าใจให้กับสังคมเกี่ยวกับวัฒนธรรมแดร็ก ที่ยึดโยงกับชุมชน LGBTQIAN+ ต่อยอดเป็นกิจกรรมการแสดง ปาร์ตี้ แฟชั่นโชว์ การประกวด และกิจกรรมเวิร์คช็อป การเสวนา และแคมเปญขับเคลื่อนต่าง ๆ มากมาย พร้อมการรวมตัวศิลปินแดร็กในประเทศไทย เพื่อจัดทำเป็นขบวนแดร็กพาเหรดตั้งแต่ปี 2024 ในปีแรก และปีนี้ 2025 เป็นปีที่ 2 และคาดว่าจะมีต่อเนื่องในปีต่อๆ ไป เนื่องจากเล็งเห็นถึงการเติบโตของชุมชนแดร็กไทย ที่มีศักยภาพในการเป็นหนึ่งในกลุ่มศิลปินที่นอกจากจะเป็นกระบอกเสียงให้กับชุมชน LGBTQIAN+ ของประเทศไทยแล้ว ยังช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจให้กับประเทศไทยในฐานะหนึ่งใน Soft Power ที่ทรงพลังได้อีกด้วย ““Thailand’s Drag Star 2025” (ไทยแลนด์ แดร็ก สตาร์ 2025) เป็นเวทีประกวดเพื่อค้นหาสุดยอด Drag Star(แดร็ก สตาร์) ของประเทศไทย ประจำปี 2025 ที่บริษัท เยลโล่ แชนแนล จำกัด และพันธมิตร ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการจัดงานประกวดในครั้งนี้ เพื่อค้นหาสุดยอด Drag Star (แดร็ก สตาร์) ของประเทศไทย ต่อยอดไปสู่การจัดทำเวทีประกวดระดับนานาชาติสร้างชื่อให้กับประเทศไทยต่อไปในอนาคต โดยผู้ชนะจะได้รับเงินรางวัลมูลค่า 100,000 บาท สัญญาร่วมงานกับบริษัท เยลโล่ แชนแนล จำกัด เป็นระยะเวลา 1 ปี และของรางวัลจากผู้สนับสนุนอื่นๆ อีกมากมาย ซึ่งผู้ที่ประกวดในเวทีนี้ จะต้องเป็นผู้ที่มีคุณสมบัติครบถ้วน ทั้งความคิดสร้างสรรค์ ความชัดเจนในตัวตน เป้าหมาย และความมุ่งมั่นที่จะร่วมขับเคลื่อน Thai Drag Community ไปด้วยกัน เป็นเหมือนแบรนด์แอมบาสเดอร์ และภาพจำของแดร็กไทยในแต่ละปี” การประกวด “Thailand’s Drag Star 2025” (ไทยแลนด์ แดร็ก สตาร์ 2025) เวทีที่รวมตัวศิลปินแดร็กจากทั่วฟ้าเมืองไทย มาฟาดฟันเพื่อค้นหาสุดยอด Drag Star 1 เดียวครั้งนี้ ถือเป็นปีแรกที่จัด และได้เปิดรับสมัครไปแล้วตั้งแต่วันที่ 9 เมษายน 2568 ที่ผ่านมา

ผ่านช่องทางออนไลน์ของกองประกวด มีผู้สนใจเข้าประกวดเป็นจำนวนมาก ก่อนที่ทีมงานจะคัดเลือกเหลือเพียง 20 คน จาก 14 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร ,นนทบุรี ,สมุทรปราการ , บุรีรัมย์ ,นครราชสีมา ,นครศรีธรรมราช ,ภูเก็ต ,พัทลุง ,สระแก้ว ,ขอนแก่น ,สุรินทร์ , เชียงใหม่ ,กำแพงเพชร ,นครสวรรค์ ซึ่งจะมีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น ที่เป็นผู้ชนะคว้ามง Thailand’s Drag Star 2025 ไปครอง โดยเวทีนี้จะจัดการประกวด 3 วัน คือ วันปฎิบัติภารกิจ พร้อมการเก็บตัว 28-29 พฤษภาคม 2568 และวันที่ 30 พฤษภาคม 2568 เป็นการประกวดในรอบสุดท้าย(The Finale) ที่ลานพาร์คพารากอน ศูนย์การค้าสยามพารากอน ตั้งแต่เวลา 17.00 น. เป็นต้นไป ปีนี้ “Thailand’s Drag Star 2025” (ไทยแลนด์ แดร็ก สตาร์ 2025) มาพร้อมกับการเฉลิมฉลองในช่วง Pride Month ที่ไม่ธรรมดา จับตาเอาไว้ให้ดี รับประกันว่างานนี้ เดือดแน่!! โดยเฉพาะผู้เข้าประกวดทั้ง 20 คน จาก 14 จังหวัด ต่างถิ่น ต่างที่มา ต่างสไตล์ แต่ทุกคนมีเป้าหมายเดียวกันนั่นคือ การคว้ามง คว้าชัยชนะ “มากกว่าตำแหน่งและเงินรางวัล” คือ ความสำเร็จที่จะเป็น “Thailand’s Drag Star 2025” (ไทยแลนด์ แดร็ก สตาร์ 2025) บันไดที่จะนำพาไปสู่เส้นทางที่จะเปลี่ยนแปลงชีวิตของพวกเค้าไปตลอดกาล โดยผู้เข้าประกวดหมายเลข 1 – 20 ประกอบด้วย AMORA (อะโมร่า) จากบุรีรัมย์ , AUTU (อุตุ) จาก นครราชสีมา , BIW MUAY (บิวหมวย) จากสระแก้ว, CHIZA BITCH (ชิซ่า บิช) จากนนทุบรี , FANGYA CELINEE SANTOS (ฟางย่า เซลินี ซานโตส) จากภูเก็ต , FOIEGRAS (ฟัวกราส์) จากกรุงเทพมหานคร , GRAVITY SUN (กราวิตี้ ซัน) จากเชียงใหม่ , IVORY BLVCK (ไอวอรี่ แบล๊ค) จากกำแพงเพชร , KANA WARRIOR (คาน่า วอริเอ้อ) จากนครสวรรค์ , LEO PATTRA (ลีโอ ภัทรา) จากสุรินทร์ , MISS PANDAH (มิสแพนด้า) จากนครศรีธรรมราช , NATALIA PLIACAM (นาตาเลีย เพลียแคม) จากกรุงเทพมหานคร , NAZA (นาซ่า) จากขอนแก่น, SINGOLA HEART (ซิงโกล่า ฮาร์ท) จากภูเก็ต , SLEEPING PILL (สะลีปปิ้ง พิล) จากสมุทรปราการ , TIARA ONG (เทียร่า อ๊อง) จากนครศรีธรรมราช , Ukriss Garage (ยูคริส การาจ) จากนนทบุรี , Veronica (เวโรนิก้า) จากกรุงเทพมหานคร , Violy Bang (ไวโอลี่ แบง) จากพัทลุง และ Zoe (โซอี้) จากกรุงเทพมหานคร ทุกคนมาเพื่อฟาด ด้วยจริตสุดจึ้งและชุดสุดอลังการ กับการประชันไหวพริบและเสน่ห์อันตราตรึง พร้อมชิงมง Thailand’s Drag Star 2025 ในวันศุกร์ที่ 30 พฤษภาคม 2568 นี้ ภายในงาน “DRAG BANGKOK Festival 2025”

คุณภัทร กล่าวต่อว่า อีกหนึ่งเป้าหมายสำคัญของการจัดงาน “DRAG BANGKOK Festival 2025” และ “Thailand‘s Drag Star 2025” (ไทยแลนด์ แดร็ก สตาร์ 2025) ครั้งนี้ คือ การสนับสนุนให้เกิดศิลปิน Drag หน้าใหม่ตามจังหวัดต่าง ๆ ทั่วประเทศ เพื่อให้เกิดเป็น Drag Festival ในจังหวัดหัวเมืองต่างๆ ได้ ไม่ว่าจะเป็น จ.เชียงใหม่ ,พัทยา จ.ชลบุรี และ จ.ภูเก็ต เป็นต้น รวมถึงผลักดันให้ Drag เป็นอาชีพที่ได้รับการยอมรับในอุตสาหกรรมบันเทิง และพร้อมเติบโตไปสู่เวทีระดับสากล ทั้งการส่งออกช่างฝีมือ นักแสดง ศิลปิน Drag และแบรนด์ Fashion ไทย สร้างการจดจำและตอกย้ำความเป็นฮับ หรือศูนย์กลางของงานสร้างสรรค์ “สำหรับปีที่ 2 ที่จะจัดงาน “Thailand’s Drag Star” (ไทยแลนด์ แดร็ก สตาร์) เรามีเป้าหมายเปิดขยายลิขสิทธิ์ให้ผู้สนใจในจังหวัดต่าง ๆ ทั้ง 77 จังหวัดทั่วประเทศ ส่ง Drag Star แต่ละจังหวัดเข้ามาประกวดชิงมง ในเวทีหลักของ Thailand’s Drag Star พร้อมเป้าหมายก้าวขึ้นเป็นเวทีระดับนานาชาติต่อไป มันคือเวทีนางงามของแดร็ก ที่ไม่ระบุเพศ ไม่ระบุรูปแบบและแนวทาง มันคือเวทีที่จะเป็นการนิยามคำว่าแดร็กของไทยต่อไป” อย่าพลาดงาน “Thailand‘s Drag Star 2025” (ไทยแลนด์ แดร็ก สตาร์ 2025) at “DRAG BANGKOK Festival 2025” เทศกาลแดร็กครั้งยิ่งใหญ่ของประเทศไทยและเอเชีย ที่จะมาสร้างสีสัน ความสนุกสนานแบบฉ่ำๆ อลังการให้กับทุกคน พบกันที่ลานพาร์ค พารากอน ศูนย์การค้าสยามพารากอน ตั้งแต่วันที่ 30 พฤษภาคม - 1 มิถุนายน 2568 สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ [email protected] หรือที่ Facebook Page : DRAG BANGKOK

#DRAGBANGKOKFestival2025 #DRAGBANGKOK #YellowChannel #ThailandsDragStar2025 #BangkokPride #LGBTQIAN+ #Thailand #Asia #Drag
“อ่ำ อัมรินทร์” เล่าจุดต่ำสุดของชีวิต หลงระเริง เกือบตาย พลิกชีวิตด้วยธรรมะ
WOODY WORLD เปิดตัวรายการใหม่โดยมี “ก้อง อรรฆรัตน์ นิติพน” รับหน้าที่เป็นพิธีกร มาเสริมทัพในช่อง LIFE DOT กับเรื่องราวการใช้ชีวิตในหลากหลายมิติ ให้คุณได้เรียนรู้และทบทวนตัวเอง เพราะชีวิตมีทั้งสุขและทุกข์ มีทั้งบวกและลบ ที่ผ่านช่วงเวลาและเหตุการณ์ต่าง ๆ มานั้นก็ล้วนประกอบขึ้นเป็นตัวเรา มารู้จักตัวเองไปด้วยกันในรายการ “LifeLine” ประเดิม EP. แรกด้วย “อ่ำ อัมรินทร์ นิติพน” ในวัย 56 มาเผยเรื่องราวชีวิตจากนักกีฬาดาวรุ่งสู่เด็กใจแตก กลายเป็นศิลปินดัง แชมป์รถแข่ง ชีวิตหลงระเริง ติดลบ ร่างพังจนเกือบลาโลก! เจ็บสุด ต่ำสุด ก่อนพลิกกลับมาด้วยพลังธรรมะ ใครที่คิดว่าชีวิตกำลังพัง ดูแล้วอาจเปลี่ยนความคิดคุณไปทั้งชีวิต

ช่วงวัยเรียนสิ่งที่จำได้ที่รู้สึกว่าดีจังเลย ?
อ่ำ อัมรินทร์ : ได้เล่นกีฬา น่าจะเป็นคนที่มีความสามารถทางด้านกีฬาที่หลากหลาย ได้เป็นนักกลอฟ์เยาวชนทีมชาติไทยตอนนั้นอายุ 10 ขวบ แต่ตอนนั้นสังคมกีฬากลอฟ์มันค่อนข้างเล็กในกลุ่มของผู้ปกครองและเด็ก ดีที่สุดคือเป็นแชมป์เยาวชนเอเชีย เป็นหน้าเป็นตาให้กับประเทศ ถือเป็นโมเมนต์ที่จดจำในวัย 11 ปี รู้สึกดีมาก ซึ่งมีความภูมิใจในตัวเองอันหนึ่ง

แล้วมีอะไรด้านลบไหม ?
อ่ำ อัมรินทร์ : พอหลังจากนั้นมาชีวิตก็โตขึ้นเจริญพันธุ์ (หัวเราะ) ใจแตก แต่ก็ยังเป็นนักกีฬาโรงเรียนอยู่ และก็เป็นนักกีฬาเยาวชนกลอฟ์ยังอยู่ทีมชาติไทยอยู่ ตอนนั้นในช่วงอายุ 15 คุณพ่อฝากเงินไว้ให้ทุกอาทิตย์ จะให้เงินมาก้อนหนึ่งแล้วแบ่งครึ่งหนึ่งฝากธนาคารไว้ตั้งแต่อยู่ ม.1 แล้ว พอ ม.3 มันก็จะมียอดอยู่ประมาณหนึ่ง ซึ่งตอนนั้นเราก็เที่ยวแล้วก็ใช้เงินประจําอาทิตย์ไม่พอ แล้วอยากเที่ยวเตลิดเปิดเปิงแบบไม่ต้องเรียน ไม่ต้องเรียนไปเที่ยวอย่างเดียว มีไปเที่ยว ไปเล่นสเก็ต ไปเที่ยวดิสโก้เทคกลางคืน เราก็ไปปิดบัญชีเด็กชาย อัมรินทร์ นิติพน ตอนนั้นน่าจะมีเงินอยู่ประมาณ 80,000 บาท สมัย 40-50 ปีที่แล้วก็เยอะนะครับ สามารถซื้อรถซื้ออะไรได้เลย รถคันละ 3-4 หมื่น เองยุคนั้น ปิดบัญชีไม่พอเอาไม้กอล์ฟตัวเองซึ่งถือได้ว่าเป็นอาวุธประจํากายในการใช้ในการแข่งขันไปขาย เพื่อไปเที่ยวระเริง ท่องราตรี ดีกว่า

มันสนุกขนาดไหนถึงต้องทํา ?
อ่ำ อัมรินทร์ : คือตอนนั้นชีวิตแสงสีกับเด็กเพิ่งโตมา มันเป็นอะไรที่ใหม่มาก คุณพ่อคุณแม่ไม่ได้อยู่ด้วยกันใช่ไหมครับ เราก็บอกว่าเรานอนบ้านแม่นะคืนนี้ แต่กลางคืนก็ไม่กลับเราก็ไปเที่ยวไหนต่อไหน ซึ่งเป็นช่วงชีวิตที่เริ่มเหลวแหลก อันนั้นก็จะเป็นจุดเปลี่ยนอันหนึ่ง ช่วงที่โดดเรียน ช่วงที่ไปเที่ยวใจแตกคือไม่เข้าเรียนเทอมนึงก็เลยทําให้เป็นคนที่ไม่จบ ม.6 พร้อมเพื่อน เพื่อนไปสอบเข้ามหาวิทยาลัยกันหมดแล้ว เราต้องไปเรียน ม.4 เทอม 1 ใหม่ ก็ใช้ชีวิตให้เรียนจบ ม.6 ให้จบอายุ 18 พอเริ่มต้นฤดูการศึกษาใหม่แล้วก็ไป สมัครเรียนที่ ม.เกษมบัณฑิต แล้วก็ไม่ชื่นชอบในการศึกษาเหมือนเดิมก็ไปนั่งอยู่กับพวกก่อสร้าง ไปนั่งดื่มเหล้าขาว ไปอยู่กับพวกก่อสร้าง เพื่อนเรียนวิศวะก็ไปนั่งกับพวกวิศวะ ทั้ง ๆ ที่เราเรียนนิเทศฯ พอสอบผลสอบมาก็คือตกหมด

หลายคนอาจรู้จัก อ่ำ อัมรินทร์ ในฐานะศิลปินนักร้อง ?
อ่ำ อัมรินทร์ : เริ่มมาจากคุณพ่ออีกเหมือนกันคุณพ่อตอนเด็ก ๆ เล่นดนตรี เป็นนักดนตรีของกรมตํารวจ แล้วก็มีเครื่องดนตรี มีอิเล็คโทน แล้วก็สอนให้เราเล่นดนตรี แล้วก็มีความชื่นชอบในด้านของการดนตรีอยู่ เสร็จแล้วพอยุคนั้น พอเราอายุ 18 มันมีวงไมโคร มีอัสนี ออกมา เราก็บอกทําไมมันเท่อย่างนี้ เราอยากเป็นอย่างไมโคร อยากเป็นอย่างพี่หนุ่ยจังเลย พอดีพี่ข้างบ้านเขามีวงดนตรีแล้วขาดนักร้องนํา พอตอนอายุ 18 เราก็เคว้งคว้าง เราก็ตีกอล์ฟอยู่กับพ่อด้วย แล้วเราก็ได้รับคําชวน จากพี่ข้างบ้านด้วย เราก็เลยไปอยู่วงเขา ไปอยู่กับวงรามเกียรติ์ พยายามที่จะมีผลงาน คือสมัยก่อนเรียกว่าออกเทป ก็มีเดโมเทป มีถ่ายภาพไปเสนอตามค่าย ต่าง ๆ

จําวันแรกที่เทปวางแผงได้ไหม ?
อ่ำ อัมรินทร์ : พูดถึงโมเมนต์ในตอนนั้นที่แบบว่าดีใจมาก คือเราได้เห็น พี่เต๋อ เรวัต เราไปเข้าไปเซ็นสัญญากับพี่เต๋อ เราได้คําแนะนําจากพี่เต๋อ เราได้เจอปูชนียบุคคลในวงการเพลงของแกรมมี่หลาย ๆ คน เราเจอวงไมโครตัวเป็น ๆ อายุ 25 ก็มีผลงานตัวเองแล้วก็ใช้ชีวิต ในโอกาสนั้นก็ถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีของชีวิต ถึงแม้ว่าในช่วงนั้นยอดขายมันไม่ได้ดีเหมือนที่เขาคาดหวังกันไว้ แต่เราก็รู้สึกว่ามันก็เป็นช่วงชีวิตที่ดีของเรานะ แต่ก็ผิดหวังอันหนึ่งก็คือไม่ได้เป็นไปตามยอดขายที่แกรมมี่เขาตั้งไว้ ถ้าไม่ผ่านเกณฑ์ก็อาจจะไม่มีชุด 2 อะไรอย่างนี้ครับ ก็ดาวน์ ๆ อยู่ชีวิตช่วงนั้น อย่างน้อยก็ได้ออกเพลงหนึ่งแล้ว ได้ออกอัลบั้มมาชุดหนึ่งละ ได้ทำต่อหรือไม่ได้ทำก็ไม่รู้ ตอนนั้น Y NOT 7 กําลังดัง แล้วเราไปทัวร์คอนเสิร์ต กับ Y NOT 7 ขึ้นไปร้องกับวง Y NOT 7 ทางบริษัทแกรมมี่เขาเห็นว่า เราน่าให้โอกาสก็ไปเปลี่ยนรูปแบบของเพลง ให้มาอยู่ในแนวร็อค ซึ่งเราชอบแนวนี้อยู่แล้ว แต่ชุดแรกมันอาจจะเป็นป๊อบ ๆ กรุ๊งกริ๊ง ไปหน่อยได้ ไปต่อ

รวมทั้งหมดแล้วออกกี่อัลบั้ม ?
อ่ำ อัมรินทร์ : เอาเพลงรวมฮิตเพลงประกอบละคร ถ้ารวมหมดเลย ก็ 11 ได้มั้ง กราฟชีวิตในช่วงชีวิตนั้นน่าจะเอาไป 10 เลยครับผม ในช่วงชีวิต 18 - 36 ปีได้เจออะไรดี ๆ ในชีวิตเยอะมากเลย

แล้วมีจุดที่ควรจะปรับปรุงมันแย่เหลือเกินไหม ?
อ่ำ อัมรินทร์ : พฤติกรรม ความประพฤติของตัวเอง หลังจากที่ได้ประสบความสําเร็จ แน่นอนเลยความหลงระเริงมันมา หลงระเริงในตัวเองที่มียอดขายที่ดีขึ้น ทําประโยชน์ให้บริษัทมากขึ้น มีรายได้มากขึ้น อยากหยิบฉวยหยิบจับอะไร อยากทําอะไร เริ่มตามใจตัวเองมากขึ้น อยากซื้อรถคัน ไหน อยากได้อะไรชี้เอา อยากกินอยากอะไรสั่งเอา ใช้ชีวิตสุรุ่ยสุร่ายมากในการดื่ม โอเคไปทัวร์คอนเสิร์ตเราดื่มกันอยู่แล้วร็อคแอนด์โรล กลับบ้านแล้วก็ยังเป็นร็อคแอนด์โรลอยู่ ดื่มเสร็จเริ่มไปทํางานไม่ไหว เริ่มเบี้ยวงาน ไปกอง MV ไม่ทัน เอางี้ดีกว่าไม่รับผิดชอบแล้วกัน

