ต๊ะ นารากร - แม็กซ์ เจนมานะ วอนชาวเน็ตช่วยปราณี เอม สรรเพชญ์ ปมพากย์เสียง Superman

เกิดเป็นกระแสดราม่าร้อนแรงในรอบสัปดาห์ สำหรับปมการพากย์เสียง คลาร์ก เคนต์ หรือ ซูเปอร์แมน ในภาพยนตร์ Superman 2025 ของ พระเอกหนุ่มดาวรุ่ง เอม สรรเพชญ์ คุณากร ลูกชายพิธีกรดัง ดู๋ สัญญา คุณากร

ซึ่งหลังจากที่ภาพยนตร์ Superman 2025 ออกฉาย ก็เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก โดยมีแฟนหนังเข้าไปคอมเมนต์ในอินสตาแกรมพระเอกหนุ่ม ถึงการพากย์เสียงในครั้งนี้อย่างดุเดือด อาทิ ทำไมไม่เอานักพากย์มืออาชีพมาพากย์ รวมถึงไปแชะถึงความเป็นลูกดาราทำให้ได้งานดังกล่าว

ขณะที่ก่อนนี้แต่ทาง Warner Bros. Thailand แถลงการณ์ชี้แจงถึงกระบวนการคัดเลือกเสียงพากย์ไว้ว่า การตัดสินใจเลือก เอม สรรเพชญ์ เป็นผลจากกระบวนการคัดเลือกในระดับสากล ซึ่งได้รับการอนุมัติโดยตรงจาก Warner Bros. Global ภายหลังจากส่งเทสต์เสียงไปยังสตูดิโอในประเทศอังกฤษ และได้รับการตอบรับภายใน 72 ชั่วโมง โดย ไม่มีข้อเสนอแนะให้แก้ไขใดๆ เพิ่มเติม

งานนี้ ต๊ะ นารากร ผู้ประกาศข่าวชื่อได้ ได้โพสต์ถึงเรื่องนี้ พร้อมเผยว่าตนเองได้โทรศัพท์หา “ดู๋ สัญญา” ซึ่งดู๋เครียดมากกับเรื่องนี้ โดยเขียนข้อความระบุว่า “ดราม่าเสียงพากย์ Superman เอม สรรเพชญ์ คุณากร ลูกชายคนเดียวของพี่ดู๋ สัญญา คุณากร ได้รับเลือกให้พากย์เสียง Superman version ล่าสุด ซึ่งถือเป็นโอกาสดีมากสำหรับนักแสดงหน้าใหม่

แต่ปรากฏว่ามีเสียงวิจารณ์ในแง่ลบหนักมาก บ้างก็ว่าได้งานเพราะเป็นลูกคนดัง บ้างก็ว่าเสียงไม่สมบทบาท Superman บางคนวิจารณ์หนักถึงขนาดว่าฟังไม่รู้เรื่องว่าพูดอะไร เอาจริงนะสำหรับฉันเวลาดูหนังต่างประเทศฉันเลือกดู soundtrack และอ่านซับไตเติลภาษาไทย ได้อรรถรสมากกว่า บังเอิญว่าเมื่อ 2 อาทิตย์ก่อนฉันโทรไปคุยกับพี่ดู๋ เลยได้รับรู้ว่าพี่ดู๋เครียดกับเรื่องนี้มาก ฉันไม่รู้จะช่วยยังไง ก็ขอชาวโซเชียลช่วยปรานีลูกชายพี่ดู๋ด้วยละกัน”

ซึ่งทางด้านนักร้องหนุ่ม “แม็กซ์ เจนมานะ” ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ไว้ด้วยว่า “ผมคิดว่าการรุม cyberbully คุณเอม สรรเพชญ์ เป็นสิ่งที่ไม่ควรทำครับ มันบอกอะไรเกี่ยวกับคนคอมเมนต์หรือทำคอนเทนต์ทำร้ายคนอื่นทางโซเชี่ยลได้เยอะนะครับ มีทางออกในการระบายอารมณ์อีกเยอะแยะครับ สมมติผมอยากหมันไส้ อยากด่าใคร ผมจะนับ 1-10 แล้วนัดเพื่อนดื่มเพื่อ offline toxic กัน สนุกกว่าครับ
"หนุ่ม ศรราม" เล่าบทบาทความเป็นพ่อ จิตใจหนักแน่น! ไม่ขอใช้คำว่า "คุณพ่อเลี้ยงเดี่ยว"
ทำหน้าที่คุณพ่อได้อย่างภาคภูมิ นาทีนี้เสิร์ฟความอบอุ่นแบ่งปันให้ชาวโซเชียลเห็นตลอดเวลา สำหรับคุณพ่อสุดหล่อ พระเอกในตำนานยุค90 "หนุ่ม ศรราม" กับลูกสาวคนสวย "น้องวีจิ" แต่ไม่วายเจอชาวเน็ตจัดดราม่าเดือดคอมเมนต์เรื่องการเลี้ยงลูกว่าสปอยขั้นหนัก งานนี้เดินทางมาเปิดใจสเตตัสบทบาทคุณพ่อ พร้อมควงลูกสาวมานั่งโต๊ะอวดความน่ารัก กลางรายการ "โต๊ะหนูแหม่ม" ช่องworkpoint หมายเลข23 กับพิธีกรคนเก่ง "หนูแหม่ม สุริวิภา" พร้อมเผยถึงแนวคิด และวิธีเลี้ยงลูกแบบยึดหลักกตัญญูต้องมาที่หนึ่ง

ถามถึงดราม่าก่อนหน้านี้ ที่คนพากันคอมเมนต์เรื่องอุ้มลูกตลอดเวลา ทั้งที่ลูกโตแล้ว?
"ผมลงรูป ลงอะไรปกติ แต่วันนั้นพอดีเป็นวันที่ว่างมีโทรศัพท์อยู่ในมือพอดี สิ่งนึงที่ต้องทำประจำคือต้องกดหัวใจ กดให้คนที่เข้ามาคอมเมนต์ถึงน้องวีจิ ก็เจอคอมเมนต์หนึ่งว่าขาแทบจะถึงพื้นแล้ว ทำไมไม่ให้เดิน ผมก็เลยบอกว่าลูกผมทำไมจะอุ้มไม่ได้ครับ แต่ก็ไม่มีอะไรนะครับแค่ตอบคอมเมนต์ไป จนกระทั้งผ่านไปประมาณ 2-3ชั่วโมงแล้ว วีจิกลับมาจากโรงเรียน เปิดโทรศัพท์ดูฟีดข่าว ทำไมมันขึ้นแต่ข่าวเราวะ มันเกิดอะไรขึ้น พาดหัวข่าวศรรามไม่ทน สวนดราม่าทำไมจะอุ้มไม่ได้ เพจข่าวมันขึ้นทุกข่าวเลย คนไปรีพลายข้อความนึง ประมาณ300-400"

แล้วพอข่าวขึ้นฟีดเยอะตกใจมั้ยว่าเกิดอะไรขึ้น?
"เชื่อมั้ยคำที่รีพลาย คำเดียวสั้นๆเลย (หัวเราะ) พูดไม่ได้"

พูดถึงมันไม่ผิด เพราะเป็นเวลาทองที่อยากจะใช้ชีวิตกันแบบพ่อลูก?
"คือที่ผ่านมาผมก็ปล่อยผ่านมาเยอะพอสมควร บางทีผมอยากให้รู้ว่าคนแบบไหนที่ควรจะได้รับการตอบแทนที่ดีจากเรา อย่างพี่หนูแหม่มเป็นพี่ที่ผมเคารพรัก การตอบแทนที่ดีคือมารยาท ส่วนแฟนคลับที่น่ารักเราก็จะสำนึกในสิ่งที่เค้าทำให้เรามีวันนี้ เมตตาลูกเราเราก็พร้อมที่จะเคารพและมีมารยาทกับเค้า แต่คนที่ไม่มีมารยาทไม่สมควรที่จะได้รับความเคารพจากเรา"

เพราะฉะนั้นเราควรปกป้องตัวเราและสิทธิของเด็ก?
"แต่ผมก็ไม่ได้พิมพ์อะไรหยาบคายนะครับ มันไม่ใช่แค่นั้นนะครับ อย่างบางทีวีจิเค้าเต้น คนก็จะมาคอมเมนต์ว่าเต้นเก่งเหมือนแม่เลย คนนี้ก็เค้ามาคุณพ่อก็เต้นเก่งนะ คอมเมนต์ใส่กันระหว่างสมัยอยู่กับแม่ สมัยอยู่กับพ่อ ทำไมไม่คุยเรื่องคลิปว่าคลิปมันน่ารัก ทะเลาะกันทำไมว่าจะเต้นเก่งเหมือนแม่ เต้นเก่งเหมือนพ่อ มันก็พ่อแม่เค้าทั้งนั้นแหละ (หัวเราะ)ถูกมั้ยอะ"

หนุ่ม สอนลูกเรื่องไหนเป็นพิเศษเน้นเรื่องไหน?
"ข้อแรกเลยคือต้องมีสัมมาคาราวะตั้งแต่เด็ก ไปกองถ่ายเจอพี่ๆป้าๆน้าๆอาๆให้สวัสดี สอนให้ใส่บาตรตั้งแต่เด็ก มีน้ำใจ และรู้จักกตัญญูกตเวที ทุกวันพระเค้าจะกราบคุณปู่-คุณย่า เป็นคนถวายพวงมาลัยและจะไปใส่บาตรทุกเช้า อันนี้เป็นเบื้องต้นครับ"

เหมือนเราได้บ่มเพาะเมล็ดพันธุ์ขึ้นมาเนอะ?
"ผมคิดว่าความกตัญญูกตเวที เป็นข้อแรกของการเป็นคนดีครับ"

ความสุขของการเป็นพ่อของหนุ่มเป็นยังไงบ้าง?
"เบื้องต้นเอากันแบบตรงๆนะครับพี่ ก็ตั้งแต่แยกทางกับติ๊ก ผมเลี้ยงวีจิมาผมไม่ชอบคำว่าคุณพ่อเลี้ยงเดี่ยว มันไม่เท่ห์ ผมก็เลยคิดถึงไดโกโระ ที่เป็นซามูไรพ่อลูกอ่อน ที่สะพายลูกไปข้างหลังและก็ต่อสู้ไปอะไรแบบนี้ มันเท่ห์ดี และมันเหมาะกับตัวเราด้วยก็เลยเอามาตั้งเป็นแฮชแท็กตัวเอง #ซามุไรพ่อลูกอ่อน เอามาใช้ครับก็เลยใช้แฮชแท็ก แล้วพอเป็นซามุไรพ่อลูกอ่อนแล้วนั้น จิตใจเราต้องหนักแน่น ต้องต่อสู้และฝ่าฟันอุปสรรคอะไรก็ได้เพื่อเค้า"
“นัส จุฑารัตน์“ โพสต์ขอโทษ ”นิ้ง โศภิดา“ แล้วหลังโพสต์วิจารณ์ ปมลูกกับสามีจมน้ำจะช่วยใคร!
กลายเป็นที่ถกเถียงกันสนั่นโซเชียลหลังจากที่ นิ้ง โศภิดา มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2018 ได้ควงสามี เจได ไตรนุภาพ มาเปิดใจในรายการ WOODY FM และในบางช่วงบางตอน นิ้งได้เล่าว่าเคยมีคนมาถามเธอเหมือนกัน ซึ่งเป็นคำถามที่โหดมาก เขาถามว่า ถ้าลูกกับสามีจมน้ำพร้อมกัน แล้วคุณช่วยได้ 1 คน คุณจะเลือกใคร

ซึ่ง นิ้ง ตอบว่า "งั้นนิ้งเลือกสามี เพราะว่าสามีคือคู่ชีวิตซึ่งต้องอยู่กันยามแก่ เขาก็จะรู้แล้วโอเคเพราะบางคนอาจจะเลือกลูกก็ได้ถูกไหมคะ

ขณะที่ด้าน นัส จุฑารัตน์ ภรรยาของนักร้องหนุ่ม โชค รถแห่หรือ โชค โชคมงคล ก็ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นในประเด็นนี้โดยเจ้าตัวได้แชร์คลิปคำพูดของ นิ้ง พร้อมเขียนแคปชั่นด้วยคำพูดสุดแรงว่า "อย่ามีลูกนะคะ สงสารเด็ก y... กันจนแก่ตุยไปเลออ"

หลังจากโพสต์ดังกล่าวเผยแพร่ออกไป ทำให้ ”นัส“เจอทัวร์ชาวเน็ต จนทำให้เจ้าตัวต้องออกมาโพสต์ขอโทษ ซึ่ง นัส บอกว่า "พูดในฐานะคนเป็นแม่ ที่ฟังแล้วแบบพูดไม่ออก ยอมรับผิดในส่วนที่แคปชั่นรุนแรงไป แต่มันแก้ไขไม่ได้แล้วอ่ะ จะลบก็หาว่าหนีความผิดอีก พอขอโทษที่แคปชั่นรุนแรง ก็บอกว่าหงายการ์ดรู้เท่าไม่ถึงการณ์ เอาเป็นว่ารอบหน้าจะคิดให้มากกว่านี้ ตอนโพสต์ยอมรับว่าไม่รู้จักจริงๆ ว่าคนในคลิปเป็นใคร ขอโทษคุณนิ้งด้วยนะคะ"

#นัสจุฑารัตน์ #นิ้งโศภิดา #ข่าวบันเทิง #สยามดารา
“ดีเจต้นหอม” เผย “สารเณรีเจนี่” เลื่อนวันลาสิกขาอย่างไม่มีกำหนด จะย้ายไปอยู่วัดจริงจัง
10 ก.ค 68 “ต้นหอม ศกุนตลา เทียนไพโรจน์” ดีเจ - พิธีกรชื่อดังได้โพสต์ภาพขณะพา “น้องปกป้อง” ลูกชายไปทำบุญไหว้พระและเดินทางไปเยี่ยม “สามเณรีเจนี่” หรือ “เจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ” ที่กำลังอยู่ในช่วงบวชปฏิบัติธรรม

พร้อมเปิดเผยว่า “สามเณรีเจนี่”จะเปลี่ยนแพลนลาสิกขาจากกำหนดเดิมวางไว้จะอุปสมบท 9 วัน แต่ขอเลื่อนไปไม่มีกำหนดเตรียมย้ายสถานที่จากเทวาลัย ไปอยู่วัด เพื่อศึกษาอย่างจริงจัง

โดย ต้นหอม ได้โพสต์ข้อความผ่านไอจีส่วนตัวระบุว่า วันที่ไปถึงเลขาท่าน(ไม่รู้ต้องเรียกอะไรเรียกท่านละกันง่ายดี) มาสะกิดละบอกว่า ช่วยหน่อยท่านมาบอกจะไม่สึก(ไม่สึกตามกำหนด) เราเลยหันหน้าไปมองเหมือนถามว่า จริงหรอ เพราะตามกำหนดคือ 9 วัน

ท่านพยักหน้าและบอกว่า เหมือนยังศึกษาไม่ได้เต็มที่ ยังอยากไปศึกษาต่อแบบจริงจัง เลยยังไม่มีกำหนดสึก ละหลังจากนี้ จะย้ายจากเทวาลัย ไปอยู่วัดจริงจัง จากประสบการณ์ที่เคยไปปฏิบัติธรรมแบบชาวพุทธ 9 วันมันก็ยังน้อยไปจริงๆแหล่ะ อ่ะ ไปให้สุดไปเลยท่าน พร้อมซัพพอร์ต เลยตะมาแจ้งให้แก๊งค์เพื่อนๆได้ทราบ
เผื่อใครอยากไปตักบาตรท่านไลน์มาถามนะว่าจะย้ายไปวัดไหน (อยู่ ตจว นะ) ส่วนใครที่อ่านมาถึงตรงนี้ ก็ขอให้ได้บุญในวันพระใหญ่กันทุกคนนะคะ สาธุ อนุโมทนาบุญตั้งใจศึกษาพระธรรมให้เต็มที่นะคะ สามเนรี !!!! สาธุ !!

#สามเณรีเจนี่ #ดีเจต้นหอม #ข่าวบันเทิง #สยามดารา
ถอดสูตรรัก "นิ้ง-เจได" 2 เดือนแต่ง เร็วแต่รอด เพราะอะไร?!
เส้นทางก้าวข้าม Comfort Zone สู่บทบาทคู่ชีวิตของ "นิ้ง-โศภิดา กาญจนรินทร์" และ "เจได-ไตรนุภาพ จิระไตรธาร" ควงคู่กันมาเปิดใจแบบลึกซึ้ง! ในรายการ WOODY FM ถึงความสัมพันธ์ที่เริ่มต้นอย่างรวดเร็ว เบื้องหลังรักสายฟ้าแลบ 2 เดือนขอแต่งงาน! การวางแผนก่อนแต่งทั้งการเงิน แนวทางเลี้ยงลูก พร้อมแชร์มุมมองเกี่ยวกับการเสียสละเพื่อความสัมพันธ์ และวิธีรักษาความรักให้ยืนยาวจนถึงทุกวันนี้

วลีชุด แดงไหน
นิ้ง โศภิดา : ตั้งแต่ประกวด Miss Universe Thailand ปีนั้นเป็นเจ้าภาพด้วยค่ะ แล้วก็มีวลี "แดงไหน" ชุดเพชร Swarovski ปักทั้งตัวเลย พอเดินออกมาก็คือสะท้อนแสงไฟเวที แล้วก็เป็นสีแดง คนอาจจะไม่ชินในตอนนั้น ด้วยลุคด้วย ด้วยความที่ตอนนั้นคาดหวังว่าชุดเดรสของนางงามจะต้องเป็นแบบไหน แต่ของพี่หมูอาซาวา คือเขาจะมีความเป็นแฟชั่นใส่เข้าไป ก็เลยเป็นวลี "แดงไหน"

ถ้าให้ย้อนกลับไปสิ่งที่คุณได้รับคืออะไร ?
นิ้ง โศภิดา : เป็นสิ่งที่เรา Out Of Comfort Zone ตัวนิ้งเองเป็นคน introvert อยู่สายไฟแนนซ์ การเงิน อยู่แต่กับคอมฯ แต่ว่าด้วยความที่ว่าเห็นนางงาม ผู้หญิงทุกคนก็อยากมีโมเมนต์ที่ได้มงกุฎ เราก็เลยแบบศึกษาตรงนี้เป็นแฟนนางงามมาเวลานาน จนกระทั่งอยากจะลองทำในสิ่งที่เรากลัวมันโดยตลอด กล้าแสดงออกสักเรื่องหนึ่งได้ไหม เพราะว่าทุกครั้งก็คือจะทำอะไรเป็นคนที่ขาดความมั่นใจ ก็เลยมองว่าไหนจะลองซักตั้ง ทำในสิ่งที่เราไม่เคยทำมาก่อนในชีวิต แบบยืนพูดกลัวกล้องทำอะไรไม่ถูก กลายเป็นว่าทุกคนมองเราแบบคนนี้ไม่ดูไม่เฟรนลี่เลย ดูแบบตาโหด เพราะว่าเราไม่รู้จะทำยังไงกับกล้องกับคนทั่วไป การคุย เพราะว่าเป็นคนที่ไม่ค่อยจะมีเพื่อนเท่าไหร่ มันสาย introvert อยู่ด้วยตัวคนเดียว แต่พอ ณ วันนั้นที่ได้มงกุฎ Miss Universe แล้วก็ได้มา enjoy กับการที่เหมือนแบบเป็นโอลิมปิก มันทำให้เราแบบฝึกความอดทน กลายเป็นว่าเราจากเดิมที่ชอบทำอะไรที่ตัวเองชอบ กับกลายเป็นว่าเราต้องทำในสิ่งที่เป็นตัวแทนประเทศไทย เราต้องเตรียมยังไงให้ตัวเองพร้อม ยิ่งกว่าสอบตอนนั้น เป็นการทำให้เราเติบโตไปเรื่อย ๆ ค่ะ

เล่าความรู้สึกที่คบกันมา 2 เดือนแล้วถูกขอแต่งงาน ?
นิ้ง โศภิดา : ตั้งแต่วันแรกที่เจอ เราเจอกันที่โบสถ์ค่ะ เขาก็เป็นนักเล่นกีตาร์ ไม่รู้ว่าเขาเป็น CEO หรืออะไรทั้งสิ้น แต่มันเหมือนถูกชะตาว่า ทำไมเขาเป็นคนเฟรนลี่ เราก็เลยอยากที่จะเริ่มรู้จักเขาในการที่ครั้งแรกของผู้หญิงคนหนึ่งเข้าไป say hi ก่อนนะคะ แล้วก็คุยกันมาเรื่อย ๆ ผ่าน IG Direct พอคุยกันเรื่อยๆ ก็รู้สึกว่าผู้ชายคนนี้เป็นคนที่แบบเฟรนลี่แล้วอบอุ่น แล้วก็ให้กำลังใจได้ดี เพราะช่วงนั้นอยู่ระหว่างการประกวดนางงามแล้วก็เข้ากองไปเรียบร้อย แต่เขาห่วงใยเราทุกรอบด้าน เป็นเหมือนที่ปรึกษารุ่นพี่ที่ดี แล้วนิ้งก็มองว่าเจไดเป็นคนที่กล้าหาญและ supportive และเข้าใจในหน้าที่ๆ เราทำอยู่ คือนิ้งไม่ใช่แค่นางงามอย่างเดียว แต่เราก็ชอบทำธุรกิจด้วย ก็เลยคุยกันรู้เรื่อง รู้สึกว่าเขาเป็นคนเก่ง เราชอบผู้ชายที่เก่งอบอุ่น ก็เลยทำให้นิ้งตัดสินใจที่จะคบกับเขา และที่ตัดสินใจเร็วที่พ่อแม่ก็อึ้งเหมือนกัน รู้สึกว่าตอนนั้นก็ไม่ได้พลาดอะไร เพราะว่ารู้ว่านิ้งกับเจไดต่างคนต่างไม่เฟกตั้งแต่วันแรก นิ้งเป็นแบบนี้ เจไดเป็นแบบนี้ เห็นอารมณ์ เห็นสมาธิสั้น เห็นทุกอย่าง แต่เชื่อว่าอยู่ด้วยกันได้และเป็นคู่พระพรที่พระเจ้าให้มา ดังนั้น คู่ชีวิตคือร่วมทุกข์และร่วมสุข มันไม่ใช่สุขอย่างเดียวมันต้องร่วมทุกข์ด้วย ในตอนนั้นก็เหมือนเขาโตกว่าเรา ถ้าย้อนกลับไปกับตอนนิ้งอายุ 20 กว่า นิ้งก็อารมณ์ร้อนเหมือนกัน แต่เหมือนเขาตอนนั้นเขา 32 ปี เขาเป็นพี่เราประมาณ 8 ปี วุฒิภาวะหลาย ๆ อย่าง เลยรู้สึกว่าไม่ต้องรอก็ได้ นิ้งเคยผ่านประสบการณ์มีแฟนคบประมาณ 5 ปีแต่สุดท้ายมันไปต่อไม่ได้ แต่กับเขากลับกลายเป็นว่าในเวลา 2 เดือนเราแทบไม่ทะเลาะอะไรกันเลย แต่มันคือการให้กำลังใจกัน แล้วก็มองในส่วนดีและส่วนที่ไม่ดีเอามาคุยกัน มาปรับปรุง จะไม่ยอมให้ปัญหาระหว่างเรามันคาราคาซัง จะต้องคุยกันตลอดค่ะ เจได ไตรนุภาพ : ถ้าคุณเจอเรา 10 ปีที่แล้วแล้วว่าคุณก็ไม่ชอบเราหรอก เพราะว่าเราไม่น่าคบ ที่มันไม่น่าคบก็เพราะว่าเราไม่ได้มีคุณลักษณะของคนที่จะเป็นพ่อคนได้ จะเป็นสามีที่ดีได้ เพราะการเป็นสามีกับการเป็นพ่อที่แท้จริงมันคือการที่ต้องเสียสละตัวเองก่อน ซึ่งผมเชื่อว่าหลาย ๆ ครอบครัวก็น่าเสียดายที่จะต้องแตกหักกันไป เพราะว่าความคิดที่คิดว่าฉันคิดว่าฉันถูกกันไปเรื่อย ๆ จนสุดท้ายวันหนึ่งมันก็แตกหัก เพราะว่าไม่มีใครยอมใคร ยิ่งถ้าเป็นคู่ที่เก่งทั้งคู่ มันก็ยิ่งท้าทายนะ แต่พอเราตัดสินใจมาอยู่ร่วมกัน เพราะเราเชื่อมั่นว่าทั้งคู่พร้อมที่จะเสียสละบางอย่างเพื่อกันและกัน แต่สิ่งที่เราได้มันมากกว่าที่เราเสียสละ

ผ่านมา 2 เดือนก็ตัดสินใจแต่งงานเลย ?
นิ้ง โศภิดา : ตัดสินใจเลย ด้วยความที่ว่าก็มั่นใจ และเรา 2 คน ก็ทำงานด้วยกันด้วย ดังนั้นเวลาที่คบกันทำงานด้วยกัน อยู่ด้วยกันทุกวัน เห็นข้อเสียของเขาก็เห็นมาแล้ว แล้วก็เห็นข้อเสียในตัวเราด้วยที่จากการที่เขาแชร์มา เพราะว่านิ้งทำงานกับเขาทุกวัน ไปไหนคือไปด้วยกันตลอด รู้สึกว่าในเมื่อวันแรกเราเชื่อในตัวผู้ชายคนนี้แล้วเชื่อว่าเขาเป็นพ่อของลูกเราได้ ก็มาลองปรับจูนกันในช่วงเวลาที่ก่อนแต่งงาน ประมาณ 5-6 เดือน เราก็ไปคอนเซาท์ค่ะ เชื่อว่าต้องจัดการคุยกันให้รู้ก่อน วิธีการเลี้ยงลูก ความคิดของคุณกับฉันเป็นยังไง วิธีการจัดการเรื่องการเงิน แล้วก็การใช้ชีวิตแบบสิ่งที่เราชอบ สิ่งที่เขาไม่ชอบ การแต่งงานไม่ใช่แค่เรา 2 คนแต่มันคือบ้านทั้ง 2 คนมารวมกัน

มีเรื่องอะไรบ้างที่ต้อง Checklist ในครอบครัว ?
นิ้ง โศภิดา : อย่างแรกเลยเลยเรื่องการเงิน หลายคู่อาจจะทะเลาะกันเรื่องการเงินแต่งงานกันไป เขาถามเลยว่า จะแยกหรือจะรวมกัน จะจัดการเรื่องเงินกันยังไงให้ไม่มีปัญหาภายหลัง

เจได ไตรนุภาพ : เช่นถ้าผมหาได้ของผมหรือครอบครัวแล้วแบ่งกันทีหลัง ถ้านิ้งหาได้เข้าของนิ้งหรือครอบครัว แล้วถ้าญาติยืมเงินจะทำยังไง เขาก็จะยกคำถาม

นิ้ง โศภิดา : ถามวิธีของพวกเรา เขาก็ถามง่าย ๆ ว่าจะรวมกันหรือจะแยก pocket แล้วถ้ามีคนมายืม คุณจะตัดสินใจยังไง หรือเวลาที่ spend money บางทีเราอาจจะมีความลับที่ไม่อยากจะบอก แล้วคุณจะทำยังไงกับคู่ของคุณ คู่ของนิ้ง นิ้งเห็นเจไดก็คือเป็นคนที่เปย์มาก ซัพพอร์ตมาก เงินเก็บไม่มีเลย ก่อนเจอนิ้ง ก็เลยคุยกันเดี๋ยวนิ้งช่วย แต่นิ้งจะทำเป็นแบบ Google Sheet Manage Cash Flow ให้เลยจะได้แบบเห็นด้วยกันเลยว่าทำงบให้แก้ไขปัญหาตรงนี้ แล้วก็เคยคิดที่จะ manage การค่าใช้จ่ายของเขาแต่มันไม่ไหว มันต้องมานั่งเก็บทุกเม็ด งั้นให้งบเท่านี้คุณไปจัดการชีวิตของคุณด้วยงบเท่านี้ เราเคลียร์กันแบบนี้ ให้นิ้งเป็นคนจัดการแต่ก็จะมีกองกลางที่เป็นเงินของเรา

เจได ไตรนุภาพ : เวลาจะซื้ออะไรเยอะ ๆ ก็จะคุยกันก่อน คำว่าเยอะ ๆ คือสมมุติว่าเป็นการตัดสินใจในหลักแสนขึ้น ก็จะเริ่มคุยกันว่าเรามีงบไหมเรื่องนี้ ถ้าไม่มีเราไปเดือนหน้าหรือว่าคิดว่าอันนี้มันสิ้นเปลืองไป ซื้อไปมันก็เบื่อแล้วหรือว่าถ้าเราคุยกันแล้วมันสมเหตุสมผลเราก็จะไปต่อ ผมฝากให้กับหนุ่ม ๆ ทุกคนทางบ้าน ให้ภรรยาจัดการเรื่องการเงิน ถ้าคุยกันก่อนนะ ผมว่าเราจะสบายใจแล้วมันจะช่วยลดปัญหา ผมเชื่อว่า 99% ของปัญหาในชีวิตคู่รวมทั้งเรื่องของลูกด้วย เพราะเมื่อเงินมันอยู่กับเขา เหมือนกับมีเงินเดือนที่เราได้จากเขาแล้วเราก็จัดการจากตรงนั้นอยากได้อะไรก็ซื้อเล็กซื้อน้อยก็ใช้แค่นั้น แล้วเราก็ไปโฟกัสในการทำงานในการสร้างมูลค่า ในการให้ลูกเรามีความสุขมากที่สุด

นิ้ง โศภิดา : แต่เราไม่มีความลับต่อกัน ให้โชว์เลยว่าตอนนี้มีสินทรัพย์อะไรบ้าง คล้าย ๆ เราทำงบการเงินให้เขาจัดการ แล้วก็ทำพินัยกรรมเอาไว้เรียบร้อยแล้ว ซื้อประกัน คุยกันให้เรียบร้อยก่อน ส่วนเรื่องวิธีการเลี้ยงลูก เขาถามว่า จะมีพี่เลี้ยงไหม จะช่วยกันเลี้ยงหรือผู้ชายทำงานเป็นหลัก ถ้ามีลูกคุณจะจัดการตรงนี้ยังไง
เจได ไตรนุภาพ : จะให้ลูกไปอยู่กับฝั่งพ่อ ฝั่งผมหรือฝั่งเขา ถามทุก ๆ การคาดการณ์ ในเหตุการณ์อนาคต

นิ้ง โศภิดา : เวลาพ่อแม่ป่วยจะเอาพ่อแม่มาอยู่ที่บ้านด้วย ไหม

เจได ไตรนุภาพ : คือถามวิกฤตไว้ให้หมดเลยครับ เพื่อที่จะเช็คทั้งคู่ด้วย เพราะบางทีบางเรื่องเราเป็นครั้งแรกที่เราจะได้แต่งงาน มันก็จะมีสถานการณ์ที่เราไม่มีทาง ที่จะรู้

นิ้ง โศภิดา : แล้วมีคำถามที่โหดเหมือนกัน เขาถามว่า ถ้าลูกกับสามีจมน้ำพร้อมกัน แล้วคุณช่วยได้ 1 คน คุณจะเลือก ใคร

คำถามนี้น่าสนใจมากเพราะคำตอบมันสะท้อนหลายๆ อย่าง ?

นิ้ง โศภิดา : สิ่งที่เราแชร์ไปมันก็สะท้อนหลายๆ อย่าง บางคนก็อาจจะเลือกลูกก่อน แต่นิ้งเลือกสามี เพราะว่าสามีคือคู่ชีวิตซึ่งต้องอยู่กันยามแก่ เพราะบางคนอาจจะเลือกลูกก็ได้ถูกไหมค่ะ (พี่วู้ดดี้น้ำตาไหล กับคำตอบที่มีความซื่อตรงของนิ้ง)

สามารถติดตาม Woody FM ได้ที่ช่องทาง Podcast : WOODY FM , Facebook: Woody, Youtube: Woody ทุกวันพุธ เวลา 19.00 น.

คลิกชมย้อนหลัง : https://www.youtube.com/watch?v=mQCKFpP1rng&t=64s&ab_channel=WOODY
ไม่มีอ้อมค้อม! เอ็ม บุษราคัม โพสต์เล่าตรงๆ หลังไปดูดไขมัน หลังน้ำหนักพุ่งจนเอวขยาย
เรียกว่าออกมาบอกตรงๆ ไม่อ้อมค้อมเลย สำหรับ เอ็ม บุษราคัม วงษ์คำเหลา ลูกสาวคนโตของตลกรุ่นใหญ่ หม่ำ จ๊กมก ที่ล่าสุดโพสต์เล่าตรงๆ ว่าไปดูดไขมันมา หลังน้ำหนักพุ่งขึ้นหลาย กก. รอบเอวเพิ่มขึ้นหลายนิ้ว จนตอนนี้รอบเอวลดลงแล้ว

ซึ่งในอินสตาแกรม @emmeemm ได้โพสต์ภาพพร้อมทั้งเขียนรีวิวอย่างละเอียดถึงเหตุผลที่ตัดสินใจไปดูดไขมันครั้งนี้ด้วยว่า "ดูดไขมันมาค่ะ" ตรงๆ ไม่อ้อมค้อมเลย 8 ปี กับ 2 ท้อง ลูก 3 (ลูก 2 รวมปั๋วอีก 1 ดื้อดั่งลูก) 3 ปี กับรายการหม่ำกับหม่ำ รายการที่มอบความรู้สึกดีดี เสียงหัวเราะ พร้อมน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นมากว่า 6-7 โล รอบเอวเพิ่มมาอีก 3 นิ้ว จาก 46 พุ่งไป 54 .... เอว 25 ไป 28 จะร้องงงงงห้ายยยยย แล้วลดยากด้วย นะ!!! 

ตัดสินใจไป ... ดูดขา ดูดท้อง ทำร่องอ่อนๆ (เพื่อเป็นกำลังใจให้ตัวเองตั้งใจลดจริงๆจังๆสักที)  Week แรก: ระบม บวม ช้ำ (ขับรถไม่ได้นะงับ ไม่ไหว) ใส่ชุดกระชับตลอด 24 ชั่วโมง อาบน้ำไม่ได้งับ 

Week สอง: บวมน้อยลง รอยช้ำจางหาย ตัดไหมเรียบร้อย อาบน้ำได้แล้ว แต่ยังต้องใส่ชุดกระชับตลอด 24 ชั่วโมง  Week สาม: หายบวมสนิท รอยช้ำไม่เหลือ วัดรอบเอวตอนถอดชุด ตอนนี้เอว 26 แล้วววววว ดีจายยยยย 

รู้หมือไร่!: ดูดไขมัน ไม่ได้ทำให้น้ำหนักลด ลดแค่สัดส่วนเท่านั้นนะจ๊ะ ตอนนี้เอ็มกำลังดูแลเรื่องอาหารการกินอย่างเคร่งครัดควบคู่ไปด้วยเพื่อให้น้ำหนักลงไปพร้อมกับสัดส่วน บางอย่างสามารถลด เลี่ยงได้ แต่เรามันเก๋าอยู่ละ งด เลยจ้าาาาา โดยเฉพาะ น้องเบียร์ ตัวร้าย!!! พักยาวเลยละ เอาไว้ครบ 2 เดือนจะมาอัปเดตอีกนะจ๊ะ”
“บอย ปกรณ์” กำหมัดมองแรงหลัง“น้องวันใหม่” ซื้อเสื้อสายเดี่ยว บอกลั่นถ้าใส่จะตุ้บตั้บน้องหรือคนมอง
เรียกรอยยิ้มและเสียงหัวเราะได้เสมอ สำหรับครอบครัวฉัตรบริรักษ์ ที่ล่าสุดพี่ชายคนโตของบ้านอย่างพระเอกหนุ่ม บอย ปกรณ์ ได้โพสต์ภาพคู่กับ น้องวันใหม่ น้องสาวคนเล็ก ที่เพิ่งซื้อเสื้อสายเดี่ยวตัวใหม่มาอวดพี่ชาย แต่งานนี้พี่ชายถึงกับกำหมัดมองแรง อยู่ข้างๆ น้องสาว

ซึ่ง บอย ปกรณ์ เขียนแคปชั่นตามสไตล์พี่ชายสุดหวงน้องสาวไว้ว่า “กำลังคิดว่าตอนที่นางใส่ จะตุ้บตั้บนางก่อน หรือ จะตุ้บตั้บคนมองนางก่อนดี!!!!@wanmai_chatt แม๊~~~~ มาดูลูกสาวซื้อเสื้อ!!!” ทำเอาแฟนๆ แห่คอมเมนต์ขำพี่ชายกันหนักมากเลยทีเดียว

#บอยปกรณ์ #น้องวันใหม่ #ข่าวบันเทิง #สยามดารา
“ตำรวจเรียก "ฟิล์ม รัฐภูมิ" เปลี่ยนข้อหาจากพยายามกรรโชก เป็นพยายามฉ้อโกง จากคดีร่วมกับเจ๊พัช กรรโชก บอสพอล ดิไอคอน ทนายงงฉ้อโกงตรงไหน”
วันที่ 8 ก.ค. 68 ที่ศูนย์รับแจ้งความ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง นายรัฐภูมิ โตคงทรัพย์ หรือ "ฟิล์ม รัฐภูมิ" อดีตนักแสดงชื่อดัง พร้อมด้วย นายประมาณ เลืองวัฒนะวณิช ทนายความ เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน กก.2 บก.ป.เพื่อตรวจสอบความคืบหน้าของคดีต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับตนเอง ทั้งในฐานะผู้เสียหายและผู้ถูกกล่าวหา

หลังการเข้าพบนายประมาณเปิดเผยว่า วันนี้ไม่มีรายละเอียดคดีใหม่เพิ่มเติม แต่มีการเปลี่ยนแปลงข้อหาที่ฟิล์ม รัฐภูมิ ถูกกล่าวหา จากเดิมเมื่อวันที่ 6 ธันวาคม 2567 ที่ผ่านมา ฟิล์มเข้าพบ พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รอง ผบก.ป. และ พ.ต.ท.สธาปน์ ปัญญาพยัคฆ์ รอง ผกก.2 บก.ป.

เพื่อรับทราบข้อกล่าวหา ร่วมกันพยายามกรรโชกทรัพย์ และหมิ่นประมาท ซึ่งข้อหาดังกล่าวสืบเนื่องมาจากกรณีคลิปเสียงที่ถูกระบุว่าเป็นการร่วมมือกันระหว่างฟิล์ม รัฐภูมิ และนางสาวกฤษณ์อนงค์ หรือ "เจ๊พัช" เรียกรับเงิน จำนวน 20 ล้านบาทจาก "บอสพอล ดิไอคอนฯ" รวมถึงข้อหาหมิ่นประมาทนักจัดรายการชื่อดังโดยการเข้าพบพนักงานสอบสวนครั้งนี้ ข้อหาได้เปลี่ยนแปลงจาก "พยายามกรรโชกทรัพย์" เป็น "พยายามฉ้อโกง" แทน

นายประมาณ กล่าวถึงการเปลี่ยนแปลงข้อหานี้ โดยให้เหตุผลว่า ข้อหากรรโชกทรัพย์คือการทำให้เกิดความกลัวเพื่อหวังทรัพย์สิน แต่ข้อหาฉ้อโกงหมายถึงการหลอกลวงให้หลงเชื่อ และส่งมอบทรัพย์สินโดยทุจริต ซึ่งหากกระทำไม่สำเร็จจะเรียกว่าพยายามฉ้อโกง แม้เจ๊พัชจะถูกศาลตัดสินจำคุกอยู่ในเรือนจำแล้ว แต่กรณีของเจ๊พัชไม่เกี่ยวข้องกับฟิล์ม และพยายามโยงเรื่องให้เกี่ยวข้องกัน ซึ่งดูแล้วไม่เข้าองค์ประกอบความผิดใดๆ เลย ตนยังได้ย้ำข้อสงสัยเกี่ยวกับการเปลี่ยนข้อหาเป็นพยายามฉ้อโกงว่า “ฉ้อโกงตรงไหน?”

โดยระบุว่าการฉ้อโกงจะต้องมีการหลอกลวง ทำให้หลงเชื่อ ส่งมอบทรัพย์สิน และมีการได้ไปซึ่งทรัพย์สินโดยทุจริต ซึ่งหากทำไม่สำเร็จจึงจะเป็นการพยายามฉ้อโกง

#ฟิล์มรัฐภูมิ #สยามดารา
"มะเดี่ยว" 3,000 บาทเปลี่ยนชีวิต สู้จนเป็นตัวแม่ไอคอนโซเชียล!
ฮากระจาย! “เกิดมาเว่า” สัปดาห์นี้พบกับ "มะเดี่ยว - อภิเชษฐ์ เอติรัตนะ” อินฟลูฯ ตัวแม่ที่กล้าลบคิ้ว! มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว จากการแต่งหน้าจัดจ้านและท่าทางที่เป็นเอกลักษณ์ จนทำให้เกิดกระแสเลียนแบบในโลกออนไลน์ และเรียกปรากฏการณ์นี้ว่าโรคมะเดี่ยว เคยเห็นผีตั้งแต่เด็ก? บอกเลขแม่นจนคนแห่ขอ และเล่าถึงความเป็นมาจุดเริ่มต้นกว่าจะมาเป็นมะเดี่ยวในวันนี้ มากรุงเทพด้วยเงินติดตัว 3000 เผย “ช่วยตัวเองก่อน แล้วค่อยช่วยคนอื่น”

เป็นจังหวัดอะไร ?
มะเดี่ยว: เป็นคนขอนแก่น บ้านฝาง

เล่าย้อนกลับไปตอนเด็ก ?
มะเดี่ยว: ตอนเราเด็ก เราชอบ เราเป็นกะเทยมาแล้ว เกิดมาก็โดดเด่น บอกหวยถูก เป็นคนดัง เห็นเป็นสิ่งลี้ลับ ไปไหนมาไหนคนก็จะให้เงินเรา ชอบซื้อไปชุดสวย ๆ งาม ๆ แม่เราก็เป็นแบบว่าลูกอยากได้ชุดผู้หญิง ซื้อให้เลย ไม่เคยห้าม

ทำไมถึงโกนคิ้วออก ?
มะเดี่ยว: เพราะว่าเราไม่ชอบมีคิ้ว มีคิ้วทำไม มันไปบังบังตา คิ้วเป็นมงกุฎของนางงามเขาไม่ใช่เหรอ เอาไปทิ้งหน่อยคำนี้ มันไม่ใช่มงกุฎ มันเป็นเหมือนว่ามาบังตาเราไว้ ทำให้ตาเราไม่เด่น

เส้นทางสู่ความสำเร็จ ?
มะเดี่ยว: เราไม่ได้ตั้งใจจะดังนะ เราก็แต่งชุดแบบธรรมดา ลงเฟซ แล้วก็ดันดัง มากรุงเทพฯ ตั้งแต่อายุ 15 พ่อแม่บอกไปเลย มาคนเดียวแล้วฉันแล้วก็มาเช่าห้องอยู่ ตอนนั้นก็เอาเงิน 3,000 มากรุงเทพฯ มาออกรายการ สรยุทธ สุทัศนะจินดา แล้วก็ไปออกรายการ Asias Next Top Model เราเป็นดีไซเนอร์อยู่ Asias Next Top Model เขาติดต่อมาให้เราไปแคสติ้งเกี่ยวกับดีไซเนอร์ พอทำรายการ Asias Next Top Model เราก็ต้องไปจากไทย ขนของไปให้หมด

จบรายการแล้วเป็นอย่างไร ?
มะเดี่ยว: เราทำงานมานาน ตั้งแต่อายุ 16 จนถึงอายุ 21 ทำงานมาหลายปีมาก จนเขาบอกว่าหมดเงินแล้ว ให้กลับบ้านเลย ที่ช็อกก็คือว่า แม่เราเคยโทรมาขอเงินแบบไปผ่าตัดแค่ 3,000 เป็นค่าห้อง ท่านก็บอกว่าไม่มีแต่อย่าไปบอกมะเดี่ยวนะว่าไม่มี เดี๋ยวจะเครียด พอกลับบ้านไป ฉันไม่ยอมหรอกค่ะ เราต้องทำให้เราสู้ขึ้นมา ตอนกลับแม่ก็ยังโอนเงินมาให้ 3,000 อีก ตอนไปตอนกลับแม่ก็ให้ 3,000 คือไปเริ่มต้นด้วย 0 น่ะ กลับมาก็เริ่มต้นด้วย 0 อีก 4 ปีที่เราทำงานมาตลอด ก็คิดแบรนด์เลย ตู้คุณย่า เอาผ้าถุงมาตัดเป็นชุด เป็นผ้าซิ่น เอามาตัดเป็นชุดของตัวเอง ค่าตัด 100 ลงทุน 200 ใช่ไหม ขายไปเลย 999 แล้วก็ยิงแอดเลย ตอนนั้นแบบเพิ่งอายุ 21 ปี วันแรกปังเลย ถ้าเราเครียดแล้วยิ่งว่างมันก็จะเครียดขึ้นไปอีก ไม่มีใครช่วยเราได้ นอกจากเราช่วยตัวเองนี่คือคำที่ถูกต้อง ช่วยตัวเองเถอะค่ะ ช่วยคนอื่นแล้วอย่าลืมช่วยตัวเองบ้างนะคะ ก็เลยประสบความสำเร็จในช่วงแรกที่กลับบ้าน

แล้วมาถึงจุดนี้ได้ยังไง ?
มะเดี่ยว: เปลี่ยนตัวเอง ไปประกวด Miss Fabulous ทำให้เราได้เกิดมา เขาก็เป็นผู้ให้โอกาส ไบรอัน ตัน เราได้ไปออกรายการ The Billionaire

สเปกของมะเดี่ยว ?
มะเดี่ยว: ไม่ได้ชอบคนที่มีหน้าตาดีเท่าไหร่ หน้าตาก็สำคัญแต่ว่าเราจะดูที่บุคลิก จะดูด้วยเสน่ห์ของเขา ถ้าเป็นสเปกก็ต้องคนนี้เลย เพราะว่าแฟนเขาหน้าเหมือนฉันเลย เต๋อ ฉันทวิชช์

ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ อยากบอกอะไรตัวเอง อยากแก้ไขอะไรมากที่สุด ?
มะเดี่ยว: จะบอกให้ตัวเองตั้งใจเรียนภาษาอังกฤษเยอะ ๆ เพราะว่าตามบ้านนอกเรา ภาษาอังกฤษเขาไม่ได้สอนจริงจัง ไม่ได้ให้ความสำคัญกับภาษาอังกฤษ

ฝากถึงเด็กรุ่นใหม่ที่ไม่มีความกล้าที่อยากจะเป็นตัวของตัวเอง ทำอย่างไรให้ปลุกความกล้า ?
มะเดี่ยว: ก่อนที่จะกล้าเป็นตัวของตัวเองก่อนต้องหาตัวเองให้เจอก่อน จะต้องหาตัวเองให้เห็นว่าเราเป็นอะไรกันแน่ ลองทำไปเรื่อย ๆ ไม่ใช่ว่าใครจะเจอตัวเองในการทำครั้งแรก Passion มันหาได้ใหม่ได้เรื่อย ๆ อยู่แล้ว แต่ เธอต้องก้าวออกจากห้องตอนนี้ ไม่ใช่ไปนั่งหา Passion อยู่ในห้องตัวเอง ไปหาทำอะไรที่เรา ไม่เคยทำ

สามารถติดตาม “เกิดมาเว่า” ได้ที่ช่องทาง Facebook: WE DO , Youtube: WE DO วันอังคาร เวลา 18.00 น.

คลิกชมคลิปย้อนหลัง : https://www.youtube.com/watch?v=t2CBZxsp530&t=60s&ab_channel=WEDO
อินโดนีเซีย จัดยิ่งใหญ่ต้อนรับ “โอปอล-สุชาตา” มิสเวิลด์ 2025 พร้อมร่วมงาน Miss Indonesia 2025
เจ้าบ้านอินโดนีเซีย จัดงานต้อนรับอย่างยิ่งใหญ่ สำหรับการมาเยือนของ “โอปอล-สุชาตา ช่วงศรี” มิสเวิลด์ 2025 พร้อมด้วย คุณ “สตีเฟน ดักลาส มอร์ลีย์” Event Director of Miss World Organization และ คุณ “ซูดา เรดดี้” Miss World Global Ambassador for Beauty With a Purpose ในงานแถลงข่าว Welcoming the 72nd Miss World in Indonesia ซึ่งจัดโดยองค์กร Miss Indonesia ภายใต้การดูแลของ “ลิเลียนา ทาโนเซอดิบโจ” Chairwoman of Miss Indonesia Organization พร้อมด้วย “โมนิกา เคเซีย เซมบิริง” มิสอินโดนีเซีย คนล่าสุด ร่วมให้การต้อนรับอย่าง อบอุ่น

โดยการมาเยือนอินโดนีเซียครั้งนี้ “โอปอล-สุชาตา” ได้รับเกียรติให้เข้าร่วมงานการประกวด Miss Indonesia 2025 เวทีประกวดนางงามที่ยิ่งใหญ่และมุ่งเน้นเรื่องความงามอย่างมีคุณค่า Beauty With A Purpose ซึ่งจะจัดประกวดรอบตัดสินขึ้นในวันที่ 9 กรกฎาคม ถ่ายทอดสดทางสถานีโทรทัศน์ RCTI ทั้งนี้ “ลิเลียนา ทาโนเซอดิบโจ” Chairwoman of Miss Indonesia Organization ได้กล่าวถึงการมาเยือนครั้งนี้ ว่า

“การได้ต้อนรับโอปอลถือเป็นเกียรติอย่างยิ่ง เธอเปี่ยมไปด้วยแรงบันดาลใจ ความเป็นผู้นำ จุดมุ่งหมายที่ชัดเจน และความเห็นอกเห็นใจ ซึ่งล้วนเป็นแบบอย่างอันงดงามสำหรับผู้เข้ารอบสุดท้ายทั้ง 38 คนของเรา โอปอลได้สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้กับประเทศไทยในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ด้วยการคว้ามงกุฎ Miss World เป็นคนแรกในรอบ 75 ปี โดยพิธีมอบมงกุฎจัดขึ้นที่เมืองไฮเดอราบาด รัฐเตลังคานา ประเทศอินเดีย เธอเป็นนักศึกษาคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และเป็นผู้ก่อตั้งแคมเปญ “Opal for Her” ซึ่งรณรงค์ด้านสุขภาพสตรี โดยเฉพาะการตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านมระยะเริ่มต้น

สำหรับอินโดนีเซียยังคงครองตำแหน่งประเทศชั้นนำในการประกวด Miss World มาอย่างต่อเนื่อง โดยมีผลงานเข้ารอบลึกถึง 12 ปีติดต่อกัน ได้รับตำแหน่งรองอันดับ 2 จำนวน 2 ครั้ง และคว้ารางวัล “Beauty With a Purpose” หลายสมัย มากกว่าประเทศอื่น ๆ ในโลก ซึ่งปีที่ผ่านมาตัวแทนของเรา “โมนิกา เคเซีย เซมบิริง” ก็ทำผลงานได้น่าประทับใจ โดยติด 10 อันดับสูงสุดในภูมิภาคเอเชีย-โอเชียเนีย เข้ารอบ 40 คนสุดท้าย และคว้ารางวัลทั้ง Talent และ Beauty With a Purpose จากเวที Miss World 2024 เราแทบรอไม่ไหวที่จะพบกับมิสอินโดนีเซีย 2025 คนใหม่! ใครจะเป็นผู้สืบทอดตำแหน่งและสานต่อภารกิจนี้ต่อไป”
อินโดนีเซีย จัดยิ่งใหญ่ต้อนรับ “โอปอล-สุชาตา” มิสเวิลด์ 2025 พร้อมร่วมงาน Miss Indonesia 2025
เจ้าบ้านอินโดนีเซีย จัดงานต้อนรับอย่างยิ่งใหญ่ สำหรับการมาเยือนของ “โอปอล-สุชาตา ช่วงศรี” มิสเวิลด์ 2025 พร้อมด้วย คุณ “สตีเฟน ดักลาส มอร์ลีย์” Event Director of Miss World Organization และ คุณ “ซูดา เรดดี้” Miss World Global Ambassador for Beauty With a Purpose ในงานแถลงข่าว Welcoming the 72nd Miss World in Indonesia ซึ่งจัดโดยองค์กร Miss Indonesia ภายใต้การดูแลของ “ลิเลียนา ทาโนเซอดิบโจ” Chairwoman of Miss Indonesia Organization พร้อมด้วย “โมนิกา เคเซีย เซมบิริง” มิสอินโดนีเซีย คนล่าสุด ร่วมให้การต้อนรับอย่าง อบอุ่น

โดยการมาเยือนอินโดนีเซียครั้งนี้ “โอปอล-สุชาตา” ได้รับเกียรติให้เข้าร่วมงานการประกวด Miss Indonesia 2025 เวทีประกวดนางงามที่ยิ่งใหญ่และมุ่งเน้นเรื่องความงามอย่างมีคุณค่า Beauty With A Purpose ซึ่งจะจัดประกวดรอบตัดสินขึ้นในวันที่ 9 กรกฎาคม ถ่ายทอดสดทางสถานีโทรทัศน์ RCTI ทั้งนี้ “ลิเลียนา ทาโนเซอดิบโจ” Chairwoman of Miss Indonesia Organization ได้กล่าวถึงการมาเยือนครั้งนี้ ว่า