สิ่งที่เรียนรู้จากเรื่องนี้คือ ?
อ่ำ อัมรินทร์ : การหลงระเริง แล้วก็มี A-Time จัดคอนเสิร์ต ตอนนั้นอัลบั้มชุดนิราศร็อกออกใหม่ๆ พี่ฉอดจัดคอนเสิร์ตที่สยามสแควร์ แต่ผมก็ดื่มกินตามประสา กินจนเลยกำหนดที่จะต้องไปงาน ไม่ไหวอีกแล้ว ก็มีโทรศัพท์โทรตามจากค่ายแกรมมี่ว่าให้ไปงานเดี๋ยวนี้นะ คือวงไปรอแล้ว เราไม่เอานอนดีกว่า แล้วก็มีคนใช้มาปลุกอยู่ตลอดเวลาว่าให้ไปรับโทรศัพท์ สุดท้าย พี่ดี้ นิติพงษ์ ห่อนาคโทรมาบอกว่าให้ไปงานพี่ฉอดที่สยามด้วยครับ ถ้าไม่ไปก็จะงดการโปรโมทอัลบั้มชุดนี้ และไม่มีผลงานอีกต่อไป เราจะจบสิ้นกันแต่เพียงแค่นี้ ก็อาบน้ําอาบท่าแต่งตัวไปขึ้นรถไฟฟ้าไปถึงที่สยาม ลงรถไฟฟ้าขึ้นเวที ร้องเพลงแล้วก็จบงาน แล้วก็กลับมา มีหมายให้เข้าตึก แล้วก็เข้าไปขอโทษพี่ฉอด ซึ่งผมก็ขอโทษพี่ฉอดหลาย ๆ ครั้งแล้ว แล้วก็มีพวงมาลัยไปออกรายการพี่ฉอดแล้ว ครั้งนั้นก็น่าจะเป็นช่วงที่ตกต่ำสุด ในการใช้ชีวิตหลงระเริง ไม่รับผิดชอบ

มาถึงจุดสูงสุดของชีวิตที่มีความสุข ?
อ่ำ อัมรินทร์ : ชีวิตมันก็ลุ่มๆ ดอนๆ ในการใช้ชีวิต มันก็ถือว่าเปื่อยเต็มที่แล้ว แล้วก็มีความรู้สึกอยากจะมีครอบครัวก็เลยแต่งงาน อายุ 33 ถือเป็นเรื่องที่ดีมาก มันเริ่มมาจากคุณพ่อเห็นเราแบบไม่ไหว มีรายได้แต่สุรุ่ยสุร่าย ให้ปลูกบ้านให้มีบ้าน ให้มีที่อยู่ ให้มีครอบครัว ก็เลยตัดสินใจแต่งงาน มันเป็นเรื่องของลิขิตว่าเราต้องเจอคนนี้ เพื่อเราจะได้มีชีวิตเป็นแบบนี้ มันอาจจะมีดีมาก อาจจะมีไม่ดี แต่สุดท้ายถ้าไม่มีคนนี้ชีวิตเราจะเป็นวันนี้หรือเปล่า แล้วยิ่งมีลูกมันก็คือแบบที่สุด การที่ได้เห็นหน้าลูก น้องแอลลี่มองหน้าเด็กคนนั้นแล้วแบบว่าเราจะดูแลเขายังไง จะต้องดูแลยังไงให้เขามีชีวิตอยู่ที่ดีได้ จะต้องทํายังไง ตั้งแต่มีแอลลี่มาชีวิตเราก็เป็นปกติ ไม่ดื่ม ไม่ได้ปาร์ตี้หามรุ่งหามค่ำ มันไม่ได้เป็นแบบนั้นอีกแล้ว

จากนั้นก็มีเรื่องของสุขภาพ ?
อ่ำ อัมรินทร์ : 47 สุขภาพแย่มาก ใช้คําว่าถ่อยที่สุดในชีวิตเลย เป็นคนที่เดินเหินกระฉับกระเฉงมาตลอดชีวิตเป็นนักกีฬา แต่ผลจากการที่วิเคราะห์เลยนะ ผลจากกรรมที่ตัวเองทําในการดื่มกินใช้ชีวิต มันก็เลยมีผลมาถึงอายุ 47 ซึ่งตอนนั้นมีความเครียดสะสมในเรื่องของงาน ในเรื่องของการเปลี่ยนผ่านทีวี ซึ่งเราทําทีวีอยู่ทํารายการอยู่ครับ มันเปลี่ยนเป็นทีวีดิจิตอล เราก็มีความมุ่งมั่นว่าอยากจะทํารายการเสนอตามช่องอะไรต่าง ๆ เริ่มลงทุนในการผลิตรูปแบบรายการต่าง ๆ เสนอช่อง เสร็จแล้วมันไม่ได้เป็นอย่างที่เราหวังไว้ เลยรู้สึกผิดหวัง กลับมาดื่มกินหนักขึ้น หนักขึ้น ทําให้เกิดโรค ไปตรวจดูมียูริคต่ำมากอาการเริ่มหนักขึ้น เริ่มปวดข้อมือ เริ่มใช้การมือไม่ได้ เดินไม่ได้ ตัวเริ่มแข็ง นอนเหยียดตึง อยู่แต่ในบ้านอย่างเดียว แล้วกล้ามเนื้อที่เคยขยับเขยื้อนเล่นเวท ออกตีกอล์ฟ เริ่มขยับไม่ได้ แขนเริ่มลีบ สุดท้ายผอม จากหนัก 82 แต่มีกล้ามเนื้อลงมาถึง 69 มือบวมหนักมาก อายคนถึงขนาดต้องเอาผ้าพันแผลมาพันไว้ ไม่ให้คนเห็นมือตัวเองที่เป่งและกําไม่ได้ สรุปแล้วมันคือโรครูมาตอยด์ โรคกระดูกอักเสบรุนแรงโดยไม่มีสาเหตุ คือภูมิแพ้ตัวเอง เดินไม่ได้ ขยับอะไรไม่ได้ ทํางานไม่ได้ เริ่มทําอะไรไม่ได้ เริ่มขายของ ขายทรัพย์สมบัติอะไรของตัวเองที่มีจนหมด ไม่เหลืออะไร เป็นอยู่ 3 ปี หนักมาก ใช้ชีวิตอยู่ไปวัน ๆ ความหวังมันไม่มีเลย ริบหรี่มาก เรายังไม่รู้เลยว่าเราจะกํามือได้เมื่อไหร่ แล้วเราไม่ได้ตีกอล์ฟแล้ว ไม่ได้ดูแลสิ่งที่เรียกว่าตัวเรา

ผ่านมาได้ยังไง ?
อ่ำ อัมรินทร์ : มีความคิดว่ามันถึงเวลาที่มันคงต้องไป ถึงขั้นนั้นแล้วนะ เพราะทําอะไรไม่ได้แล้ว เป็นซากแล้ว ตรอมใจ พูดกับตัวเองแล้วก็ร้องไห้อยู่ในกระจก สงสารตัวเองมาก คนรอบข้างอยู่ พ่อแม่ พี่น้อง ครอบครัว ที่เขายังคอยความหวังว่าเราจะกลับมาได้ยังไง เราจะต้องกลับมาให้ได้ เราเป็นที่ห่วงของครอบครัวอยู่ ก็พยายามจะเเข็งใจ เริ่มเปลี่ยนชีวิตใหม่ จากที่เดินไม่ได้ ก็เริ่มพยายามจะขยับให้ได้ หาจุดยึดเหนี่ยว มีความศรัทธาหลาย ๆ อย่าง เลื่อมใสในพุทธศาสนา ไปปฏิบัติตัวในการบวชถวายในหลวงรัชกาลที่ 9 แล้วเราก็เริ่มปฏิบัติตัวดี ยึดมั่นในศีล

กลับมาเป็นร่างนี้ได้ เพราะอะไร ?
อ่ำ อัมรินทร์ : เพราะเราเองครับที่ให้กําลังใจตัวเอง ที่มีสิ่งที่ยึดมั่นที่ดี อยู่ได้ด้วยศีลของเรา ที่คอยคุ้มครองเราทั้งหมด มันอาจจะผิดพลาด ผิดหวัง สมหวังอะไรไป มันเป็นชั่วขณะ แค่นั้นเอง แต่สุดท้ายคือที่รอดตายมาได้ก็สติ ที่กลับมาทําอะไรได้อย่างที่ตัวเองตั้งใจไว้หลังจากที่สูญสิ้น หมดสิ้นไปแล้ว หมดหวังไปแล้ว แล้วเรากลับมาได้ก็อยู่ที่ตัวเองที่ตั้งใจที่จะทําอะไรให้มันดีกับตัวเองซะก่อน ก่อนที่จะไปหวังว่าเราจะต้องประสบความสําเร็จ เป้าหมายรายการเราก็คือว่าได้มองภาพใหญ่กรอบของชีวิตว่า ได้เห็นว่าวันที่เราขึ้น วันที่เราลง วันที่เราสุข วันที่เราติดลบ อะไรก็แล้วแต่ มันเกิดขึ้นกับตัวเรา ผ่านมาได้เพราะตัวเรา

สามารถติดตาม "LifeLine" ได้ที่ช่องทาง Podcast : Life Dot , Facebook: Life Dot , Youtube : Life Dot เวลา 18.00 น. คลิกชมรายการย้อนหลัง : https://www.youtube.com/watch?v=pEzc8_fmYsk&t=1966s&ab_channel=LIFEDOT
กูรูอีสานไม่ทน ฟาดยับ เก่ง ธชย ทำไม่ถึง ย่ำยีจารีตคนอีสาน!!! ผ่าน มาให้แม่ผูกแขน feat. ฮ๊อตซี่ ศุภเสกข์
เป็นประเด็นเดือดอยู่ตอนนี้กับ single ใหม่ล่าสุด มาให้แม่ผูกแขน ft. ฮ็อตซี่ ศุภเสกข์ เพลงแนวอีสานโมเดิร์น ที่เพิ่งปล่อยมาได้ไม่กี่วัน เป็นเพลงอีสานเพลงแรก ของศิลปินมากความสามารถ ที่โดดเด่นด้านวัฒนธรรมอย่าง เก่ง ธชย ถูกนักวิชาการเลือดอีสานวิจารณ์ยับ สับเละแบบไม่แคร์รถทัวร์ว่า ร้องสำเนียงบ่คือ เอาคำมงคลของคนอีสานมาทำไม่ดีเลย ไม่เหมาะสม ขัดแย้งต่อภาพลักษณ์คนอีสาน เป็นต้น

งานนี้มีทั้งคนเห็นด้วย และมองต่าง จนนักประพันธ์เพลงนี้อย่าง ชนกันต์ พลหาญ ออกมาชี้แจงโต้เดือด แม้กระทั่ง ฮ๊อตซี่ ผู้ร่วมฟีดเจอร์ริ่งในเพลงนี้ก็ออกมาชี้แจงผ่าน เฟซบุ๊ค คำฮ๊อต ศุภเสกข์ งานนี้ผู้ใหญ่ ผู้เชี่ยวชาญในแวดวงศิลปะการแสดง และวัฒนธรรไทย หลายคนออกมาคอมเมนต์เห็นต่างกับคำวิจารณ์ของนักวิชาการต้นเรื่องอย่าง ดุเดือด

จนท้ายที่สุด เก่ง ธชย ก็รีบออกมาชี้แจงทุกข้อวิจารณ์ ทุกกรณี ผ่านสื่อโซเชียลส่วนตัวทันที ทั้งนี้ทั้งนั้นหลายเสียงหลายคนมองว่า นักวิชาการที่วิจารณ์ฟังเพลง มาให้แ่ผูกแขนจบหรือเปล่า เพราะภาพรวมมันไม่ได้เป็นอย่างที่สับเละ 100% เรื่องราวดราม่าเดือดนี้ จะจบลงยังไงคงต้องติดตามตอน ต่อไป

มาให้แม่ผูกแขก เก่ง ธชย ft. ฮ๊อตซี่ ศุภเสกข์ https://youtu.be/srK23Z3DfmA?si=wODm083gjtMi_nWu
สง่างามและทรงพลัง! “โอปอล สุชาตา” เข้ากอง "Miss World 2025" อย่างเป็นทางการ
เก็บกระเป๋าเข้ากองประกวด "Miss World 2025" (ครั้งที่ 72) เป็นที่เรียบร้อยแล้ว สำหรับ "โอปอล - สุชาตา ช่วงศรี" ตัวแทนสาวไทยที่เข้าเก็บตัวอย่างเป็นทางการในวันนี้ ณ Trident Hotel , Hyderabud , รัฐ Telangana ประเทศอินเดีย "โอปอล สุชาตา" เผยลุคเก็บตัวเข้ากองด้วยชุดเดรสยาว สีเหลือง-ขาว ฝีมือการตัดเย็บด้วยมือจากแบรนด์ "RAMET_OFFICIAL" พร้อมด้วยเครื่องประดับมุก จากแบรนด์ "Modi Pearls" ร้านเครื่องประดับเก่าแก่นับร้อยปี ของเมือง Hyderabud ประเทศอินเดีย

โดยการประกวด Miss World 2025 ครั้งที่ 72 นี้ "โอปอล" ออกแบบ และคัดเลือกเครื่องแต่งกาย พร้อมเครื่องประดับด้วยตัวเองทั้งหมด เพื่อให้เหมาะสมกับบริบทของเวที อีกทั้งฝึกฝนความสามารถ เพื่อเตรียมตัวแข่งขันในแต่ละรอบที่จะเกิดขึ้นตลอดการ เก็บตัว

สำหรับกิจกรรมอย่างเป็นทางการต่อไปจะเกิดขึ้น ในวันที่ 10 พฤษภาคม 2568 ในงาน Opening Ceremony , สื่อมวลชน และแฟนนางงาม สามารถติดตามความเคลื่อนไหวได้ที่ Fanpage Facebook และ Instagram : Miss World , Miss World - Thailand , Opal Suchata , Tero Entertainment และ TPN Global , และ Youtube : Miss World

#OpalForHerOpalForWorld #MissWorldThailand2025 #MissWorld2025 #โอปอลสุชาตา #สยามดารา
ชมพู่ อารยา สัมภาษณ์ น็อต วิศรุต เรื่องจุดเปลี่ยนชีวิต! เคยปาร์ตี้หนักพังเละ หันมาดูแลสุขภาพเพราะครอบครัว
แด๊ดดี้สุดเฟิร์ม “น็อต วิศรุต” เปิดหมดเปลือกเรื่องสุขภาพที่แรก! ในรายการ On the way with Chom ของ “ชมพู่ อารยา” งานนี้มีแซวคุณสามีดูแล้วทั้งเขินทั้งฟินมาก เล่าเรื่องอดีตจากชีวิตพังเละ ปาร์ตี้หนัก 60 วัน 60 คืน กลับบ้าน 6 โมงเช้า! เผยจุดเปลี่ยนให้หันมาจริงจังกับการดูแลสุขภาพ พลิกชีวิตด้วยวินัย 10 ปี เพราะอยากมีแรงอุ้มลูกไปนานๆ เผยความเชื่อสุขภาพสุดขัดใจหมอ อาหารครบ 5 หมู่ไม่จำเป็น ?

ตอนที่ปาร์ตี้หนัก ๆ หนักสุดของพี่คือเบอร์ไหน?
น็อต วิศรุต : หนักสุดเบอร์ไหนเหรอ? ชมมาปลายแล้ว จริงเหรอ? ตอนหนักเนี่ย คือช่วงอายุ 20 ต้น ๆ จบมหาวิทยาลัย เพื่อนสนิทเป็นฝรั่งหมดเลย พอจบก็ชอบมาอยู่ที่เมืองไทยกัน เราก็สัญญากันว่า เพื่อนอยู่เมืองไทย 2 เดือน ประมาณ 60 วัน เราก็ made a pact ว่า 60 วัน 60 คืน ต้องปาร์ตี้ทุกคืน ต้องทำให้สำเร็จ ทุกกันวันนี้เพื่อนที่ทำงานอยู่ฮ่องกงก็ยังคุยกันเรื่องนี้อยู่

ตอนที่เจ๊ง ๆ พี่หนักเท่าไหร่ ?
น็อต วิศรุต : ช่วงนั้นไม่ค่อยชั่งเท่าไหร่ แต่น่าจะประมาณ 80 กิโล ไม่มีกล้ามเนื้อเลย จากคนที่อยู่มหาวิทยาลัย 4 ปีเข้าเวททุกอาทิตย์ เตะบอลสุดสัปดาห์ กลับมาเมืองไทยไม่มีอะไรเลย ปล่อยตัว กินทุกอย่าง ดึก ๆ ก็ยังกิน ตี 1 - 2 ก็ยังกิน ตอนนั้นไม่รู้สึกอะไรเลย เพราะเที่ยวถึง 6 โมงเช้า 9 โมงวันเสาร์ยังเตะบอล นอนน้อย กินไม่ดี เวทไม่เล่น กล้ามเนื้อหาย ไม่รู้มันวกกลับมาได้ยังไง อาจจะเพราะมีเมีย มีลูก มีครอบครัว เลยกลับมาดูแลตัวเอง

จุดที่พี่รู้สึกว่าต้องหันมาดูแลสุขภาพคืออะไร?
น็อต วิศรุต : ก็ตอนที่ป๊าป่วยนั่นแหละ พอว่างก็เริ่มหาข้อมูล บางคนบอกมะเร็งเป็นกรรมพันธุ์ แต่เราก็ศึกษาเรื่องอาหาร ไลฟ์สไตล์ยังไงที่จะป้องกัน ว่ามีอะไรช่วยรักษาได้บ้าง สมัยนั้นยังไม่มีข้อมูลเท่าไหร่ มันก็ต้องใช้เวลา สิ่งที่รู้ก็คือต้องกลับมาปรับไลฟ์สไตล์ใหม่

ตอนนั้นพี่เปลี่ยนอะไรบ้าง?
น็อต วิศรุต : รู้แล้วทำได้หรือเปล่า รู้กับทำมันคนละเรื่องกัน บางคนบอกว่ารู้ว่ากินเยอะอ้วน แต่ห้ามปากได้ไหม รู้ว่าน้ำตาลไม่ดี ห้ามได้ไหม มันคงต้องใช้เวลา สักัพกหนึ่งกว่าจะหาความรู้ ต้องมีวินัยและความสม่ำเสมอ กว่าจะเปลี่ยนจนกลายเป็นนิสัย ใช้เวลา 10 ปีถึงจะเป็น lifestyle

ช่วงที่รู้สึกว่าพี่ก็เริ่มเปลี่ยนชัด ๆ ก็คือช่วงที่ชมท้องเกลใช่ไหม ?
น็อต วิศรุต : ใช่ ก็อย่างที่บอก รู้กับทำมันคนละเรื่อง ต้องใช้เวลา พอรู้ก็พยายามปรับทีละอย่าง ไม่ใช่วันนี้รู้ 10 อย่าง ทำทั้ง 10 อย่าง ต้องค่อยๆปรับ เริ่มจากออกกำลังกาย อาหาร ทำทุกอย่างให้มันเป็น lifestyle

อธิบาย lifestyle หน่อย ?
น็อต วิศรุต : ก็ทำ IF ต้องออกตัวก่อนว่าไม่ได้เป็นหมอ ไม่ได้เป็นผู้รู้ แต่ว่ามาแชร์ประสบการณ์ วิธีการที่จะทำให้ได้ไม่ว่าจะทำอะไรบนโลกนี้ มันต้องสตาร์ด้วย WHY ทำไมทำ คนเราอยากจะทำให้ตัวเองสำเร็จ ต้องทำให้ตัวเองเชื่อก่อนว่า ทำไมต้อง IF แล้วก็จะเข้าใจ พอเข้าใจแล้วอยากทำ ก็เริ่มทีละอย่าง