“การได้ต้อนรับโอปอลถือเป็นเกียรติอย่างยิ่ง เธอเปี่ยมไปด้วยแรงบันดาลใจ ความเป็นผู้นำ จุดมุ่งหมายที่ชัดเจน และความเห็นอกเห็นใจ ซึ่งล้วนเป็นแบบอย่างอันงดงามสำหรับผู้เข้ารอบสุดท้ายทั้ง 38 คนของเรา โอปอลได้สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้กับประเทศไทยในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ด้วยการคว้ามงกุฎ Miss World เป็นคนแรกในรอบ 75 ปี โดยพิธีมอบมงกุฎจัดขึ้นที่เมืองไฮเดอราบาด รัฐเตลังคานา ประเทศอินเดีย เธอเป็นนักศึกษาคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และเป็นผู้ก่อตั้งแคมเปญ “Opal for Her” ซึ่งรณรงค์ด้านสุขภาพสตรี โดยเฉพาะการตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านมระยะเริ่มต้น

สำหรับอินโดนีเซียยังคงครองตำแหน่งประเทศชั้นนำในการประกวด Miss World มาอย่างต่อเนื่อง โดยมีผลงานเข้ารอบลึกถึง 12 ปีติดต่อกัน ได้รับตำแหน่งรองอันดับ 2 จำนวน 2 ครั้ง และคว้ารางวัล “Beauty With a Purpose” หลายสมัย มากกว่าประเทศอื่น ๆ ในโลก ซึ่งปีที่ผ่านมาตัวแทนของเรา “โมนิกา เคเซีย เซมบิริง” ก็ทำผลงานได้น่าประทับใจ โดยติด 10 อันดับสูงสุดในภูมิภาคเอเชีย-โอเชียเนีย เข้ารอบ 40 คนสุดท้าย และคว้ารางวัลทั้ง Talent และ Beauty With a Purpose จากเวที Miss World 2024 เราแทบรอไม่ไหวที่จะพบกับมิสอินโดนีเซีย 2025 คนใหม่! ใครจะเป็นผู้สืบทอดตำแหน่งและสานต่อภารกิจนี้ต่อไป”
TALK กับ “ไมค์” ช่อง 7HD คือบ้านของผมที่ยังไม่เคยคิดจะไปไหน พร้อมลุยบทบาทใหม่ฐานะผู้จัดฯ เปิดงานโกอินเตอร์ แฟนไทยเตรียมชม 11 ก.ค.นี้
เปิดใจ “ไมค์” เล่าเรื่องราวลุยงานอินเตอร์ประเทศจีน ในรายการวาไรตี “ว่านอู้ซิ่ว” ตอน “กังฟู” พร้อมชวนแฟนชาวไทย ติดตามชมได้ทางช่อง 7HD 11 ก.ค.นี้ ก่อนเผยถึงบทบาทใหม่ในฐานะผู้จัดละคร และเล่าความรู้สึกที่มีต่อช่อง 7HD “บ้านของผม”

หายจากหน้าจอไปพักใหญ่ จนแฟน ๆ บ่นคิดถึง ล่าสุดเลยขอจับ ไมค์-ภัทรเดช สงวนความดี มาพูดคุยแบบสเปเชียล อัปเดตงานใหม่ให้ได้รู้กัน หลังสร้างความฮือฮาในโซเชียล กับภาพการทำงานที่ประเทศจีนจนเกิดเป็นกระแสชื่นชมกับไมค์โกอินเตอร์ พร้อมกับมีหลายคำถามว่า ไมค์ไปทำอะไรที่นั่น ? และวันนี้มีเฉลยออกมาแล้วว่า ไมค์เดินทางไปถ่ายรายการ “ว่านอู้ซิ่ว” ซึ่งเป็นรายการแนว Docu-drama สารคดีกึ่งละคร ที่นำเสนอการผสมผสานด้านศิลปวัฒนธรรม ความคิดสร้างสรรค์ และธรรมชาติของมณฑลกว่างซี ประเทศจีน โดยตอนที่ไมค์ร่วมแสดงคือตอน “กังฟู” เป็นการผสมผสานศิลปะการต่อสู้ของไทย และจีนที่จะเห็นได้เลยว่ามีความคล้ายคลึงกัน ซึ่งรายการออกอากาศในประเทศจีนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และข่าวดี แฟน ๆ ชาวไทยจะได้ชมพร้อมกันทางช่อง 7HD ในวันศุกร์ที่ 11 กรกฎาคมนี้ เวลา 20.40 น. จุดเริ่มต้นของการโกอินเตอร์รายการ

“ผมได้รับการติดต่อผ่านเอเจนซี่ในประเทศจีนมาครับว่ามีรายการนี้ เขาอยากได้นักแสดงไทย ที่พูดจีนได้ในระดับที่ดี สามารถเล่นแอ็กชันได้ ไม่กลัวความสูง ไม่กลัวไฟ ซึ่งเราก็เลยลงล็อกในความต้องการตรงนี้ ทำให้มีโอกาสได้ไปร่วมโปรเจกต์นี้ซึ่งเป็นโปรเจกต์ในโอกาสการสานความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-จีน ครบรอบ 50 ปี โดยงานชิ้นนี้จะออกอากาศทั่วประเทศจีนรวมถึงบนรถไฟฟ้าที่นั่นด้วย”

กว่าจะเป็นโปรเจกต์ที่จีนได้ พูดถึงการทำงานว่าต้องเตรียมพร้อมอย่างไร
“ผมเตรียมตัวหนักเหมือนกันครับ ต้องทบทวนเรื่องภาษาเพราะผมห่างจากการใช้ภาษาจีนในชีวิตประจำวันประมาณ 12-13 ปีแล้ว ตั้งแต่ผมเรียนจบมา ดังนั้นก็เลยต้องทบทวนกับเพื่อนชาวจีน มานั่งพูดคุยกัน เราเตรียมตัวอยู่เป็นสิบกว่าวัน และยังมีเรื่องการรื้อฟื้นการบู๊ ที่ผมห่างไปนานเหมือนกันนะ ตั้งแต่มธุรสโลกันตร์ ก็ประมาณ 6 ปีได้ ผมก็เลยไปฝึกมวยไทย ฝึกรำมวยซึ่งจะมีอยู่ในฉากที่ทุกคนจะได้เห็นกันในรายการด้วย สรุปกว่าจะเดินทางไปก็ทำการบ้านอยู่ร่วมเดือนเหมือนกันครับ ซึ่งเรื่องราวของตอนที่ผมไปแสดง จะเล่าถึงตัวผมที่เป็นคนไทยที่เดินทางไปหาความรู้ศิลปะป้องกันคือ กังฟู แล้วเราก็หลุดเข้าไปอยู่ในโลกของกังฟู ได้เจอศิลปะการต่อสู้ของมวยจ้วง และมีหลายอย่างทำให้ผมตกใจ คืออย่างภาษาของชาวจ้วง (ชาวจีนในมณฑลกว่างซี) คล้ายคนไทยมาก อย่างคำว่า ไก๊ แปลว่า ไก่ คำว่า เปะ แปลว่า เป็ด ปี้น้อง คือพี่น้อง ภาษาของเขาจะคล้ายกับภาษาเหนือของเรามาก ๆ มวยจ้วงใช้ศอก ใช้เข่า เหมือนเรา เพื่อสื่อสารให้ทุกคนเห็นว่าวัฒนธรรมของเรานั้นใกล้เคียงกันมากจริง ๆ” ความยากของการทำงาน “เราไปทำงานกันทั้งหมด 5 วัน และเป็น 5 วันที่ผมยอมรับเลยว่าหนักที่สุดในชีวิต แต่กลับไม่เหนื่อยเลย คือเราได้เห็นวิธีการทำงานของพี่น้องชาวจีน ที่เขาทำงานกันตั้งแต่ 7 โมงเช้าถึง 2 ทุ่ม แล้วเขาวิ่งกันแบบนี้ทั้งวัน ทุกวันไม่มีใครถ่านอ่อน จะพักก็แค่ช่วงกินข้าวเที่ยง คือเป็นความเหนื่อยที่สนุก เราก็ตื่นเต้นกับทุกสิ่งที่ต้องทำ ถามว่าหนักไหมก็หนักจนปุ๊กลุก (ฝนทิพย์ วัชรตระกูล) ร้องไห้ คือเขาอึ้งที่เห็นเราต้องทำขนาดนี้เลยเหรอ คือเวลาทำงานเราจริงจังจริง ๆ อย่างขึ้นสลิง ผมขึ้นจนขาช้ำไปหมด ไม่มีสแตนอิน เพราะส่วนตัวผมเป็นคนชอบเล่นเองอยู่แล้ว ผมอยากให้ทุกการเคลื่อนไหวเป็นเรา ดังนั้นมันอาจจะหนักแต่มันออกมาสวยกว่าเพราะจะไม่มีขีดจำกัดในการใช้ภาพ สามารถใช้ภาพได้ทุกเฟรม ไม่ว่าเฟรมไหนก็เป็นผมครับ แต่ผมก็เข้าใจปุ๊กลุกนะครับที่เขาร้องก็เพราะเขาเป็นห่วงเรานั่นแหละ แต่พอได้เห็นภาพทั้งหมดที่ออกมาผมหายเหนื่อยเลยครับ เพราะสวยมากจริง ๆ ”

กระแสตอบรับจากแฟน ๆ ชาวจีนเป็นอย่างไร ส่วนแฟน ๆ ชาวไทยจะได้รับชมไหม
ฟีดแบ็กที่กลับมาดีมาก ๆ เลยครับ ที่ประเทศจีนเขาโปรโมตกันหนักมาก เพื่อนผมที่จีนที่อยู่กวางสี หรือกุ้ยหลินก็ถ่ายมาให้ดูครับ ว่ามีบนรถไฟฟ้าด้วย แล้วผมมีเพื่อนคนจีนดูแลโซเชียลที่จีนให้อยู่ เขาก็บอกว่าฟีดแบ็กดีเลยครับ ส่วนแฟน ๆ ชาวไทยเตรียมพร้อมเลยนะครับ วันศุกร์ที่ 11 กรกฎาคมนี้ เวลา 20.40 น. ได้ชมพร้อมกันแน่นอนครับ ซึ่งผมก็ได้พากย์เสียงภาษาไทยเองด้วย เป็นอีกบทบาทใหม่ที่ผมก็ยังไม่เคยพากย์เสียงแบบนี้มาก่อน ยากเหมือนกันนะครับ ขนาดว่าพากย์เสียงตัวเอง เพราะตัวผมในรายการจะพูดภาษาจีน แล้วพอต้องจับคำพูด การขึ้นประโยค จบประโยคให้ตรงกัน ก็ต้องบอกว่าไม่ง่ายเลยครับ”

พูดถึงงานที่ไทยบ้าง แฟน ๆ คิดถึง ถามกันเข้ามาว่า เมื่อไหร่ไมค์จะมีผลงานที่ช่อง 7HD
“สำหรับผลงานละครใหม่ที่ผมเล่นเองยังไม่มีนะครับ แต่ผมกำลังปั้นละคร ซึ่งผมไม่ใช้คำว่าผันตัวนะครับ แต่จะเป็นผู้จัดละครหน้าใหม่และเป็นนักแสดงด้วยครับ ส่วนซีรีส์นี้จะเป็นอย่างไร และนางเอกจะเป็นใครต้องรอมาติดตามนะครับ ตอนนี้กำลังแคสอยู่หาคนที่เหมาะสมที่สุด คนที่คิดว่าใช่ อาจจะไม่ใช่ก็ได้ ผมหาคนที่มีแพชชั่นจริง ๆ อย่างทีมงานก็อยากหาให้ดีที่สุด”

อะไรที่ทำให้ตัดสินใจมาสู่งานผู้จัด ไมค์ได้แรงบันดาลใจจากจุดไหน
“ผมรู้สึกว่าประสบการณ์ของผมน่าจะนำมาทำอะไรในจุดนี้ได้ ในวันที่โลกเปลี่ยน ในวันที่การแข่งขันสูง ผมเลยอยากทำอะไรใหม่ ๆ เป็นแพชชั่นที่ผมรู้สึกว่า น่าจะเป็นสิ่งใหม่ ๆ มันเป็นความฝัน ที่ผมอยากจะลงแรงสักครั้งในชีวิต ซึ่งถ้าผมเลือกได้ ผมก็ขอเลือกที่จะมาทำให้กับบ้านของผม คือช่อง 7HD ในวันที่โลกมันหมุนเร็ว ในวันที่เราต้องสู้ ผมอยากสู้ไปกับบ้านของผม ด้วยความรู้ ความสามารถ ตลอด 10 กว่าปีที่ผมอยู่ที่นี่ ซึ่งผมเป็นคนชอบดูหนัง ชอบดูซีรีส์ ผมจะเอาความรู้ตรงนี้มาทำงานนี้ครับ”

ความรู้สึกกับการได้รับโอกาสงานใหม่จากช่อง 7HD
“ผมอยากขอบคุณผู้ใหญ่ทุกคนมาก ๆ เลยนะครับ ที่ให้โอกาสผม มันเป็นโปรเจกต์ที่เป็นตัวของตัวเองมาก เป็นรสชาติใหม่ของละครช่อง 7HD ผมขอบคุณที่เชื่อมั่นในตัวผม แต่ไม่ใช่ว่าเพราะเป็นผมนะครับ กว่าผมจะได้ทำผมใช้เวลากว่า 4-5 ปี ในการเตรียมงานนะ คือเราคิดว่าสิ่งที่เรามีมันดีแล้ว พอเรามานั่งเล่าให้ผู้ใหญ่ทางช่องฟังก็อาจจะมีทัก มีคำแนะนำให้เราได้กลับไปทบทวน ซึ่งพล็อตละครของผม ผมก็มานั่งคิดกันเองทำกันเอง อย่างช่วงนี้แฟนคลับทักเข้ามาเยอะมากว่าผมหายไปไหน ไม่ค่อยลงโซเชียล ก็ต้องบอกครับว่าผมทำงานหนักจริง ๆ อยากทำทุกอย่างให้ออกมาดีที่สุด โดยเฉพาะเรื่องหัวใจของละครคือบท ที่ตั้งใจอยากให้ออกมาดีที่สุด เล่าตรง ๆ ผมเปลี่ยนทีมเขียนบทมา 4 ทีมแล้ว ซึ่งถ้ายังไม่ดีผมก็จะยังไม่เริ่มถ่ายทำครับ”

จะเห็นว่าไมค์ อยู่บ้านหลังนี้มานานมาก ๆ
“ผมอยู่ช่อง 7HD มา 10 กว่าปีได้นะ ตลอดเวลามีความเปลี่ยนแปลงไปหลายอย่าง ช่อง 7HD เป็นเหมือนครอบครัว ครอบครัวที่ไม่ใช่บุคคล แต่รวม ๆ แล้วคือ ช่อง 7HD เอาตรง ๆ ถ้าไม่มีช่อง 7HD ก็ไม่มีผมตรงนี้ นี่คือเรื่องจริง ผมไม่รู้ว่าที่อื่นเป็นอย่างไรนะ แต่ผมรู้ว่าที่นี่อยู่กันเป็นครอบครัวจริง ๆ ผมเข้ามาผมไม่ต้องเกร็ง แม้จะเป็นผู้บริหาร ผมสามารถที่จะพูดคุย ปรึกษา บอกความต้องการที่เราได้ไตร่ตรองมาแล้ว แชร์ความคิดกันได้ นี่คือบ้านที่เป็นบ้านจริง ๆ ผมเดินไปหาทุกคนทุกฝ่ายได้อย่างสบายใจ ตัวผมเราไม่ได้คิดอยากออกไปไหน ผมรู้ว่าทุกคนอยากโต แต่สิ่งหนึ่งคือต่อให้เราอยู่ตรงไหน ถ้าจะโต เราก็โต แต่เราต้องพัฒนาตัวเอง วันนี้เราอยู่ที่นี่เรามีความสุขแล้ว ผมได้แชร์ความคิด ที่นี่เราแชร์กันได้แบบไม่มีอีโก้ เป็นการทำงานที่คุยกันได้จริง ๆ”

ฝากงานใหม่ของไมค์ ให้รอชม ใครมาแสดงบ้าง
“ใครที่คิดถึงกัน ผมก็คิดถึงทุกคนเหมือนกันนะครับ รอติดตามชมรายการ ว่านอู้ซิ่ว ตอน กังฟู วันศุกร์ที่ 11 กรกฎาคมนี้ เวลา 20.40 น. ทางช่อง 7HD ก่อนนะครับ สนุกแน่นอน ส่วนใครที่คิดถึงละครของไมค์ อดใจรอกันอีกนิด ผมกำลังปั้นผลงานที่ดีที่สุดเพื่อแฟน ๆ ช่อง 7HD อยู่ครับ” ติดตามข่าวสารความเคลื่อนไหวต่าง ๆ ได้ทาง Facebook, IG, X, TikTok, YouTube : Ch7HD
อิ่มบุญอิ่มใจ “บูม เทยกะทะ” เปิดภาพถวายเพล ”ธัมมกัลยาณี“ แฟนๆ ร่วมอนุโมทนาบุญ
หลังจากที่นางเอกสาว เจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ เข้าพิธีบรรพชาสามเณรี ณ ศรีวรญาลัย จ.สระบุรี เมื่อช่วงเช้าวันที่ 1 ก.ค. 2568 ที่ผ่านมา โดยมีคนในครอบครัว ตลอดจนเพื่อนๆ คนสนิท ผู้ใหญ่ที่นับถือ มาร่วมพิธี โดยได้ฉายาทางธรรมว่า “ธัมมกัลยาณี” แปลว่า “ผู้หญิงที่มีความงามทางธรรม”

ล่าสุดวานนี้ 5 ก.ค 68 บูม เทยกะทะ อินฟลูเอนเซอร์ชื่อดัง ได้เผยภาพถวายเพลสามเณรี 46 รูป พร้อมเปิดภาพคู่ "สามเณรีเจนี่" ท่ามกลางแฟนๆ เข้ามาร่วมอนุโมทนาบุญกันจำนวนมาก

Cr. Fb : เทยกะทะ #บูมเทยกะทะ #เจนี่เทียนโพธิ์สุวรรณ์ #ข่าวบันเทิง #สยามดารา
"ไมกี้ ปณิธาน" แจ้งสิ้นสุดสัญญากับ สังกัด "ฌาน ครีเอชั่นส์" พร้อมโบกมือลา ผจก.
เรียกว่าทำเอาแฟนๆ ใจหายไม่น้อยเมื่อล่าสุด 7 ก.ค 68 นักแสดงหนุ่มสุดฮอต "ไมกี้ ปณิธาน" ออกมาประกาศ สิ้นสุดสัญญากับค่าย ฌาน ครีเอชั่นส์ พร้อมทางผู้จัดการส่วนตัวอย่าง “ปิ๊ก ฌาณฉลาด ทวีทรัพย์” เป็นที่เรียบร้อยหลังอยู่มานาน5ปี

โดยเจ้าตัวได้ประกาศเอาไว้ว่า “สวัสดีครับ ผมไมกี้ ปณิธาน บุตรแก้ว ขอแจ้งให้ทุกท่านทราบว่า ขณะนี่ผมได้สิ้นสุดสัญญาการเป็นศิลปินกับทาง บริษัท ฌาน ศรีเธชันส์ และคุณปิ๊ก ฌาณฉลาด ทวีทรัพย์ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ตลอดระยะเวลา 5 ปีที่ผ่านมา ผมขอขอบคุณพี่ปิ๊ก และทีมงานทุกคนที่ดูแลและให้โอกาสผมเข้ามาในวงการบันเทิงสำหรับงานที่ได้รับมอบหมายระหว่างที่ยังอยู่ในสัญญาที่ผ่านมา ผมยังคงทำงานร่วมกับทีมของพี่ปิ๊กจนกว่าจะแล้วเสร็จสมบูรณ์ครับ

ในส่วนของการรับงานทุกประเภทถัดจากนี้ สามารถติดต่อได้โดยตรงผ่านช่องทางอีเมล [email protected] และติดตามการอัปเดตผลงานและตารางงานต่างๆ ผ่านช่องทางอินสตาแกรม mprimeofficial ครับ

สุดท้ายนี้ผมขอขอบคุณแฟนคลับ แฟนละคร และผู้ชมทุกท่านที่มอบความรัก และการสนับสนุนที่ดีให้ผมเสมอมา ผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่าทุกท่านจะเป็นกำลังใจ และสนับสนุนผมต่อไปในวันข้างหน้าครับ แจ้งมาเพื่อทราบด้วยความเคารพเป็นอย่างสูงครับ ไมกี้ ปณิธาน บุตรแก้ว"

#ไมกี้ปณิธาน #สยามดารา
เปิดโพสต์ "ไฮโซน้ำหวาน" ภรรยา "นาวิน ต้าร์" หลังเจอมองแรงที่ร้านกาแฟ
เรียกว่าหลายคนกำลังให้ความสนใจกรณีของ ไฮโซน้ำหวาน พัสวี ภรรยาสาวคนสวยของ “นาวิน ต้าร์” หรือ นาวิน เยาวพลกุล ที่ได้ออกมาโพสต์ระบายกับสิ่งที่ได้เจอมา เมื่อได้พาลูกๆ ทั้งสามคนไปนั่งที่ร้านกาแฟ และเจอเหตุการณ์จากหญิงสาวคนหนึ่งที่ใช้สายตาตำหนิลูกๆ ของเธอ ซึ่งหลังจากที่ ไฮโซน้ำหวานได้ออกมาโพสต์ข้อความนี้ผ่านทางโซเชียล เรียกได้ว่าชาวเน็ตเข้ามาคอมเมนต์กันสนั่น มีทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย

ซึ่งน้ำหวานโพสต์คลิปพร้อมกับพิมพ์ข้อความเล่าเหตุการณ์ที่ได้เจอให้ฟังว่า วันนี้เป็นวันธรรมดาแต่แสนจะหนักเมื่อต้องทำหน้าที่ปกป้องลูกทั้ง 3 คนจากสายตาคนๆ หนึ่งที่ดูโหดร้ายและน่ากลัวทุกวันหยุดจะพาลูกๆ ไปนั่งที่ร้านกาแฟและทานขนมนอกบ้าน เด็กๆ ทั้ง 3 คนจะเคยชินกับการไปร้านกาแฟเจ้าประจำ

- ตอนที่เกิดเรื่อง สามีเดินออกไปข้างนอก เหลือแต่น้ำหวานในความเป็นเด็กมีคุยกัน ร้องเพลง ซึ่งอาจจะมีเสียงรบกวนบ้างแต่น้ำหวานแจงว่าดูแลลูกเป็นอย่างดีไม่ได้ทำให้รบกวนใครจนเกินไปมีลูกค้าทุกโต๊ะนั่งยิ้มและหลายท่านทักทายคุยกับเด็กๆ แต่ในความสนุกนั้น กลับมีสายตาคู่หนึ่งนั่งค้อนน้องและหันมามองลูกทั้ง 3 เหมือนจะกินลูกของเธอทั้ง 3 คนเข้าไปในท้อง

- ด้วยความที่อาจจะมานั่งทำวิทยานิพนธ์ ต้องการความเงียบแบบไร้เสียง ซึ่งส่วนตัวแนะนำว่าคุณควรนั่งทำที่ห้องเงียบๆ เพราะร้านกาแฟเสียงเครื่องปั่นก็ดังมาก ทุกโต๊ะก็นั่งกันเป็นครอบครัวบ้าง คุยสนุกกับเพื่อนๆ บ้าง โดยรวมดูอบอุ่น

- ผู้หญิงคนนี้อายุประมาณ 23-25 หันมามองเด็กๆ ด้วยสายตาแย่ๆ ถึง 3-4 ครั้ง ทำให้เด็กตกใจ และเขายังไม่รู้ว่าเขาผิดยังไง ทำไมต้องเจอสายตาแบบนี้กับผู้ใหญ่ที่ไร้ความคิด ไร้คุณธรรมเช่นนี้ ถ้าอยากจะว่าต้องว่าที่น้ำหวานเลี้ยงลูกอบรมไม่ดี ไม่ใช่ส่งสายตานี้ไปที่เด็ก 1 ขวบครึ่ง 5 ขวบ และ 7 ขวบ แบบนี้

- น้ำหวานเล่าต่อว่า ในขณะที่คุณก็คงเคยผ่านการเป็นเด็กมาก่อน น้ำหวานอาจจะอบรมลูกได้ไม่ดีพอ แต่ด้วยการเลี้ยงดูของคนเป็นแม่ จะสอนให้เข้าใจ ไม่ใช่สั่งด้วยสายตาอย่างไร้เหตุผลเพื่อทำให้เด็กกลัวเพราะเจอกับเหตุการณ์นี้ ทำให้น้ำหวานต้องขอปกป้องลูกๆ ด้วยความอดทนสูงสุด คือเดินเข้าไปที่โต๊ะดังกล่าวและมองเพื่อส่งสายตาบอกว่าให้ตำหนิที่น้ำหวาน และในขณะเดียวกันน้ำหวานได้บอกลูกว่าไม่ต้องกลัว แม่อยู่ตรงนี้ หนูไม่ได้ทำอะไรผิด เพื่อให้กำลังใจลูกไม่ให้กลัวกับสิ่งที่เกิดขึ้น เพราะลูกกำลังจะร้องไห้ น้ำหวานได้พูดกับตรงโต๊ะนั้นไปว่า "การที่ผู้ใหญ่แสดงปฏิกิริยาแบบนี้ต่อเด็ก มันแย่กว่าสิ่งที่เด็กเสียงดังเยอะมากค่ะ"

- สุดท้ายน้ำหวานบอกว่าเธอรออีกฝ่ายคุยโต้ตอบกลับมา แต่ก็ไม่ได้รับคำตอบ คำพูดใดๆและเพราะวันนี้รู้สึกอัดอั้นจริงๆ น้ำหวานไม่อยากให้คุณแม่ท่านไหนมาเจอแบบที่เธอเจอ พร้อมกับบอกว่าในเหตุการณ์จริงมันแย่กว่านี้มาก #แม่ลูก3
พี่สาวสายเปย์! “เบสท์ คำสิงห์” ควักเงินซื้อรถหรูเป็นของขวัญวันเกิดล่วงหน้าให้ “โบ๊ท ภูวรักษ์” น้องชายสุดที่รัก
ยืนหนึ่งเรื่องรักครอบครัวสุดๆ สำหรับ เบสท์ รักษ์วนีย์ คำสิงห์ ลูกสาวของ สมรักษ์ คำสิงห์ ที่ล่าสุด 7 ก.ค 68 เบสท์ได้โพสต์รูปภาพครอบครัวสุดอบอุ่น พ่อแม่อยู่พร้อมหน้าพร้อมตาในวันที่ไปซื้อรถหรูเป็นของขวัญวันเกิดให้ น้องชาย โบ๊ท ภูวรักษ์ พร้อมเขียนแคปชั่นซึ้งเอาไว้ว่า