เลือกข้อมูลด้านสุขภาพยังไง เพราะตอนนี้ข้อมูลเยอะมาก ?
น็อต วิศรุต : อ่านด้วยวิจารณญาณ ชอบอ่าน ฟังหลายด้าน อะไรที่คิดว่ามันใช่ก็เริ่มมาทดลองกับตัวเอง อะไรที่เวิร์คกับเราก็ไม่ได้แปลว่าเวิร์คกับคนอื่น แต่ไม่เชื่อสุดโต่ง ไม่ว่าจะ carnivore หรือ vegan เชื่อว่าต้องมีทางสายกลาง แล้วทดลองกับตัวเอง ทำ IF 16/8 ทยอยทำ แต่ถ้าทำไม่ได้ก็ไม่ฝืน ดีกว่าเมื่อวานไปเรื่อยๆ

อาหารเปลี่ยนไปเยอะไหม?
น็อต วิศรุต : อาหารเปลี่ยนเยอะมาก คนเราต้องกินโปรตีนให้พอ ไม่เชื่อว่าต้องกินครบ 5 หมู่ เพราะจริงๆ ร่างกายไม่ต้องการน้ำตาลและแป้งเท่าที่ควร นิดหนึ่ง ส่วนตัวนะเชื่อว่าน้ำตาลกับแป้งเป็นสาเหตุของคอเลสเตอรอลสูงไม่ใช่ไขมัน แล้วก็ทดลองมากับตัวเอง นี่คือความเชื่อส่วนตัว เพราะฉะนั้นอาหารเช้าไม่จำเป็นทุกวันนี้ตื่นเช้าไม่กินอะไรเลย กินกาแฟ แล้วไปยกเวท จะ 5 ปีแล้วไม่กินอาหารเช้า

เมนูที่กินประจำคืออะไร ?
น็อต วิศรุต : กินผักก่อน บล็อกโคลี่ แอสพารากัส ซูกินี มะเขือเทศ หลังจากนั้นก็จะกินโปรตีน ไก่ เนื้อ แซลมอน ไข่วันละ 6 ฟอง กินน้ำมันดี ๆ เช่น extra virgin olive oil, ghee และ coconut oil ไม่ใช้น้ำมันพืช ไม่ใส่เครื่องปรุงเยอะ เช้า กลางวันเย็น 3 มื้อ ถ้าไม่มีนักธุรกิจคุยงาน ก็กินข้าวบ้าน ทุกวัน

แล้ว fitness ตอนนี้เป็นยังไง ?
น็อต วิศรุต : ออกกำลังเวทสม่ำเสมอ จัดเวลาทุกเช้า ถ้าไม่ไปโรงงานจะใช้เวลาในยิมอย่างน้อย 2 ชั่วโมง เปิด Cubic Fitness ร่วมกับเทรนเนอร์ เพื่อให้เป็น lifestyle ถ้าออกกำลังได้สม่ำเสมอ ผลลัพธ์ก็ตามมาเอง

มีข้อสงสัยอันหนึ่ง เมื่อก่อนถ้าพี่ถือเหล้าในมือจะกระดกทั้งคืนเลยเหมือนไม่รู้ตัว แต่ว่าตอนนี้พี่แทบจะไม่แตะเลย ?
น็อต วิศรุต : ใช่ คือทุกวันนี้ใครถามว่าดื่มอะไรก็จะบอกว่า วอดก้า เพราะมันใสแต่จริงๆไม่ใช่มันคือน้ำเปล่า แล้วเวลาไปปาร์ตี้ก็กินโซดาทั้งคืนเวลาออกไปข้างนอก ไวน์แดงก็กินตามสังคมบางทีแต่ก็จะน้อยมากๆ เกิดขึ้นเพราะการใช้เวลาที่ให้มันเป็นไลฟ์สไตล์ เรารู้แล้วไงดื่มไวน์น้ำตาลเยอะ ดื่มเหล้าแอลกอฮอล์พอลงไปร่างกายเป็นพิษต้องใช้ตับในการที่จะขับ ของเสียอื่นๆก็จะติดข้างอยู่ด้วย ไม่ใช่หมอนะครับแต่ว่าศึกษา เป็นความเชื่อ ส่วนตัว

เรื่องนอน ?
น็อต วิศรุต : พยายามเข้านอนเวลาเดิม ที่บ้าน 2 ทุ่มก็คืออยู่บนเตียงกันหมดแล้วแล้ว พี่ก็มีนั่งทำงานนิดหน่อย 5 ทุ่มก็คือพยายาม นอนให้ได้ 8-9 ชั่วโมง วัด REM กับ Deep sleep ให้ได้อย่างน้อย 2 ชั่วโมง ถ้าไม่ได้ก็ต้องหาสาเหตุ เช่น กินเยอะเกินไป หรือเครียดเกินไป ทุกวันนี้กลัวคนชวนออกไปข้างนอก กลัวคนชวนไปดื่ม เดียวนี้นิดเดียวก็ไปหา หมอแล้ว

สามารถติดตาม "On the way with Chom" ได้ที่ช่องทาง Podcast : Life Dot , Facebook: Life Dot , Youtube : Life Dot วันจันทร์ (สัปดาห์เว้นสัปดาห์) เวลา 18.00 น.

คลิกชมรายการย้อนหลัง : https://www.youtube.com/watch?v=nPQtq9y8GBQ&ab_channel=LIFEDOT
จูน เพ็ญชุลี ไม่ทน! โดนกล่าวหาใช้ใบรับรองแพทย์ปลอม ลั่น! ฟ้องมาฟ้องกลับก็รับให้ได้
มีประเด็นใหม่เข้ามาให้ต้องเคลียร์กันไม่หยุดพักอีกแล้วสำหรับ “จูน เพ็ญชุลี”อดีตภรรยาหนุ่ม กะลา นักร้องดัง หลังจากมีคนตั้งข้อสงสัยและกล่าวหาว่าใช้ใบรับรองแพทย์ปลอมเพื่อผลทางคดี

ล่าสุด 5 พ.ค เจ้าตัวเลยโพสต์เคลียร์กันแบบชัดๆ ไปเลยว่าฟ้องได้ไม่ว่า แต่ถ้าฟ้องกลับต้องรับให้ได้ด้วย "ใครนะช่างคิดได้ หาว่าเราใช้ใบรับรองแพทย์ปลอม เลยต้องนัดมาพบหมอชวนหมอไปศาลด้วยกันซะเลย เราไม่มีนิสัยเอาเรื่องความเจ็บป่วยมาโกหกเพื่อผลทางคดีหรอกนะคะ!!! ฟ้องได้ไม่ว่า ฟ้องกลับก็รับให้ได้ด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ" -ด้านทนายพัฒน์ ทนายของแม่จูนก็ได้เข้ามาคอมเมนต์ว่า "อุ๊ย!!!" ด้านแม่จูนก็ตอบกลับว่า "ไม่ต้อง อุ๊ย! จ๊ะ เอาจริง พูดจริงทำจริงจ๊ะ"

#จูนเพ็ญชุลี #สยามดารา #ข่าวบันเทิง
จบรัก2ปี เนท My Mate Nate ประกาศยุติความสัมพันธ์ เอวา ยันจากกันด้วยดี ยังคงให้กำลังใจกันและกัน
หลังจากคู่รักสายคอนเทนต์ชื่อดังระหว่าง เอวา ปวรวรรณและ เนท My Mate Nate ถูกจับหลายคนจับตาความสัมพันธ์เหมือนความรักมีแววจะถึงทางตันแล้ว เพราะไม่มีโมเมนต์หวานๆ กันมา พักใหญ่

ล่าสุด 5 พ.ค ”เนท“ได้ออกมาโพสต์ชี้แจงหลังมีข่าวลือเรื่องความรักของทั้งคู่ ซึ่งเนทได้โพสต์ผ่านทางโซเชียลมีเดียของตัวเอง ซึ่งมีข้อความว่า "ช่วงนี้เห็นว่ามีข่าวออกมาหลายอย่าง เลยอยากขอใช้โอกาสนี้ชี้แจงให้แฟนคลับเนทและเอวาทุกคนทราบว่าผมตัดสินใจยุติความสัมพันธ์กับน้องเอวา ซึ่งนี่ไม่ใช่การตัดสินใจที่ง่ายเลย เอวาเป็นคนที่ดี และผมก็ยังคงห่วงใยน้อง เสมอ

-ผมขออนุญาติไม่ลงรายละเอียดว่าเราทั้งคู่จบความสัมพันธ์เพราะอะไร ขอให้มันเป็นเรื่องส่วนตัวของเรา 2 คนและขอให้แฟนๆ เราทั้งคู่ยังคงจะซัพพอร์ตพวกเราทั้งคู่ต่อไปผมและเอวาเราจากกันด้วยดี และจะยังคงให้กำลังใจกันและกันในเส้นทางของตัวเอง ขอบคุณแฟนๆทุกคนที่เข้าใจและเคารพในการตัดสินใจของเราทั้งคู่ด้วยนะครับ"

ด้าน เอวา ปวรวรรณ ก็ได้เข้ามาคอมเมนต์ใต้โพสต์ด้วยว่า "ขอบคุณสำหรับความรัก ความหวังดี ทุกอย่างที่ทำเพื่อหนูเสมอมา พี่เนทเป็นผู้ชายที่ดีมากๆ พี่เนทจะเป็นความทรงจำที่ดีที่สุดของหนูเสมอ รักเสมอค่ะ

-และขอบคุณทุกคนที่รักพวกเรา ชาว #เนวา ทุกคนด้วยนะคะ ขอโทษด้วยที่อาจจะทำให้ผิดหวัง และ ขอบคุณสำหรับกําลังใจที่ทุกคนส่งมาให้พวกเราด้วยนะคะ หนูก็จะมีแต่ความหวังดี และรอดูความสำเร็จของพี่เสมอ ขอบคุณจากใจจริงๆสำหรับทุกอย่าง ค่ะ"

#เอวาปวรรณ #เนทMyMateNate #สยามดารา
“หมอช้าง” เผย 5 พ.ค. นี้ 12 ราศีดวงพลิก! ปรากฏการณ์ดาวตรีเทพย้ายราศี 40 ปีมีครั้ง
สุดฮือฮา! ปรากฏการณ์ทางโหราศาสตร์ที่หายาก ดาวตรีเทพ (ดาวพฤหัสบดี ดาวเสาร์ และพระราหู) จะย้ายราศีพร้อมกันภายในเดือนพฤษภาคมนี้ ซึ่งถือเป็นเหตุการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในรอบ 40 ปี โดย “หมอช้าง ทศพร ศรีตุลา” ได้เผยในรายการ WOODY FM ถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ ส่งผลกระทบทั้ง 12 ราศี การงาน การเงิน ความรัก และสุขภาพ มีทั้งด้านบวกและลบ เพื่อเป็นแนวทางในการเตรียมตัว รับมือ

วันนี้เราจะได้ทราบเรื่องของปรากฏการณ์ 40 ปีมีครั้ง หมอช้างพร้อมที่จะมาเล่าให้ฟัง เพราะว่าเรื่องนี้ต้องบอกเลยว่าผมฟังแล้วยังอึ้งเลยกับปรากฏการณ์นี้ ?
หมอช้าง : ต้องบอกว่าปกติโหราศาสตร์ คือการพูดถึงเรื่องดวงดาว ให้ผมพยากรณ์ไม่มีดวงดาว อาทิตย์ ดาวอังคาร ดาวพุธ ทายไม่ได้ เราดูจากดวงดาว แต่ทีนี้ดวงดาวแต่ละดวง เขาจะมีการเคลื่อนหรือว่าเปลี่ยนราศีตามระยะตามรอบของเขา อย่างดาวดวงหนึ่งที่เปลี่ยนราศีเป็นประจำทุกปีเลย คือเรามี 12 ราศี ดาวพฤหัสจะใช้เวลาประมาณ 1 ปีถึงจะย้ายราศีครั้งหนึ่ง สมมุติว่าตอนนี้เขาอยู่ราศีมังกรนะครับ พอครบปีปุ๊บเขาจะย้ายเป็นราศีกุมภ์ ครบอีกปีเขาจะย้ายไปราศีมีน ครบไปเรื่อยๆ อันนั้นราศีละ 1 ปี ส่วนดาวอีกดวงหนึ่งซึ่งคนจะรู้จักเยอะแล้ว คนจะกลัวดาวตรงนี้เยอะคือพระราหู พระราหูใช้เวลาในการเปลี่ยนราศี 1 ปีครึ่ง 18 เดือนเปลี่ยนราศีครั้งหนึ่ง นานกว่าดาวพฤหัสบดี พฤหัสบดีปีละครั้ง พระราหูปีครึ่งครั้งหนึ่ง ดาวอีกดวงหนึ่งที่คนรู้จักกันอีกเหมือนกัน เราจะเคยได้ยินคำว่าพระศุกร์เข้าพระเสาร์แทรกอะไรงี้ ก็คือดาวเสาร์ ซึ่งถ้าดูจากโลกเขาอยู่ไกลออกไปค่อนข้างจะเยอะมาก เส้นรอบวงเขากว้างมาก ดาวเสาร์ใช้เวลา 2 ปีครึ่งในการจะย้ายราศีครั้งหนึ่ง ทีนี้เราจะเห็นว่าดาวดวงหนึ่งปีหนึ่ง ดาวดวงหนึ่งปีครึ่ง ดาวดวงหนึ่ง 2 ปีครึ่ง ความเร็วไม่เท่ากัน แต่เดือนพฤษภาคมครั้งนี้ ดาว 3 ดวงนี้ซึ่งเราเรียกว่าดาวตรีเทพ จะมีการเปลี่ยนราศีทั้ง 3 ดวงภายในเดือนเดียว เหตุการณ์นี้ตั้งแต่ผมทำตามอาชีพนี้มายังไม่เคยเกิดขึ้น ผมยังไม่เคยเจอปรากฏการณ์แบบนี้ อะไรที่ไม่เคยเกิดมันก็จะเกิด
ฟังดูแล้วคนอาจจะเกิดความวิตกกังวล เดี๋ยวเราจะอธิบายเพิ่มเติมว่าในการเตรียมตัวสำหรับคนที่เข้าใจสนใจเรื่องนี้อย่างมาก แต่ในแง่ของความเข้าใจก่อนเราเรียก

ปรากฏการณ์นี้ว่าอะไร ?
หมอช้าง : จริงๆ มันคือการที่ดาวตรีเทพ เพราะเป็นดาวเทพ 3 องค์ ก็คือไม่ว่าจะเป็นพระพฤหัสบดี พระเสาร์ พระราหู 3 ดวงนี้เป็นดาวที่เป็นหลักที่ใช้ในการพยากรณ์ จริงๆเวลาดูดวงใช้ดาวเยอะหลายดวงครับ แต่ดาวตรีเทพเป็นดาวที่เหมือนกำหนดทิศทางของชีวิต ซึ่งปกติแล้วดาวตรีเทพไม่ได้ย้ายพร้อมๆ กัน

ย้ายพร้อมกัน หมายความว่าอะไร ?
หมอช้าง : ง่ายๆ ก็คือว่าเหมือนเรามีพิซซ่าอยู่ 12 ชิ้น ปกติดาวราหูจะย้ายจากพิซซ่าชิ้นที่ 1 ไปชิ้นที่ 2 ต้องรอถึงปีครึ่งถึงจะขยับ ดาวพฤหัสบดีย้ายพิซซ่าสมมุติจากชิ้นที่ 5 ไปชิ้นที่ 6 ใช้เวลาประมาณปีหนึ่ง พระเสาร์อาจจะย้ายพิซซ่าจากชิ้นที่ 4 ไปชิ้นที่ 5 ใช้เวลาประมาณ 2 ปีครึ่ง แต่เดือนพฤษภาคมเป็นเดือนที่ทั้ง 3 อัน จะมีการย้ายชิ้นของพิซซ่าทั้ง 3 ดวง ซึ่งเหตุการณ์นี้มันโอกาสที่จะเกิดขึ้นภายในเดือนเดียวยากมาก ดวงแรกใกล้สุดเลย 5 พฤษภาคมพระราหูย้ายราศี ถัดไปอีกแป๊บนึง 13 พฤษภาคมดาวพฤหัสย้ายราศี ถัดไปอีกแป๊บนึง 19 พฤษภาคมดาวเสาร์ย้ายราศี ทีนี้มันย้ายทุกสัปดาห์ ดวงของทั้ง 12 ราศีมีการเปลี่ยนแปลงอย่างแน่นอน

น่าตื่นเต้นเพราะเรามองในเชิงบวก ไม่ได้มองว่ามันจะมีปัญหา ถือว่ามันเป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่เป็นพลังงานเวลา มันเคลื่อนก็ต้องส่งมาถึงมนุษย์อยู่แล้ว คิดว่ามันจะเปลี่ยนแบบไหน ?
หมอช้าง : คือคนพอขึ้นชื่อว่าการเปลี่ยนแปลงมักจะตีความว่าไม่ดีไปก่อน การเปลี่ยนแปลงมีทั้งดีและไม่ดีควบคู่กันไป เพียงแต่ว่าบางทีเราเจอเหตุการณ์มาก่อนหน้านี้ภัยธรรมชาติอะไรทั้งหลาย คือจริงๆดาวกำหนดดาวดวงแรกที่เปลี่ยนเนี่ยคือ 5 พฤษภาคม เป็นพระราหูเปลี่ยน เหตุการณ์ที่มันเกิดขึ้นเราดูสิ่งที่เกิดขึ้นรอบตัวเรา ภัยธรรมชาติหรืออะไรก็ตามแผ่นดินไหวภูเขาไฟระเบิดอะไร มันไม่ได้เกิดที่พฤษภาคมมันต้องเกิดก่อนอยู่แล้ว เหมือนเวลาคุณวู้ดดี้ดูแสงจากดวงดาวบางดวงสิ่งที่เราเห็น นั่นคืออดีต เพราะดาวบางดวงมันอาจจะดับไปแล้ว กว่าแสงจะเดินทางมาถึง สิ่งที่เรามองเห็นนั่นคืออดีต โหราศาสตร์ก็เหมือนกัน ดาวย้ายวันแรกปุ๊บวันที่ 5 พฤษภาคมไม่ได้ว่าเหตุการณ์มันต้องเกิดวันที่ 5 เป๊ะหรอก กระแสของดวงดาวมันมาก่อนแล้ว ความวุ่นวายของโลก สงครามการค้ากำแพงภาษี แผ่นดินไหวภูเขาไฟระเบิดเหตุการณ์ภัยธรรมชาติอะไรทั้งหลาย มันล่วงหน้ามา เพราะมันดาว 3 ดวง เหมือนเรา ทุ่มก้อนหิน 3 ก้อนลงไปในน้ำ ทุ่มก้อนเดียวคลื่นมันก็เกิดแบบหนึ่ง แต่ผ่านไปแป๊บนึงเราจะไปทุ่มอีกก้อนหนึ่ง ทุ่มอีกก้อนหนึ่ง ดังนั้นวันนี้สิ่งที่จะมาเล่าให้ฟังก็คือว่าหลังจากก้อนหินทั้ง 3 ก้อนนี้มันถูกทุ่มลงไปแล้วผลลัพธ์ที่จะเกิดขึ้นกับชีวิตของคน ผมเป็นนักโหราศาสตร์ก็คือทั้ง 12 ราศีจะเคลื่อนจะเปลี่ยนแน่นอนครับ

สำหรับการเคลื่อนของดาวตรีเทพในครั้งนี้ที่บอกว่า 40 ปีมี 1 ครั้ง เตรียมตัวเตรียมใจยังไงของแต่ละราศี ?
หมอช้าง : เอาคนที่ได้รับผลโดยตรง คือด้วยความที่มันหลายดวง พอมัน 3 ดวง จะมีราศีที่ผลกระทบค่อนข้างจะเยอะ อย่างปกติถ้าสมมุติอย่างพระราหูย้ายมันจะมีราศีที่รับเอฟเฟกต์ประมาณ 2 ราศี แต่นี้ด้วยความที่มันมีดาวละ 2 ราศี 3 ดวง มันเลยดูเยอะหน่อย มี 6 ราศีนะครับ เอากลุ่มแรกก่อนเพราะว่าดาวดวงแรกที่จะย้ายซึ่งถ้าเราออกทันวันที่ 5 พฤษภาคม เปิดปฐมฤกษ์ดวงแรกคือพระราหู กำลังจะเข้ามาสู่ดวงของท่าน 2 ราศีก็คือผู้ที่เกิด ราศีกุมภ์และราศีสิงห์ 5 พฤษภาคมเป็นต้นไป อย่างที่บอกพระราหูใช้เวลา 18 เดือน พระราหูจะมาอยู่ในดวงของเราอย่างที่ผมบอกคือปัจจุบันพระราหูไม่ได้น่ากลัวเหมือนเมื่อก่อน