"ของขวัญวันเกิดล่วงหน้า @boatkamsing เป็นคนดี ตั้งใจเตะบอล ตั้งใจทำ YouTube นะไหนๆ ก็โพสต์แล้ว ขอพิมพ์ยาวๆ เก็บความทรงจำไว้หน่อยนะคะ ฉันในวัย 25 ปี.. ถึง เบส คำสิงห์ ตอนนี้ก็เดินทางมาอีก 1 ขั้นในชีวิต มีบ้านให้ครอบครัว บ้านให้ตัวเอง และคอนโดให้ตัวเอง มีรถครอบครัว รถของพ่อ รถของแม่ รถของน้องชาย และรถตัวเอง ครบถ้วนแล้ว

ขอบคุณตัวเองนะ เธอผ่านทุกอย่างมาอย่างดีมากๆ เลย เธอใช้หนี้ให้ครอบครัวจนหมด เธอมีที่พักที่สบายๆให้ครอบครัว เธอหารถยนต์ดีๆ ให้ครบทุกคนในครอบครัวเธออย่าท้อนะ เธออย่าเสียใจบ่อยๆ เธอต้องมีความสุข และกอดตัวเองไว้เยอะๆ นี่เพิ่งเดินทางมา 25 ปีเอง เส้นทางยังอีกไกลเลยฉันจะเป็นกำลังใจให้เธอ วันไหนเธอท้อ หรือเธอเสียใจ กลับมาอ่านโพสต์นี้นะ จำไว้ ฉันรักเธอ “เบส คำสิงห์” จาก เบส คำสิงห์" #เบสคำสิงห์ #ข่าวบันเทิง #สยามดารา
พิมมา PiXXie ยอมรับเคยโดนบูลลี่เปรียบเทียบ เคยน้ำหนักขึ้นจนต้องแค่กินแค่กล้วยกับมันนึ่ง
รายการ Prime Cast สัปดาห์นี้ พามาเปิดเส้นทางชีวิตไอดอลสาว พิมมา PiXXie หรือ พิมพ์มาดา ใจสักเสริญ กว่าจะมาเป็นไอดอล TPOP สุดฮอต จากที่ไม่เคยคิดว่าตัวเองจะได้มาอยู่จุดนี้ สู่เส้นทางการเป็นดาว ยอมรับเคยน้ำหนักขึ้นจนต้องอดข้าว กินแค่กล้วยกับมันนึ่งก่อนเดบิวต์! พร้อมเผยเบื้องหลังดูแลตัวเองและการรับมือกับเรื่องโดนเปรียบเทียบ บูลลี่ บนโลกโซเชียล

ที่มาของชื่อ พิมมา ?
พิมมา : ชื่อจริงคือ พิมมาดา ตอนเกิดชื่อเล่นคือพิม แต่เพื่อนที่โรงเรียนเปลี่ยนให้เพราะซ้ำกับเพื่อน

มาเป็นพิมมา Pixxie ได้อย่างไร ?
พิมมา : เป็นคนเชียงใหม่ตั้งแต่เกิดจนถึง ม.ปลาย แล้วย้ายมาเรียนมหาวิทยาลัยที่กรุงเทพฯ ไม่เคยคิดว่าตัวเองจะเป็นไอดอล เพราะรู้สึกว่าไกลตัวมาก และเมื่อก่อนไม่ชอบร้องเพลงเลย ไม่ร้องเพลง แต่ชอบเต้นอย่างเดียว คิดว่าตัวเองอาจจะเป็นครูสอนเต้นหรือแดนเซอร์มากกว่า

ประสบการณ์ด้านการร้องเพลง ?
พิมมา : ไม่ได้มีประสบการณ์เรื่องการร้องเพลงขนาดนั้น แต่ตอนกำลังจะขึ้นปี 2 รุ่นพี่ที่เป็นน้องชายของพี่โดม (พี่บอนชอน) ชวนให้มาออดิชั่น เพราะพี่โดมกำลังจะเปิดค่ายก็เลยลองออดิชั่นไหม ก็เลยส่งคลิปไปเมื่อ 6 ปีที่แล้ว ตอนแรกกลัวนิดหน่อย เพราะไม่คิดว่าตัวเองจะทำได้ แต่สุดท้ายก็เป็น Trainee คนแรกในค่าย LIT คุยเล่นกับเพื่อนบ่อย ๆ ว่าถ้ามาบอกตอนนี้อาจจะไม่ติดแล้วเพราะตอนนั้นยังไม่มีตัวเปรียบเทียบ

มีอะไรอยากจะบอกน้อง ๆ ที่อยากเป็นไอดอล ?
พิมมา : สู้ ๆ ค่ะ ถ้าเราตั้งใจทำอะไรสักอย่าง ไม่ว่าปลายทางจะประสบความสำเร็จหรือไม่ พิมมาเชื่อว่าระหว่างทางเราได้อะไรแน่นอน อยากให้น้อง ๆ ที่อยากเป็นไอดอลหรือศิลปิน Enjoy กับ Process และ Enjoy กับระหว่างทาง กว่าจะไปถึงความฝัน เชื่อว่าจะได้เก็บเกี่ยวอะไรไปไม่มากก็น้อย แน่นอน

เริ่มดูแลสุขภาพเรื่องรูปร่างตัวเองตั้งแต่เมื่อไหร่ ?
พิมมา : เราเป็นคนเต้นอยู่แล้วตั้งแต่เด็กๆ ก็เลยไม่ค่อยมีปัญหาสุขภาพเท่าไหร่ เพราะชอบคาร์ดิโอ เป็นคนสมาธิสั้นนิดหน่อย ต้องหากิจกรรมทำตลอด แต่ถ้าเริ่มดูแลแบบจริงจังเลยก็น่าจะเป็นช่วงที่เป็นศิลปิน เพิ่งมารู้จักดูแลอาหาร ควรจะกินยังไง หรือคำนวณโปรตีนที่ควรได้รับต่อวัน

ทางค่ายต้องให้ทุกคนไปออกกำลังกายไหม ?
พิมมา : จริงๆ เขาอยากให้เราแข็งแรง ร่างกายพร้อมที่จะเพอร์ฟอร์มมากกว่า ไม่ได้บังคับว่าต้องเข้าฟิตเนส แต่ต้องดูแลตัวเองให้ร่างกายพร้อมที่จะร้องและเต้นบนเวที เต้นร้องบนเวทีเหนื่อย แรก ๆ คือไม่ไหวเลย ต้องพยายามเตรียมพร้อมร่างกายให้แข็งแรงและรับไหวกับสิ่งที่กำลัง จะทำ

ทางค่ายมีกำหนดหุ่น หรือเสื้อผ้าที่ต้องฟิตให้เข้าชุดเดิมทุกปี เหมือนไอดอลค่ายอื่น ๆ ไหม ?
พิมมา : Pixxie ไม่มีเลยค่ะ ถ้าเป็นค่ายหลัก ๆ น่าจะวางไว้แค่เป็นคาแรคเตอร์ของเด็ก ๆ ในวงมากกว่า ไม่ได้กำหนด แค่ให้เรารักษาหุ่นให้เราชอบตัวเองและแข็งแรง เน้นเรื่องความแข็งแรงในการเพอร์ฟอร์มและใส่เสื้อผ้าได้สวยงาม เอาแบบที่เราพอใจกับตัวเอง

แล้วตอนนี้พอใจกับรูปร่างตัวเองไหม ?
พิมมา : ช่วงที่กลับมาจากทำงานที่ญี่ปุ่น รู้สึกว่าอ้วนขึ้นนิดหนึ่ง ตอนนี้กำลังกลับไปเข้าฟิตเนส

อาหารการกินก่อนเข้าฟิตเนสกับหลังเข้าฟิตเนสแตกต่างกันเยอะไหม ?
พิมมา : จริง ๆ มันควรจะต่างกันค่ะ แต่บางครั้งก็อดใจไม่ไหวที่จะกินขนม ก็มีช่วงที่ไม่สามารถบาลานซ์ได้ และตบะแตก น้ำหนักขึ้นเป็น 10 กิโลกรัม เหมือนช่วงเดบิวต์ใหม่ ๆ ที่ยังเด็กและไม่รู้เรื่องการกิน พากันไปกิน พอถึงวันที่จะต้องเดบิวต์น้ำหนักก็ขึ้นไปเกือบ 10 กิโลกรัม เครียดกันทั้ง 3 คน เพราะขึ้นพร้อมกันหมด น่าจะเป็นเพราะกินดึก และน่าจะกินมากเกินไปกว่าที่ควรจะเป็นในช่วงเวลานั้น ตอนนั้นเป็นช่วงโควิดด้วย ไม่ค่อยมีงานให้ออกไปเต้นเท่าไหร่ มีซ้อมอยู่ แต่แคลอรี่ที่กินเข้าไปอาจจะยังไม่พอ หรือกินมากเกินไป ช่วงนั้นเครียดกันมาก พิมมาน้ำหนักขึ้นไปประมาณ 52-53 กิโลกรัม คุยกันว่าจะทำยังไงดี เพราะต้องไปถ่ายงานแล้วอ้วนมาก กลัวฟุตเทจจะอยู่บน YouTube ตลอดกาล

ลดน้ำหนักอย่างไรในตอนนั้น ?
พิมมา : ลดได้เท่าที่ลดได้ ตอนนั้นลงมาได้ประมาณ 48 กิโลกรัม ซึ่งไม่ใช่เป็นวิธีที่ Healthy เพราะมีเวลาจำกัดมาก ไม่ยอมกินข้าว กินแต่กล้วยทั้งวันลูกเดียวแล้วก็มันนึ่ง ร่างกายตอนนั้นก็ไม่ค่อยดีเลย เหนื่อยง่าย รู้สึกว่ามันไม่ใช่การผอมลงที่แข็งแรง มีความเครียดเข้ามา ไม่สดชื่น พักผ่อนไม่ดี

หลังจากนั้นคุณปรับวิธีการลดน้ำหนักยังไง ?
พิมมา : ต้องกินให้ถึง และออกกำลังกายให้ถึงเหมือนกัน จริง ๆ แล้ว ไม่ได้เป็นคนอ้วนขนาดนั้น แค่อาจจะเป็นช่วงเวลาที่กินจุกจิก ไม่ห้ามปากตัวเอง พอรู้แล้วว่าเคยไปอยู่ในจุดที่น้ำหนักเกินสำหรับตัวเอง ก็เลยรู้สึกว่าอันดับแรกคือเตือนกันเวลาจะกินขนมให้มีลิมิต ไม่ได้ตัดไปเลยแต่ก็ไม่ได้ตามใจปากทั้งหมด เลือกเป็นขนมคลีน หรือเจอตรงกลางระหว่างที่อยากกินขนมกับการรักษาสุขภาพ

โดยเฉลี่ยแล้วซ้อมเต้นวันละกี่ชั่วโมง ?
พิมมา : Pixxie ไม่ได้ซ้อมเต้นเยอะขนาดนั้น จะมีตารางซ้อมแค่ช่วงที่จะปล่อยเพลงใหม่หรือทำโชว์ใหม่ เราออกอีเวนต์ค่อนข้างบ่อย อย่างต่ำอาทิตย์ละ 3-4 งาน ซึ่งเหมือนเป็นการได้ซ้อมไปในตัวเวลาไปเพอร์ฟอร์ม

เล่นเวทด้วยไหม ?
พิมมา : ก่อนหน้านี้เล่นพิลาทิสค่ะ แต่ช่วงนี้กลับมา เวทเทรนนิ่งด้วย ตอนนี้ก็เล่นทั้งคู่ ควบคู่ไปกับคาร์ดิโอ

การนอนช่วงนี้เป็นยังไง ?
พิมมา : นอนดีขึ้นเยอะ จริง ๆ เป็นคนนอนดึกค่ะ ประมาณตี 4 นอนไม่หลับเฉย ๆ เป็นคนที่รู้สึกว่าวันไหนที่เลิกงานค่ำ เช่น 23:00 น. จะยังนอนไม่ได้ เพราะยังไม่ได้ใช้ชีวิตของตัวเอง จะต้องกลับไปไถมือถือ เล่นกับแมว หรือดูซีรีส์ เพราะกลางวันทำงาน เลยรู้สึกว่าเราจะนอนไปแบบยังไม่ได้ใช้ชีวิตตัวเอง ก็เลยนอนน้อย นอนบนรถตู้ หรือแอบนอนระหว่างวัน เป็นคนต้องการชั่วโมงนอนน้อยกว่าคนทั่วไป บางครั้งนอน 3 ชั่วโมงก็พอแล้ว รู้สึกนอนอิ่มแล้ว แต่ช่วงนี้พยายามนอนเยอะขึ้น และเริ่มนอนดีขึ้นประมาณ 6 ชั่วโมง รู้สึกว่ามันสดชื่นกว่า

ช่วงไหนที่งานเยอะ ๆ ต้องนอนน้อย ซ้อมเต้นเยอะ ๆ จัดการตรงนี้ยังไง ?
พิมมา : จัดการได้บ้าง ไม่ได้บ้าง ถ้าเป็นช่วงที่ทัวร์หนัก ๆ หรือซ้อมคอนเสิร์ตหนัก ๆ ก็คือไม่ได้แบ่งชีวิตไปทำอย่างอื่นเลย โฟกัสแค่ตรงนั้น หมดงานก็นอน ตื่นมาก็ลุยงานต่อ อย่างตอน Pixxie ไปทัวร์เหนือประมาณอาทิตย์หนึ่ง 5-6 วัน ก็คือลุยอย่างเดียว แล้วค่อยกลับมานอนที่กรุงเทพฯ ทีเดียว

เคยโดนเปรียบเทียบกับเพื่อนร่วมวงบ้างไหม ?
พิมมา : มีบ้างค่ะ เอาจริง ๆ ตอนนี้รู้สึกว่าตัวเองโตแล้วและเข้าใจคนมากขึ้น เลยไม่รู้สึกว่าสิ่งนั้นเป็นเรื่องเชิงลบ เพราะ Pixxie ทั้ง 3 คนสนิทกันมาก และคุยกันตลอด เวลาที่มีคนชมเพื่อน ถึงแม้จะเปรียบเทียบกับตัวเอง ก็รู้สึก Appreciate ในส่วนที่เป็น Positive ที่ชมเพื่อน คืออยากให้เพื่อนได้ดี คุยกันบ่อย ๆ ว่าทั้ง 3 คนไม่สามารถทำให้ทุกคนชอบเท่ากันได้อยู่แล้ว ขนาดดูไอดอลเกาหลีหรือคนอื่นยังไม่สามารถชอบทั้งวงได้เท่ากันเลยรู้สึกว่าเป็นเรื่องธรรมชาติมากที่เขาจะชอบหรือไม่ชอบเรา คุยกันว่าทิศทางของเราทั้ง 3 คนไม่เหมือนกัน เรามีตัวตนในแบบที่เราชอบดีกว่า สุดท้ายแล้วอยู่ที่คนดูจะเลือกชอบคนไหนหรือแบบไหน สำหรับพิมมาเป็นเรื่องธรรมชาติมากที่จะชอบมาเบลมากกว่า ชอบพิมมาน้อยหน่อย หรือชอบอิงโกะมากกว่า รู้สึกว่าเป็นเรื่องธรรมชาติที่เราจะไม่สามารถรู้สึกกับใครเท่ากันตลอดได้

กว่าจะมาถึงจุดที่เข้าใจและยอมรับตรงนี้ได้ นานไหม ?
พิมมา : นานค่ะ ช่วงเดบิวต์แรก ๆ Pixxie เป็นพร้อม ๆ กัน ด้วยความที่มันใหม่กับงานตรงนี้ อ่านทุกคอมเมนต์และรับมาหมดว่าคนไม่ชอบ ไม่ดี ซึ่งเป็นธรรมชาติของคนที่เราจะรับด้าน Negative มากกว่า Positive โชคดีที่ได้พี่ในค่ายคอยบอกและสอนว่าเราไม่สามารถทำทุกอย่างให้ถูกใจคนทั้งโลกได้อยู่แล้ว ซึ่งเป็นธรรมชาติของมนุษย์แค่เคารพความชอบของคนอื่นและเคารพซึ่งกันและกัน ก็พอ

ตอนนี้พอเห็นคอมเมนต์แย่ ๆ แล้วเลื่อนผ่านเลยไหม ?
พิมมา : จริง ๆ แล้วก็ไม่ได้เลื่อนผ่านได้ขนาดนั้น แต่จะเลือกอ่านและมองตามสิ่งที่มันเป็นแฟกต์ สมมุติว่าเขาพูดไม่ดีจริง แต่มีเจตนาที่ดีและอยากเตือนว่าเราบกพร่องอะไรบ้าง ก็จะอ่านและพยายามมองทะลุคำพูดไปถึงเจตนาของเขา ถ้าคอมเมนต์นั้นพูดแรงจริงแต่ติเพื่อก่อก็จะเก็บสิ่งนี้ไว้ แต่ถ้าอันไหนดูอยากจะด่าเฉย ๆ เป็นแค่สนามอารมณ์ก็จะไม่ สนใจ

วิธีคุยกับตัวเองยังไงในวันที่ Burnout จากการทำงาน ?
พิมมา : Burnout มีค่ะ Pixxie โชคดีที่สนิทกัน เวลาทำงานไม่รู้สึกเหมือนไปทำงาน เหมือนไปเล่นกัน เหมือนไปโรงเรียนแล้วมีเพื่อนอยู่ โชคดีที่เวลาทำงานเหนื่อยมาก ๆ ระหว่างวันยังหันไปเห็นอีก 2 คนที่เหนื่อยเหมือนกัน ทำให้ไม่รู้สึกไม่ไหวหรืออยากพอ เพราะ Enjoy กับเพื่อนแล้วเพื่อนก็เหนื่อยไปด้วยกัน ทำให้รู้สึกไม่เหงา

ปีนี้คุณอายุเท่าไหร่ กลัวความแก่ไหม ?
พิมมา : ปีนี้เพิ่ง 24 ปีค่ะ ถ้าพูดเล่นกับเพื่อนว่าบ่นแก่ก็มี แต่จริง ๆ รู้สึกว่าตัวเองมีความเป็นเด็กค่อนข้างสูงในตัว แต่ถ้าเรื่องร่างกายก็กลัวอยู่ เพราะกระดูกไม่ค่อยดี และเต้นมาตั้งแต่เด็ก ๆ หัวเข่าเริ่มแล้วค่ะ น่าจะใช้งานหนักมาก ๆ จนมันเจ็บ พลิกง่าย เคล็ดง่าย หัวเข่าจะก๊อบแก๊บนิดหน่อย ก็คือกลัวแค่ว่าถ้าอายุมากขึ้น อาจจะต้องกินแคลเซียมช่วยด้วย

อะไรคือสิ่งที่พิมมารู้สึกอยากจะรักษาความเป็นเด็กในตอนนี้มากที่สุด ?
พิมมา : กลัวแก่ เพราะการเป็นผู้ใหญ่สำหรับพิมมาไม่สนุกขนาดนั้น อินกับความสนุก อินกับความเป็นเด็ก แค่กลัวว่าถ้าโตขึ้นไปแล้ว เราอาจจะตื่นเต้นกับโลกนี้น้อยลง รู้สึกว่ามัน Positive ในการใช้ชีวิต ในเวลานี้ถ้ารู้ตัวว่าวันไหนไม่ได้ทำอะไรเลย นอนอยู่ห้องเฉย ๆ นิ่ง ๆ จะรู้สึกว่าชีวิตนี้ไม่มีอะไร เลย

เป็น Introvert ไหม ?
พิมมา : Introvert ค่ะ เข้าหาคนอื่นไม่เก่งแต่ถ้ามีคนมาคุยด้วยจะกล้าคุย แต่ก็คิดว่าตัวเองเป็น Introvert ที่เก่งขึ้นแล้วตั้งแต่ทำงาน

เห็นตัวเองในอนาคตอีก 10-20 ปีข้างหน้าเป็นอย่างไรบ้าง ?
พิมมา : มีหลายอย่างที่อยากทำมาก ๆ เลยค่ะ Enjoy กับสิ่งที่ทำอยู่มาก ๆ แต่ถ้าในอีก 10 ปีข้างหน้า อาจจะเต้นไม่ไหวแล้ว ก็ยังอยากมีสิ่งที่อยากทำเยอะเลย อยากเรียนต่อ อยากทำธุรกิจของตัวเอง เป็นคนชอบแฟชั่นมาก รู้สึกอยากทำแบรนด์เสื้อผ้า หรือเป็นสไตลิสต์

ชอบอะไรมากกว่ากันระหว่างการเป็นศิลปินกับการแสดง ?
พิมมา : ชอบทั้ง 2 อย่าง แต่รู้สึกว่าที่ชอบการเป็นศิลปินเพราะมีเพื่อนอีก 2 คนด้วย ถ้าจินตนาการว่าตัวเองเป็นศิลปินเดี่ยว อาจจะชอบการแสดงมากกว่า (เท่าที่คิดตอนนี้)

ความฝันคือการเป็นสไตลิสต์ เคยลองทำเสื้อผ้าให้วงบ้างไหม ?
พิมมา : เคยทำ Pixxie ค่ะ เริ่มจากการเป็นผู้ช่วยสไตลิสต์ก่อน อย่าง MV เพลงเดี่ยวโซโลของพิมมา ก็ทำเอง มี Pixxie บางงานที่ช่วยสไตลิสต์หาชุด และมี Fashion Session บางอันที่ทำให้ Pixxie เลย คือหาชุดให้เพื่อน ๆ ด้วย หาให้ตัวเองด้วย สไตล์หน้าผมลงทุกอย่าง มี Account Styling ของตัวเองชื่อ grw_lettie

ลุคผมสั้นตอนนี้ Styling ให้ตัวเองใช่ไหม ?
พิมมา : ใช่ค่ะ คือก่อนหน้านี้ไม่ได้เป็นคนผมยาวอยู่แล้ว แต่ต่อผมมา 2 ปี แล้วผมไม่ไหวแล้ว รู้สึกว่าต้องทำอะไรสักอย่างกับผม ถ้าถอดผมต่ออย่างเดียวจะดูบางมาก ก็เลยตัดสั้นไปเลย ลองเปลี่ยนลุคดู

ดูแลความสวยความงามตัวเองยังไง ?
พิมมา : ก่อนหน้านี้แพ้เครื่องสำอางง่ายมาก ๆ แพ้เหงื่อ แพ้อากาศ แพ้อะไรแบบสิวขึ้นง่ายมาก เป็นผิวแพ้ง่าย ก็ประโคมสกินแคร์ ไปหาหมอ สุดท้ายแล้วช่วงต้นปีที่ผ่านมา ผิวดีขึ้นเพราะดื่มน้ำเยอะขึ้น และลดสกินแคร์ลง เอาแค่ตัวที่จำเป็นต่อผิวก็พอ การดูแลหุ่นก็เข้ายิม ดูเรื่องอาหารด้วย มี Cheat Day บ้าง กินเป็นมื้อค่ะ พยายามจะไม่กินจุกจิก กินวันละ 3 มื้อปกติ ถ้าบางวันตื่นสายก็เหลือแค่ 2 มื้อ สามารถติดตาม "PrimeCast" ได้ที่ช่องทาง Facebook: Alive Dot , Youtube : Alive Dot วันพฤหัสบดี เวลา 18.00 น. คลิกชมรายการย้อนหลัง : https://www.youtube.com/watch?v=P29-KQNdXPM&t=21s&ab_channel=Alivedot
ประกาศขึ้นคาน! เอ๊ะ ชีวิตนี้ไม่เคยมีผู้ชาย ผันตัวสู่อาชีพครู สอนนักศึกษารุ่นลูกเจนz
อีกหนึ่งเพชรน้ำงามประดับวงการบันเทิง ที่เป็นคนบันเทิงคุณภาพตัวจริงเสียงจริง "เอ๊ะ อิศริยา" นางเอกเจ้าน้ำตาในตำนาน ควบดีกรีผู้จัดละครน้ำเน่าชื่อดัง ล่าสุดเบรคงานเบื้องหลังช่วงวงการละครขาลง เดินหน้าเข้าสู่วงการศึกษา ผันตัวไปเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัยถ่ายทอดประสบการณ์ชีวิตให้กับทั้งนักศึกษาปริญญาตรี และปริญญาโท งานนี้สละเวลาคิวทองมาเปิดใจผ่านรายการ "โต๊ะหนูแหม่ม" ช่องworkpoint หมายเลข23 กับพิธีกรฝีมือเก๋า "หนูแหม่ม สุริวิภา" เล่าถึงบทบาทชีวิตครั้งใหม่ และเรื่องหัวใจเปลือยแบบหมดเปลือกที่นี่

ตอนนี้เห็นว่าทุ่มเทให้กับบทบาทใหม่เป็นอาจารย์แล้ว?
"มีสอนนักศึกษาค่ะ ตอนนี้อยู่ในช่วงขอ ผศ. (ผู้ช่วยศาสตราจารย์)มันเป็นกฎนะคะ ตอนนี้กำลังเดินเส้นทางนี้อยู่ มันก็รู้สึกว่าหนักเพราะว่าไม่ได้ทำวิจัยมานาน มันห่างจากการเขียนการพิมพ์มานานมาก เอ๊ะเป็นคนเห็นอะไรแล้วก็สงสัยไปเรื่อย การที่จะสกัดอะไรมาเป็นบทสรุปมันเป็นปัญหาร้อยแปด คิดว่าจะสรุปทำเรื่องเนี้ยมันยาก แต่กำลังทำอยู่"

แล้วกับงานการสอนกับงานเป็นผู้จัดฯแบ่งเวลากันยังไง?
"โชคดีมากๆเลยสิ่งที่เอ๊ะสอน กับสิ่งที่เอ๊ะทำงานในวงการ มันคือการเสริมกันค่ะ เราสอนเรื่องสื่อเราก็ทำเรื่องสื่อ ก็เหมือนกับว่าเราเอาประสบการณ์ไปสอนนักศึกษา แล้วก็เอาทฤษฎีในเรื่องของการที่เราเรียนมาช่วยเหลือในงานเรา ทุกอย่างมันวินๆด้วยกันทั้งคู่"