ใครเกิดราศีกุมภ์และราศีสิงห์ชีวิตคิดคุณ 1 ถือกระเป๋าเดินทางใบใหม่เลย คุณจะได้เดินทางไกลมากขึ้น อันที่ 2 ถ้ายอดผู้ติดตามคุณน้อยๆ อยู่ หลังจากราหูเข้ามันจะมีการเปิดการมองเห็นเกิดขึ้นนะครับ คุณจะมีแบบความ เค้าเรียกว่า Activity ทางโลกโซเชียลทั้งหลายจะคึกคักมากขึ้น ใครอยากจะทำธุรกิจการค้าทางด้านออนไลน์คุณจะปังมากหลังจากนี้ไปอีก 18 เดือน และโดยเฉพาะเจ้าภาพหลักคือพระราหูจะย้ายเข้าราศีกุมภ์ ราศีกุมภ์เป็นบ้านเกิดของพระราหูเป็นแบบโฮมทาวน์ คือพระราหูกำเนิดมาจากราศีกุมภ์ ดังนั้นการที่พระราหูย้ายเข้าราศีกุมภ์เหมือนกลับบ้านตัวเอง ครั้งที่แล้วที่พระราหูอยู่ราศีกุมภ์คือ 18 ปีที่แล้ว เหมือนจากบ้านไป 18 ปี ดังนั้นพอพระราหูเข้ามาปุ๊บมันเหมือนดาวประจำตัวเรา

ราศีกุมภ์เป็นราศีที่ไม่กลัวพระราหูเลย ขอให้มาเถอะมาแล้วดีแน่นอน ในขณะที่เจ้าภาพร่วมมันจะมี 2 ราศีที่โดนนะครับ ก็คือราศีสิงห์ แต่ราศีสิงห์อาจจะฝากเตือนหน่อยในเรื่องของความรักเรื่องของคู่ครอง เพราะพระราหูไปอยู่ในตำแหน่งที่เป็นเรื่องคู่ครองความรักที่เป็นแบบเงา หรือว่าความรักที่แบบเจอกันผ่านแอป เป็นแบบออนไลน์ทั้งหลายก็ต้องใช้สติให้มากขึ้น ดังนั้นคนที่ราหูเข้าคือ คนที่มีทิฐิ ดื้อเอาง่ายๆ แต่ความดื้อมันมีประโยชน์ก็มีนะ คือความมุ่งมั่นในจิตใจของเรา คนเป็นนักกีฬาจะต้องมีพระราหูเด่น ดังนั้น 2 ราศีนี้ใช้ความมุ่งมั่นในตัวเองให้เป็นประโยชน์ อย่าให้มันกลายเป็นทิฐิ วิธีการง่ายสุด ถ้าคุณเป็นสายชอบไหว้พระ เดี๋ยวนี้มูมีหลายแบบ เข้าวัดทำบุญไหว้พระ พระพุทธรูปที่เกี่ยวข้องกับเรื่องพระราหูมีอยู่ 2 องค์ ก็คือพระไสยาสน์หรือพระนอน ปางโปรดอสุรินทราหู กรุงเทพมหานครสวยๆเลยก็คือวัดโพธิ์ พระพุทธรูปอีกองค์หนึ่งอันนี้เป็นพระประจำผู้ที่เกิดวันพุธกลางคืน เพราะว่าพุธกลางคืนหมายถึงพระราหู คือพระพุทธรูปปางปางปาลิไลยก์ วัดที่มีพระองค์นี้อยู่คือวัดกัลยาณมิตร แต่จริงๆมีหลายวัดนะครับ

เซ็ตที่ 2 คือ ?
หมอช้าง : ช่วงวันที่ 13 เดือนพฤษภาคม จะเป็นดาวพฤหัสบดี ดาวพฤหัสบดีเป็นดาวที่ดีที่สุดในดวงดาวทั้งหมดในการดู เป็นดาวที่แทบจะ ไม่ค่อยมีทิฐิเท่าไหร่ จูปิเตอร์ ดีที่สุด พระพฤหัสบดีจะเข้า 2 ราศีนะครับ ก็คือผู้ที่เกิดในราศีเมถุนและราศีธนู 2 ราศีนี้จัดว่าเป็นราศีที่ชีวิต จะพลิกผันไปในทางที่ดีขึ้น 2 ราศีนี้จะเป็นราศีที่ดวงดีขึ้นเยอะมาก โดยเฉพาะผู้ที่เกิดราศีเมถุนหลังจากวันที่ 13 ไปแล้วอีก 1 ปีจะเป็นปีที่ดีที่สุดในรอบ 12 ปีของคุณ

ดีที่สุดในรอบ 12 ปี ?
หมอช้าง : ใช่ เพราะว่าดาวพฤหัสบดีจะเข้าราศีเมถุนทุก 12 ปี ใครเกิดราศีเมถุนนี่คือแสงสว่างแห่งการเริ่มต้น ดาวพฤหัสบดีคือดาวแห่งการกดปุ่มสตาร์ท คุณต้องเริ่ม คือทางโหราศาสตร์บอกว่าถ้าเราเริ่มช่วงที่ดวงดีเรื่องยากก็ง่ายขึ้น เราเริ่มในช่วงที่ดวงมีปัญหาเรื่องง่ายก็ยากขึ้น คนดวงดีต้องอธิบายนะ เดี๋ยวนี้คอนเทนต์มันเยอะมาก คนดวงดีไม่ใช่คนที่สบาย คนดวงดีคือคนที่มีโอกาสที่ดีเข้ามา แต่คนที่ประสบความสำเร็จคือคนที่เอาตัวเองไปหาโอกาสนั้น ดังนั้น ดวงคือโอกาส แต่ความสำเร็จคือตัวเรา ฟ้าเปิดให้ราศีเมถุนแล้ว อยากจะเริ่มอยากจะทำอะไรรอมานานหมดข้ออ้างแล้วนะ หลังจากนี้ไปปีหนึ่งถ้าคุณไม่ทำอย่ามาโทษดวงนะเพราะดวงเปิดแล้วราศีนี้เป็นราศีแห่งการเริ่มต้น อะไรที่ติดขัดอยากจะทำขอให้เริ่มคือได้ทุกเรื่องนะ ทั้งเรื่องงานเรื่องเงินเรื่องส่วนตัว ถ้าหากคุณเริ่มในช่วง 1 ปีนี้มันจะง่ายขึ้นนี่คือเจ้าภาพหลัก เจ้าภาพร่วมอีกราศีหนึ่งคือ ราศีธนู จะไปเด่นในเรื่องความรักเป็นหลัก อันนี้เป็นโควต้าสำหรับคนโสดเลย คือใครที่ยังโสดอยู่ราศีธนูโอกาสที่จะได้สละโสดหลังจากดาวพฤหัสบดีย้าย บวกกับดาวดวงอื่นเรียบร้อยแล้วจะมีเข้ามาเยอะมาก หรือถ้าเกิดบางคนไม่ได้สนใจเรื่องความรัก ก็อาจจะเป็นลักษณะของคู่ที่เป็นหุ้นส่วนคู่ครองคู่สัญญา คุณอาจจะได้งานได้คอนแทคได้เซ็นสัญญาอะไรก็ตามซึ่งทำให้เกิดผลดีต่อหน้าที่การงานของเรา เป็นราศีที่คนรอบตัวจะเมตตามากขึ้น

เซ็ตสุดท้าย ?
หมอช้าง : เซ็ตสุดท้ายวันที่ 19 พฤษภาคม จริงๆ มันเกือบอาทิตย์ทุกอาทิตย์นะครับ ย้ายกันทุกอาทิตย์เลย 19 พฤษภาคม เป็นดาวเสาร์ ตำราโหราศาสตร์บอกว่าทายโทษทุกข์ให้ทายดาวเสาร์ ทายมัวเมาให้ทายราหู คือราหูเป็นดาวแห่งความลุ่มหลง ทำอะไรแบบเต็มที่ แต่ดาวเสาร์มันเป็นดาวที่เหนื่อยหน่อย เป็นดาวที่ต้องเตือน ดังนั้นราศีที่ดาวเสาร์กำลังจะเข้า มี 2 ราศี ก็คือผู้ที่เกิดราศีมีนและราศีกันย์ เจ้าภาพคือราศีมีน อาจจะเตือนเยอะหน่อย เพราะว่าคือในบรรดา 12 ราศีคนใจอ่อน คนใจบุญที่สุดยกให้ราศีมีน เป็นราศีที่เป็นผู้ให้ ชอบช่วยเหลือคน มีเมตตา Sensitive อ่อนไหว แต่ดาวเสาร์เป็นดาวที่ตรงข้ามกับคนราศีมีน มันเป็นดาวที่เหนื่อยลุยสู้ เรื่องเครียดแรงกดดัน ซึ่งดาวเสาร์บางทีไปเข้าราศีอื่นบางคนเขาไม่ได้สะเทือนเท่าไหร่ แต่พอมาเข้าราศีมีน โอ้โหมันเหมือนแบบสุดคนละขั้วกัน คนละบทกัน พระเอกกับตัวร้ายอะไรอย่างงี้มาเจอกัน ราศีมีนก็ต้องเตือน ความนิยามมันคือความผิดหวัง เสียใจ สูญเสีย ต้องระวัง เราคงต้องทำตัวเองให้แข็งแรงขึ้น พระเสาร์ง่ายๆเหมือนเป็นภาระในชีวิต สิ่งที่แนะนำราศีมีนคือ หาภาระที่มันจำเป็นหน่อย เช่น กำลังจะไปผ่อนคอนโดพอดี จะไปผ่อนบ้านพอดีมีภาระขึ้นมา หรือพระเสาร์หมายถึงความหนัก ไปออกกำลังกายซะ การออกกำลังกายเป็นภาระกับชีวิตนะ คือต้องไปให้ได้ ไปยกอะไรหนักๆ ซะ ไปโหนอะไรหนักๆ ซะ ให้ชีวิตคุณเหนื่อย แต่มันไปเหนื่อยกับกีฬา ไปเหนื่อยกับการออกกำลังดีกว่าไปทุกข์อย่างอื่น แปลว่าไม่ต้องไปจมกับความทุกข์แต่เอาร่างกายไปใช้งานหนัก เพื่อให้มันได้เคลื่อนย้ายความทุกข์ไปอยู่กับแค่ร่าง เหนื่อยกายดีกว่าเหนื่อยใจ

ดังนั้นใครราศีมีนและราศีกันย์ ก็ลองดูตัวเองแล้วกันนะครับ คือต้องบอกว่าแต่ละคนผลมันไม่เท่ากัน ผลลัพธ์ไม่เท่ากันเพราะต้นทุนไม่เท่ากัน คุณสะสมบุญบารมีมาแตกต่างกัน พอดาวพวกนี้มันเหมือนกรรมบางอย่างมันจะกลับมาสู่ตัวเราได้เร็วขึ้น ดังนั้นฝากว่าดูแลทั้งร่างกายและจิตใจควบคู่กันไปครับ ส่วนราศีกันย์อาจจะฝากเตือนในเชิงของเรื่องคอนแทค เรื่องการถูกโกง การถูกหักหลัง คือความไว้เนื้อเชื่อใจที่มากเกินไป ไม่ได้บอกว่าคนใกล้ตัวนะ ใครเกิดราศีกันย์จะเซ็นสัญญาจะทำธุรกรรมอะไรให้ระมัดระวังให้มากขึ้น ข้อดีของดาวเสาร์มีอย่างหนึ่ง มันคือดาวแห่งงานหนัก ใครที่แบบทำอาชีพอิสระแบบเป็นเจ้านายของตัวเองหรือคุณแบบยิ่งทำมากแล้วได้มาก งานคุณจะเยอะมาก ใครเป็นพ่อค้าแม่ค้าอยู่ออเดอร์คุณจะมาแบบเพียบเลย คนที่ดาวเสาร์เข้าไม่มีว่างงาน ต้องสู้ต้องลุยต้องทำ แต่คนที่ไม่ค่อยชอบคือมนุษย์เงินเดือน เพราะว่าทำงานเยอะเงินมันไม่ค่อยขึ้น เดี๋ยวนี้ปัจจุบันเรามีอาชีพเสริมได้ไม่ยาก อาจจะไม่ได้ทำงานเดียวแล้วถูกไหม มีงานประจำด้วยมีอาชีพเสริม จงหาสิ่งที่เป็นอาชีพเสริมความสามารถพิเศษของตัวเองขึ้นมาครับ โอกาสที่คุณจะมีเงินทองมีรายได้จากดาวเสาร์เพราะหมายถึงงานที่หนักขึ้นออเดอร์ที่เยอะขึ้น จะมีเข้ามา ดังนั้นมันก็มีเรื่องที่ต้องเตือนในเชิงสุขภาพนะครับ ต้องดูแลสุขภาพให้มากขึ้น ดูแลจิตใจ ออกกำลังกายออกกำลังจิตของเราควบคู่กันไป ดูแลคนรอบตัวด้วยนะครับ แล้วก็ที่สำคัญคือหารายได้อะไรใหม่ๆ หาช่องทางในการหาเงินใหม่ๆเข้ามา อย่ามีแต่ passive อย่างเดียว

อีก 6 ราศี ?
หมอช้าง : ราศีเมษ ดาวเปลี่ยนแล้วดีเรื่องงานขาย เซลล์ ในหน้าตัวแทน งานขายดีโชคลาภเด่น ถ้านับเรื่องการเสี่ยงโชค ราศีเมษจะมีข่าวดีเข้ามา หรือการลงทุนที่มีความเสี่ยงเยอะๆ สำหรับราศีเมษจะดีนะครับ ถัดมาราศีพฤษภ พอเปลี่ยนเบ็ดเสร็จครบทั้ง 3 ดวงแล้วก็เป็นผลดีสำหรับเขา แต่จะเด่นในเรื่องของการเงิน อะไรที่เริ่มไปแล้วให้เริ่มต่อไปได้ เพราะพฤษภในดวงดีตั้งแต่ปีที่ผ่านมาแล้ว แต่หลังจากนี้ไปอะไรที่ตั้งใจไว้มันจะสานต่อแล้วมันจะเหมือนกับสิ่งที่เราหว่านไว้จะผลิดอกออกผล ทำให้เราได้เงินได้ทองที่ดีเข้ามา มีเงินทองเป็นกอบเป็นกำ เด่นเรื่องเงินมากๆ นะครับ

ส่วนกรกฎอาจจะฝากเตือนนิดหน่อยเพราะว่าดวงดาวที่ย้ายมันเหมือนตัวช่วยไม่ค่อยมี คุณอาจจะมีปัญหา กบผู้ใหญ่เจ้านายคนรอบตัว หรือปัญหาเรื่องการเจ็บป่วยของคนในครอบครัว กรกฏต้องเทคแคร์เรื่องนี้ให้มากหน่อย แต่ว่ากรกฎดวงจะไปดีมากในปีหน้านะครับ ซึ่งก็เหลืออีกแค่ครึ่งปีเอง อดทนกับมันนะครับ เหมือนนักเรียนที่กำลังเตรียมอ่านหนังสือสอบ คุณจะสอบติดในปีหน้าช่วงนี้ก็เป็นช่วงที่เหนื่อยนิดหนึ่งนะครับ ส่วนราศีตุลย์เป็นราศีแห่งความก้าวหน้า ราศีตุลย์ดาวที่มันเปลี่ยนเสร็จทั้งหมดแล้วจะส่งผลให้ชีวิตราศีตุลย์เป็นขาขึ้น แต่ กราฟมันอาจจะไม่ได้พุ่งปรี๊ดนะ มันจะค่อยๆ ความชันมันจะค่อยๆเพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆ เป็นการนับ 1 ของจุดเริ่มต้นที่ดีของราศี ในเรื่องการเดินทางก็ดีเรื่องต่างประเทศก็ดี เรื่องการโปรโมทตำแหน่งที่ดีขึ้นก็ดีตามมานะครับ
อีกหนึ่งราศีคือราศีพิจิก เป็นราศีที่มีเรื่องเสียตังค์เยอะ แต่อาจจะเสียจากการลงทุน สิ่งที่คุณเสียไปหมุนเงินเยอะลงทุนเยอะคุณจะได้กลับคืนมา เป็นราศีที่เรียกว่าพอผ่านจาก 2-3 เดือนนี้ไปพอดวงดาวมันเริ่มนิ่งขึ้นเดี๋ยวดาวพฤหัสบดีมันจะกลับมามีกำลังช่วงปลายปีนิดหนึ่ง คุณจะมีเงินก้อนโตรออยู่ในช่วงปลายปี งั้นราศีพิจิกไม่ได้เจอผลร้ายแต่ว่าระยะแรกมีเรื่องเสียเงินหนักหน่อยเท่านั้นเอง หรือใครที่วางแผนซื้อบ้านซื้อที่ซื้อคอนโดอะไรก็ทำได้เลย เพราะมันเป็นเรื่องเสียเงินที่เราตั้งใจดีกว่าให้ดวงดาวเลือกให้ อีกหนึ่งราศีก็คือราศีมังกร เป็นราศีที่เหมือนเป็นเส้นทางใหม่ที่เราไม่เคยไปมาก่อน คุณอาจจะต้องทำในสิ่งที่ ไม่ถนัดงานที่เราไม่เคยทำ ลูกค้าที่ไม่เคยเจอกันมาก่อน สินค้าที่ไม่เคยขายมาก่อน นี่คือความท้าทายให้ราศีมังกรยอมรับความท้าทายตรงนี้ และมันจะนำมาซึ่งความสำเร็จในภายหลัง ช่วงนี้ดวงดาวเปลี่ยนอาจจะดูยากๆหน่อย คนเราไปในทางที่ไม่ถนัดก็อย่าขับรถเร็วมาก ขับแบบมีสตินะครับ แต่ปลายทางมีความสำเร็จรออยู่ให้ราศีมังกรมั่นใจ

สามารถติดตาม Woody FM ได้ที่ช่องทาง Podcast : WOODY FM , Facebook: Woody, Youtube: Woody ทุกวันพุธ เวลา 19.00 น.