นักศึกษาที่เราสอน เค้ารู้มั้ยว่าอาจารย์ของเค้าเป็นดารา นางเอกดังมากในอดีต?
"ถ้าเป็นนักศึกษาป.ตรี ต้องยอมรับเลยว่าเค้าไม่น่าจะรู้จัก แต่เค้าก็อาจจะมีคุ้นๆนามสกุล หรือว่าคุ้นหน้า แต่ไม่น่าจะเคยดูผลงานเรา บ้างคนเป็นลูกเอ๊ะได้เลยนะคะ เพราะว่านักศึกษาปีหนึ่ง ปีสอง เป็นอะไรที่เด็กมาก ก็สามารถเป็นลูกเอ๊ะได้ ถ้าเอ๊ะมีลูกเร็ว แต่ถ้าเป็นนักศึกษาปริญญาโทส่วนใหญ่เค้าจะรู้จักค่ะ นักศึกษาป.โทน่าจะทันเรา แต่เด็กป.ตรีไม่น่าจะรู้จัก เค้าอาจจะคุ้นๆ แต่เชื่อว่าคุณแม่เค้าน่าจะรู้จัก อย่างตอนที่เรียนอยู่ก็มีนักศึกษามาบอกว่าอาจารย์หนูเห็นอาจารย์ในติ๊กต๊อก เพราะว่าติ๊กต๊อกบางทีมันมีฟีดงานละครเก่าๆของเรา พอเข้าเห็นแล้วเค้าก็ไปเสิร์จกัน เค้าก็บอกว่าอาจารย์เป็นดารา แล้วสักพักก็จะมาหาเรามาบอกว่าขอถ่ายคลิปให้คุณแม่หน่อย เค้าบอกว่าคุณแม่คิดถึงอาจารย์ถ่ายคลิปไปให้แม่หน่อย จะเป็นรุ่นแม่ส่วนใหญ่ที่ทันเรา" รู้สึกยังไงบ้างที่รุ่นใหม่ๆไม่ทันเรา แต่เป็นรุ่นเก่าแทน? "ตอนแรกรู้สึกว่าทำไมเราแก่จัง พอนึกขึ้นมาได้ก็มันคือเรื่องจริงเค้าก็เป็นลูกเราได้เลย (หัวเราะ)"

ที่ผ่านมาไม่ค่อยมีข่าวเสียหายเรื่องความรักเลยมีมุมมองความรักยังไง?
"คือจริงๆไม่เคยมองว่าความรักเป็นเรื่องเสียหายเลยค่ะ" แล้วเคยมีแฟนหรือมีความรักบ้างมั้ย? "ไม่เคยมีค่ะ (หัวเราะลั่น) จะบอกว่ายังไงดี เห็นคนที่เค้ามีความรักเอ๊ะไม่เคยแอนตี้เลย ชอบเห็นคนรักกันนะคะ แต่นึกไม่ออกเหมือนกันเลยว่าถ้าเรามีแฟนแล้วมันจะเป็น ยังไง"

เหตุผลที่ไม่มีแฟนเพราะ อะไร เพราะเราติดแม่หรือว่ายังไง?
"ตอนเด็กๆความจริงคุณแม่ก็ไม่อนุญาตเพราะว่าเค้ารู้ว่าเรามีภาระมีอะไร ทำงานด้วยเรียนด้วย เค้าก็ไม่เชิงปิดกั้นค่ะ แต่ว่าถ้ามีก็ให้ไปคุย แต่เราก็ไม่อยากมีด้วยเพราะเอ๊ะเองรู้ตัวตั้งแต่เด็ก เอ๊ะแฮปปี้กับชีวิตแบบนี้ เอ๊ะก็เคยถามแม่ว่าถ้าลูกไม่มีแฟนแม่โอเคมั้ย คุณแม่บอกว่าคุณแม่โอเคเลย ก็ใช้ชีวิตไป อยากมีไม่อยากมีก็เรื่องของเรา"

คุยเรื่องนี้กับคุณแม่มานานหรือยัง?
"คุยกันตั้งแต่เด็กแล้วค่ะ เพราะว่าเอ๊ะจะมีคำถามเพราะว่าเอ๊ะเข้าวงการมาตั้งแต่อายุ 15 คำถามที่มักจะถูกถามตลอดคือว่ามีแฟนหรือยังเมื่อไรจะมีแฟน แล้วเราก็มาคิดว่าเราจำเป็นต้องมีแฟนหรอ เพื่อให้คนอื่นเค้ายอมรับ หากใจเรามันทุกข์เนาะ เราก็เลยตั้งคำถามกับคนที่เราแคร์อย่างคุณแม่ว่า ถ้าเราไม่มีแฟนจะยังไง แม่ก็บอกว่าตามสบายอะไรที่มีความสุขก็ทำ เรารู้สึกว่าสมัยก่อนเมื่อ 20 ปีที่แล้วจะมีคนยื่นไมค์มาถามเรา ไม่กลัวขึ้นคานหรอ" แล้วหนูตอบคำถามเหล่านี้ไปว่ายังไง? "สำหรับเรื่องขึ้นคาน เอ๊ะก็รู้อยู่แล้วว่าขึ้น มันไม่ใช่คำลบค่ะ คือสำหรับเอ๊ะไม่คิดอะไร แต่คนอื่นอาจจะคิดว่ามันเป็นคำลบ"

แล้วที่ผ่านมาไม่มีคนเข้ามาจีบเลยหรอ?
"ผู้หญิงทุกคนมันต้องมีอยู่แล้ว ที่จะมีคนเข้ามาจีบมันเป็นเรื่องปกติ ถ้าคนที่เอ๊ะชอบเข้ามาจีบเอ๊ะ เอ๊ะรู้สึกขนลุกค่ะ ก็รู้ค่ะว่าเค้าเข้ามาจีบตรงๆ เอ๊ะเป็นคนชัดเจนคนที่เข้ามาก็ต้องชัดเจน แต่เอ๊ะก็นึกภาพตัวเองไม่ออกเวลาจะต้องไปเดทกับใคร มันไม่ใช่เราค่ะ เราก็พูดตรงๆแล้วเค้าก็ไปค่ะ ก็เพราะว่าเค้าก็มีตัวเลือกเยอะ"
ตอบดราม่า! หนิง ปัทมา สละมงฯ เปลืองพื้นที่นางงาม สวยเวอร์..ชายอายุ70 ถือไม้เท้าบุกจีบถึงหน้าบ้าน
นักร้องลูกทุ่งสาวแซ่บมาแรง "หนิง ปัทมา" ดีกรีความสวยไม่ธรรมดา เพราะเพิ่งมงลงหัว ตามรอยนักร้องคนดัง "อาม ชุติมา" และ "แบม ไพลิน" เข้าสู่วงการนางงาม แต่ได้ตำแหน่ง Miss universe Thailand ชลบุรี2025 ได้ไม่กี่วัน ก็สละมงกุฎสายฟ้าแล่บ ท่ามกลางเสียงวิจารณ์หนาหูว่าเปลืองพื้นที่คนมีฝันคนอื่นๆ ล่าสุดเดินทางมาเปิดใจครั้งแรก กลางรายการ "โต๊ะหนูแหม่ม" ช่องworkpoint หมายเลข23 กับพิธีกรคนเก่ง "หนูแหม่ม สุริวิภา" ตอบทุกประเด็นร้อนเหตุคืนมงกุฎสายสะพาย ไม่ขึ้นเวใหญ่ระดับประเทศ? พร้อมเม้าท์เรื่องเด็ดความสวยเป็นเหตุ ถูกหนุ่มโรคจิตอินบ๊อกซ์ส่งภาพสยิวแชทแตก!

ถามถึงคำถามคาใจเพราะเหตุใดทำไมถึงขึ้นมงกุฎ?
"ความจริงหนูก็อยากมาหาประสบการณ์ใหม่ๆ ไม่ได้มั่นใจว่าการมาครั้งนี้ปัทมาจะต้องมาคว้ามงนะ หรือว่ามาเอาชนะเพื่อน หนูมาครั้งนี้เพื่อมาหาประสบการณ์มาเพื่อพี่ๆเพื่อนๆ ที่เค้าเชียร์มาว่าให้ไปลองลงดูซักเวทีนึง หนูก็มาทำให้เพื่อเป็นคนที่เชียร์ทำให้ดูแล้วนะ ที่งี้พอมงมันลงปุ๊บก็เลยกลับมาคุยกับที่บ้าน เรื่องงานว่าเราจะทำกันยังไงดี ความจริงมันก็ผิดที่หนูนะคะ ที่ไม่มีทางเลือก หนิงก็เลยเลือกทางออกที่หนิงต้องดูแลหลายๆคนที่ต้องแบกรับอยู่ นักดนตรีเองก็อยู่กับหนิง ถ้าหนิงไม่สามารถรับงานได้เค้าก็จะมีปัญหา ถ้าหนูต้อง ไปต่อ"

ตัดสินใจยากไหมในการคืนตำแหน่งที่ได้มา?
"หนูเสียดายโอกาส ที่หนูได้มงมาแล้ว แต่หนูไม่สามารถทิ้งอาชีพนักร้องที่หนูรักได้เหมือนกัน แต่ถ้าต้องเลือกในสิ่งที่หนูรัก หนูเลือกดีที่สุดแล้วค่ะ ให้คนที่เค้าพร้อมเดินหน้าต่อ เราถอยออกมาก่อน"

คนวิจารณ์เยอะมากว่าถ้าไม่พร้อมมาทำไม ไปแย่งโอกาสของคนอื่น?
"ถ้าเป็นหนูตอบ หนูต้องยอมรับตรงๆว่าหนูหาคำพูดสวยหรูไม่ได้ หนูจะพูดตรงๆเลยว่าหนูไม่ได้ตั้งใจ หนูก็ไม่รู้เหมือนกันว่าตอนที่หนูมา หนูุจะชนะหรือเปล่า แต่ถ้าต้องให้คำตอบ ก็ผิดที่หนูเองค่ะ ที่หนูไม่ได้วางแผนวางระบบตัวเองมาให้ดี หนูตั้งใจมาเพื่อหาประสบการณ์ให้ตัวเองเฉยๆ ไม่ได้มาคาดหวังว่าหนูต้องมาคว้ามง ถ้าหนูรู้ว่าหนูจะคว้ามงหนูจะเคลียร์งานทุกอย่างทั้งหมด และทิ้งคนข้างหลัง ไปได้เลย"

สรุปว่ามาหาประสบการณ์ไม่ได้คิดว่าจะมง?
"ใช่ค่ะ เพราะว่ามันเป็นเวทีแรกของหนู หนูไม่เคยประกวดนางงามมาก่อน เลยในชีวิต"

แล้วในช่วงระยะเวลาสั้นๆที่ เข้าสู่วงการนางงามได้เรียนรู้อะไรจากตรงนี้?
"ได้เรียนรู้การเป็นนางงามอีกบริบทหนึ่ง รู้ว่าเราจะต้องวางตัวแบบไหน ด้วยบุคลิกของเราเองจริงๆแล้วหนิงเป็นคนที่ค่อนข้างจะเป็นม้าดีดกะโหลก แต่การเป็นนางงามมันต้องเรียบร้อยนิดนึง มันก็มีเผลอแบบหัวเราะดังไปบ้าง ก็ได้ปรับบุคลิกภาพตัวเองได้เรียนรู้ว่าการเป็นนางงามต้องวางตัวยังไง หนิงก็มานั่งคิดว่าหรือว่าจริงๆแล้วเราอาจจะไม่หมดตรงนี้จริงๆก็ได้"

เห็นว่าโดนโรคจิตหนุ่มๆส่งภาพลับให้เยอะมาก?
"เยอะมากเลยค่ะ จะเอากี่ขนาดว่ามา(หัวเราะ) ไม่ได้แบบปกติก็มี แบบเป็นตุ่มๆก็มี เป็นตรงกลางแบบไส้กรอกก็มี (หัวเราะ) ตอนแรกก็ตกใจว่าอะไรเนี้ย หลังๆก็เลื่อนดูมาเลยๆ เอาๆ (หัวเราะ) ชินค่ะ เวคคัมค่ะ (หัวเราะ)"

ถึงขั้นว่ามีหนุ่มบุกมาถึงบ้านด้วย?
"ใช่ค่ะ อันนี้หนูเรียกเค้าว่าพี่ แต่ว่าเค้าก็อายุ 70 กว่าแล้ว เอ็นดูนาง นางแบบว่าคลั่งไคล้หนูมาก นางนั่งรถไฟมา และต่อรถสองแถวมาที่บ้านหนู และนางก็เดินตรงเข้ามาบ้านหนู บุกถึงบ้าน เดินไปเดินมาแถวบ้านหนู ถือไม้เท้ามาด้วยนะคะ ตอนแรกหนูก็นึกว่าเค้าเป็นลูกค้าของที่บ้านหรือเปล่า เพราะว่าบ้านหนูเปิดโรงงาน แต่เค้าบอกว่าเค้ามาหาหนิง มาตามหารักแท้ เค้ามาเจอหนู หนูได้เจอเค้าแต่ว่าหนูต้องไปทำงาน หนูก็เลยบอกว่าขอไปส่งพี่ก่อน ต้องให้ค่ารถกลับไปอีกสงสารเค้า เอ็นดูนาง แล้วคุณพี่เค้าก็อินบ๊อกซ์มาหลังไมค์ วางแผนชีวิตให้เลย เค้าบอกว่าพี่อยากมีลูกกับหนิง อยากจะมีลูกสองคนเพราะตัวเค้าเองเคยเป็นข้าราชการ มีผู้ชายจะให้เป็นตำรวจ มีผู้หญิงจะให้เป็นนักร้องเหมือนหนู (แต่ไม่ใช่ในหมู่มวลที่ส่งคลิปมา) คนนี้ไม่ส่งค่ะ อ่อนโยน แต่ว่าดูสงสารเค้าที่เค้าถือไม้เท้ามาถึงหน้าบ้านเลย หนูบาปมากเลยค่ะ"
“แจ็ค ไททัส” อวดหุ่นล่ำ แซ่บสมมง Mister Model International 2025
หนุ่มไทยหล่อไม่แพ้ชาติใดในโลก “แจ็ค ไททัส” อวดหุ่นแซ่บ หล่อล่ำ น่าขย้ำ สมมง Mister Model International 2025 สร้างประวัติศาสตร์ให้กับไทยเลยทีเดียวสำหรับ “แจ็ค ไททัส” นายแบบสายเลือดไทยที่เติบโตในสหรัฐฯ ที่สามารถคว้ารางวัลชนะเลิศการประกวด Mister Model International 2025 ที่ประเทศโคลอมเบีย ท่ามกลางการแข่งขันอย่างดุเดือดของหนุ่มๆ ลาตินกว่า 30 ชาติ

นอกจากนั้นแล้ว แจ็ค ไททัส ยังได้รับรางวัล Best in Social Media จากคะแนนโหวตออนไลน์ มียอดวิวและการรีโพสต์ถล่มทลายตลอดการเก็บตัว แฮชแท็ก #JackTitus พุ่งติดเทรนด์หลายประเทศ ทั้งไทย โคลอมเบีย เม็กซิโก สหรัฐฯ เรียกว่า แจ็ค ไททัส หนุ่มไทยหล่อไม่แพ้ชาติใดในโลก แถมยังแซ่บอีกต่างหาก ดูจากรูปชุดว่ายน้ำในวันเก็บตัวพูดเลยหล่อ ล่ำ น่าขย้ำสุดๆ ไม่แปลกใจเลยทำไมฮอตติดเทรนด์ระดับโลก

จากอดีตผู้ช่วยแพทย์ในลาสเวกัส สู่รันเวย์ LA Fashion Week และ New York Fashion Week จนวันนี้ผงาดเป็น “มิสเตอร์โมเดลเบอร์หนึ่งของโลก” แจ็คเอ่ยหลังรับ มงว่า

“มงนี้คือชัยชนะของคนไทยทุกคน อยากให้ทุกคนเชื่อว่าความฝันใหญ่แค่ไหนก็ไม่เกินมือถ้าไม่ยอมแพ้”
ซึ่งเร็วๆ นี้ แจ็ค ไททัส จะเดินทางกลับมาที่ไทย เพื่อฉลองตำแหน่งรางวัลชนะเลิศ Mister Model International 2025 ใครที่เป็นแฟนนางงามเตรียมรวมพลต้อนรับ และหลังจากนั้นเจ้าตัวก็มีคิวออกรายการและงานแฟชั่นโชว์ในกรุงเทพฯ ก่อนบินไปทำงานที่ยุโรป ติดตามเบื้องหลังชีวิต “Mister Model International 2025” และกองทัพภาพชุดว่ายน้ำแบบไม่เซ็นเซอร์ได้ที่ Instagram @jacktituss

สำหรับ แจ็ค ไททัส นั้นดีกรีไม่ธรรมดา เป็นนายแบบ ไทย-อเมริกัน นักร้อง นักเดินทาง และนักเคลื่อนไหวเพื่อสังคมที่มีบทบาทโดดเด่นในระดับนานาชาติ และแฟชั่น สำเร็จการศึกษาด้านผู้ช่วยแพทย์จากมหาวิทยาลัยเนวาดา ลาสเวกัส (University of Nevada, Las Vegas) ในปี 2021 แจ็ค ไททัส ได้รับตำแหน่ง Mr. Gay World Nevada และเป็นตัวแทนรัฐเนวาดาในการประกวด Mr. Gay World USA โดยเขาเป็นคนเอเชียเพียงคนเดียวที่เข้าร่วมแข่งขันในปีนั้น ยังมีประสบการณ์เดินแบบในงานแฟชั่นระดับโลก เช่น New York Fashion Week และ LA Fashion Week รวมถึงงานแฟชั่นโชว์ในประเทศไทยและเอเชียตะวัน

นอกจากนั้นแล้วแจ็คยังทำงานด้านสังคมมาโดยตลอด โดยเป็นอาสาสมัครที่ศูนย์ The Center ในลาสเวกัส ซึ่งเป็นองค์กรที่สนับสนุนชุมชน LGBTQ+ เขายังมีส่วนร่วมกับ YMCA ในหลายเมือง เช่น ลอสแอนเจลิส ซานดิเอโก และบาร์รังกียา ประเทศโคลอมเบีย โดยจัดกิจกรรมสร้างสรรค์เพื่อเสริมสร้างความมั่นใจและศักยภาพให้กับเยาวชน
“ฟิล์ม รัฐภูมิ”ไกล่เกลี่ย “ดีเจแมน” สำเร็จลงตัว ถอนฟ้องคดีหมิ่นประมาท ย้ำความจริงมีเพียงหนึ่งเดียว ด้านดีเจแมนเผยจบเฉพาะคดีนี้ส่วนคดีที่กองปราบว่ากันตามกระบวนการ หลังจากนี้จะโฟกัสการเป็นหัวหน้าครอบครัวที่ดี
เมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ภายหลังจาก ศาลนัดไต่สวนมูลฟ้องคดีที่ นายรัฐภูมิ โตคงทรัพย์ หรือฟิล์ม นักร้อง นักแสดงชื่อดัง เป็นโจทก์ ฟ้อง นายพัฒนพล กุญชร ณ อยุธยา หรือ ดีเจแมน เป็นจำเลยในข้อหาหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา ในกรณีกล่าวหาว่า นายรัฐภูมิ เรียกเงิน 14 ล้านบาท เพื่อช่วยเหลือคดี Forex-3D เมื่อวันที่ 16 มิ.ย.ที่ผ่านมา และศาลเลื่อนการไต่สวนเนื่องจากทนายความของทั้งสองฝ่ายต้องการให้พูดคุยกันก่อน

ในวันนี้ ศาลได้นัดทั้ง 2 ฝ่าย เพื่อเจรจาไกล่เกลี่ยในเวลา 09.00 น. โดยทั้งนายรัฐภูมิ และนายพัฒนพลมาพร้อมกับทนายความส่วนตัวของทั้งคู่ โดยต่อมาทั้งสองฝ่ายสามารถไกล่เกลี่ยกันได้สำเร็จโดยใช้เวลาไกล่เกลี่ยกันประมาณ 3 ชั่วโมง โดยนายรัฐภูมิกล่าวว่า 2 ฝ่ายไกล่เกลี่ยกันได้และเป็นไปได้ด้วยดี ให้อภัยซึ่งกันและกัน โดยในวันนี้ตนยอมถอนฟ้อง

เมื่อถามว่าที่ไกล่เกลี่ยกันได้นั้นหมายความว่าสิ่งที่นายพัฒนพลพูดไปไม่เป็นความจริงหรือไม่ นายรัฐภูมิ ระบุว่า อยากให้ไปถามเจ้าตัวดีกว่า ตนได้ตั้งธงมาแล้วว่า หากคุยกันได้ก็พร้อมให้อภัยกันทุกเรื่อง เพราะที่ฟ้องเขาไม่ได้มีเจตนาอะไร เพียงแค่อยากยืนยันความบริสุทธิ์ใจ และไม่ได้เป็นแบบที่เขาพูด ไม่เคยไปตบทรัพย์และทำสิ่งไม่ดี โดยวันนี้ได้อธิบายให้เขาฟัง พอเขาได้ฟังเขาก็ยินดีและก็ให้อภัยกันทุก เรื่อง

เมื่อถามว่านายพัฒนพลได้ขอโทษหรือไม่ นายรัฐภูมิ ตนขอไม่ตอบในส่วนนี้แต่เรียกว่าให้อภัยกันดีกว่า และสำหรับครอบครัวนี้ก็ ผูกพันกันมานาน มีแค่ตนที่คอยชั่วเหลือ พูดมาตั้งแต่วันแรกไม่มีเลยที่จะไปทำร้ายครอบครัวนี้ มันเป็นไปไม่ได้ด้วยซ้ำ ไม่เข้าใจว่าไปทำร้ายเขาได้ยังไง แต่พอปรับความเข้าใจกันแล้วทุกอย่างก็แฮปปี้"

นายรัฐภูมิ ย้ำว่า ตั้งแต่วันแรกที่ตนมาตนได้บอกทุกคนว่าไม่เคยคิดที่จะ ทำร้ายใครเลยและเราโดนกระทำขนาดนี้ แต่ตนไม่คิดอะไรและพร้อมให้อภัยกับทุกอย่าง

เมื่อถามว่าก่อนหน้านายรัฐภูมิ ยังยืนยันให้ดีเจแมนขอโทษ ยังต้องการคำขอโทษอยู่หรือไม่นายรัฐภูมิ กล่าวว่า ไม่เป็นไร เรื่องมันจบไปแล้ว เมื่อถามต่อว่านายรัฐภูมิ ยังสามารถเป็นเพื่อนกับนายพัฒนพลได้หรือไม่นายรัฐภูมิ ระบุว่า "ก็โอเค เมื่อกี้กอดกัน และตนก็ผูกพันกับครอบครัวนี้อยู่แล้ว"

เมื่อถามว่าก่อนหน้านายพัฒนพลมั่นใจ เรามีไม้เด็ดอะไรหรือไม่นายรัฐภูมิ กล่าวว่า "ความจริง" และใช้การพูดคุยในการปรับความเข้าใจเรื่องทุกอย่างก็จบ ส่วนขั้นตอนต่อไปหลังจากนี้ก็จะถอนฟ้อง ซึ่งน่าจะทำให้น.ส.สุธีวันสบายใจ ส่วนคดีที่นายพัฒนพลแจ้งความไว้ที่สน.นั้นก็ไม่มีอะไร ก็แล้วแต่ดีเจแมนว่าจะถอนแจ้งความหรือไม่ ขอให้รอฟังจากปากดีเจแมนแล้วกัน

เมื่อถามว่าในการไกล่เกลี่ยได้มีข้อตกลงเพิ่มเติมอะไรหรือไม่นายรัฐภูมิ กล่าวว่า มันไม่ได้มีอะไรขนาดนั้น ก็พูดคุยกันไป เมื่อทุกอย่างลงตัว เขาคงไม่รู้จะพูดอะไร และไม่รู้จะพูดถึงกันอีกทำไมเพราะทุกอย่างมันแฮปปี้แล้ว

นายรัฐภูมิ กล่าวด้วยว่า สำหรับทุกคนที่เชื่อมั่นในตัวตน เขาก็เชื่อมันในทุกข่าว ทุกคดีที่เกิดขึ้นมาส่วนเรื่องที่ใครจะเข้าใจผิดตนก็ไม่ได้ไปสนใจ หรือยืนยันอะไรอีก เพราะสำหรับตนนั้นภาพในวันนี้มันชัด ทุกอย่างเงียบหมดมันเลยน่าจะเป็นการตอกย้ำอะไรบางอย่าง และตนอยากบอกทุกคนว่าขอบคุณมาที่เชื่อมั่น "ความจริงมีเพียงหนึ่งเดียว" มันเลยทำให้ตนผ่านมาได้ทุกเรื่อง และใครที่พูดไม่ดีกับเรา ถ้าเราเชื่อในตนเอง มันก็จะทำให้เราผ่านไปได้ และตนก็ไม่ทราบว่าสำหรับคนที่เข้าใจผิดไปแล้ว จะมองเราเปลี่ยนไปหรือไม่แต่ก็อยากให้เห็นใจว่า "มองดีดี เราคือผู้ที่ถูกกระทำ"

ขณะที่นายพัฒนพล ให้สัมภาษณ์ภายหลังจากที่ไกล่เกลี่ยกันได้ว่า วันนี้ทั้งสองฝ่ายสามารถยอมความกันได้ ทำให้คดีที่นายรัฐภูมิกล่าวหาว่าตนหมิ่นประมาทสิ้นสุดลง แต่เฉพาะคดีนี้ ส่วนอีกคดีที่ตนแจ้งความนายรัฐภูมิที่กองปราบปรามคดียังคงอยู่เหมือนเดิม และกำลังรอพนักงานสอบสวนเรียกไปให้ปากคำอีกครั้ง

ด้านนายอมร ทนายความส่วนตัวของนายพัฒนพล กล่าวว่า วันนี้ทั้งสองฝ่ายได้พูดคุยกันทุกเรื่องและสามารถปรับความเข้าใจกันได้ ต่างฝ่ายได้ขอโทษซึ่งกันและกัน ส่วนอีกคดีนั้นก็ว่ากันไปตามขั้นตอนทางคดีต่อไป แต่ตนขอไม่ลงรายละเอียดว่าทั้งคู่สามารถไกล่เกลี่ยกันได้อย่างไร เพราะว่าเป็นขั้นตอนของกระบวนการไกล่เกลี่ย แต่อย่างไรก็ตามก็เป็นนิมิตหมายที่ดีที่ทั้งคู่สามารถปรับความเข้าใจจนได้ข้อยุติในคดีนี้แล้ว โดยไม่ต้องชดใช้ค่าเสียหาย

นายพัฒนพล กล่าวอีกว่า วันนี้ตนมาในประเด็นการไกล่เกลี่ยคดีนี้เท่านั้น ซึ่งวันนี้สามารถจบเรื่องนี้ได้ ส่วนที่ตนเองเคยพูดไว้ก็ยังเหมือนเดิมทุกอย่าง ส่วนความสัมพันธ์ของตนกับนายรัฐภูมิถือว่าห่างกันประมาณหนึ่งเพราะก่อนหน้านี้ก็ไม่ได้สนิทกันเท่าไหร่ การที่ทั้งตนและนายรัฐภูมิต่างคนต่างอยู่ถือว่าเป็นผลดีกับทั้งสองฝ่าย คดีไหนที่จบได้ตนก็อยากจะให้จบไปเพราะตนมีประสบการณ์ต่าง ๆ เกี่ยวกับการขึ้นศาลมาแล้ว หลังจากนี้ตนจะโฟกัสเกี่ยวกับการเลี้ยงดูครอบครัวและเป็นพ่อที่ดีของลูกตนเองต่อไป ซึ่งตอนนี้ก็อยู่ในระหว่างการก่อร่างสร้างตัวให้ชีวิตครอบครัวดีขึ้นภายหลังจากที่ตนออกมาจากเรือนจำ และจะพยายามทำทุกอย่างให้ดีที่สุด
พลอย เฌอมาลย์ เปิดภาพสวมกอด “สามเณรี ธัมมกัลยาณี” เผยซึ้ง! ดีใจและภูมิใจกับเพื่อนรักมาก ๆ
เข้าพิธีบวชสามเณรีเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สำหรับนางเอกสาว เจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ ที่ล่าสุด (1 กรกฎาคม 2568) ได้เข้าพิธีปลงผมบวชสามเณรี ในโครงการบรรพชาสามเณรี รุ่นที่ 3 บริเวณปะรำพิธี ณ ศรีวรญาลัย จ.สระบุรี ได้ฉายาทางธรรมในนามว่า ธัมมกัลยาณี มีความหมายถึงผู้หญิงที่มีความงามทางธรรม โดยมีคนในครอบครัว คนสนิทในวงการบันเทิงมาร่วมพิธีอย่างคับคั่ง

รวมไปถึงเพื่อนรักอย่างนักแสดงสาว “พลอย เฌอมาลย์ ” ที่มาร่วมงานด้วย โดยภายหลังได้เปิดภาพขณะร่วมพิธีพร้อมแคปชั่นเผยไว้ว่า "ดีใจและภูมิใจกับเจนี่เพื่อนรักมาก ๆ ที่ได้ตัดสินใจเดินบนเส้นทางธรรม ขอให้การบวชครั้งนี้เป็นจุดเริ่มต้นของความสงบในใจ และพบแต่แสงสว่างของธรรมะ"

#พลอยเฌอมาลย์ #สยามดารา #ข่าวบันเทิง
ดีเจแมน -ฟิล์ม รัฐภูมิ” ไกล่เกลี่ยปมหมิ่นฯเรียกเงิน 14 ล้าน ช่วยเหลือคดีแชร์ Forex – 3D ดีเจดัง ลั่นมีธงอยู่ในใจ ขอลองพูดคุย ยัน สิ่งที่พูดไปทุกอย่างคือเรื่องจริง ด้านฟิล์ม เผยไม่มีอคติ-พร้อมให้อภัย หากเจ้าตัวยอมรับผิด
เมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ภายหลังจาก ศาลนัดไต่สวนมูลฟ้องคดีที่ นายรัฐภูมิ โตคงทรัพย์ หรือฟิล์ม นักร้อง นักแสดงชื่อดัง เป็นโจทก์ ฟ้อง นายพัฒนพล กุญชร หรือ ดีเจแมน เป็นจำเลยในข้อหาหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา ในกรณีกล่าวหาว่า นายรัฐภูมิ เรียกเงิน 14 ล้านบาท เพื่อช่วยเหลือคดี Forex-3D เมื่อวันที่ 16 มิ.ย.ที่ผ่านมา และศาลเลื่อนการไต่สวนเนื่องจากทนายความของทั้งสองฝ่ายต้องการให้พูดคุยกัน ก่อน

ในวันนี้ ศาลได้นัดทั้ง 2 ฝ่าย เพื่อเจรจาไกล่เกลี่ย เวลา 09.00 น. โดยก่อนขึ้นศาล นายพัฒนพล กุญชร หรือ ดีเจแมน พร้อมทนายความ นายอมร กุศล หรือ ทนายจิ้ง เดินทางมาถึงก่อน โดยทันทีที่ เดินทางมาถึงดีเจแมนได้ยกมือไหว้บริเวณหน้าศาลอาญาก่อนให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่า เรื่องการไกล่เกลี่ยวันนี้ตนมีธงอยู่ในใจ ลองคุยดูว่าจะเป็นอย่างไร

เมื่อถามว่าก่อนหน้านี้ได้มีการติดต่อส่วนตัวกันหรือไม่ นายพัฒนพลกล่าวว่าไม่มี ไม่เคยติดต่อกันเมื่อถามต่อว่าทนายบอกว่าอยากให้มีการไกล่เกลี่ยกันก่อน ส่วนตัวเห็นด้วยหรือไม่ ซึ่งนายพัฒนพลระบุว่า ทนายตนไม่เคยบอกให้มีการไกล่เกลี่ย แต่อยากจะให้คุยและฟังดูว่าเขาจะพูดอย่างไร มีความคิดเห็นแบบใด ส่วนแนวโน้มวันนี้จะออกมาในทิศทางไหนนั้น ตนมีในใจ อยู่ในใจอยู่แล้ว เพราะถ้าได้ยินที่เขาออกสื่อเสนอมาสิ่งนั้นเราทำไม่ได้อยู่แล้ว เพราะว่า สิ่งที่เราพูดไปทุกอย่างมันคือเรื่องจริง แต่รอดูว่าเขาจะพูดอย่างไร ซึ่งวันนี้ตนมั่นใจ

เมื่อถามว่าเงื่อนไข เงื่อนไขฝั่งคู่กรณีที่นายพัฒนพลยังยอมรับไม่ได้คืออะไร ทางทนายระบุว่า ตอนนี้เป็นระหว่างการพิจารณาคดีกันอยู่ ข้อเท็จจริงต่างๆเรายังไม่อยากพูด อยากให้รอ กระบวนการไกล่เกลี่ยเสร็จสิ้น แล้วค่อยมาว่ากันอีกทีหนึ่ง ซึ่งในส่วนรายละเอียดของข้อเท็จจริง ขออนุญาตยังไม่เปิดเผยเนื่องจากอยู่ในระหว่างการดำเนินคดี กันอยู่

เมื่อถามว่าจะใช้ระยะเวลานานแค่ไหนในการไกล่เกลี่ยครั้งนี้ ทางทนายระบุว่าสุดแท้แต่ทางคู่กรณีว่าจะมีเงื่อนไขอย่างไร และจะรับได้หรือไม่ ถ้าไม่ซึ่งถ้าไม่รับมีทางออกอยู่สองทาง คือ รับได้ กับ รับไม่ได้ แต่ถ้ารับก็โอเคไม่มีปัญหา แต่ถ้ารับไม่ได้ก็ปกติ จะมีการนัดสืบพยานกันต่อไป ส่วนตัว ในฐานะทนายความผู้รับผิดชอบคดีนี้ไม่มีความกังวลใดใด ทั้งสิ้น

เมื่อถามย้ำว่าวันนี้จะเป็นการเจอกันครั้งแรกระหว่างตั้งแต่มีคดีความกันใช่หรือไม่ นายพัฒนพลระบุว่า เป็นการเจอกันครั้งแรกส่วนการเจอหน้าในครั้งนี้ตนก็ไม่มีอะไร ส่วนตัวรู้สึกว่าการได้เจอกันก็เป็นเรื่องปกติเพราะแต่ก่อนก็ไม่เคยเจอกัน แต่ถ้าเป็นอีกยุค-อีกสมัยหนึ่ง ก็จะคิดอะไรนิดหน่อย แต่ตอนนี้ตนโตขึ้นแล้ว ก็ต้องว่ากันไปตามกระบวนการ พร้อมย้ำว่า สิ่งที่อยู่ในใจคือสิ่งที่ตนพูดไปทั้งหมดคือความจริงแค่นั้นเอง ส่วนฝั่งคู่กรณีจะว่าอย่างไร ก็ต้องว่ากัน อีกที

โดยมีรายงานว่าระหว่างที่นายพัฒนพลพร้อมทนายความกำลังให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนอยู่นั้นนายรัฐภูมิพร้อมกับทนายความได้เดินทางมาถึงศาลอาญาพอดี เป็นจังหวะที่นายพัฒนพลให้สัมภาษณ์ใกล้จะเสร็จ จากนั้นสื่อมวลชนได้เชิญให้เข้ามาให้สัมภาษณ์ตรงพื้นที่สื่อมวลชน ซึ่งเป็นจังหวะที่ทั้งคู่จะต้องเดินสวนกัน แต่ท้ายที่สุดแล้วนายพัฒนพลตัดสินใจเดินออกไปทางขวาก่อนบันไดขึ้นศาลไปยังห้องพิจารณาคดี โดยไม่มีการพูดคุยกันหรือทักทาย ใดๆ

ด้านนายนายรัฐภูมิให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนภายหลังเดินทางมาเพื่อเจรจาไกล่เกลี่ยในคดีความกับนายพัฒนพล ว่า วันนี้ถือเป็นครั้งแรกที่ได้พบกันตัวต่อตัว หลังไม่เคยรู้จักหรือมีโอกาสพูดคุยกันเป็นการส่วนตัวมาก่อนมีแค่ติดต่อผ่านใบเตย น.ส.สุธีวัน ทวีสิน ที่เคยพูดมาว่าอยากให้มาเจอกัน ตนเองก็เลยตั้งใจมาฟังดูว่าวันนี้จะพูดคุยกันในรูปแบบไหน ก็เปิดโอกาส อยู่แล้ว

นายรัฐภูมิ กล่าวว่า ไม่ได้มีอคติหรือความรู้สึกติดใจใด ๆ กับอีกฝ่าย และพร้อมที่จะให้อภัยหากด้านดีเจแมนยอมรับผิดและกล่าวคำขอโทษ โดยย้ำว่า “ความจริงก็คือความจริง” และตนเองไม่ได้รู้สึกกังวลใด ๆ ทั้งต่อคดีนี้และคดีอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องแต่ในครั้งที่แล้วเขาไม่มา วันนี้เลยอยากฟังจากเขาโดยตรง ว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมอยู่ดี ๆ ถึงออกมาเคลื่อนไหวแบบนี้ เพราะตนเองไม่เข้าใจเหมือนกันว่าเขาไปได้ข้อมูลอะไรถึงเข้าใจผมผิดแบบนั้น ทั้งที่หลักฐานมันก็อยู่ ตรงหน้า

นายรัฐภูมิ ยังระบุด้วยว่า การเจรจาในวันนี้เป็นเพียงขั้นตอนเบื้องต้นของกระบวนการไกล่เกลี่ย ยังไม่มีการนำหลักฐานใหม่มาแสดงเพิ่มเติม และยังไม่มีข้อตกลงใด ๆ เกิดขึ้น โดยตนเองไม่ได้รู้สึกกดดัน เพราะเป็นฝ่ายโจทก์ และมั่นใจในข้อเท็จจริงและหลักฐานที่มีอยู่ นายรัฐภูมิ กล่าวย้ำว่า สิ่งที่เกิดขึ้นนั้นไม่ได้ทำให้รู้สึกโกรธหรืออยากตอบโต้ใด ๆ เพียงแต่อยากฟังคำชี้แจงจากอีกฝ่ายด้วยตนเอง เพื่อให้ทุกอย่างจบลงด้วยความเข้าใจ และหาทางออกร่วมกันอย่างเหมาะสม
ร่วมอนุโมทนา "เจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ" เข้าพิธีปลงผมบวชสามเณรี ณ ศรีวรญาลัย จังหวัดสระบุรี
“เจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ” เข้ารับการบรรพชาเป็นสามเณรีเช้าวันนี้ในโครงการ “สามเณรี รุ่นที่ 3 ธรรมวิจิตร” ณ ศรีวรญาลัย จ.สระบุรี เพื่อก้าวเข้าสู่ศาสนาและศึกษาธรรมะอย่างเต็มตัว จากนั้นเจนี่จะเดินทางไปรายงานกับปวติณี (ผู้หญิงที่ทำหน้าที่ตรวจสอบคุณสมบัติของสตรีที่จะบวชเป็นภิกษุณี) ของประเทศศรีลังกา แล้วจึงจะได้เกียรติบัตรเป็นการรับรอง ทั้งนี้ เจนี่ได้รับฉายาทางธรรม ว่า “ธัมมกัลยาณี” แปลว่า ”สตรีผู้มีความงามทางธรรม“

บรรยากาศภายในพิธีได้มีผู้ใหญ่ที่เคารพรักและเพื่อนพี่น้องในวงการบันเทิง อาทิ ตู่ นพพล ที่รับหน้าที่เชิญผ้าไตรจีวรพระราชทาน ร่วมด้วย อ๊อฟ พงษ์พัฒน์ - แดง ธัญญา , หน่อง อรุโณชา , ดิว ปิ่นกมล , อั้มอธิชาติ , เกรท วรินทร และแน่นอนคือเพื่อนสาวแก๊งนางฟ้า นานา ไรบีนา , แอน อลิชา และ วุ้นเส้น วิริฒิพา พร้อมด้วย ต้นหอม ศกุนตลา , มะตูม เตชินท์ , พลอย เฌอมาลย์ , ฌอห์ณจินดาโชติ มาร่วมอนุโมทนาบุญในวันสำคัญพิธีบวชสามเณรี นางเอกดัง

#เจนี่เทียนโพธิ์สุวรรณ์ #สยามดารา #ข่าวบันเทิง
คอนเสิร์ตการกุศล "เพลงไทยไพเราะที่สุดในโลก คิดถึง ..และคิดถึง" ครูเพลง ว.วัชญาน์ รายได้มอบพระสงฆ์อาพาธ วัดป่าบ้านตาด
แถลงข่าวเสร็จสิ้นไปแล้วพร้อมกับบรรยากาศความอบอุ่น และอิ่มบุญ สำหรับ คอนเสิร์ตการกุศล "เพลงไทยไพเราะที่สุดในโลก คิดถึง ..และคิดถึง" ครูเพลง ว.วัชญาน์ รายได้มอบพระสงฆ์อาพาธ วัดป่าบ้านตาด ณ ห้องอาหาร Manito Pizza รามคำแหง 18

จากจุดเริ่มต้นของลูกศิษย์ ครู ว.วัชญาน์ ได้แก่ อุษา แก้วมณี ร่วมกับ หลินหลิน อิน ไทยแลนด์ และเพื่อนพ้องน้องพี่ลูกศิษย์ ครู ว วัชญาน์ นักแต่งเพลงผู้ล่วงลับ เจ้าของเพลง "ไฟเสน่หา", "สายเจียงฮาย", ขอสูมาเต๊อะเจ้า" ฯลฯ

มุ่งหวังจะจัดคอนเสิร์ตการกุศลเพื่ออุทิศบุญแด่บรมครูผู้ล่วงลับ และเป็นการเชิดชูเกียรติ จึงเป็นที่มาของคอนเสิร์ต การกุศล " เพลงไทยไพเราะที่สุดในโลก คิดถึง ..และคิดถึง" เปิดแสดงในวันอาทิตย์ที่ 3 สิงหาคม 2568 เวลา 13:00 - 16:30 น. ณ หอประชุมเล็ก ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย กรุงเทพฯ คอนเสิร์ตการกุศล เพลงไทยไพเราะที่สุดในโลก คิดถึง ..และคิดถึง" เพื่อรำลึกครูเพลงผู้สร้างตำนานบทเพลงไทย ว.วัชญาน์ ขับร้องโดยศิลปิน ดร.วินัย พันธุรักษ์ (ศิลปินแห่งชาติ), สมศรี ม่วงศรเขียว, โฉมฉาย อรุณฉาย, อุมาพร บัวพึ่ง, จิตติมา เจือใจ, ศันสนีย์ นาคพงษ์, เจินเจิน บุญสูงเนิน, พิมพ์โพยม เรืองโรจน์, คณิตตา จิตต์เจริญ, จรวยพร จิตตรีญาติ, ประภาภรณ์ สังข์สุวรรณ, ยืนชนม์ สมบัติเทพ, พิมพ์ใจ พรหมมาลี, ภมร พรสุเทพ, หลินหลิน อินไทยแลนด์, อ้อม หัสพงศ์, ชูใจ เพชรา, วิภาส รวิภาส, อภิญญา เจริญวงศ์, สปาย ภาสภรณ์ ฯลฯ หลินหลิน อิน ไทยแลนด์ กล่าวถึงวัตถุประสงค์การจัดคอนเสิร์ตการกุศล เพลงไทยไพเราะที่สุดในโลก คิดถึง .และคิดถึง เพื่อรำลึกครู ว.วัชญาน์ ซึ่งเป็นผู้ผลักดันให้เธอเข้าสู่วงการเพลง และต่อเนื่องสู่ภาคธุรกิจอาหารเสริม และเครื่องประทินโฉม งานคอนเสิร์ตครั้งนี้ยังเป็นดารรวบรวมลูกศิษย์ ครู ว.วัชญาน์ หลายรุ่น อาทิ ศันสนีย์ นาคพงศ์, อุษา แก้วมณี และอีกหลายท่านที่จะมาร่วมอุทิศส่วนกุศล แด่บรมครู

ก่อนที่ อุษา แก้วมณี และ หลินหลิน อิน ไทยแลนด์ จะรับดอกไม้กำลังใจจากคุณกัณทิมา อุชุภาพ นายกสโมสรไลออนส์ หอวัง

ด้าน อุษา แก้วมณี ผู้ถือลิขสิทธิ์เพลงครู ว วัชญาน์ ยังกล่าวเสริมถึงรายได้จัดคอนเสิร์ตจะนำไปมอบองค์กรการกุศล คือ พระสงฆ์อาพาธ วัดป่าบ้านตาด จ.อุดรธานี เนื่องจาก ครู ว.วัชญาน์ และตนเอง เคยผลิตรายการโทรทัศน์ "ธรรมะกับหลวงตามหาบัว" ออกอากาศทางช่อง 5 สัปดาห์ละ 3 ครั้ง ซึ่งปัจจุบันวัดป่าบ้านตาด ยังคงรับรักษาพระสงฆ์อาพาธ รายได้หลังหักค่าใช้จ่าย คณะผู้จัดจึงจะนำเงินไปถวายต่อไป "คอนเสิร์ตการกุศล เพลงไทยไพเราะที่สุดในโลก คิดถึง ..และคิดถึง" บัตรราคา 1,000 /800 /500 บาท สอบถามรายละเอียด และซื้อบัตรได้ที่ : หลินหลิน โทร. 02-449-5000 , 086-901-4408 (มอส) Line : @b919 และอุษา แก้วมณี โทร. 065-996-5983 รายได้ส่วนหนึ่งมอบให้พระสงฆ์อาพาธ วัดป่าบ้านคาด จ.อุดรธานี สำหรับ ว.วัชญาน์ (บ่วย) มีชื่อจริงว่า วารุณี วิชัยพรหม นามปากกา นักประพันธ์เพลงโด่งดังมากมายโดยเฉพาะเพลง “สาวเจียงฮาย” ที่แต่งขึ้นด้วยความคิดถึงและสำนึกรับผิดชอบต่อบ้านเกิด ว.วัชญาน์ เกิดที่อำเภอพาน เชียงราย เข้ากรุงเทพฯ

มาเรียนกวดวิชาและเป็นเซลส์แมนไปด้วย สอบได้วุฒิมัธยมปลาย เรียนต่อมหาวิทยาลัยรามคำแหง ได้งานที่กองพลที่ 1 รักษาพระองค์ อยู่แผนกควบคุมเสียง มีโอกาสพบกับ ป. วรานนท์ นัก แต่งเพลงใหญ่ ได้เป็นดีเจรายการ "เพื่อน้อง" และ "เพื่อคุณที่รัก" สร้างชื่อในฐานะผู้แต่ง สาวเจียงฮาย ที่มีท่อนติดหู “ไป ไปเต๊อะไปแอ่ว ไปเต๊อะไปแอ่ว จังหวัดเจียงฮาย…” แล้วยังมีผลงานอีกนับร้อยชิ้น อาทิ "บ่าฮู้-บ่าหัน", "เสียใจ๋แต๊ว่า", "ขอสูมาเต๊อะ", "ยายกะตา", "วอนเธอ", "ผิดหวังอีกแล้ว", "ไฟเสน่หา", "อดีตรักดอกทองกวาว", "รักฝังใจ " ที่สร้างชื่อเสียง ให้ ศันสนีย์ นาคพงศ์ รวมถึงผลงานเพลงเกี่ยวกับชีวิต และเพลงธรรมะทั้งเป็นที่รู้จักในฐานะนักจัดรายการวิทยุหลากหลายแนว ทั้งรายการเด็ก การเมือง บันเทิง สังคม รวมถึงรายการโทรทัศน์ "ธรรมะกับหลวงตามหาบัว" ทางช่อง 5 วารุณี วัชญาน์ เจ้าของนามปากกา ว.วัชญาน์ เสียชีวิต เมื่อวันที่ 28 ม.ค 2562 ด้วยโรคมะเร็งต่อมน้ำเหลือง หลังเข้ารับการรักษาตัวที่รพ.จุฬาลงกรณ์เกือบ 1 ปี สิริอายุ 68 ปี

#วารุณีวัชญาน์ #ว_วัชญาน์ #สาวเจียงฮาย #นักประพันธ์ #นักจัดรายการวิทยุ
ซินดี้ สิรินยา ปลดล็อกหัวใจครั้งใหญ่! พอแล้วกับการใช้ชีวิตบนความคาดหวัง
เปิดใจ ซินดี้ สิรินยา ในรายการ WOODY FM จากนางแบบตัวแม่ สู่ CEO ผู้นำพลังชีวิต! เล่าทุกความจริงไม่เคยพูด ชีวิตนี้ไม่มีใครชอบเรา 100% พอแล้วกับการใช้ชีวิตบนความคาดหวังของคนอื่น พร้อมชวนให้กลับมาหาตัวเอง เชื่อในเป้าหมาย สิ่งที่จะทำให้ปลดล็อกและเป็นอิสระที่สุด และบทบาทผู้นำในงานอีเวนต์ระดับเอเชียอย่างงาน Dragonfly ที่มุ่งเน้นการเปลี่ยนแปลงทางความคิด พลังงาน และวิถีชีวิต

ชีวิตมีกี่บทบาทแล้วตอนนี้ ?
ซินดี้ สิรินยา : บทบาทแรกเป็นคุณแม่ คือ ภารกิจที่ใหญ่ที่สุดและสำคัญที่สุด ทุกวันจะเริ่มต้นด้วยโหมดคุณแม่หลายครั้งต้องตื่นตั้งแต่ 4:45 น. เพื่อมาทำอาหารเช้าให้เลล่าที่ต้องไปฝึกว่ายน้ำ แต่ส่วนใหญ่แล้วไม่เกิน 5:00 น. ก็ต้องตื่นแล้ว ตื่น 4:30 น. ทำอาหารเช้า เริ่มทำอะไรก็ตามที่ลูกว่ายน้ำอยู่ อยากจะให้เขาขึ้นมาจากสระแล้วได้กินอะไรร้อน ๆ ถ้าไม่ไหวจริง ๆ ถ้าคืนนี้มีงาน ก็จะทำแซนด์วิชไว้ล่วงหน้า แล้วไบรอนก็แค่เอาจากตู้เย็น หลังจากทำกับข้าวเสร็จ ส่วนใหญ่ก็จะเริ่มทำงานเลย เพราะเดี๋ยวต้องปลุกคนเล็ก 5:30 น. ส่งลูกขึ้นรถไปโรงเรียน 6:30 น. จากนั้นก็อาจจะพยายามออกกำลังกายก่อน แล้วก็เริ่มประชุม ตอนนี้อีกหนึ่งบทบาทสำคัญก็คือเป็น CEO ของ Dragonfly

จากวันนั้นในอดีต ตั้งแต่ Miss World ซึ่งตอนนี้เป็นกระแสมาก คุณภูมิใจกับโอปอล Miss World ไหม?
ซินดี้ สิรินยา : ภูมิใจมาก ฉันบอกไว้แล้วว่าเด็กคนนี้จะต้องเป็น Miss World เพราะมันถึงเวลาแล้ว คือจังหวะมันใช่ ถึงเวลาแล้วที่ประเทศไทยจะได้มงกุฎระดับโลก และน้องค่อนข้างตรงกับ Mission Vision ของเวทีนี้ เขาจะให้ความสำคัญกับการพูดจริง ทำจริง Beauty with a purpose ซึ่งน้องทำอยู่แล้ว และเห็นออร่า แค่รู้สึกว่าปีนี้เราจะได้ มงกุฎนี้

ในเส้นทางของซินดี้ที่ค่อย ๆ วางความคาดหวังลง มีวิธีอย่างไรบ้างที่จะมองย้อนกลับไป ?
ซินดี้ สิรินยา : คุณต้องพอใจกับสิ่งที่คุณมี คุณต้องรักตัวเอง สิ่งที่ทำให้คุณปลดล็อกและเป็นอิสระที่สุดก็คือ คุณต้องยอมที่จะมีคนไม่ชอบคุณ คุณอยู่กับความรู้สึกนี้ได้ คุณก็จะเป็นอิสระ คุณโอเคไหมกับการที่จะมีคนไม่ชอบคุณ? สำหรับเราคือทำไม แล้วเราก็แบบหาคำตอบ หาเหตุผลตลอดเวลาว่าทำไมไม่ชอบ เราผิดตรงไหน แล้วฉันต้องทำอะไรอีกเพื่อให้คุณชอบฉัน ไม่ชอบก็ไม่เป็นไร เพราะเราก็ไม่ได้ชอบทุกคนในโลกนี้ อาจจะมีบางอย่างที่เกิดขึ้นในอดีตที่เราไม่สามารถกลับไปแก้ได้ ซึ่งทุกคนต้องเจอ เราก็มีผิดพลาด ซึ่งเราก็ได้บทเรียนอะไรบางอย่าง

ได้เห็นซินดี้ในหลายเวอร์ชั่น ซึ่งคุณก็อยู่ได้เรื่อยๆ ในวงการ ?
ซินดี้ สิรินยา : เป็นคนชอบเรียน ชอบลองอะไรใหม่ ๆ มีอะไรเข้ามาก็ลองดู เพราะเป็นคนเบื่อง่าย เป็นคนที่มีความคิดสร้างสรรค์ตลอดเวลาอยู่แล้ว เป็นคนที่ชอบทำอะไรใหม่ ๆ อยู่ในวงการบันเทิง ซึ่งเป็นวงการที่อยู่นานยากนะ เพราะว่าเราก็ต้องคอยอัพเดตตัวเองตลอดเวลา ลองเล่น Tiktok ให้คนเห็นตัวตนที่แท้จริง ซึ่งคนส่วนใหญ่ก็จะเห็นเราเป็นภาพพจน์ เป็นตัวร้ายในละคร หรือเป็นโมเดลที่ดูแบบเยือกเย็นอย่างนี้ แต่จริง ๆ ค่อนข้างติงต๊อง (หัวเราะ)