คลิกชมย้อนหลัง : https://www.youtube.com/watch?v=MLFm-dsmKa4&ab_channel=WOODY
รอดตายราวปาฏิหาริย์! “มิ้นท์ I Roam Alone” เผยนาทีชีวิต ประสบอุบัติเหตุครั้งรุนแรงที่เนปาล
ทำเอาแฟนคลับตกใจกันเลยทีเดียวเมื่อ มิ้นท์ I roam alone หรือ "มิ้นท์" มณฑล กสานติกุล คอนเทนต์ครีเอเตอร์สายท่องเที่ยวชื่อดังได้ออกมาโพสต์เล่าเหตุการณ์ระทึกนาทีประสบอุบัติเหตุเหตุร้ายแรงขณะขี่ม้าที่เนปาล ทำรอดตายราวปาฏิหาริย์ หลังถูกลากตัวฟาดพื้นข้างเหวใครเห็นก็ว่า ไม่รอด

โดยเมื่อวันที่ 4 พ.ค 68 ได้ระบุข้อความเล่าว่า มิ้นท์ประสบอุบัติเหตุรุนแรงที่เนปาลค่ะ คนที่เห็นเหตุการณ์ไม่มีใครคิดว่าจะมีชีวิตรอดมาได้ หรือถ้ารอดมาก็ไม่น่าจะเป็นเหมือนเดิม สิ่งที่เกิดขึ้นเร็วมากเลยล่ะ หลังจากขึ้นม้าไปได้ไม่ถึง 2 นาที เพิ่งจะลูบขนม้าเบาๆ บอกกับม้าว่า ‘เป็นเด็กดีนะลูก’ ผ่านไปแป๊บเดียวก่อนเข้าทางเดินเล็กๆ เลียบผา เจ้าม้าก็ตัดสินใจกระโดดเตะเข้าหน้าเจ้าของ (คนจูง) แล้วก็เตะซ้ำอีกทีที่สะโพกจนเจ้าของล้มลง เขาเลยปล่อยเชือกจูงม้าที่มิ้นท์อยู่บนหลังไป

ม้าที่ตื่นตกใจก็วิ่งๆ กระโดดๆ ไปจนมิ้นท์ตกลงมา แต่ด้วยความที่เรารักสัตว์มาก (มั้ง) เท้าซ้ายเลยตัดสินใจรั้งม้าไว้ติดอยู่กับที่พักเท้าไม่หลุดออกมาด้วย ในขณะที่ม้าพยายามจะไป จะพยายามจะสะบัด สุดท้ายมิ้นท์เลยโดนลากไปกับม้า ตัวฟาดไปฟาดมากับพื้นอยู่นาน ข้างซ้ายหิน ขวาก็หินและเป็นเหวลงไปด้วย คนเห็นร้องไอ้หยา! คิดว่าตายแน่ๆ ดูยังไงก็ไม่รอด มิ้นท์ใช้สติเป็นเครื่องมือ คว้าหางม้าหรือขนก้นม้าไว้ซักอย่าง เกร็งตัวขึ้นมาแล้วเอาขาซ้ายออกมาได้สำเร็จ! แต่ผลก็คือแผ่นหลังสะบักสะบอม ฝุ่นตลบไม่รู้ว่าช้ำในอะไรตรงไหน ส่วนใบหน้าปลอดภัยเหมือนอยู่คนละเหตุการณ์กัน ไม่มีริ้วรอยใดนอกจากตีนกาเลย

ความควายยังไม่ทันหาย ความกระทิงก็เข้า ประกันภัยพิเศษที่ซื้อมาสำหรับการอพยพโดยเฮลิคอปเตอร์โดยเฉพาะ (ไม่ใช่ของไทยนะคะ) เลือกรอเฮลิคอปเตอร์ที่ ‘ไกลที่สุด’ ของตัวเอง ทำให้กู้ภัยแทบจะกลายเป็นกู้ร่าง กว่าจะถึงหลังคาโรงพยาบาลก็ผ่านไปแล้ว 10 ชั่วโมง
ไว้จะมาเล่าให้ฟังละเอียดอีกครั้งเพื่อคนอื่นจะได้ไม่เจอเหมือนกัน เนอะ

ถึงจะรอเฮลิคอปเตอร์กู้ภัยนานมาก แต่ดวงแข็งเป็นทุนเดิม (จนคิดอยากจะทำของขลังให้คนบูชารุ่น ‘ดีนะที่ไม่ตาย’) ประกอบกับแม่บอกว่า ‘หมอดูบอกว่าแกอายุยืน’ ก็เลยรอดกลับมารักษาตัวที่ไทยได้ ทุกคนบอกว่านี่คือปาฏิหาริย์แม้แต่คุณหมอเอง เพราะจริงๆ ถ้าก้มดูร่างกายตัวเองแล้ว มิ้นท์รอดจากอุบัติเหตุรุนแรงด้วยบาดแผลที่น้อยที่สุดเท่าที่คนคนนึงจะโชคดีได้ ถึงตอนนี้จะยังมีรอยช้ำนิดหน่อย และปวดกล้ามเนื้ออยู่บ้าง แต่ก็ถือว่าโชคดีมากที่ไม่ตายจริงๆ ไว้จะมาคอยอัพเดทเนอะในระหว่างนี้ ติดตามคลิปการเดินทางไปอาณาจักรที่ถูกปิดตายกลางเทือกเขาหิมาลัยได้ทุกวันจันทร์เวลา 6 โมงเย็น อยากให้ได้ดู ดูกันยาวๆ หลายสัปดาห์ เพราะมุมนี้ของโลกแทบจะหาไม่ได้ที่ไหนอีกแล้ว และเป็นหนึ่งในการเดินทางที่มิ้นท์ชอบที่สุด ถึงจะมีอุบัติเหตุ แต่ก็ไม่ได้เปลี่ยนใจมิ้นท์จากที่นี่เลย

อยากกลับไปอีกอาณาจักรที่แสนพิเศษกลางเทือกเขาหิมาลัยแห่งนี้ แต่รอบหน้าไม่ม้าแล้ว ฮี่ๆๆๆๆ ปล. ม้าตัวนั้น ที่ยืนกินหญ้าอย่างสบายใจ ชิวสุด อย่างไรก็ตาม
”ต้าห์อู๋-ออฟโรด“ สุดเดือด! โพสต์ป้องแฟนคลับหลังโดนทำร้ายร่างกาย ขณะต่อคิวซื้อบัตรคอนฯ
กลายประเด็นร้อนติดเทรนด์(X)ทันทีหลังจากแฟนคลับของสองศิลปินหนุ่ม ต้าห์อู๋ พิทยา แซ่ฉั่ว และ ออฟโรด กันตภณ จินดาทวีผล เจอโดนคนกลุ่มหนึ่งอ้างตัวเป็นนายทุนทำร้ายร่างกาย-จิตใจขณะต่อคิวกดบัตรคอนเสิร์ตของสองศิลปินหนุ่ม

โดยล่าสุดวันนี้ 3 พ.ค 68 ผู้ใช้บัญชีX @lovecats052 ซึ่งเป็นแฟนคลับ“ต้าห์อู๋-ออฟโรด”ได้โพสต์คลิปพร้อมเตือนภัยทุกคนที่จะไปกดบัตรคอนที่เคาน์เตอร์ไทยทิคเกต หลังโดนทำร้ายร่างกาย

พร้อมเขียนข้อความเล่าเอาไว้ว่า “เรื่องเกิดจากเรามารอรับคิวกดบัตรคอนต้าห์อู๋ออฟโรดที่เมเจอร์รังสิต แต่ตอนเรามาถึงยังไม่เห็นมีคน เราก็เลยมานั่งวางของจองคิวที่เดิมตามปกติเหมือนทุกครั้ง มีเดินไปห้องน้ำ และไปนั่งในห้างบ้างแต่เดินไปเดินมาตลอด ผ่านไป 4-5 ชั่วโมง

- ก็มีคนกลุ่มนึงเดินมาบอกว่า มาต่อคิวกดบัตรใช่ไหม ถ้าใช่ให้ไปต่อหลังเขา เพราะเขามาจองคิวตั้งแต่เที่ยงเมื่อวาน จำนวน 6 คิว ถ้าเราจะต่อต้องเป็นคิวที่ 7 ทางนี้เลยบอกว่าตอนมาถึงก็ไม่เห็นว่ามีใครทำไมอยู่ๆ ถึงมาบอกว่ามี 6 คิวแล้ว อยู่ตรงนี้มา 4-5 ชั่วโมงไม่เจอใคร(คือรู้สึกไม่สบายใจมากๆ ที่มาเจอแบบนี้ เพราะไม่เคยพบเคยเจอมาก่อน)

-พอเพื่อนที่เรานัดกันไว้มาถึง เราก็เลยเล่าให้ฟังว่าเจอเหตุการณ์แบบนี้ แล้วอีกสักพักผู้ชายคนเดิมก็เดินมาอีกรอบ บอกต้องไปต่อหลังเค้า พวกเขามากันตั้งแต่เที่ยงเมื่อวานแล้ว มานอนรออยู่ที่นี่ เพื่อนเราก็เลยบอกว่า เห็นเพื่อนมานั่งรอตั้ง 4-5 ชั่วโมงแล้วไม่เห็นมีใครมานี่ แล้วเพื่อนเราก็ถามเขากลับไปว่า มากดบัตรคอนของใคร เค้าบอกว่ารอบเที่ยง เลยถามต่ออีก ว่างานอะไร เค้าบอกว่าไม่รู้ดูก่อน เราเลยถามว่ามากดบัตรไม่รู้ชื่องานหรอค่ะ แฟนคลับใช่มั้ย เขาก็ไม่ตอบ เราเลยบอก

-นี่เป็นแฟนคลับ มากดบัตรเอง คุณเป็นแฟนคลับมั้ย เขาบอกจะเป็นแฟนคลับหรืออะไร ก็อยากกด เลยถามไปว่า แฟนคลับหรือร้านกด เขาก็พูดว่า จะร้านกดหรืออะไรก็เรื่องของเขา แล้วถามเราว่าจะไปต่อคิวหลังเขามั้ย เพื่อนกับเราก็ยืนยันว่า จะต่อคิวตรงนี้ เพราะทุกครั้งที่มา ก็ต่อตรงนี้ เขาเลยบอกว่าจะวิ่งใช่มั้ย ได้ ชิล แล้วก็เดินไป

-เราก็คิดว่าไม่มีอะไรแล้ว ก็เลยนั่งจองที่เหมือนเดิม ผ่านไปสักพัก ก็มี ผญ กับ ผช 2 คน เดินมา แล้วพูดเสียงดังว่า ไหนอีไหนมันปากดี เป็นเหี้ยอะไรไม่ต่อคิว แล้วอยู่ๆ ผช ที่มาใหม่ ก็พุ่งเข้ามาทำร้ายร่างกายเราทันที ทั้งตบ เตะก้านคอ เตะที่ลำตัว และที่หลัง มีรปภ วิ่งมาดู แต่ไม่ช่วยอะไร เพราะโดนผู้ชายกลุ่มนี้ไล่ตะเพิด บอกว่าอย่ามายุ่ง คิดว่าเค้าคงกลัวก็เลยรีบเดินกลับไป แล้วก็มีพวกของกลุ่มที่ทำร้ายเรามาเพิ่มอีก 2 คน รุมด่า ขู่ฆ่า บอกว่าตัวเองเป็นนายทุน เป็นเจ้าถิ่น ไล่ให้ไปแจ้งความได้เลย ข่มขู่มากๆตามในคลิปเลยค่ะ

-ในคลิปเป็นแค่ส่วนนึงที่เราถ่ายมาหลังโดนทำร้ายร่างกายค่ะ (มันไล่ให้เราเก็บของแล้วเราไปจากที่นี่) แต่ดูจากที่นางพูด เหมือนทำกันมานาน เป็นขบวนการ เหมือนมาแย่งคิวกดบัตร (ที่ดูแล้วว่าขายต่อได้) ยังไงใครจะซื้อต่อก็คิดให้ดีๆนะคะ ว่าควรสนับสนุนกลุ่มคนแบบนี้ไหม”

-และเจ้าของโพสต์ได้แจ้งความเป็นที่เรียบร้อย โดยเขียนเพิ่มเติมว่า “ตอนนี้เราแจ้งความแล้วเป็นที่เรียบร้อย ตำรวจวนไปดูแต่เจ้าตัวที่ทำร้ายร่างกายไม่อยู่แล้ว ต้องรอดำเนินคดีตามกฏหมาย และจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุดหวังว่าตำรวจจะตามเรื่องให้จนถึงที่สุดนะคะ อยากให้ทางค่ายพิจารณาการกดบัตรหน้าเคาน์เตอร์ด้วยนะคะว่าแฟนคลับจะต้องพบเจอกับ อะไร”

ต่อมาทางค่าย OPEN LABEL ต้นสังกัดของ“ต้าห์อู๋-ออฟโรด” ก็ได้ออกมาแถลงการณ์ถึงเหตุการณ์ดังกล่าว โดยระบุว่า “ไม่สนับสนุนให้มีการซื้อบัตรคอนเสิร์ตต่อจากบุคคลที่สาม เนื่องจากอาจมีมิจฉาชีพที่แฝงตัวมาในรูปแบบต่างๆ เช่น การรับจองบัตร การซื้อ-ขายนอกระบบ รวมไปถึงการแจกเพื่อโฆษณาหรือประชาสัมพันธ์ โดยไม่ได้รับอนุญาตจากทางผู้จัด ถือว่ามีความผิดทางกฏหมาย”

ขณะที่ “ต้าห์อู๋-ออฟโรด” ก็ได้ออกมาปกป้องแฟนคลับที่โดนทำร้าย ซึ่ง”ต้าห์อู๋“ได้แชร์โพสต์ดังกล่าวพร้อมระบุข้อความไว้ว่า “เก่งมาจากไหนวะ” และไปแชร์ต่อลงในอินสตาแกรมว่า “เจ้าถิ่นรังสิตกดบัตรมาอัพราคาทำร้ายร่างกายแฟนคลับผม”

ด้าน“ออฟโรด”ก็แชร์โพสต์เช่นกันว่า “เป็นนายทุน ทำได้ทุกอย่าง ตรรกะพี่ งงๆนะครับ เรื่องถึงตำรวจอยากรู้จังว่ายังเก่งอีกรึป่าววว?” และได้ถามแฟนคลับที่เจ้าของโพสต์อีกว่า “พี่เป็นอะไรมากไหมครับ”
“มุก วรนิษฐ์” โบกมืออำลา GMMTV หลังหมดสัญญาผันตัวเป็นนักแสดงอิสระขอโพกัสธุรกิจมากขึ้น
ถึงเวลาต้องอำลากันอีกคน สำหรับนางเอกสาวหน้าหวาน มุก วรนิษฐ์ ถาวรวงศ์ ที่ล่าสุดได้หมดสัญญากับทางต้นสังกัด GMMTV เรียบร้อยแล้ว หลังร่วมงานมานาน 10 กว่าปี ซึ่งจากนี้เจ้าตัวเผยว่าตั้งใจจะโฟกัสเรื่องธุรกิจส่วนตัวมากขึ้น แต่ยังคงรับงานในวงการอยู่ ซึ่งวานนี้ 2 พ.ค มุก วรนิษฐ์ ก็ได้เผยความในใจหลังหมดสัญญาผ่านทาง (X) ว่า “รู้สึกขอบคุณทุกๆ วันทุกๆ นาที ที่อยู่กับบริษัท GMMTV บริษัทที่ดีที่สุดดดดดดของมุกเสมอมา ที่ที่เป็นที่ทำงาน เป็นครอบครัว เป็นศูนย์รวมจิตใจของเด็กๆ และเป็นส่วนหนึ่งใหญ่ๆ ที่ทำให้มุกเป็นมุกในวันนี้ ทั้งนิสัยใจคอ และหน้าที่การงาน ขอบคุณที่ให้ความอบอุ่นเสมอมากค่ะ

ขอบคุณพี่ถา ที่เป็นเจ้านายและพี่ที่ดีที่สุดมาโดยตลอด ขอบคุณที่ให้โอกาสดีๆ กับมุกเสมอมาค่ะ ความรักและเคารพที่มี ให้พูดหรือพิมพ์กี่หน้ากระดาษก็ไม่สามารถอธิบายสิ่งที่มุกรู้สึกได้ทั้งหมด มุกรักพี่ถาและ GMMTV มาก

ขอบคุณผู้ใหญ่ทุกท่านใน GMMTV ที่คอยอบรมสั่งสอน ให้คำปรึกษาอย่างอบอุ่นตลอดเวลาที่ผ่านมา มอบความรักความเอ็นดูที่สัมผัสได้ ให้โอกาสเสมอ และทีมงานทุกคนที่เป็นกันเอง เก่ง น่ารัก คล่องแคล่ว ทำให้ทุกงานของเราราบรื่นเสมอ

ขอบคุณมัมส้ม ผู้จัดการของมุก ตลอด 10 กว่าปีที่ผ่านมา ที่เราทำงานกันมาได้อย่างเข้าใจกัน ราบรื่นนนนนนนล้านเปอร์เซ็นต์มาตลอด มันช่างเป็นเรื่องที่เหลือเชื่อค่ะ
เบนซ์ เรซซิ่ง โร่งเข้าเเจ้งความ ตร.ไซเบอร์ หลังถูกมือดีนำภาพไปตัดต่อชวนเล่นเว็บพนัน
วันที่ 1 พฤษภาคม ที่ กองบังคับการสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 1 (บก.สอท.1) ชััน 4 ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ (อาคารบี) ถนนแจ้งวัฒนะ แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร นายอัครกิตติ์ วรโรจน์เจริญเดช หรือ เบนซ์ เรซซิ่ง เข้าพบ พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ ดีพอ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 1 (ผบก.สอท.1) เพื่อแจ้งความกรณีถูกนำภาพไปแอบอ้างโฆษณาเว็บพนันออนไลน์บนแพลตฟอร์ม Tiktok กว่า 20 บัญชีผู้ใช้งาน รวม 50 คลิป

นาย อัครกิตติ์ เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากตนได้พบพบเห็นว่ามีบัญชีผู้ใช้งาน Tiktok กว่า 20 บัญชี นำภาพและคลิปเก่าๆของตนไปตัดต่อแอบอ้าง ว่าตนถูกจับกุมอีกแล้ว แต่ครั้งนี้ถูกจับในคดีเล่นเว็บพนันออนไลน์ และถูกจับกุมพร้อมของกลางที่เป็นเงินและทรัพย์สินอื่นๆที่อ้างว่าได้มาจากการเล่นเว็บพนัน ตนจึงได้มีการ รวบรวมหลักฐานเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ ว่าไม่ได้มีการเกี่ยวข้องกับเว็บพนันดังกล่าวและถูกนำรูป ไปแอบอ้าง

ซึ่งตอนนี้ยังตนยังไม่ได้รับความเสียหายเเต่กลัวว่าจะมี ผู้หลงเชื่อจากการถูกแอบอ้างดังกล่าว พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ กล่าวว่า เบื้องต้นตนจะมอบหมายให้พนักงานสอบสวน กก.1 บก.สอท.1 ไปตรวจสอบว่าผู้เสียหายไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเว็บพนันออนไลน์จริงหรือไม่ หากผู้เสียหายถูกนำรูปไปแอบอ้างโฆษณาเว็บพนันจริงก็จะดำเนินการแจ้งข้อหาตาม พ.ร.บ.การเว็บพนัน ม. 12 ต่อไป

#เบนซ์เรชชิ่ง #สยามดารา
เบนซ์ เรซซิ่ง โร่งเข้าเเจ้งความ ตร.ไซเบอร์ หลังถูกมือดีนำภาพไปตัดต่อชวนเล่นเว็บพนัน
วันที่ 1 พฤษภาคม ที่ กองบังคับการสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 1 (บก.สอท.1) ชััน 4 ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ (อาคารบี) ถนนแจ้งวัฒนะ แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร นายอัครกิตติ์ วรโรจน์เจริญเดช หรือ เบนซ์ เรซซิ่ง เข้าพบ พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ ดีพอ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 1 (ผบก.สอท.1) เพื่อแจ้งความกรณีถูกนำภาพไปแอบอ้างโฆษณาเว็บพนันออนไลน์บนแพลตฟอร์ม Tiktok กว่า 20 บัญชีผู้ใช้งาน รวม 50 คลิป

นาย อัครกิตติ์ เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากตนได้พบพบเห็นว่ามีบัญชีผู้ใช้งาน Tiktok กว่า 20 บัญชี นำภาพและคลิปเก่าๆของตนไปตัดต่อแอบอ้าง ว่าตนถูกจับกุมอีกแล้ว แต่ครั้งนี้ถูกจับในคดีเล่นเว็บพนันออนไลน์ และถูกจับกุมพร้อมของกลางที่เป็นเงินและทรัพย์สินอื่นๆที่อ้างว่าได้มาจากการเล่นเว็บพนัน ตนจึงได้มีการ รวบรวมหลักฐานเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ ว่าไม่ได้มีการเกี่ยวข้องกับเว็บพนันดังกล่าวและถูกนำรูป ไปแอบอ้าง

ซึ่งตอนนี้ยังตนยังไม่ได้รับความเสียหายเเต่กลัวว่าจะมี ผู้หลงเชื่อจากการถูกแอบอ้างดังกล่าว พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ กล่าวว่า เบื้องต้นตนจะมอบหมายให้พนักงานสอบสวน กก.1 บก.สอท.1 ไปตรวจสอบว่าผู้เสียหายไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเว็บพนันออนไลน์จริงหรือไม่ หากผู้เสียหายถูกนำรูปไปแอบอ้างโฆษณาเว็บพนันจริงก็จะดำเนินการแจ้งข้อหาตาม พ.ร.บ.การเว็บพนัน ม. 12 ต่อไป

#เบนซ์เรชชิ่ง #สยามดารา
"มิว นิษฐา" เคยรู้สึกผิดหวังเรื่องแค่นี้ทำให้ลูกไม่ได้!
เปิดใจ "มิว นิษฐา" ในรายการ WOODY FM ตอนนี้แฮปปี้ชีวิตคุณแม่ลูก 2 เล่าประสบการณ์ Mind Set ของคนเป็นแม่ที่เปลี่ยนไปและความเครียดที่ต้องเจอ เผยเคยรู้สึกผิดหวังเรื่องแค่นี้ทำให้ลูกไม่ได้!