เห็นอะไรในตัวเองจากการกระโดดเข้าไปใน TikTok ?
ซินดี้ สิรินยา : TikTok เป็นอะไรที่ทำให้รู้สึกเป็นอิสระกับตัวเองมาก เป็นเหมือนอีกหนึ่ง Milestone ที่ตัดสินใจว่า “ฉันจะเล่นล่ะ ทำไมล่ะ?” ทั้งที่ตอนแรกก็มีคนเตือนว่ามา "เอาดีๆ แม่ เราเป็นดารา แม่จะทำอย่างนี้ไม่ได้" พอเล่นแล้ว กลับกลายเป็นว่าคนชอบ เพราะมันตรงกับช่วงที่ทุกคนเครียด ติดอยู่ในบ้าน แค่ทำขำ ๆ กับลูก กลายเป็นว่าสนุกเอง ขำเอง แล้วคนอื่นก็ชอบด้วย ไม่จำเป็นต้องเพอร์เฟกต์หรือเป็นนางแบบตลอดเวลา พอเรามีคนติดตามตรงนี้ เราก็เอามาใช้ในเรื่องของธุรกิจ หรือแม้แต่การรณรงค์เรื่องความรุนแรงในครอบครัว แล้วตอนนี้กลายเป็นแม่ค้าออนไลน์ใน TikTok ไปแล้ว เพราะเรามีอีกหนึ่งธุรกิจเป็นสินค้าของตัวเอง และไลฟ์ขายของวันละ 2 ชั่วโมง เป็นแพลตฟอร์มที่ Real และ Unfiltered มาก ๆ เข้าถึงคนได้ง่ายขึ้น แม้แต่คนจะเข้ามาคอมเมนต์ จำแม่ได้ตั้งแต่ประกวด บางคนก็ทำไมฝรั่งคนนี้พูดไทยชัดจัง คือมันหลากหลายมาก ไม่ใช่ทุกคนที่จะรู้จักเรา มันเป็นสิ่งที่ทำให้เราเตือนตัวเองได้ดีมาก สมมุติว่ามันเป็นตัวเราแต่ได้ 100 วิว ไม่เป็นไร 100 วิว = 100 คน แต่จะเป็น 100 คนที่เขามี Quality และเขาเชื่อและเขาอินกับสิ่งที่คุณทำ ดีกว่าเป็นหมื่นที่แค่ผ่าน ๆ ไป คืออยากจะให้ทุกคนหยุดยึดติดกับความคาดหวัง เรากลับมาหาตัวเอง กลับมาหาสิ่งที่ใช่ กลับมาเชื่อในสิ่งที่เรามีเป้าหมายตรงนี้ เดี๋ยวคนเขาก็จะมาเอง มีความรู้สึกว่าโลกเราตอนนี้ฟุ้งซ่านกับสิ่งที่ไม่ใช่ของจริงหรือไม่ใช่ สิ่งที่มีความหมายจริง ๆ นั่นคือสาเหตุที่เรามาทำสิ่งนี้ งาน Dragonfly ด้วย สุดท้ายแล้วมันคือชีวิตมันมีแค่นี้แล้วมันสั้นเหลือเกิน วันนี้คุณทำอะไรไม่ต้องคิดถึงอนาคตเลย คุณอยากเป็นคนแบบไหน คุณอยากได้อะไร วันนี้คุณจะให้อะไรกับคนรอบข้าง หรือแม้แต่แค่รอยยิ้ม

งาน Dragonfly ทำไมถึงเป็นชื่อนี้ งานนี้คืออะไร?
ซินดี้ สิรินยา : เริ่มก่อนว่าทำไมต้องเป็น Dragonfly? ซึ่ง Dragonfly ก็คือแมลงปอ เป็นสัญลักษณ์ที่เก่าแก่มากของการเปลี่ยนแปลง เพราะแมลงปอมันจะต้องเริ่มจากในน้ำก่อน แล้วก็ค่อยมีปีกแล้วก็โบยบินไป แมลงปอจะมารวมตัวกัน พอทุกอย่างผ่านไปมันก็แยกย้ายกันไป เป็นสัญลักษณ์ว่าก่อนที่มันจะมีพายุหรือมรสุมเข้ามา ถ้าเกิดเราได้มารวมตัวกันกับแมลงปออื่น ๆ เราก็จะสามารถสร้างพลัง แล้วบางทีเราอาจจะบินผ่านจุดนี้เร็วขึ้น หรืออย่างน้อย ๆ มีเพื่อนไปด้วย เพราะฉะนั้น Dragonfly Summit จะเป็นมากกว่าแค่ Summit สำหรับผู้นำคือการเฉลิมฉลองความเป็นมนุษย์ ซึ่งจะมี 2 วันเต็ม นี่คืออีเวนต์ที่จะไม่แค่เปลี่ยนแปลง แต่มันจะยกระดับพลังงานในตัวคุณในทุกองค์ประกอบ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ Mindset มุมมองความคิด Physical Health, Wellbeing, การดูแลสุขภาพ, การนอน ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด และถ้าวันนี้คุณอยากจะเป็นคนที่มีประสิทธิภาพ คิดอะไร ตัดสินใจอะไรได้ และที่สำคัญเรื่องของการรวมพลังซึ่งกันและกัน ตอนนี้มนุษย์เราต้องการสิ่งนี้มาก

ตื่นเต้นที่จะเจอใครในงานนี้บ้าง?
ซินดี้ สิรินยา : จริง ๆ ตื่นเต้นทุกคนค่ะ อาทิเช่น Nick Santonastasso ไปสัมภาษณ์เขา แล้วฉันถามว่าถ้าคุณจะแนะนำตัวเองกับแฟน ๆ ในเอเชียที่อาจจะยังไม่รู้จักคุณ จะแนะนำยังไง? เขาบอกว่า เขาเป็น Broken Boy เป็นเด็กที่ไม่นึกเลยว่าจะยังมีชีวิตอยู่ในโลกนี้ เพราะเขาเกิดมาไม่มีแขนไม่มีขา มีขาแขนแค่ข้างเดียว แล้วก็นิ้ว 1 นิ้ว หมอบอกว่าเขารอดแค่ 30% เขาบอกว่าไม่มีทางที่เขาจะมายืนอยู่ตรงนี้เป็นคน ๆ นี้ได้ หากเขาไม่ตัดสินใจอะไรบางอย่างในชีวิต ชีวิตเขาคือต้องการแบ่งปัน และต้องการให้ทุกคนในโลกนี้รู้ว่าสิ่งที่คุณคิดว่ามันคือข้อจำกัด "ดูฉันสิ ไม่มีแขนไม่มีขา คุณมีข้ออ้างอะไร" เขาบอกว่าใน 1 ชั่วโมงที่ Summit เขาจะมาเป็น Baby Yoda ให้คุณ เขาจะให้ Tips, Practice, Mindset Tools ออกจากห้องนี้แล้วชีวิตของคุณเปลี่ยน ฉันการันตี เขาจะลงลึกในเรื่องของ Science of Sleep เพราะเขาเป็น Neuroscience และ Sleep Expert ของโลก เขาจะลงลึกว่าสิ่งที่เราเกิดในร่างกายเราคืออะไร เทคนิคที่เราจะไปสู่การนอนที่ช่วยฟื้นฟูเราจริง ๆ จากโมเลกุลทำยังไง คือคนไม่ให้ความสำคัญจะคิดว่า "เดี๋ยวฉันทำงานก่อนแล้วค่อยพัก" เขาไม่เข้าใจว่า คุณต้องพักเพื่อที่จะทำงานได้ดีที่สุดมันต้องกลับกัน คุณต้องเปลี่ยนความคิด การนอนไม่ใช่รางวัลที่คุณให้กับตัวเอง แต่มันคือสิ่งจำเป็นที่คุณจะมีชีวิตที่ดีแล้วก็เป็นผู้นำที่ Effective

Brianna Wiest เป็นนักเขียนหนังสือหลายเล่มที่ฉันชอบและอ่าน เธอมีแฟน ๆ ในประเทศไทยและเอเชียเยอะมาก เธอเป็นเจ้าของหนังสือชื่อ The Mountain Is You, 101 Essays That Will Change The Way You Think ตอนนี้กำลังอ่าน The Life That’s Waiting สิ่งที่เธอพูดไม่ได้เป็นเรื่องใหม่ แต่วิธีคำพูดของเธอมันไม่ได้เป็นฟังไม่เข้าใจ แต่มันอ่านแล้วแบบเป็นคำพูดที่โดนใจเป็นการปลุกพลังที่อยู่ในตัวคุณได้ดีมาก ๆ อ่านไม่กี่หน้าก็ได้คำตอบทันที คำตอบของแทบจะทุกปัญหาในชีวิตอยู่ในตัวเราจริงๆ ไม่ต้องรอให้คนอื่นมาพูด ไม่ต้องรอให้คนอื่นมาไกด์

Gabrielle Bernstein เธอเป็น Best Selling Author ของ New York Times56 เธอเป็น Podcaster ที่มีคนฟังเป็นล้านคน หลายคนรู้จักและอ่านหนังสือของเธอ ไม่ว่าจะเป็น Self Help, The Universe Has Your Back คือโด่งดังมากแต่คนอาจจะยังไม่เคยได้เห็นหน้าและตัวเป็น ๆ คราวนี้เธอจะมาและจะพูดในเรื่องของ Manifestation ซึ่งปีนี้จะเป็นเรื่องของ Manifestation ที่จับต้องได้ เอามาใช้ในชีวิตประจำวันแบบทันที เห็นผลทันที และเรื่องของ Alignment คือการจูนทุกสิ่งอย่างให้มันอยู่ในเรื่องเดียวกัน ใน Energy เดียวกัน ไปในทางเดียวกัน คุณจะทรงพลังมาก ๆ เมื่อความคิด ความรู้สึก หรือแม้แต่ Energy ที่คุณส่งออกไปมันจูนกัน

เราดึงดูด Speaker ที่ใช่ สำหรับงานเราจริง ๆ ไม่ได้เป็น Speaker ที่มีอีโก้ มีหลายคนที่อาจจะโด่งดังกว่านี้ที่เราตัดสินใจว่าอาจจะไม่ใช่เวลานี้ อาจจะไม่ใช่ปีนี้ เขาอาจจะมาก็ได้ แต่สิ่งที่นำพาการตัดสินใจของทุกคนแม้แต่ทีมคือ มันต้องมาจากใจจริง เพราะฉะนั้นไม่จำเป็นที่คุณจะรู้จักคนเหล่านี้ แต่ขอเชื่อว่าสิ่งที่ ซินดี้ วู้ดดี้ แพม และทีม Dragonfly ทุกคน ตั้งใจเลือกคนที่มาเปลี่ยนแปลงชีวิตของคุณแน่นอนในเวทีนี้ มีระบบแปลสด มีทีมแปลคำต่อคำแบบสด ๆ บัตรมีหลาย Tier เลือกแบบที่สะดวก งาน Dragonfly Summit จัดขึ้น 2 วัน เสาร์และอาทิตย์ที่ 27-28 กันยายนนี้ ที่ Paragon Hall ออกมาจากงานนี้การทำงานของคุณจะเปลี่ยนทันที

สามารถติดตาม Woody FM ได้ที่ช่องทาง Podcast : WOODY FM , Facebook: Woody, Youtube: Woody ทุกวันพุธ เวลา 19.00 น.

คลิกชมย้อนหลัง : https://www.youtube.com/watch?v=18i8lOAGpos&t=41s&ab_channel=WOODY
สงกรานต์ เตชะณรงค์ ชีวิตเฉียดความตายเพราะคลั่งออกกำลังกาย!
เปิดบทเรียนราคาแพงของ “สงกรานต์ เตชะณรงค์” จากคนที่เสพติดการออกกำลังกายจนเฉียดความตาย สุขภาพที่ดีไม่ใช่แค่ฟิตแต่ต้องบาลานซ์ชีวิตให้เป็น แชร์ประสบการณ์เคยผ่านการฝึกหน่วยคอมมานโดสุดโหด พร้อมเผยเคล็ดลับสุขภาพดีต้องมีสิ่งนี้ที่สำคัญ ในรายการ ON THE WAY WITH CHOM

เป็นคนที่ฟิตมาตลอดเลยไหม ?
สงกรานต์ เตชะณรงค์ : เหมือนติดออกกำลังกายตั้งแต่เด็ก ที่บ้านปลูกฝังมา ตั้งแต่เด็กจำความได้เสาร์อาทิตย์ คุณแม่ก็จะพาไปว่ายน้ำ ตีเทนนิส วันธรรมดาเลิกเรียนก็จะมารับไปขี่ม้า เป็นเหมือนไลฟ์สไตล์ว่าการออกกำลังกายมันเหมือนเป็นกิจวัตรเหมือนกับการกินข้าวสำหรับเรา

เป็นนักกีฬาด้วยไหมใช่ไหม ?
สงกรานต์ เตชะณรงค์ : เป็นนักกีฬาฟุตบอล ตอนเด็ก ๆ อายุประมาณ 15-16 ปี ชอบเตะบอลมาก แต่พอมาอายุ 30 กว่า ๆ เริ่มไม่ไหวเพราะเป็นกีฬาที่ใช้เข่าเยอะมาก มีเหตุการณ์ที่วิ่งอยู่ดี ๆ เอ็นขาดได้ยินเสียงเหมือนหนังยางอันใหญ่ ๆ ขาด ก็ไปผ่าแล้วก็ทำกายภาพ นึกว่าจะเหมือนเดิม กลับไปเล่นก็ขาดอีกที ทีนี้ก็พอเลยครับ

รักการออกกำลังกายเรียกได้ว่าเข้าเส้น ?
สงกรานต์ เตชะณรงค์ : เข้าเส้นเลยครับ ออกกำลังกายตลอดเปลี่ยนไปเรื่อย ๆ เหมือนเป็นไลฟ์สไตล์ ถ้าซ้ำมันก็จะน่าเบื่อ เราต้องการเรียนรู้อะไรใหม่ ๆ เกี่ยวกับการออกกำลังกาย

คุณพ่อคุณแม่ปลูกฝังเรื่องกีฬา ?
สงกรานต์ เตชะณรงค์ : คือที่บ้านผมก็คือปล่อยอิสระ ถ้าเป็นเรื่องกีฬาก็พร้อมที่จะซัพพอร์ต แต่ว่าคงไม่ได้ฟิก ไม่ได้คุมเข้ม

เลยทำให้เราเป็นคนที่ชอบการออกกำลังกายถึงขั้นเรียกว่าคลั่ง ?
สงกรานต์ เตชะณรงค์ : ก็ไม่ถึงขนาดคลั่งแต่ว่าเสพติด

เคยไปฝึกหน่วยคอมมานโด ?
สงกรานต์ เตชะณรงค์ : ตอนผมไปฝึกหน่วยคอมมานโด การฝึกไม่ได้เน้นร่างกายแต่เน้นไปที่จิตใจ เพราะว่ามันเกินเหนื่อยตลอดเวลา ตื่นมาต้องเจอวิ่ง 10 กิโลทุกเช้าทั้งวันแบบไม่ได้พัก ต้องมีเรื่องให้ได้ใช้แรงตลอดเวลา บางทีเที่ยงคืน-ตี2 ปลุกขึ้นมาออกกำลังกาย ทำแบบนี้ทุกวันไม่มีวันหยุด ช่วงสุดท้ายเขาจะมีภารกิจ เช่น แบกซุง เข้าห้องแก๊สน้ำตา ว่ายน้ำ ทำไม่หยุดเกือบ 3 วัน

มีคนที่น็อคบ้างไหม ?
สงกรานต์ เตชะณรงค์ : ไม่มี มีแต่แบบวิ่งไปอ้วกไป แต่ว่าไม่ถึงกับน็อค ร้องไห้แบก ๆ อยู่น้ำตาไหล เพราะว่ามันโหด เกินลิมิตร่างกายมาก แต่ทำให้เรารู้ว่าจริง ๆ ร่างกายมันไปได้อีกเยอะ ในสถานการณ์ที่บีบบังคับว่าเราต้องทำ แล้ว 3 วันนั้นจำได้เลยว่าไม่ได้กินข้าว กินพุทรา 2 ลูก ร่างกายมันอยู่ได้แบบข้ามลิมิต

ช่วงที่เราฟิตมากๆ หนักหน่วงกับตัวเองมากขนาดไหนตอนนั้น ?
สงกรานต์ เตชะณรงค์ : ตอนฝึกออกมาคือฟิตมากแล้วเหมือนพอออกมารู้สึกตัวเองแรงเหลือ เวลาไปทำงานระยะทางมันประมาณ 10 โล บางทีผมก็วิ่งไปทำงาน แล้วก็ไปอาบน้ำที่ทำงาน ทำงานเสร็จแล้วก็วิ่งกลับ แรงมันเหลือ เพราะว่าเคยออกกำลังกายตลอดเวลา แต่ตอนนี้ไม่แล้วอายุเยอะ แล้ว

มีอยู่ช่วงหนึ่งที่เราแบบว่าออกกำลังกายแบบฮาร์ดคอร์มากๆ แต่ว่าหลายๆ คนกลับทักว่าเราป่วยหรือเปล่า ?
สงกรานต์ เตชะณรงค์ : ใช่ เพราะว่ามันคาร์ดิโอเยอะเกิน แล้วกินไม่ถึง โดนแดดเยอะก็เลยซูบไปหมด ผิวแทนไหม้แดด คนก็เลยคิดว่าเราไปทำอะไรมา มันดูโทรม ไปเลย

ถ้าคาร์ดิโอเยอะๆ แล้วมันจะกินกล้ามเนื้อจริงไหม ?
สงกรานต์ เตชะณรงค์ : ผมว่าจริงแน่นอน ถ้าคาร์ดิโอเยอะเกินไปมันจะลีนกล้ามเนื้อ มันจะหายไปหมดเลย อย่างตอนผมไปฝึกคือน้ำหนักหายไปเป็น 10 โล

อาหารเกี่ยวข้องไหม ?
สงกรานต์ เตชะณรงค์ : อาหารสำคัญ อย่างที่สังเกตมา ถ้าเรากินถึงก็ช่วยได้เยอะ ผมออกกำลังกาย 40% แล้วก็กินอีก 40% ที่เหลือก็คือพักผ่อน แต่ว่าผมก็ไม่ได้ฟิกเรื่องกิน ไม่ได้ถึงขนาดต้องชั่งกิโล แต่ก็เคยชั่งทำกับข้าวไปตวงไว้ใส่กล่องไปกินอยู่ 1 ปี มันก็ลีนเห็นผลชัด แต่ว่ามันไม่ใช่ไลฟ์สไตล์ จะทำตลอดชีวิตก็ไม่ไหว มันไม่มีสังคม หลัง ๆ ก็เลยไม่ได้ฟิกมาก ผมกินขนมทุกวัน ออกไปกินอะไรเรื่อยเปื่อย ก็จะพยายามกินโปรตีนเยอะ ๆ แต่ไม่ใช่แบบเชคแต่คือโปรตีนอาหาร พยายามกิน ให้ถึง

โปรตีนต้องกินขนาดไหน ?
สงกรานต์ เตชะณรงค์ : โปรตีนผมว่ามันสำคัญ กล้ามเนื้อเท่าที่ผมสังเกตพออายุเริ่มเยอะ แต่ก่อนเรากินนิดๆหน่อยๆ มันก็มาแล้ว แต่เดี๋ยวนี้ร่างกายมันไม่ได้ตอบสนองขนาดนั้น โปรตีนจำเป็นมากต้องกินให้ถึง ผมสังเกตกับตัวเอง ถ้ากินถึงเราจะไม่หิวตลอดเวลา จะไม่กินจุกจิก กินต่อมื้อประมาณ 70-30 คือโปรตีนประมาณ 70% ที่เหลือเป็นไฟเบอร์ เป็นคาร์บ ถ้ารู้สึกว่าบวมขึ้นก็จะลดคาร์บลง ผมไม่คาร์ดิโอจะเน้นไปที่เล่นเวท เล่นประมาณ 5-6 วันต่ออาทิตย์ ยกประมาณชั่วโมงถึงชั่วโมงครึ่ง

ความเชื่อผิดๆ บ้างเกี่ยวกับ Weight Training ?
สงกรานต์ เตชะณรงค์ : สาว ๆ หลายคนก็จะคิดว่าถ้า Weight Training แล้วมันจะทำให้ดูมีโหนกคอ ซึ่งมันยากมาก ไม่ต้องกลัว Weight Training ผมว่ามันช่วยได้เยอะหลาย ๆ เรื่องเลย พอเรามีกล้ามเนื้อเยอะ มันก็ช่วยเบิร์นแคลอรี่ เราก็จะสามารถเอ็นจอยการกินได้มากขึ้น สาวๆที่มีกล้ามขามันก็ดูเซ็กซี่นะ มันดูเฮลตี้ดี

คาร์บที่ดีคืออะไร ?
สงกรานต์ เตชะณรงค์ : คาร์บจากพืชผัก ถั่ว พืชที่เป็นหัวที่อยู่ใต้ดิน ไม่ใช่คาร์บ แปรรูป

ทำไมถึงเลือก Weight Training มาเป็นไลฟ์สไตล์ส่วนตัว ?
สงกรานต์ เตชะณรงค์ : สะดวกดีครับ แล้วก็ตอบโจทย์ได้ทุกที่ทุกเวลา

เคยเกิดอุบัติเหตุจากการออกกำลังกาย ?
สงกรานต์ เตชะณรงค์ : ผมขี่จักรยานวันละชั่วโมง 2 ชั่วโมง ผมขี่ที่เขาใหญ่ ผมเป็นพวกชอบเอาชนะเวลา มีอยู่ช่วงหนึ่งที่เขาใหญ่มันจะเป็นทางตรงยาวเลย แล้วช่วงนั้นมันเป็นช่วงทำเวลาคือแบบเราจะหมอบแล้วเราจะปั่นเป็นทางตรง มีวันหนึ่งดันมีรถมาจอดอยู่เรามองไม่เห็น ก็ชนท้ายกระบะเต็ม ๆ เกือบขิต กระดูกหักไป 5 ท่อน คอ ซี่โครง ไหปลาร้า นอนอยู่ ICU ประมาณ 8-9 วัน ต้องผ่าคอแล้วก็ใส่สายแบบตรงคอ ตรงจมูก ตรงข้อปัสสาวะ ตรงปอด เพราะว่าตอนมันหักมันไปทิ่มปอด หลับ ๆ ตื่น ๆ เพราะตอนนั้นมีเลือดออกในสมองนิดหนึ่ง นอนอยู่ท่าเดียว 8 วัน ไม่เคยทรมานขนาดนี้มาก่อน ใส่เหล็กตรงกล่องเสียง ต้องใส่ตลอดชีพ ช่วงฟื้นตัวอาจจะเป็นเพราะผลบุญที่เราออกกำลังกายบ่อยด้วยมันก็เลยช่วยทำให้เราฟื้นตัวเร็ว

แนะนำคนที่สนใจ Weight Training ?
สงกรานต์ เตชะณรงค์ : เริ่มเลย ยิ่งเร็ว ยิ่งได้เปรียบ ไม่ต้องคิดมาก ทำไปก่อน อย่างน้อยท่าไม่ถูกก็มาเอาแรงก่อนก็ได้ เดี๋ยวนี้มันมีให้ศึกษาเยอะมากใน YouTube

เป้าหมายในเรื่องสุขภาพ ?
สงกรานต์ เตชะณรงค์ : ผมอยากให้คิดว่ามันเป็นเหมือนกับวิธีการมากกว่า อาจจะไม่มีปลายทาง ปลายทางที่แบบต้องเป๊ะ เพราะว่าสุขภาพที่ดีควรจะเป็นสิ่งที่เราจะทำควบคู่ไปเรียกว่าจนแก่ตาย ให้มีความพอดี ทำแล้วต้องมีความสุข วิธีที่ถูกต้องเพื่อให้เห็นผล เรื่องสุขภาพสำคัญมาก สมมุติว่าถ้าเราสุขภาพไม่ได้ เราจะไปทำอะไรอย่างอื่นที่มันใหญ่ ๆ ก็จะยาก เริ่มจากสิ่งเล็ก ๆ ก่อน ไม่จำเป็นต้องหักโหมจะมีกล้ามหรือมีซิกแพค เริ่มจากในบ้านก่อน เปิด YouTube มีสอนออกกำลังกายที่ให้ทำตาม 5 นาที 10 นาที อย่าไปซีเรียสมาก ทำไปให้เป็น Autopilot แล้วเดี๋ยวเราก็จะคุ้นเคย ผมว่าเราควรจะให้ความสำคัญกับเรื่องสุขภาพ

สามารถติดตาม "On the way with Chom" ได้ที่ช่องทาง Podcast : Life Dot , Facebook: Life Dot , Youtube : Life Dot วันจันทร์ (สัปดาห์เว้นสัปดาห์) เวลา 18.00 น.