Mind Set ของคนเป็นแม่ ?
มิว นิษฐา : 3 ปีกับการมีลูก 2 คนของมิว ก็เป็น 3 ปีที่ค่อนข้างที่จะเปลี่ยนทัศนคติเราเยอะเหมือนกัน จากตอนแรกที่มีลูกคนแรก ก็รู้สึกว่าทำหน้าที่แม่ทำไงก็ได้ให้เลี้ยงลูกคนนี้ได้ดีที่สุด แต่พอตอนนี้เรามี 2 คนแล้ว นอกจากความเป็นแม่ที่เราตั้งใจจะเลี้ยงเขาทั้ง 2 คนให้มันดี แต่ตอนนี้เหมือนเราเป็นคนที่จะทำให้ครอบครัวมันกลมมากขึ้น เพราะสมาชิกเยอะขึ้น เราไม่ใช่ทำหน้าที่แค่แม่แล้ว ดูแลครอบครัวให้เป็นครอบครัวจริงๆ เมื่อก่อนเราก็เป็นลูกคนหนึ่งที่มีแม่จัดการให้ทุกอย่าง แต่ตอนนี้พอเป็นแม่เองเรารู้เลยค่ะ ว่าความเป็นแม่มีรายละเอียดหลายอย่างเยอะมาก นอกจากดูแลเรื่องตัวเอง ดูแลลูก ดูแลครอบครัว เรื่องบ้าน เรื่องคนในบ้าน แต่ละวันมีเหตุการณ์มีอะไรเกิดขึ้นทุกคนจะต้องมาหาเราซึ่งเป็นแม่ เป็นคนดูแลบ้านหลังนี้ แต่มันเป็นช่วงเวลาที่มีความสุข มันใจฟูแล้วมันเต็มเปี่ยมอยู่ข้างในมากๆ เลยค่ะ ไม่สามารถเทียบความสุขนี้กับอะไรได้เลย เพราะเป็นความสุขที่เกิดขึ้นมาใหม่ อายุจะ 30 แล้วเพิ่งจะค้นพบความสุขแบบนี้

สำหรับคนที่กำลังจะมีลูก สำหรับคุณทัศนคตที่คิดว่าทิ้งไปเถอะไม่จำเป็นต้องมีคืออะไร ?
มิว นิษฐา : ความเครียด น่าจะเป็นอะไรที่ไม่จำเป็นเลยกับคนที่ท้องอยู่ ซึ่งลูกอยู่ข้างในเราอ่ะ ขอแค่มีความตั้งใจที่จะดูแลลูกในท้องให้ดี แต่เราอย่าไปเครียดว่าเกิดมาแล้วเราจะทำยังไง เราจะดูแลได้ดีไหม ทุกอย่างมันคือการเรียนรู้ไปกับเขาเลยค่ะ มิวเชื่อว่าแม่ทุกคนสามารถผ่านได้อย่างดีแน่นอน มันอาจจะทุลักทุเลหน่อย แต่ว่าสุดท้ายมันจะผ่านไป ได้

ความเครียดเรื่องน้ำนม ?
มิว นิษฐา : สำหรับตัวมิวก็จะเป็นเรื่องน้ำนม มิวเชื่อว่าแม่หลายๆ คน ก็คือเรื่องน้ำนมนี่แหล่ะคะ ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมเรื่องน้ำนมมันถึงยาก เราก็จะเข้าใจว่าธรรมชาติถูกสร้างมาว่ามันจะต้องมีน้ำนมเพียงพอให้ลูกกิน แต่ว่าอย่างของตัวมิวเอง แล้วก็หลายๆคนที่มาปรึกษาเขาก็จะมีปัญหาเรื่องนี้ เรื่องน้ำนมที่มันไม่เพียงพอต่อลูก เชื่อว่าคุณแม่ร้อยทั้งร้อยก็อยากที่จะให้นมเรา 100% แต่พอมันไม่เป้นอย่างนั้นมันก็เลยจะเครียด ก็ต้องหาวิธีกินสารพัดของที่เขาเชื่อว่ามันจะให้น้ำนม เช่น หัวปลี ลองสารพัดวิธี แล้วพอมันไม่มาก็จะเครียด พอมันเครียดก็จะยิ่งไม่มา ก็จะวนซ้ำๆแบบนี้ พอมันไม่มาก็ต้องยอมให้ลูกกินนมที่ไม่ใช่นมเรา มันก็จะรู้สึกแอบผิดหวังนิดหนึ่งในใจ ซึ่งตอนนั้นเขาจะกินได้แค่นมอย่างเดียว น้ำเขาก็ไม่กินเด็กเพิ่งคลอด แล้วถ้าเราเป็นแม่ยังให้เขาไม่ได้ ก็จะรู้สึกแบบทำไมแค่นี้เราทำไม่ได้ มันมาจากตัวเราอ่ะ มันเป็นความรู้สึกผิดหวังของแม่ค่ะ

สามารถติดตาม Woody FM ได้ที่ช่องทาง Podcast : WOODY FM , Facebook: Woody, Youtube: Woody ทุกวันพุธ เวลา 19.00 น.

คลิกชมย้อนหลัง : https://www.youtube.com/watch?v=obMCmJcSoqA&ab_channel=WOODY
สิ้นสุดการรอคอย! "ดา เอ็นโดรฟิน"คลอดลูกชายคนที่ 2 ตั้งชื่อสุดน่ารัก "น้องดินดิน"
ขอแสดงความยินดีกับนักร้องสาวเสียงทรงพลัง ดา เอ็นโดรฟิน และสามี เดนนิส ไทยคูน ที่ได้ขึ้นแท่นเป็นคุณพ่อคนแม่ลูก 2 เรียบร้อยแล้ว โดยเมื่อวานนี้1พ.ค. นักร้องสาวได้คลอด“น้องดินดิน”(Din Din)ลูกชายคนที่2 หลังทนเจ็บท้องอยู่นาน 17 ชม.

โดยในอินสตาแกรมของคุณพ่อ "เดนนิส ไทยคูณ" ก็ได้ออกมาโพสต์ภาพครอบครัว พร้อมแคปชั่น "Welcome to the world my 2nd son Dinero aka “Din Din” born May 1, 2025 (Thurs) at 19:30. Named after one of my favorite actors Robert De Niro. It also means “money” in Spanish.

To my wife @daendorphine thank you for enduring 17 hours of labor you are truly a super woman Thank you to all the doctors, nurses, and staff at @samitivej #TeamDAnnis #Samitivej"
ท่ามกลางแฟนเพลงเข้ามาแสดงความยินดีกับทั้งคู่กันอย่างล้นหลาม

#ดาเอ็นโดรฟิน #สยามดารา #ข่าวบันเทิง
“โตโน่” เปิดความในใจ อำลาตำแหน่งรักษาการประธานสโมสรเกษตรศาสตร์ เอฟซี
เสร็จสิ้นหน้าที่รักษาการประธานสโมสรฟุตบอลเกษตรศาสตร์ เอฟซี เรียบร้อยแล้ว สำหรับพระเอก-นักร้องหนุ่ม โตโน่ ภาคิน คำวิลัยศักดิ์ หลังเข้ามาทำหน้าที่ในตำแหน่งรักษาการประธานสโมสรฟุตบอลเกษตรศาสตร์ เอฟซี เพื่อทำหน้าที่ประสานงานในด้านต่าง ๆ และเรื่องเงินในการดูแลทีมจนสถานการณ์ดีขึ้น ในช่วงกันยายน ปี2567 ที่ผ่านมา เพื่อทำหน้าที่ประสานงานในด้านต่าง ๆ และเรื่องเงินในการดูแลทีมจนสถานการณ์ดีขึ้น

ล่าสุด 1 พ.ค 68 “โตโน่” ได้เผยความในใจถึงทีมฟุตบอลเกษตรศาสตร์ ในอำลาตำแหน่งโดยระบุว่า  “ถึง เพื่อน ทีมงาน พี่น้องเกษตรศาสตร์และแฟนบอลที่รักทุกคนเป็นเกียรติมากๆ นะ ที่ได้เป็นประธานสโมสรให้กับนักฟุตบอล และแฟนบอลแบบพวกคุณ จบฤดูกาลแล้ว หมดหน้าที่ของผมแล้ว นะครับ”

“ต่อจากนี้ ขอให้ทุกคนมีทางเดินที่ดี เคารพต่ออาชีพของตัวเอง และทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุดเหมือนที่เราทุกคนทำร่วมกันมาในฤดูกาลนี้นะครับ รักพวกคุณทุกคนนะ แฟนบอลไทย ทีมงานและนักฟุตบอลเกษตรศาสตร์ทุกคน จาก ตัวสำรองหมายเลข10 (รักษาการประธานสโมสร)”
มูฟออนแล้ว! ”ณิชา ณัฏฐณิชา“ ปัดตอบเรื่องที่ผ่านมา ยันชีวิตแฮปปี้ขออยู่กับปัจจุบัน
ทำเอาคนทั้งประเทศเทใจรักและให้กำลังใจสาวสวย ณิชา-ณัฏฐณิชา ดังวัธนาวณิชย์ กันอย่างมากมายหลังเจอมรสุมปัญหาเรื่องความรักของ โตโน่ ภาคิน แฟนหนุ่มรุ่นพี่นอกใจไปสนิทสนมกับผู้ช่วยผู้จัดการแถมหลายคนต่างลุ้นว่าสถานะของทั้งคู่จะเป็น อย่างไร

ล่าสุด29 เม.ย 68 “ณิชา”ได้มาร่วมงานเปิดตัวภาพยนตร์ THUNDERBOLTS พร้อมเปิดใจให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน ด้วยสีหน้าที่สดใส ตอบคำถามสื่อด้วยรอยยิ้มและเสียงหัวเราะ พร้อมเปิดใจว่า

-ขอบคุณทุกกำลังใจได้รับพลังงานดีๆ จากทุกคนสิ่งที่ทำให้เราเข้มแข็งได้ก็คือตัวเราเอง มีคนรอบข้างดี ช่วยซัพพอร์ตคนรอบตัวที่ดีคอยดูดูแล ดีใจ ทุกคนไม่ต้องเป็นห่วงหนูนะคะหนูใช้ชีวิต ปกติ

-(ส่วนเรื่องราวที่ผ่านมา)หนูขอไม่พูดแล้วกันนะคะมูฟออนอยู่กับปัจุบันตอนนี้อยู่คนเดียวแฮปปี้ดีค่ะ (ความโสด?)ค่ะ มีความสุขดีค่ะ

#ณิชาณัฏฐณิชา #ข่าวบันเทิง #สยามดารา
เนย วรัฐฐา ใช้ชีวิตสุดโต่งเคยปาร์ตี้หนักจนร่างพัง! แจม ชรัฐฐา เคยร้องไห้สติแตก นอนซมเพราะซึมเศร้า
สองพี่น้องฝาแฝด เนย วรัฐฐา และ แจม ชรัฐฐา อดีตสมาชิกวง Neko Jump เปิดใจในรายการ Prime Cast ย้อนเล่าถึงประสบการณ์ในวงการบันเทิง ช่วงวัยรุ่นที่ชีวิตเต็มไปด้วยการปาร์ตี้หนักหน่วงและพักผ่อนน้อยจนร่างพัง และจุดเปลี่ยนที่ทำให้หันมาดูแลสุขภาพกายและใจมากขึ้น พร้อมเผยประสบการณ์ป่วยเป็นโรคซึมเศร้า วิธีการก้าวผ่านช่วงเวลาเหล่านั้น

ได้ข่าวว่ามีใครเป็นคนปาร์ตี้หนักสมัยก่อน ?
เนย วรัฐฐา : จริง ๆ ช่วงที่ปาร์ตี้หนักเลย คือช่วงที่ยังทำงานอยู่ ช่วงที่ยังทำงานเป็น เนโกะจัมพ์ อยู่ เพราะว่ามันเหมือนรู้สึกว่าเราทำงานอย่างเดียวแล้วไม่มีเวลาพัก ไม่มีเวลาเที่ยว ไม่มีเวลาอยู่กับเพื่อน เพราะฉะนั้นพอเลิกงานเสร็จปุ๊บก็เลยรู้สึกว่าเราจะไม่กลับบ้าน ต้องหาที่ลงอะไรอย่างงี้ ก็จะแบบไปปาร์ตี้ ช่วงนั้นอายุประมาณ 19-20 เปิดโลกการดื่มอะไรอย่างงี้ ลองกินเหล้า กินเบียร์ เป็นยังไง ไวน์เป็นยังไง แชมเปญเป็นยังไง ค็อกเทล กินทุกอย่างเลย รู้สึกว่า เวลาเมามันสนุกดี ได้ผ่อนคลาย ช่วงนั้นก็เลยแทบจะทุกวันเลย หลังเลิกงานคือไปแล้วก็กินจนถึงร้านปิด ไม่งั้นก็ต่อบ้านเพื่อนที่ไปด้วยกัน แล้วก็กลับมาถึงบ้านตอนเช้า แล้วก็อาบน้ำแต่งตัวไปทำงานต่อ ขึ้นรถตู้ไปต่อค่ะ แล้วก็หลับเวลาที่เราอยู่บนรถ

แจม ชรัฐฐา : คือเนยเขาไปต่อขั้นที่ว่า ปกติตอนที่เป็นนักร้องก็จะมีทัวร์ยาว ก็คือตื่นเช้ามา 7 -8 โมง ขึ้นรถตู้ที่ RS แล้วก็ไปตามรายการ ถ่ายนี่ ทำนั่น เล่นคอนเสิร์ต จนคอนเสิร์ตสุดท้ายกว่าเราจะเสร็จงาน บางทีก็ถึงประมาณตี 2 -3 แล้วพอหลังจากนั้น เนยก็คือรันยาว

เนย วรัฐฐา : ไม่นอน เพราะว่าตอนนั้นรู้สึกว่าไม่ได้ต้องการนอน รู้สึกต้องการผ่อนคลาย แล้วตอนนั้นผ่อนคลายของเรา คือเหมือนแบบฉันอยากจะกินเหล้า

แจม ชรัฐฐา : เราก็จะใช้ชีวิตคนละแบบกันเลย เรากลับบ้านนอนอย่างเดียว รักการนอนมาก

จริงๆ แล้ว เนย แจม นิสัยต่างกันไหม ?
แจม ชรัฐฐา : จริง ๆ แล้วมันมีดีเทลที่ต่าง แต่ว่าความชอบพื้นฐานมันก็รวม ๆ กว้าง ๆ เหมือนกัน

แล้ว เนย ใช้ชีวิตอย่างงั้นมาสักพัก มีช่วงที่ร่างกายไม่ไหวไหม ?
เนย วรัฐฐา : มีค่ะ คือว่าเราก็ทำอย่างงั้นไปเรื่อย ๆ จนถึงจุดหนึ่ง รู้สึกว่าทำอย่างนี้ไปถึงเมื่อไหร่ สงสัยกับตัวเองว่าเราจะต้องหาความผ่อนคลายความสนุกจากการที่ออกไปดื่มไปเที่ยวทุก ๆ ครั้ง ถ้าอยู่เฉย ๆ แล้วแฮปปี้ไม่ได้เลยเหรอ มันสงสัยกับตัวเองต้องทำไปถึงเท่าไหร่ 40-50 เหรอ เรารู้แล้วว่ามันสนุกยังไง รู้แล้วว่ามันเป็นยังไง ผลลัพธ์เป็นยังไง รู้สึกว่าเราอายุก็เริ่มเยอะขึ้น แล้วกลับมาคิดว่าหลังจากนี้จะเลิกดื่ม จะไม่ทำแบบนั้นอีกแล้ว แล้วก็จะพยายามมีความสุขและแฮปปี้ได้ด้วยตัวเองโดยที่ไม่ต้องพึ่งสิ่งพึ่งพาภายนอก เราเป็นคนที่ถ้าตัดสินใจก็จะทำตามนั้นเลย อีกวันหนึ่งก็บอกเพื่อนเลยว่าแบบต่อไปนี้ไม่ดื่มแล้วนะ จะไม่กินเหล้าแล้ว แต่ไปด้วยนะ ชอบไปนั่งคุย คือเป็นคนแบบซีเรียสกับสิ่งที่ตัวเองคิดหรือ ตัดสินใจ

หลังจากนั้น เนย ก็คือเริ่มหันมาดูแลสุขภาพมากขึ้น ?
เนย วรัฐฐา : ใช่ ก็คือเปลี่ยนทางเลย เพราะเรารู้สึกว่าใช้ตัวเองแบบสุดไปแล้ว ทีนี้ก็ต้องแบบกลับมาดูแลตัวเอง ได้แล้ว

แล้วเริ่มยังไงกันบ้าง ?
เนย วรัฐฐา : ก็เลิกกินเหล้าเลย แล้วก็จะเป็นคนจินตนาการตัวเองว่าต่อไปนี้ฉันคือสาว healthy สุขภาพดี แล้วเราก็จะจินตนาการว่าคนที่เป็นแบบนี้กิจกรรมเขาคืออะไร ตื่นเช้าออกกำลังกาย กินอาหารคลีน ทานอาหาร healthy มีสุขภาพจิตที่ดี ใช้แบบผลิตภัณฑ์ที่ออร์แกนิก กลับมาดูแลตัวเอง รวมถึงหาหนังสืออ่าน หาข้อมูลไปเรียนบ้าง ต้องบอกว่าเป็นช่วงที่ enjoy มาก คือหมายถึงว่า สนุก ไม่ฝืนเลย เหมือนเราเป็นอีกคนหนึ่ง

แจม ชรัฐฐา : ของแจมก็ไม่ได้ไปสุดโต่งเหมือนเนย เราก็จะชอบอะไรที่มันสงบๆมากกว่า ชอบอยู่กับตัวเอง ชอบอะไรเงียบๆ นอน ชอบอยู่บ้านเลี้ยงหมา ไปดำน้ำ เพราะเราค้นพบแล้วว่าการเข้าวงการใหม่ๆสนุกกับการเจอคน สนุกกับแสงสี พอเริ่มโต รู้สึกว่าเราไม่ใช่คนแบบนั้น กลับมาจากทำงานแล้วรู้สึกหมดพลังงานกับการยิ้มจังเลย วิธีการใช้ชีวิตของเราก็เลยจะเปลี่ยนไปด้วย กิจกรรมที่เฮฮาก็เลย ไม่ค่อยมี

แต่ทั้ง 2 คนเป็นนักกินอาหารเสริมใช่ไหม ?
เนย วรัฐฐา : จริง ๆ ก็ทั้งคู่ ก่อนจะซื้อวิตามินจะดูว่าเราขาดอะไร จะดูจากอาหารการกินของเราด้วย จะเลือกซื้อที่อันไหนรู้สึกว่าเราต้องเสริม
แจม ชรัฐฐา : แต่มันจะมีช่วงที่แจมแบบบ้าทานอาหารเสริม ทานเยอะมาก เป็นทาสการตลาด ตอนนั้นคือกินทุกอย่าง ไม่รู้ว่าเข้าไปแล้วมันช่วยอะไรได้บ้าง แต่ว่าตอนนั้นเราคิดว่าต้องรีบกินตั้งแต่เนิ่น ๆ ตั้งแต่อายุยังไม่เยอะ แต่ทุกวันนี้ทานแบบมีความรู้แล้ว

แต่แจมไม่มีปัญหาเรื่องการนอนเลยใช่ไหม ?
แจม ชรัฐฐา : นอนเยอะไปจริงๆ นอน 5 ทุ่ม ตื่น 11 โมง ยาวๆ

เนย วรัฐฐา : บางวันก็เที่ยง เขาเคยนอนแบบแทบจะ 12 ชั่วโมง ตื่นมาแล้วใช้ชีวิตแค่ 2-3 ชั่วโมง แล้วบอกเนยเราง่วง ต้องบอกว่าเธอนอนเยอะจนเธอมึนไปหมดแล้ว แล้วเขาก็ง่วงตลอดเวลาทั้งๆที่นอนเยอะมาก เขาสามารถหลับได้ทุกที่แม้กระทั่งตอนกำลังดำน้ำ ในสนามบอลก้เคย

แจม ชรัฐฐา : ตอนนี้กลับมาปกติแล้ว เราใช้วิธีการตั้งนาฬิกาปลุก ปลุกแล้วตื่น แล้วตื่นเลยลุก แต่พอมารู้ทีหลังว่ามันเป็นส่วนหนึ่งของโรคจริงๆ

เป็นอะไร ?
แจม ชรัฐฐา : เป็นซึมเศร้า เราไม่รู้ ก่อนที่จะไปหาหมอ คือเราเป็นแบบนี้ของเรามานานแล้วไม่รู้ตัว พอไปหาหมอก็เลยเข้าใจว่าก่อนหน้านั้น เรานอนเยอะมากมากเลย มันเกิดจากแบบนี้

เกิดขึ้นเพราะอะไร ?
แจม ชรัฐฐา : กรณีของแจมมันไม่ได้เกิดขึ้น เพราะว่าเราเจอเรื่องกระทบจิตใจรุนแรงหรืออะไรขนาด นั้น แต่ว่ามันเป็นที่เคมีในสมองมันผิดปกติ แล้วเราก็ไม่รู้ตัว แต่ว่ามันอาจจะ Trigger โดยการทำงานแล้วเราเป็นคนเครียด เป็นคนจริงจังกับการทำงานมาก เครียดมากกับทุกอย่าง กลัวทำไม่ดี ไม่เพอร์เฟกต์ เมื่อก่อนจะกังวลกับทุกคำพูดของทุกๆคนบนโลกนี้ เลยทำให้เราเครียดดดยไม่รู้ตัว ไม่คิดว่าสิ่งนี้มันจะไปกดอยู่กับร่างกายของเราจนทำให้ฟังก์ชั่นในการหลั่งสารต่างๆ ของเคมีสมองมันผิดปกติ แล้วมันก็ค่อยๆ จนพัง อยู่ดีๆ ทำงานแล้วก็สติแตกร้องไห้ ต้องเดินไปเข้าห้องน้ำ ไปฮึบตัวเอง โดยที่ไม่มีใครมาว่าหรืออะไร อันนี้เป็นจุดที่ทำให้เรารู้สึกว่ามันเป็นอะไร หมอบอกว่ามันสะสมมาได้ตั้งแต่เด็กอันนี้ก็เลยเดาว่าตัวเองว่าเราเป็นคนเก็บอารมณ์ ร้องไห้ เสียใจ ก็จะอยู่ในตัวเองอย่างเดียว แล้วเราทำงานตั้งแต่อายุ 16 คิดว่ามันน่าจะแบบสะสมขึ้นไปเรื่อยๆ จนถึงวันที่มันระเบิดออกมา

สามารถติดตาม "PrimeCast" ได้ที่ช่องทาง Facebook: Alive Dot , Youtube : Alive Dot วันพฤหัสบดี เวลา 18.00 น.

คลิกชมรายการย้อนหลัง : https://www.youtube.com/watch?v=1WZxS-8hMv0&t=153s&ab_channel=Alivedot
"แพท ณปภา - พี ชานนท์" คู่ชีวิตที่ศีลเสมอกัน เกือบไม่มีงานแต่งเพราะโดนหลอกมาเป็นปี!
เปิดหมดเปลือก "แพท ณปภา - พี ชานนท์" ในรายการ WOODY FM หลังควงคู่กันเข้าสู่ประตูวิวาห์กันอย่างเรียบง่าย เล่าเรื่องราวความรักก่อนที่จะตัดสินใจใช้ชีวิตร่วมกัน เกือบจะไม่มีงานแต่งเพราะจับโป๊ะแฟนหนุ่มได้ หลอกมาเป็นปีกับเรื่องนี้! เผยเป็นคู่ชีวิตที่ศีลเสมอกัน แพลนมีลูกกลางปี นี้

อะไรที่คุณเคยทำแล้วเลิกทำไหมจากการที่ได้มาคบกับแพท ?
พี : ดื่มเหล้า สูบบุหรี่ 2 อย่างนี้เลิกทำครับ เหล้าคือเลิกเลยไม่ได้ไปดื่ม ไม่ได้ไปเที่ยวเลย แต่บุหรี่ลดมาเรื่อยๆ เพิ่งมาหยุดเมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้วครับ เพราะโดนจับได้ครับ

แพท : แพทเซนส์แรง แพทเตือนเขาแล้ว จริงๆเราขอแค่ว่าเหล้าหรือการดื่มสังสรรค์แพทไม่ติด ถามเขาได้แพทไม่เคยห้าม เขาเลือกที่จะเลิกของเขาเอง แพทจะบอกว่าถ้ามีเพื่อนมีอะไรอยากออกไป ไปเลย ไม่ต้องขออนุญาตแค่แจ้ง แล้วจะกลับกี่โมงก็แค่แจ้ง แต่เขาไม่ไปก็ไม่เข้าใจ

พี : ความสุขมันอยู่ที่บ้านแล้วครับ ก็อยากอยู่กับความสุขของเรา ออกไปเที่ยวมันไม่มีความสุขแล้วครับ

แพท : แต่เรื่องบุหรี่ แพทแพ้ง่าย แล้วแพทมีลูกเล็ก รู้สึกว่าสุขภาพเราสำคัญ ไหนจะลูกอีก แพทเข้าใจว่าเขาคงสูบหนักมาแล้วก็พยายามจะเบา แต่คำว่าเบาเขาไม่ได้แจ้งแพทว่าเขาเบา เขาแจ้งว่าเลิก ไม่สูบแล้วเลิกแล้ว เชื่อไหมแพทบอกว่าอย่าโกหก เพราะสุดท้ายเขาโป๊ะ

พี : มันหล่นครับ เราเหน็บเอวไว้ครับ

หลังจากที่บอกว่าเลิกแล้วมากี่อาทิตย์ ?
แพท : เป็นปีค่ะ หลอกแพทมาเป็นปี แต่แพทไม่เคยเชื่ออยู่แล้ว แต่เราเป็นคนไม่จับไม่จี้ เอาเวลาไปทำอย่างอื่น เดี๋ยวมันก็เฉลย

ซึ่งคุณเคยจี้มาก่อนกับคนอื่น ๆ ข้อเสียของเรื่องจู้จี้คืออะไร ?
แพท : ไม่มีความสุข สมองแพทไม่ทำอย่างอื่นเลย อยากรู้ต้องรู้หาคำตอบมันต้องใช่ ซึ่งแพทเคยพูดกับพีว่าดีแล้วที่มาเจอฉันในเวอร์ชั่นที่พัฒนาแล้ว แพทไม่จี้ แล้วแพทจะเป็นคนไม่เช็กมือถือ ซึ่งเขาอ่ะเช็กแพทในช่วงแรกๆ

แล้วทำไมถึงเช็ก ?
พี : เพราะตอนนั้นไม่มั่นใจว่าเราเหมาะสมกับเขา แล้วก็กลัวว่าเดี๋ยวมีคนโน้นคนนี่มาจีบที่โปรไฟล์ดีกว่า กลัวว่าเขาจะคุยกับคนอื่น แล้วไปเลือกคนอื่นแทนเรา เพราะว่าเราไม่เหมาะสมกับเขา

แล้วยังไงต่อพอจับได้เรื่องสูบบุหรี่ ?
พี : ทะเลาะกันครับ เพราะเราโกหกแล้วเขาจับได้ ก่อนงานแต่งอาทิตย์หนึ่งครับ

แพท : ก่อนงานแต่ง ก่อนจะมีงาน แพทบอกว่าแพทจะยกเลิก คือแพทพูดกับเขาว่า คุณดูดบุหรี่มันไม่ติด มันติดที่คุณเริ่มที่จะโกหกมาเป็นปี ถ้าวันนี้คุณยอมรับกับฉันมาเลยว่าทำไม่ได้จริงๆ แพทจะค่อยๆเข้าใจเขา แล้วจะหาวิธีช่วยกัน แต่ ณ จุดเนี้ย เขาเลือกที่จะพูดเลยว่า เฮ้ย!คิดมาก อย่าจับผิด แล้วมันโป๊ะ คือมันหล่นต่อหน้าแพทเลย เราเลยรู้สึกว่าความเชื่อใจของแพทมันหาย แล้วเขาก็ชอบพูดว่า ถ้าพ่อบอกแม่แล้วยังไงก็ทะเลาะกัน แพทก็บอกว่าต้องทะเลาะ แต่อันนี้มันหนัก

แล้วจบยังไง ?
พี : ก็จบไปเองครับ

แพท : ตอนแรกแพทจะไม่เลย เขาก็ร้องไห้ เขารู้สึกเฟล พลาดทุกอย่างแล้ว มันจะถึงอยู่แล้ว แล้วเขารู้ว่าแพทตรง ไม่ก็คือไม่ ไม่ได้ก็คือไม่ได้ แต่ ณ วันนั้น แพทช่างน้ำหนักตัวเองระหว่างเรื่องนี้กับความดี 3 ปี น้ำหนักข้างไหนมันหนักกว่ากัน ซึ่งความดีของเขามันหนักกว่าเรื่องนี้ แพทไม่พูดอีกเลย พี่วู้ดดี้เชื่อไหมพีเขาคิดว่าจะโดนไปจนวันแต่ง จะต้องโดนไปทุกวันแน่ๆ แพทพูดวันนั้นแพทไม่พูดอีกเลยถือว่าจบ ไม่รื้อฟื้น ในเมื่อแพทเลือกที่จะเดินต่อแล้ว ปล่อยผ่านแล้วเขาน่าจะรู้แล้วว่าจะต้องทำยังไงต่อไปในชีวิต
พี : วันนั้นที่กลับไปถึงบ้านกัน แล้วผมทิ้งเลย หลังจากนั้นก็ซื้อเป็นพวกหมากฝรั่งนิโคตินแทนครับ ถึงตอนนี้ตั้งแต่มกราคมก็ 3-4 เดือนแล้วครับ มันก็อยากสูบอยู่ทุกวันแต่เราก็พยายามกินลูกอม หมากฝรั่ง กินน้ำเยอะๆ

คุณรักอะไรในตัว พี มาก ที่สุด ?
แพท : เขาเป็นทุกอย่างเลย แพทไม่รู้ว่าต้องพูดว่าอะไร คือ ณ ตอนนี้ยังคิดไม่ออกเลยว่าถ้าวันนี้ คือความรู้สึกแต่ถ้าชีวิตจริงมันก็คงอยู่ได้แหล่ะ แต่ในความรู้สึกแค่คิดว่าตื่นขึ้นมาแล้วไม่เจอเขาเราจะทำยังไง แค่นี้เลย มันคือคำตอบของแพทเลยว่าการตื่นขึ้นมาแล้วไม่เจอเขามันต้องยังไงนะ มันเป็นยังไง ต่อให้มันเกิดมันก็ต้องเกิด แต่แพทแค่ไม่อยากให้เกิด แปลว่าแพทอยากมีเขาในชีวิตทุกๆวันจริงๆ ซึ่งเขาไม่รู้หรอก เพราะแพทไม่ค่อยพูด เป็นคนไม่ค่อยชอบพูดหวาน ไม่ชอบซึ้ง แล้วเป็นคนไม่ชอบพูดด้วย ถ้าเกิดทะเลาะกันแพทจะทำยังไง (หันไปถามพี)

พี : พิมพ์ข้อความมาครับ
แพท : นั่งอยู่ด้วยกันไม่พูด เป็นคนแบบนี้จริงๆ

ถามหน่อย แล้วมันเวิร์คไหม การสื่อสารผ่านทางข้อความ ?
พี : เวิร์คค่ะ
แพท : แพทแค่รู้สึกว่าบางทีเราอารมณ์ ณ โมเมนต์นั้น ถ้าเราพูดอะไรออกไป ไม่รู้ว่าคำพูดของแพทมันจะแรงด้วยอารมณ์โมเมนต์นั้น ซึ่งแพทจะเป็นบ่อยมาก คือเราตัวติดกันอยู่แล้ว บางทีมีเรื่องไม่เข้าใจกัน แพทจะไม่เลือกพูดออกไป แต่จะกลายเป็นนั่งกดมือถือ เขาก็จะรู้แล้วเมียไม่ปกติแล้ว เขาก็จะชอบพูดว่าพูดมาเลยก็นั่งกันอยู่แค่นี้จะพิมพ์ทำไม แต่แพทจะไม่พูด ก็ยังจะนั่งพิมพ์ แล้วนั่งอ่านในสิ่งที่เราพิมพ์ ว่ามันใช่สิ่งที่อยากพูดกับเขาจริง ๆ ไหม หรือแค่อารมณ์ แต่ถ้าเราเลือกที่จะหันไปพูดเขามันจะเป็นอารมณ์ที่ไม่โอเค แพทจึงใช้วิธีนี้ทุกครั้ง แล้วมันได้ผลแล้วลูกก็จะไม่รู้ ว่าพ่อแม่เป็นอะไร แพทจะบอกเขาว่าจะไม่ทะเลาะต่อหน้าลูกเด็ดขาด ไม่ว่าวันนั้นเราจะโกรธกันด้วยเรื่องอะไร ตอนแรกก็ไม่รู้ว่าเวิร์คไหม แต่สำหรับตัวแพทเราว่าเวิร์ค

พี : ผมก็หันไปบอกเขาว่า “เข้าใจแล้วครับ” อ่านซ้ำ ๆ หลายรอบ จนเราทำความเข้าใจกับมัน
แพท: เราสองคนจะไม่มี ช็อตเดียวเลยที่แพทโวยวายใส่เขาคือที่ตอนจับได้ว่าเขาสูบบุหรี่ แค่นั้นเลย ถ้าหงุดหงิดแพทจะพิมพ์ ไม่ปะทะเด็ดขาด ซึ่งปกคิเราก็ไม่ค่อยทะเลาะกัน

วันที่เห็นใส่ชุดไทยพ่อแม่ลูกน่ารักมากเลย พีรู้สึกยังไงบ้าง ?
พี : ดีใจครับ ที่เราพิชิตใจผู้หญิงคนนี้ได้แล้วครับ เพราะเราไม่เคยคุยเรื่องแต่งงานกันเลยครับ

คำว่า “พิชิตใจ” เป็นคำที่มันใช้เวลา ใช้ความอดทน หลายอย่างมาก ?
พี : อยากดูแลเขาครับ เพราะว่าวันที่เราเจอกันครั้งแรก พีไม่ได้มีอะไรเลย แต่เขาเลือกเรา วันนั้นไม่ได้มีเงินเยอะก็พออยู่พอกินของเรา แต่ระดับแม่เขานี่คือ คนรวยเยอะแยะเลยครับ แต่เขาก็เลือกเรา

แพท: ในโมเมนต์นั้น แพทเลือกที่จะไม่คุยก็ได้เลยนะ แต่เขาได้โอกาสที่เราจะคุย เขาก็เลยรู้สึกว่าอยากทำให้มันเต็มที่ เผื่อโอกาสนั้นมันจะพัฒนาได้ จนมาเป็นวันนี้ 3 ปีกว่า แล้วค่ะ

มีมุมไหนที่คนอื่นยังไม่ค่อยเห็นแต่ในผู้หญิงคนนี้บ้าง ? พี : มีมุมที่เขาอ่อนโยน อ่อนหวานนะครับ ไม่ใช่แข็งโป้งป้าง เขามีมุมอ้อน มีมาซบ พ่อวันนี้กินอะไรดี วันนี้ไปช้อปปิ้งกันไหมอะไรอย่างนี้ครับ ชอบมุมนี้มากเลยครับนานๆ ที

เวลาทำงานไลฟ์สดคุณมีทีมหรือพีช่วย ?
แพท : พีคนเดียวเลยค่ะ เราคือพาร์ตเนอร์กันทุกอย่าง เรา 2 คนอยู่กันมาจนถึงวันนี้ มันไม่ใช่แค่รักเอยเตยหอม เขาเป็นทุกอย่าง เป็นทั้งคู่ชีวิต เป็น My Best Friend เป็นเพื่อนสนิทที่สุดที่ตอนนี้มี เพื่อนสาวในบางเวลา พาร์ทเนอร์ในการประกอบอาชีพ เป็นแบ็คให้แพท เพราะฉะนั้นเขาอยู่กับชีวิตเราในหลายๆเวอร์ชั่น หลายๆมิติ เลยทำให้อยู่กันมาได้นาน แล้วเขาก็เป็นคนที่เข้าใจเราสิ่งนี้สำคัญมาก เป็นเรื่องของไลฟ์สไตล์ ศีลเสมอ ต่อให้เรารักเขา เขาชอบเรามากแค่ไหนแต่ถ้าศีลไม่เสมอกัน ไปด้วยกันไม่ได้ ยังไงก็อยู่ไม่ได้ ไม่คิดด้วยว่ามันจะมาถึงวันนี้ ไม่เคยคิดเลย ภาพในหัวอีกอย่างหนึ่งคือไม่เคยคิดจะมีลูกเพิ่ม ไม่เคยคุยเรื่องนี้กับเขาด้วย จะพูดแค่ว่าการมีลูกคนหนึ่งมันเหนื่อยมาก ปีนี้ฉันจะ 39 แล้วนะ เธอเพิ่งจะ 25 ไม่เข้าใจหรอก ลูกฉัน 8 ขวบ ถ้าเกิดมีอีกคน เขาจะห่างกันเยอะมาก แล้วเขาก็ไม่เคยบังคับ คือเขาเคารพร่างกาย ถ้าวันนี้เขาอยากมีแต่ร่างกายเมียเขาไม่ได้ เขาโอเคมากๆ เพราะเขารักเรซซิ่งไปแล้ว แต่ลึกๆถ้ามีได้เขาก็อยากมี DNA ของเขาสักหนึ่งแมตช์

ตอนนี้คือวางโครงการแล้วใช่ไหม ?
แพท : ใช่ค่ะ แบบธรรมชาติ ตั้งใจไว้ว่าสักประมาณกลางปีนี้จะเริ่มปฎิบัติการ

สามารถติดตาม Woody FM ได้ที่ช่องทาง Podcast : WOODY FM , Facebook: Woody, Youtube: Woody ทุกวันพุธ เวลา 19.00 น.

คลิกชมย้อนหลัง : https://www.youtube.com/watch?v=yEbvxESgutg&ab_channel=WOODY
จูน เพ็ญชุลี เผยได้หมายฎีกา ลั่นประโยคเด็ด 4 ล้านคือไม่จบ ที่ขอโทษคือ?
28 เมษายน 2568 จูน เพ็ญชุลี หนูแก้วอดีตภรรยานักร้องดัง หนุ่ม กะลา ออกมาโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก June Penchu หลังได้รับหมายฎีกา ลงวันที่ 11 เมษายน ที่ผ่านมา โดยที่เธอเป็นฝ่ายโจทก์ ณ ศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดสมุทรปราการ พร้อมระบุข้อความอธิบายว่า “ศาลใหม่ใกล้ฉัน มาเคลียร์คดีนึง…ได้ของแถมเป็นหมายฎีกากลับบ้านมาด้วย 4 ล้านคือไม่จบ ที่ขอโทษคือ???”

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 14 มี.ค ที่ผ่านมาหลังจากที่ จ๊ะโอ๋ งามพริ้ง นักธุรกิจ-อินฟลูฯได้มาออกรายการโหนกระแส โดยในรายการ โอ๋ ได้เปิดใจถึงเรื่องราวของ ตั้มอดีตสามี อีกทั้งยังพูดถึงความสัมพันธ์กับ หนุ่ม กะลารวมถึงได้ยกมือไหว้ขอโทษ จูน เพ็ญชุลี และยืนยันว่า จะจ่ายเงิน 4 ล้านให้เดี๋ยวจะติดต่อไปคุย ส่วนเรื่องการฟ้องร้องไม่ได้สู้ต่อแล้วเพราะอยากให้เรื่องนี้จบลงโดยเร็วที่สุด

ด้านโซเชียลแห่ส่องโพสต์ล่าสุด “หนุ่ม กะลา” โพสต์ภาพลงไอจีสตอรี่ มีคนส่งการ์ดคอนโดมาคืน พร้อมทั้งเปิดเพลง “เป็นโสดทำไม” ประกอบด้วย พร้อมทั้งข้อความว่า “เมื่อมีคนส่งการ์ดคอนโดคืนมาให้ผม นั้นคือสัญญาณว่า…..อิๆ”

ขณะที่ด้าน จ๊ะโอ๋ งามพริ้ง ก็โพสต์เศร้าเป็น คลิป ตัวเอง แคปชันว่า “ลาจากกันครั้งนี้” โดยเปิดเพลง จากกันโดยสมบูรณ์ ของ Guncharlie #จูนเพ็ญชุลี #สยามดารา #หนุ่มกะลา #ข่าวบันเทิง
คนบันเทิงร่วมอาลัย “กิฟท์ซ่า เกิร์ลลี่เบอร์ลี่” สูญเสียคุณพ่อ อภิชา พงศ์กุลภา
ขอแสดงความเสียใจกับนักร้องสาว กิฟท์ซ่า-ปิยา พงศ์กุลภา หรือ กิฟท์ซ่า วงเกิร์ลลี่เบอร์รี่ สูญเสียคุณพ่ออภิชา พงศ์กุลภา ซึ่งได้บำเพ็ญกุศลสวดพระอภิธรรมไปเมื่อวันที่ 25-27 เมษายน 2568 ที่ผ่านมา ณ ศาลา 28 จุลินทร์-สงวน ล่ำซำ วัดธาตุทอง

โดยมีผู้ใหญ่ที่เคารพ ผู้จัด ผู้กำกับ เพื่อนพ้องทั้งในและนอกวงการ มาร่วมแสดงความเสียใจและให้กำลังใจสาวกิฟท์ซ่า ตลอดทั้ง 3 วัน อาทิ รศ.ดร. นริศ ชัยสูตร (เพื่อนคุณพ่อ) เพื่อนๆสมาคมศิษย์เก่าเซนต์คาเบียล - พระจอมเกล้าธนบุรี และ ธรรมศาสตร์, นายพลดอลล่าร์ พล.ต.พัชร รัตตกุลหญิงแอร์ ม.ร.ว. จันทรลดา ยุคล, หม่อมหลวง อรรถดิศ ดิศกุล , คุณหญิงแมงมุม , ศักดิ์วุฒิ วิเศษมณี, แต้ว ณฐพร - ประณัย พรประภา, คิด-คณชัย เบญจรงคกุล , นันทญา ภิรมย์ภักดี, จินดา มะลิผล, มาร์ท มะลิผล, เชอรี่-ชยาภา วงศ์สวัสดิ์ , กิ๊บซี่ - แนนนี่ – เบลล์ 3 สาว วง Girly Berry , ไอซ์ ศรัณยู, โฟร์ สกลรัตน์, โยชิ ซีควินท์, ฟลุ้ค ซีควินท์, จิ๊บ ปกฉัตร, ติ๊ก เพลย์กราวด์, โอ๋ ดูบาดู , วง 2002ราตรี, วง Bazoo ,เพื่อนๆสตรีวิทยา และ มศว. ประสานมิตร

ทั้งนี้ สาวกิฟท์ซ่าได้โพสต์ขอบคุณที่ได้รับเกียรติจากผู้ใหญ่ พี่ๆ น้องๆ ในวงการ รวมทั้งแฟนคลับ Girly Berry ทุกๆคน ที่มาร่วมไว้อาลัย และขอเป็นตัวแทนครอบครัวขอบพระคุณทุกๆท่าน จากใจ อีกครั้ง ขอขอบพระคุณมา ณ โอกาสนี้
“เบลล่า” ชม “วิล ชวิณ” เป็นซัปพอร์ตเตอร์ เผยสาเหตุผลลงรูปติดอิโมจิบ้าง หันหลังบ้าง เพราะกลัวจะดูเยอะเกินไป
หลังจากที่ก่อนหน้านี้ลงรูปให้แฟนๆ ฮือฮาไม่น้อย สำหรับนางเอกสาว “เบลล่า ราณี แคมเปน” กับหวานใจ “วิล ชวิณ เจียรวนนท์” ในทริปเกาหลีที่ผ่านมา โดยเบลล่าได้ลงรูปคู่กับวิลแบบหันหลังบ้าง เอาอิโมจิมาปิดหน้าบ้าง งานนี่ทำแฟนๆ แซวเมื่อไหร่จะเปิดหน้าสักที ล่าสุด “เบลล่า” ได้มาร่วมเปิดตัวแคมเปญใหม่ของ Love yourself , Drink for your health ภายใต้แบรนด์ “Cocolove ก็ได้เปิดใจให้สัมภาษณ์ว่า

เป็นทริปที่พาทีมงานที่สนิทไปเอ้าท์ติ้งกันค่ะ นัดแนะกันมาสักระยะหนึ่งแล้วก็เพิ่งจะมาลงตัวแล้วก็ได้ไป จริงๆ แล้วกับทีมงานที่ผ่านมาไม่เคยมีการเอ้าท์ติ้งกันมาก่อน เพราะว่าเราทำงานกันแบบเหมือนคนติดหนี้ ปีนี้พอมีเวลาบ้างแล้วก็เลยมีโอกาสได้ไปเที่ยวกัน

ไปเที่ยวเราวางแผนยังไงบ้าง ในเรื่องของตาราง?
ตั้งกรุ๊ป แล้วคุยว่าใครอยากไปไหนบ้าง เอาความต้องการของทุกคน ก็ลองเอามาลิสต์กันดู ว่าวันไหนจะไปที่ไหน มีทั้งเดินเล่น มีกิน มีเที่ยว มีช่วงที่ฟรีใครไปไหนก็ได้

วิลเป็นหนึ่งในทีมงาน หรือคนสนิทของเรา?
เป็นซัปพอร์ตเตอร์ ดูแลภาพรวมอีกทีหนึ่ง ผู้ปกครอง แซวเล่นค่ะ

ทำไมต้องซ่อนรูปขนาดนั้น? ถ้าไม่ลงคนก็จะมีคำถาม ถ้าจะลงแล้วมาลงโต้งๆ ไปเลยก็จะดูเยอะเกินไป เลยซ่อนไว้ ติดสติ๊กเกอร์บ้าง กลัวเขาไม่มั่นใจ เป็นคุณพ่อน้องมอลทีส

เวลาลงรูปต้องถามเขามั้ย แอ็กไหน?
ความจริงก็มีถามเขานะว่าลงรูปสะดวกแอ็กไหน ด้วยความที่เราคนตามเยอะ เขาไม่เคยอยู่ในสื่อมาก่อน อะไรประมานนี้ ก็ได้ดูหน้าแบบใหม่บ้าง แบบมีสติ๊กเกอร์ แบบหันหลัง แบบอะไร

คนถามว่าทำไมไม่เปิดหน้าเขาบ้าง?
เบลว่าประมาณนี้ก็ดีนะ เบลว่ามันโอเค

หลายคนแซวว่าหล่อยันเงา?
ก็ขอบคุณทุกคำชม ส่วนรูปแบบชัดๆ จะได้เห็นกันไหมก็ยังไม่รู้ค่ะ ขอดูก่อน

คนบอกไม่ต้องรอวาเลนไทน์ก็หวานได้?
ใช่ค่ะ เอาให้คาดเดาไม่ได้ รูปใหม่ตอนนี้ยังไม่มี เขาเองก็ไม่ค่อยชินกับคอมเมนต์ต่างๆ ก็จะมี ยังมีคนสนใจอยู่อีกเหรอ เราก็ไม่ได้อยากเป็นกระแสจากการลงรูป อยากให้เป็นไปตามธรรมชาติมากกว่า ลงตามที่เราโอเคทั้งสองฝ่าย ก็เป็นเรื่องที่ดีที่มีคอมเมนต์เชิงบวก ขอบคุณที่เอ็นดู รูปอัปเดตยังไม่มี ต้องไปอ้อนเขากันเอง แต่จะฃองดูนะคะ จะพยายาม

สูญเสียคุณยายตอนนี้เป็นยังไงบ้าง?
จริงๆ คุณยาป่วยมาพักนึงแล้วค่ะ ก่อนหน้านี้ก็ดูไม่ได้มีสัญญาณอะไรที่ถึงขั้นจะจากไป แต่ว่าทางบ้านก็เข้าใจเรื่องของธรรมชาติ ด้วยอายุเท่านี้ก็ถือว่าโอเคมากๆ แล้ว มีการทำใจกันมาก่อนหน้านี้อยู่แล้ว แต่พอวันที่เกิดการสูญเสียทุกคนก็มีความเสียใจ มีความผูกพัน ทุกคนดูแลคุณยายอย่างเต็มที่ ไม่ได้มีอะไรที่รู้สึกขาดตกบกพร่องอะไร ส่งท่านไปสู่สวรรค์อย่างสมบูรณ์ที่สุดเท่าที่ทุกคนจะทำได้ ช่วงหลังคุณยายมาอยู่กรุงเทพฯ ด้วยก็จะได้เจอกันตลอด ตอนหลังที่ป่วยเยอะก็อยู่บ้าน เบลเลย

ความทรงจำเราจะอยู่แบบ 3 สาวตลอด?
เราก็จะไปไหนมาไหนกันเป็นแก๊งตลอด 3 สาว เหนียวแน่นขึ้น พอมาเป็นแบบนี้ก็เหมือนตัวเฮดหายไป เราต้องมาจับมือกัน ได้มีโอกาสพูดคุยความรู้สึกกัน ใส่ใจกันมากขึ้นกว่าเดิม คุณยายเป็นคนอารมณ์ดีมาก ยิ้มแย้มตลอดเวลา เฮฮา หัวเราะ แค่ได้อยู่ด้วยกันก็รับรู้ถึงพลังบวก ได้รับถึงความอบอุ่น ลูกหลานคือรักคุณยายกันมากๆ มันก็มาจากตัวเขา เขาเป็นคนใจเย็น เป็นคนที่เป็นคนน่ารัก เรามองเห็นแล้วก็เข้าใจได้เลยว่า ความจริงแล้วความจากข้างในมันส่งต่อมาถึงข้างนอก แล้วก็ส่งต่อให้คนรอบข้าง ทำให้ทุกคนรักเขาในแบบที่เขาเป็น

เราทำเต็มที่ทุกอย่างให้คุณยายแล้ว?
ทำเต็มที่แล้วค่ะ ด้วยความที่เราอยู่กับเขาเราก็มีความสุขด้วย เวลาอยู่ในครอบครัว มันจะมีช่วงที่เราทำงานยุ่งมากๆ อยู่แล้ว อย่างน้อยเทศกาลที่เราได้หยุดบ้างยังไงก็ต้องแบ่งเวลาให้ครอบครัว เรารู้สึกว่าเราอยู่กับเขาเราก็มีความสุข เขาได้อยู่กับเราก็ชื่นใจ บางทีไปเยี่ยมแค่ 10-15 นาที แค่เขาได้เห็นเราเขาก็มีแรง ขึ้นมา

เราดูแลคนสูงวัยยังไงบ้าง?
เราก็ดูแลกันตามเงื่อนไขของแต่ละคนไปว่าคนไหนจะต้องดูแลแบบไหนอย่างน้อยแค่ได้ทานข้าวด้วยกัน เม้าธ์มอยกันก็มีความสุขแล้ว

คุณยายก็จะดีใจ ภูมิใจ เขาจะไม่พลาดทุกผลงานของเรา ไม่ยอมไปไหนเลยจะต้องอยู่หน้าทีวี สแตนบายรอไว้ตั้งแต่ 4 โมงเย็น ซึ่งละครมา2 ทุ่ม เรตติ้งมาเพิ่มส่วนหนึ่งคือจากคุณยาย ก็ขอบคุณทุกคนมากๆ ที่มาช่วยจัดงาน มาช่วยส่งคุณยายกันอย่างดีที่สุด คุณวิลเองจะมาวันท้ายๆ หน่อยเพราะเขาอยู่ต่างประเทศ ก็เลื่อนตั๋วกลับมาเร็วขึ้นเพื่อมาร่วมงาน มาให้กำลังใจ
ธัญญ่า อาร์สยาม สุดเซ็ง สั่งขนมจีนน้ำยาปูแต่เจอมิจฉาชีพบอกลั่นเกิดแต่กับตรู!
ทำเอานักร้องลูกทุ่งสาว “ธัญญ่า อาร์สยาม”ถึงกับต้องเอ่ยปากลั่นเกิดแต่กับตรูหลังเจอร้านขนมจีนในคราบ มิจฉาชีพ

โดยล่าสุด 28 เม.ย 68 “ธัญญ่า” ได้โพสต์รูปภาพที่เป็นแชทสนทนาโต้ตอบกับร้านขนมจีนร้านหนึ่ง พร้อมข้อความว่า “เกิดแต่กับตรู ขนมจีนน้ำยาปู 555555 บ่ได้กินอีกแล้ว ถืกตั๋วอีกแล้ว เยี่ยมจริงๆ ตรวจดีแล้วก็แล้ว มิจฉาชีพเก่ง หรือฉันโง่ สาธุเด้อ ได้กลับมาหลาย กว่าเก่า ”

โดยในแชท “ธัญญ่า” ได้ส่งข้อความออเดอร์ขนมจีนน้ำยาปูโดยนัดแนะกับทางร้านว่าให้มาส่ง 4 โมงเย็น ซึ่งทางร้านตอบตกลงทัน จากนั้นเจ้าตัวจึงทำการโอนเงินไปเรียบร้อย แต่จนแล้วจนรอดใกล้ถึงเวลานัด 4 โมงเย็นแล้วขนมจีนที่สั่งยังไม่มาส่ง แชทไปถามทางร้านก็ไร้การตอบกลับใด ๆ ทำให้ได้รู้ว่าเธอโดนมิจฉาชีพเล่นงานเข้าให้แล้วแน่นอน
อิ่มบุญอิ่มใจ "ณเดชน์-ญาญ่า" ควงคู่ทำบุญกราบสักการะพระแก้วมรกตเพื่อเป็นสิริมงคล
นับเป็นคู่รักสายบุญ มักจะเกี่ยวก้อยทำบุญร่วมชาติตักบาตรร่วมขันอยู่เสมอ สำหรับว่าที่บ่าวสาว “ณเดชน์ คูกิมิยะ” และ “ญาญ่า อุรัสยา เสปอร์บันด์”

ที่ล่าสุดทั้งคู่ได้พาครอบครัวไปสักการะพระแก้วมรกตเพื่อความเป็นสิริมงคลในชีวิต งานนี้แฟนๆ ไม่พลาดเข้าร่วมมาอนุโมทนาบุญและชมความน่ารักของสองครอบครัวกันจำนวนมาก

#สยามดารา #ณเดชน์ญาญ่า #ข่าวบันเทิง
วีนา ร่ายยาวโต้อดีตทีมงาน ยืนยันบอสณวัฒน์ ไม่ได้สั่งให้อันฟอลโลว์ไอจี “โอปอล์”
วงการนางงามร้อนระอุอีกครั้งหลังจากกรณี วีนา ปวีนา ซิงค์ ผู้เข้าประกวดมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2025 ได้อันฟอลโลว์อินสตาแกรมของ โอปอล์ สุชาตา ช่วงศรี มิสเวิลด์ไทยแลนด์ 2025 รวมไปถึงเหล่าเพื่อนนางงามจากทีม TPN Global

ขณะที่“ปอนด์”อดีตทีมงานของวีนาออกมาปกป้องโดยบอกว่าเป็นคำสั่งของผู้ใหญ่ ซึ่งก็คือ ณวัฒน์ อิสรไกรศีล บอสใหญ่แห่งเวทีมิสแกรนด์ และผู้จัดประกวดเวทีมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2025

ล่าสุด 27 เม.ย 68 “วีนา“ก็ได้โพสต์ข้อความชี้แจงถึงประเด็นนี้ผ่านทางแฟนเพจส่วนตัวโดยบอกว่า “วีนาขอมาชี้แจงอีกเรื่องนะคะ ต่อจากที่เมื่อคืนได้พูดไป หลังจากที่วีนาตัดสินใจออกจากทีมเดิม วีนาได้ค้นพบความจริงว่ามีบางคนกระทำสิ่งที่ผิดศีลธรรมและจรรยาบรรณกับวีนาที่เกิดขึ้นตลอดระยะเวลาที่ทำงานด้วยกัน โดยที่วีนาไม่รู้

ก็ได้แต่ขอบคุณบอสจากใจจริงๆ ที่มาเตือนในวันนั้น เพราะภายในระยะเวลาแค่ 1 เดือน ความเสียหายที่เกิดขึ้นมันใหญ่มากๆ และตอนนี้ยังมีอีกคนในทีมเก่าที่มาพาดพิงถึงบอสในเรื่องที่ไม่ถูกต้อง ซึ่งวีนาอยู่ในเหตุการณ์ด้วยจึงบอกได้เลยว่าไม่ใช่เรื่องจริง วีนาไม่รู้ว่าพี่ปอนด์มีเจตนาอะไรที่ออกมาคอมเม้นต์แบบนั้น หรือมีจุดประสงค์อะไร วีนาขอให้หยุดการกระทำเหล่านั้น การกระทำแบบนี้เป็นการส่งผลกระทบที่ไม่ดีไปถึงองค์กร เพราะมันไม่ใช่ เรื่องจริง

และเมื่อคืนวีนาพูดชัดเจนว่าทุกอย่างเป็นการตัดสินใจของวีนาเองค่ะตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาวีนาเลือกที่จะไม่พูดให้ทีมเก่าเสียหาย ถึงแม้จะมีเรื่องที่มาพบภายหลังแล้วรับไม่ได้มากๆ ก็ยังเลือกที่จะไม่ออกมาพูด เพราะเราทุกคนได้ตัดสินใจเลือกเส้นทางของตัวเองกันไปแล้ว หลังจากนี้ขอให้ไม่มีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีกนะคะ”
“ดีเจเฟี้ยต” เล่ามุมน่ารักของ “แจ็คสัน หวัง” หลังพาไปข้าวกลางวันสุดอบอุ่น
สมกับแฟนคลับชาวไทยชื่นชอบยกให้เป็นเขยไทยอันดับหนึ่ง สำหรับ แจ็คสัน หวัง แห่งวง GOT7 ที่ไม่ว่าจะเดินทางประเทศไทยครั้งไหนก็จะมาพร้อมความน่ารักและยังมีน้ำใจช่วยคนไทยอยู่ บ่อยครั้ง

อย่างล่าสุด ดีเจเฟี๊ยต หรือ ธัชนนท์ จารุพัชนี พิธีกรและดีเจคนดัง ได้เผยภาพที่ได้นั่งร่วมโต๊ะอาหารกับ พี่แจ็ค พร้อมเขียนเล่าถึงโมเมนต์น่ารักๆ ของซุปเปอร์สตาร์คนนี้ว่า "ได้มากินข้าวกลางวัน กับพี่แจ็ค พี่เปิ้ล พี่เชา พี่พุฒ พี่ตูม น้องลียา แบบงงๆ เพราะพี่แจ็คพูดในรายการว่า วงการบันเทิงก็เงี้ยะ หน้าไมค์ชวนไปเที่ยว หลังไมค์บอกไม่ว่างพี่ตูมเลยบอกว่า เอาเลยมั้ยล่ะ

หลังจบรายการ ลงไปหาไรกินกัน เลยชวนกันลงมา หาไรกินง่ายๆ ใต้ตึก GMM ซึ่งพี่แจ็คบอกหิวมาก เห็นสั่งเยอะเลย ปรากฏว่าพี่เค้าสั่งอาหารเผื่อทุกคนในโต๊ะด้วย แล้วก็ชวนคุย ถามไถ่ ใส่ใจ ทำความรู้จักทุกคนในโต๊ะ แบ่งปันเรื่องราวส่วนตัวให้ฟัง ถามไปถึงครอบครัวทุกคน และแชร์อาหารตัวเอง เหมือนกินข้าวกับเพื่อน และเลี้ยงข้าวพวกเราอีก ขอบคุณพี่แจ็ค พี่เปิ้ล พี่เชา พี่พุฒ พี่มะตูม น้องลียา สำหรับช่วงเวลาดีๆ ด้วย นะฮะ"

#แจ็คสันหวัง #สยามดารา #ข่าวบันเทิง #Jackson #JACKSONWANG
“อิงฟ้า” บอกชัด“โตโน่” ถอนตัวจากละครเอง! เคารพการตัดสินใจเข้าใจทุกคนพลาดได้
จากประเด็นข่าวฉาวสุดร้อนสะเทือนวงการของนักร้องหนุ่ม “โตโน่ ภาคิน คำวิลัยศักดิ์” มีที่ข่าวนอกใจแฟนสาว“ณิชา ณัฏฐณิชา ดังวัธนาวณิชย์” ไปกิ๊กกับ “มายด์ พัชรบุษย์”พริตตี้สาวส่งผลกระทบไปเป็นวงกว้างโดยเฉพาะละครโปรเจ็กต์ใหม่นักร้องหนุ่มกำลังถ่ายทำประกบคู่กับ “อิงฟ้า วราหะ” ซึ่งมีข่าวว่าเจ้าตัวได้ถอนตัวออกจากโปรเจ็กต์นี้ไปแล้วด้วยนั้น

ล่าสุด 25 เม.ย 68 นักแสดงนำอย่าง อิงฟ้า วราหะ ก็ได้ออกมาเปิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า “โตโน่”เป็นคนตัดสินใจถอนตัวออกจากโปรเจกต์นี้เองตนแยกแยะได้ในเรื่องส่วนตัวของเขา เชื่อว่าดาราศิลปินทุกคนก็มีความเป็นมนุษย์มีความผิดพลาดกันได้

-ถ้าถามตัวตนเองคงไม่ไปตอกย้ำ ไม่ได้รู้สึกว่าจะต้องไม่โอเคเคารพการตัดสินใจของพี่เขามาทราบเมื่อไม่นานนี้ว่าพี่เขาขอถอนตัว ก็เป็นกำลังใจให้ค่ะ ต้องมีการถ่ายแก้ประมาณนึง แล้วก็ต้องมาฟื้นเคมีกับนักแสดงที่มาเล่นใหม่ก็มีนิดนึงค่ะอาจจะมีเพิ่มคิวขึ้นมา แต่ไม่เป็นไรค่ะ ทุกปัญหามีทางออกอยู่แล้ว ก็ปรับกันไปค่ะ และได้นักแสดงมารับบทแทนโตโน่แล้ว

-ตนเชื่อว่าเวลาเกิดปัญหาอะไรขึ้นมาฟ้าหลังฝนทุกอย่างจะสวยงามเสมอ เวลาเปลี่ยนนักแสดงก็ไม่ใช่ครั้งแรกเนอะ เราผ่านหลายโปรเจกต์ที่มีการเปลี่ยนการปรับ แต่สุดท้ายเชื่อว่ามันจะออกมาดี ด้วยความตั้งใจของเราด้วยเข้าใจในจุดนี้ แล้วก็เข้าใจที่พี่เขาเลือกจะถอนตัวด้วย

#อิงฟ้าวราหะ #โตโน่ภาคิน #สยามดารา