คลิกชมรายการย้อนหลัง : https://www.youtube.com/watch?v=Vjhvl2I1xuA&t=50s&ab_channel=LIFEDOT
“หลิงหลิง คอง” ขอโทษแล้ว! หลังถูกติงทำพฤติกรรมล้อเลียนผู้พิการทางสายตา
เรียกว่างานเข้าเต็มๆ สำหรับนางเอก"หลิงหลิง คอง" ที่เดินทางไปจัดแฟนมีตติ้งที่ประเทศจีน ซึ่งหนึ่งในกิจกรรมที่กลายเป็นประเด็นถกเถียงกันในโลกโซเชียลฯ คือกิจกรรมบทบาทสมมติให้ หลิงหลิง เป็นตัวละครบอดี้การ์ด ซึ่งทางตัว หลิงหลิง ได้หยิบแว่นตากันแดดสีดำ พร้อมหยิบร่ม แล้วทำท่าทางคล้ายผู้พิการทางสายตา ทำให้มีบางคนมองว่าสิ่งที่เธอทำเป็นการล้อเลียน ซึ่งดูไม่เหมาะสม

ซึ่งหลังจากนั้นทางตัว หลิงหลิง ก็ไม่นิ่งนอนใจออกมาโพสต์ถึงประเด็นนี้ผ่านทางแอปพลิเคชัน x (เอ็กซ์)ว่า “จากกรณีคลิปวิดีโอที่มีการพูดถึงกันในโลกออนไลน์ในขณะนี้ ซึ่งมีภาพของหลิงแสดงท่าทางที่หลายท่านรู้สึกว่าเป็นการล้อเลียนหรือไม่ให้เกียรติผู้พิการทางสายตา หลิงขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

หลิงขอน้อมรับทุกคำวิจารณ์ด้วยความเคารพและสำนึกผิดอย่างแท้จริง หลิงไม่เคยมีเจตนาใดๆ ที่จะล้อเลียนหรือดูหมิ่นผู้พิการทางสายตาแม้แต่น้อย และเมื่อได้ย้อนกลับไปทบทวนพฤติกรรมของตนเอง ก็พบว่าการกระทำนั้นขาดความรอบคอบอย่างยิ่ง โดยเฉพาะในฐานะของบุคคลสาธารณะที่ควรเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับสังคม หลิงขอกราบขอโทษต่อผู้พิการทางสายตาทุกท่าน และทุกคนในสังคมที่รู้สึกสะเทือนใจกับเหตุการณ์นี้ หลิงจะนำบทเรียนครั้งนี้ไปปรับปรุงตัวอย่างจริงจัง เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ลักษณะนี้อีกในอนาคต

หลิงรู้สึกเสียใจจากการกระทำของตนเอง และขอกราบขอโทษทุกคนอีกครั้ง โดยเฉพาะผู้พิการทางสายตา และทุกท่านที่รู้สึกไม่สบายใจ ขอบคุณทุกเสียงสะท้อนที่ทำให้ได้เรียนรู้และเติบโตขึ้นค่ะ“

#หลิงหลิงคอง #Linglingkwong
เปิ้ลนาคร-จูน เข้าพบ ผบช.สอท. หลังถูกมิจฉาชีพปลอมเพจ “หม้อแม่จูน” ตุ๋นผู้เสียหายนับสิบ
เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 30 มิถุนายน ที่ กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) นายนาคร ศิลาชัย หรือเปิ้ล นาคร นักแสดง พร้อมด้วยภรรยา นาง กษมา ศิลาชัย หรือ จูน กษมา เข้าพบ พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ผบช.สอท.) เพื่อเเจ้งความหลังถูกมิจฉาชีพสร้างเพจปลอมหลอกลวงเหยื่อโอนเงินสั่งออเดอร์ “หม้อแม่จูน” จนมีผู้ได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมาก

นายนาคร กล่าวว่า สืบเนื่องจากมีผู้เสียหายนับสิบรายติดต่อสอบถามเข้ามาหาตนถึงสถานที่นัดรับสินค้า โดยบอกว่าได้โอนเงินสั่งสินค้าไปแล้ว ตนจึงสอบถามข้อมูลกระทั่งทราบว่าลูกค้าได้สั่งสินค้าผ่านเพจเฟซบุ๊คชื่อ “หม้อแม่จูน” ซึ่งมีผู้กดติดตามและกดถูกใจกว่า 1,300 คน โดยอ้างว่าจำหน่ายสินค้าแกงไก่แบรนด์ “หม้อแม่จูน” ในราคา 459 บาท ต่อแกงไก่ 2,000 กรัม โดยจะมีการจัดโปรโมชั่นต่างๆ และะอ้างว่าจะได้สินค้าทันทีในวันที่สั่ง ส่วนบัญชีรับโอนเงินค่าสินค้าก็มีการใช้หลายชื่อหลายบัญชี

ตนจึงขอยืนยันว่าแกงไก่แบรนด์ “หม้อแม่จูน” มีอยู่จริงซึ่งเป็นธุรกิจทางครอบครัว แต่ไม่มีการเปิดเพจไว้รับสินค้าออเดอร์เเต่อย่างใด โดยจะเปิดรับออเดอร์ผ่านช่องทางเดียวคือ ไลน์ @หม้อแม่จูน เท่านั้น และบัญชีรับโอนเงินจะมีเพียงบัญชีเดียว คือ ชื่อบัญชี “นายนาคร ศิลาชัย” วันนี้ตนจึงอยากมาเป็นกระบอกเสียงเตือนลูกค้าไม่ให้หลงเชื่อและตกเป็นเหยื่อ จึงได้เดินทางเข้าแจ้งความในวันนี้เราเชื่อว่าหากไม่ดำเนินการจะมีผู้เสียหายเพิ่มมากขึ้นถึงพันราย

พล.ต.ท.ไตรรงค์ บอกว่าสำหรับคดีนี้มีการแบ่งความเสียหายออกเป็นสองส่วน คือ นายนาครที่เสื่อมเสียชื่อเสียง และส่วนของผู้เสียหายที่เสียทรัพย์ ซึ่งหลังจากนี้จะดำเนินการตรวจสอบพยานหลักฐานที่นายนาครนำมามอบให้จากผู้เสียหายกว่าสิบราย พร้อมฝากเตือนประชาชนให้ตั้งข้อสังเกตให้ดีก่อนโอนเงิน อย่ารีบโอน รวมทั้งหากใครที่หลงเชื่อตกเป็นเหยื่อโอนเงินไปแล้วอย่ามองว่าเป็นเพียงเงินเล็กน้อยและให้รีบแจ้งความดำเนินคดีกับตำรวจไซเบอร์หรือโทรสายด่วน 1441 เพราะหากเพิกเฉยก็อาจมีผู้หลงเชื่อตกเป็นเหยื่อจนสร้างมูลค่าความเสียหายหลายล้านบาท
มิติใหม่ของการเฟ้นหานางงาม Miss Universe Mae Hong Son 2025 จัดรอบ Final บนเรือหรู Meridian Cruise “มิลลี่ มิลลิตา” คว้ามงสมศักดิ์ศรี
จากขุนเขาเมืองสามหมอกสู่สายน้ำกลางกรุงฯ มิติใหม่ของการเฟ้นหาสาวงามในสไตล์ของทหารเรือสาวสวย “เรือตรีหญิง สุทิยา ตาปนานนท์” ผู้อำนวยการกองประกวด Miss Universe Mae Hong Son 2025 เชื่อมโยงขุนเขาและสายน้ำเข้าไว้ด้วยกัน ในค่ำคืนสุดพิเศษ ค้นหาสาวงามครองมงกุฎอันทรงเกียรติ Miss Universe Mae Hong Son 2025 บนเรือสำราญสุดหรู Meridian Cruise “THE FLOATING HAPPINESS” พร้อมดื่มด่ำความสวยงามของธรรมชาติ 2 ฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา

ภายในงานได้รับเกียรติจาก คุณสุกัญญา ประจวบเหมาะ ประธานสภาสมาคมสตรีแห่งชาติในพระบรมราชินูปถัมภ์ เป็นประธาน, คุณนันทิยา วงศ์วานิชย์ ประธานการจัดงาน, คุณณรรฐ ตีระแพทย์ และคุณณพ ตีระแพทย์ ผู้ก่อตั้ง Meridian Cruise, คุณบริพันธ์ ชัยภูมิ พิธีกรช่อง 7 HD ร่วมด้วยแขกรับเชิญ VIP “Yumi Wong” (ยูมิ หว่อง) นักแสดงสาวชื่อดังเจ้าของฉายา แองเจล่า เบบี้ แห่งมาเลเซีย, คุณกาคิน อิศรกุล White Sound, คุณต๊อด-วรรณยศ มิตรานนท์, คุณโฟร์โฟร์-มนัสวี แตงพลับ ฯลฯ

และสำหรับมิติใหม่ของการประกวดในรอบไฟนอลครั้งนี้ MUM01 “มิลลี่ มิลลิตา จัสมิน เมอเรย์” สวยสมมงชนะใจกรรมการ คว้าตำแหน่ง Miss Universe Mae Hong Son 2025 พร้อมสายสะพาย และเงินรางวัลมูลค่ารวม 100,000 บาท เป็นตัวแทนหัวเมืองภาคเหนือไปชิงมงบนเวทีใหญ่ มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2025 ในลำดับต่อไป

โดย “เรือตรีหญิง สุทิยา ตาปนานนท์” ผู้อำนวยการกองประกวดมิสยูนิเวิร์ส แม่ฮ่องสอน 2025 เผยว่า “จากประสบการณ์ในเส้นทางสายนางงามที่ได้ร่วมงานและได้รับความไว้วางใจจากคุณณวัฒน์ อิสรไกรศีล มานานหลายปี ในรอบไฟนอลเราได้ก้าวไปอีกขั้นด้วยการสร้างมิติใหม่กับการประกวดมิสยูนิเวิร์ส แม่ฮ่องสอน 2025 Presented by Meridian Cruise จากขุนเขาสู่สายน้ำ วันนี้เราได้ ‘น้องมิลลี่’ เป็นผู้ครองมงกุฎอันทรงเกียรติ สาวงามผู้เพียบพร้อมในการเป็นตัวแทนถ่ายทอดความเป็นจังหวัดแม่ฮ่องสอน ท่ามกลางบรรยากาศสุดตระการตาของ 2 ฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาบนเรือสำราญสุดหรู Meridian Cruise ที่ขึ้นชื่อว่าเป็น “ความสุขบนแม่น้ำเจ้าพระยา” เพื่อเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวของประเทศสู่สายตาพี่น้องชาวไทยและชาวโลก ให้ทุกคนบนเรือและผู้ชมทางบ้านได้สัมผัสถึงความประทับใจที่ไม่รู้ลืมของการประกวดไปพร้อมๆ กัน และฝากเป็นกำลังใจให้น้องมิลลี่บนเวทีใหญ่ด้วยนะคะ”

ด้านผู้บริหาร “Meridian Cruise” กล่าวว่า “ในนามของเรือต้องขอบคุณนะครับที่ให้เกียรติเรือของเรา และเป็นมิติใหม่เป็นครั้งแรกของการประกวดนางงามบนเรือและหวังว่าจะมีครั้งที่ 2 ต่อไปครับ” ส่วน “ยูมิ หว่อง” นักแสดงสาวชื่อดังชาวมาเลเซีย เผยความรู้สึก “ฉันรู้สึกดีใจที่ได้มาเยือนที่นี่ ฉันรักประเทศไทย และประเทศไทยมีผู้หญิงที่สวยมากมาย อาหารอร่อยค่ะ ฉันมีความสุขและตื่นเต้นมากๆ และยินดีกับน้องมิลลี่ด้วยนะคะ”

พิธีกรดัง “นก บริพันธ์” กล่าวปิดท้าย “ยินดีด้วยนะครับสำหรับมิสยูนิเวิร์สแม่ฮ่องสอน เป็นงานที่ยิ่งใหญ่และพลิกการประกวดที่ไม่เหมือนใคร เราคนไทยได้ชมการประกวดบนเรือล่องเหนือแม่น้ำเจ้าพระยาความรู้สึกมันแตกต่างมาก สมศักดิ์ศรีแม่ฮ่องสอนครับ“
ซี-เอมี่ ควงคู่ดินเนอร์หวานฉ่ำ ฉลองครบรอบรัก 20 ปี ลั่นคบกันครึ่งชีวิตทรหดมาก!
แม้จะแต่งงานกันมา 11 ปีแล้วแต่ความรักความเอาใจใส่ดูแลกันและกันของทั้งคู่ก็ยังคงมีอย่างสม่ำเสมอ สำหรับคู่รัก "ซี ศิวัฒน์" และ "เอมี่ กลิ่นประทุม" ซึ่งทั้งสองยังมีมุมตลกน่ารักๆ และออกมาให้แฟนๆ ได้ยิ้มกันตลอด

ล่าสุด "ซี ศิวัฒน์" ก็ได้ออกมาโพสต์ภาพคู่ภรรยา ฝพร้อมแคปชั่นว่า Happy 20th anniversary ต้องบอกว่าเราสองคนทรหดมากเลยนะ ที่อยู่กันมาได้ขนาดนี้ คบกัน 9ปี แต่งอีก 11ปี คบกันครึ่งชีวิต โคตรมันส์ รักกันไปแบบนี้ยาวๆนะลูก รักแมนนี่นะคะ" ขณะที่ "เอมี่ กลิ่นประทุม" ก็โพสต์ภาพควงสามีไปดินเนอร์หวานฉ่ำพร้อมข้อความว่า "It’s been a rollercoaster with you thank you for all you do honey Happy anniversary #9ปีคบกัน #11ปีแต่งงาน #20ปีจ้ะ #นานชิบหายจ้า"

งานนี้ทำเอาแฟนคลับแห่แซวในความหวานกันสนั่นไอจี Cr. ig : @ amy_klinpratoom @ siwat_c
#เอมี่กลิ่นประทุม #ซีเอมี่ #สยามดารา
ฮานา วริศยา แสวงการ คว้ามงอย่างสมศักดิ์ศรี มิสยูนิเวิร์สนครพนม 2025 สู่จักรวาล
เสน่ห์แห่งวัฒนธรรมและความฝัน กำลังเปล่งประกายบนเวทีนางงามไทยอีกครั้ง ด้วยการจัดประกวด Miss Universe Nakhon Phanom 2025 อย่างเป็นทางการ เพื่อเฟ้นหาสตรีผู้ทรงคุณค่า เป็นตัวแทนจังหวัดก้าวสู่เวทีระดับประเทศ Miss Universe Thailand 2025 และอาจไกลถึงเวทีจักรวาล การประกวดในปีนี้จัดขึ้นภายใต้แนวคิด “Age of Glory” – ยุคแห่งเกียรติยศ ที่มุ่งเน้นการสะท้อนภาพลักษณ์ของ ผู้หญิงยุคใหม่ ซึ่งมีทั้งความสง่างาม ความกล้าฝัน และศักยภาพในการเป็นผู้นำ โดยยังคงรักษารากเหง้าทางวัฒนธรรมและอัตลักษณ์แห่งนครพนม ถ่ายทอดออกมาอย่างร่วมสมัยและมีระดับระดับสากล

เบื้องหลังวิสัยทัศน์อันทรงพลังนี้ คือ คุณสนุ๊ก – นันทิช มานิตกุล Provincial Director หัวเรือใหญ่ของเวที Miss Universe Nakhon Phanom กล่าวต้อนรับผู้มีเกียรติที่มาร่วมงาน พร้อมเปิดตัวสาวงาม ทั้ง 13 สาวงาม พร้อมเปิดตัวคณะกรรมการ ต่อด้วยความร้อนระอุขึ้นกับรอบชุดว่ายน้ำที่สุดร้อนแรง ต่อด้วยรอบ Evening Gown และประกาศผลผู้ผ่านเข้ารอบ 7 คนสุดท้าย และตอบคำถามเดียวกัน กับคำถามที่ว่า ช่วงเวลาที่มีค่าที่สุดในชีวิตของคุณ คือเมื่อไหร่? ต่อด้วยประกาศผลผู้ผ่านเข้ารอบ 5 คนสุดท้าย

และช่วงเวทีแห่งความระทึกขวัญเขย่าหัวใจ รอบ TOP 5 โดย ... คนสุดท้ายได้แก่

รองอันดับ3 MUNPM12 โม-สุนิษา ผินกลับ
รองอันดับ4 MUNPM09 มุก - พฤกษชาติ ขันทอง บีบหัวใจกับรอบ TOP3 และประกาศผลรอบสุดท้าย รองอันดับ2 MUNPM11 เฌอแตม-นภัทรธมนฑ์ กัณฐัศว์พล รองอันดับ1MUNPM08 ดาศักดิ์ดา-ภริดา ทับทิมเพ็ชร
ซึ่งผลการตัดสิน Miss Universe Nakhon Phanom 2025 ได้แก่ ฮานา วริศยา แสวงการ ดีกรีนางแบบระดับโลก คว้ามง ในการประกวดครั้งนี้ เรียกว่าลุ้นกันสนั่นเวที จนคว้ามงกุฎอันทรงเกียรติ เป็นตัวแทนสาวงามจากจังหวัดนครพนม Miss Universe Nakhon Phanom 2025 ฮานา วริศยา ซึ่งจะเป็นอีกหนึ่งหน้าประวัติศาสตร์สำคัญของจังหวัดนครพนม บนเวทีใหญ่ระดับประเทศ Miss Universe Thailand 2025 ที่ไม่ได้เพียงยืนอยู่บนแผนที่แห่งความงาม แต่กำลังส่งแรงสั่นสะเทือนแห่งพลังหญิงไทยจากนครพนมสู่จักรวาล

#MissUniverseNakhonPhanom #MUNPM2025 #MissUniverseThailand #MissUniverseThailand2025 #MissUniverseNakhonPhanom2025 #มิสยูนิเวิร์สนครพนม2025 #AgeOfGlory
“หมอฟรัง นรีกุล” เตือน! กินผิดชีวิตพัง ล้วงคอนับแคลจนเครียด กว่าจะเข้าใจคำว่ากินดี
Woody World เปิดตัวรายการใหม่ Glow On podcast with Grace ปลดล็อกความเข้าใจผิดเรื่องการกิน เปลี่ยนสุขภาพให้ดี...ตั้งแต่คำแรก! รายการพอดแคสต์ใหม่ล่าสุดที่จะเปลี่ยนมุมมองของคุณที่มีต่อคำว่า “โภชนาการ” และ “สุขภาพ” ไปตลอดกาล พาคุณไปเปิดโลกของการกินแบบเข้าใจง่าย สนุก และใช้ได้จริงในชีวิตประจำวัน นำโดย เกรซ กาญจน์เกล้า ที่ไม่ได้มาแค่ในฐานะพิธีกร แต่คือผู้มีประสบการณ์ตรงกับการปรับเปลี่ยนการกินจนสุขภาพดีขึ้นอย่างยั่งยืน เธอจะพาคุณไปสำรวจพฤติกรรมที่เราอาจมองข้าม แต่ส่งผลกับร่างกายและใจมากกว่าที่คิด รายการนี้จะไม่บอกให้คุณ “ห้ามกิน” แต่จะชวนคุณ “เข้าใจการกิน” และอาจเปลี่ยนพฤติกรรมการกินของคุณไปตลอดกาล ประเดิม EP. แรกด้วยแขกรับเชิญ หมอฟรัง นรีกุล ที่จะมาบอกเคล็ดลับ เจาะลึกมุมมองใหม่ ๆ การกินดี อยู่ดี แบบ healthy ลดน้ำหนักให้ถูกวิธี กินผิดชีวิตพัง เคยล้วงคอ นับแคลจนเครียด กว่าจะเข้าใจคำว่ากินดี พร้อมเผยความลับของอาหารที่หลายคนไม่รู้มาก่อน

ตัวตนของ หมอฟรัง เป็นคนกินดีไหม?
หมอฟรัง : พยายามกินดีขึ้น หลัง ๆ ก็คอนเซิร์นมากขึ้น เราเรียนเรามีความรู้แต่ว่าชีวิตจริงกับความรู้มันไม่เหมือนกัน เคยมีช่วงนับแคล โปรตีนช่วงนี้นับกรัมอาจจะไม่ได้นับเป๊ะ ๆ แต่ว่าเหมือนเราแค่เอาให้มันถึง ทุกวันนี้ก็คือพยายามกินโปรตีนให้ครบแบบ 1 กรัมต่อกิโล มันต้องเข้ากับไลฟ์สไตล์เราได้ พยายามปรับให้กินผักเยอะขึ้น พยายามอยากใช้ชีวิตเหมือนเดิมแต่ว่าเราลงดีเทลลงไปในรายละเอียด เช่น จากข้าวขาวเราก็อาจจะเปลี่ยนเป็นข้าวแบบไม่ขัดสี อย่างเราเอาทฤษฎีของโอกินาวา เพราะว่าเขาแบบอายุยืน อาจจะใช้วิธีกินมันหวานแทนข้าวไหม กินปลาแทนแบบสัตว์เนื้อแดง ทำสิ่งที่มันไม่ยากกับชีวิตเราจนเกินไปมากกว่า

เป็นหมอ ทำงานหนักไหม กินข้าวเป็นเวลาไหม ?
หมอฟรัง : ถ้าอยู่ในโรงพยาบาล จะไม่ได้เป็นเวลามาก เพราะว่าบางทีตอนเช้าเราก็จะรีบ ๆ กินอะไรง่าย ๆ แล้วก็เข้าไป OPD บางทีก็เลิกช้าจนไม่มีเวลากินข้าวเที่ยง บางวันตอนเช้าก็จะเตรียมอาหารสำหรับตอนเที่ยงไว้ มันก็จะมีบ้างที่อาจจะกินไม่ตรงเวลา หลัง ๆ ก็จะจัดเวลาให้แบบชัดเจนมากขึ้น เหมือน Work-Life Balance เข้ามามีบทบาทมากขึ้น

เป็นหมอแล้วชีวิตการกินเปลี่ยนไปยังไงบ้าง ?
หมอฟรัง : ค่อย ๆ เปลี่ยนดีกว่า ก่อนหน้านี้จริง ๆ ก็พอรู้บ้างอย่างที่บอกว่าเคยนับแคล แต่ว่าเหมือนพอเราเรียน เราก็รู้มากขึ้นแหละว่า แบบ 300 แคลของการกินคุกกี้กับ 300 แคลของการกินข้าว 1 จาน แบบสลัด 1 จาน มันไม่เหมือนกัน คนไทยเริ่มรู้จักแคลมากขึ้น แต่อาจจะไม่ได้มองลึกไปกว่านั้นว่ามันมีโภชนาการอะไรบ้าง เราอยากให้มองลึกไปกว่านั้นมากกว่า เหมือนอยากให้มองอาหารเป็นยา

การกินที่ดีคืออะไร ?
หมอฟรัง : การกินที่ได้สารอาหารครบถ้วนหลากหลายและเข้ากับไลฟ์สไตล์เรา วันหนึ่งแคลเรากินได้จำกัด ซึ่งแคลอรี่ 1 แคลอรี่ หรือว่าแคลอรี่ที่กินเข้าไปมันควรเป็นแคลอรี่ที่มีประโยชน์ เป็นแคลอรี่ที่ได้สารอาหาร สารอาหารที่ดีคือการที่ได้อาหารที่ครบถ้วนในพลังงานที่เหมาะสมแล้วก็ตรงกับไลฟ์สไตล์ เรา

เรื่องการกินที่เข้าใจผิดมาตลอด ?
หมอฟรัง : ปกติบางทีตอนเช้าเราก็ทำ Fast (การอดอาหาร) บ้าง กินอีกทีคือ 11 โมงตอนเช้าก็กินแค่กาแฟ เราก็เคยได้ยินว่า Fast มันดี ก็เลยทำบ้าง บางทีก็เพราะไม่มีเวลาด้วย รีบ ๆ แต่เพิ่งไปฟัง Podcast ของ Dr. Stacy ที่เป็นหมอจาก Stanford เขาเรียนเรื่องผู้หญิงกับผู้ชาย เขาบอกว่าผู้ชายมีฮอร์โมนต่างกับผู้หญิง แต่ผู้หญิงมันจะไม่ดีถ้า Fast ตอนเช้า เพราะว่าตอนเช้ามี Cortisol ที่กำลัง Peak แล้ว Fast มันคือการทำให้ร่างกาย Stress อยู่แล้ว พอเจอ Cortisol เยอะมันก็ยิ่ง Stress มากขึ้น ทำให้ร่างกายแย่ลง แล้วก็ออกกำลังกายได้ไม่เต็มประสิทธิภาพด้วย

ทำ IF บ่อยไหม ?
หมอฟรัง : จริง ๆ ไม่ได้ตั้งใจจะทำ IF แต่แค่ไม่มีเวลาในตอนเช้า การกินเราก็ไม่ได้ดี 100% เป็นคนกินดึกบางทีไม่ได้หิวมากในตอนเช้า

เรื่องจุลินทรีย์ในลำไส้สำคัญแค่ไหน ?
หมอฟรัง : ช่วงนี้เรื่องจุลินทรีย์คนพูดถึงเยอะขึ้น ซึ่งก็ดีเลย เพราะก่อนหน้านี้หลายคนอาจจะละเลย เช่น เรื่องการกินโยเกิร์ต หรืออาหารที่มีพรีไบโอติก โปรไบโอติก โพสไบโอติก ซึ่งมันดีจริง ๆ เราเองก็เริ่มใส่ใจมากขึ้น เพราะอยากใช้ชีวิตให้ productive มีพลังงาน แล้วก็รู้สึกว่าแบบ หลายคนอาจยังไม่รู้ว่า ลำไส้เราเป็นเหมือนสมองที่สอง เพราะมันมีระบบที่เชื่อมกับสมอง เรียกว่า Gut-brain axis ถ้าใครอยากมีพลังงานดี อยากอารมณ์ดี ต้องดูแลลำไส้ให้ดี เพราะเรื่องการขับถ่ายสำคัญอย่ามองข้าม เรื่องผิวพรรณก็เกี่ยวข้องกันหมด

เรื่องความเข้าใจผิดเกี่ยวกับการกินอาหาร ?
หมอฟรัง : คนทั่วไปยังหลายคนยังไม่ค่อยรู้ เช่น ผลไม้ มักจะคิดว่าผลไม้คือ Healthy เช่น กินลำไยเป็นพวง ซึ่งจริง ๆ แล้วมันก็ยังคือน้ำตาลอยู่ดี เพราะแม้จะเป็นน้ำตาลจากธรรมชาติ แต่ก็ทำให้ Insulin Spike เบาหวาน หรือมีผลกับระดับน้ำตาลในเลือดได้ รวมถึงข้าวเหนียว หลายคนไม่รู้ว่าข้าวเหนียวน้ำตาลสูงกว่าข้าวปกติ อย่างข้าวขาวแนะนำให้เปลี่ยนมากินข้าวกล้องแทน อีกอย่างที่เจอบ่อยคือเรื่องปลาน้ำจืดดิบ โดยเฉพาะในภาคอีสาน พวกปลาร้า ปลาส้ม หรือปลาดิบที่ไม่ผ่านการปรุงสุก มันเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งท่อน้ำดี ซึ่งเป็นโรคที่เจอบ่อยในอีสาน เพราะมาจากอาหารพวกนี้เลย หลายคนอาจยังไม่มีทราบตรงนี้มากพอ

เคสคนไข้ที่มีภาวะ Eating Disorder (โรคกินอาหารผิดปกติ) ?
หมอฟรัง : Eating disorder เจอเยอะมากในวัยรุ่น แต่เปอร์เซ็นต์ที่มาหาหมอน้อยมาก อาจเป็นเพราะในไทยยังไม่ได้เปิดกว้างมากพอให้เด็กที่มีปัญหาแบบนี้กล้ามาปรึกษา แต่เดี๋ยวนี้ก็ค่อย ๆ มีมากขึ้น อย่างพวก Anorexia (โรคคลั่งผอม) ที่ออกกำลังกายหนัก ผอมมาก ไม่ยอมกินอาหาร แต่ก็ยังรู้สึกว่าตัวเองอ้วนอยู่ตลอดเวลา หรือ Bulimia (พฤติกรรมการกินผิดปกติ) จริง ๆ ฟังเองพอนึกย้อนกลับไป ก็เคยมีเหมือนกัน อาจยังไม่ถึงขั้นเป็น Eating disorder เต็มตัว แต่ก็เคยมีช่วงที่กินแล้วล้วงคอ เพราะรู้สึกว่าทำไมทุกคนผอมจัง เราก็เลยรู้สึกไม่โอเคกับตัวเอง กินแล้วล้วงคอ แต่มันก็แสบคอเพราะกรด มันกัดคอ และยังเพิ่มโอกาสความเสี่ยงเป็นมะเร็งด้วย

แนะนำวิธีการกิน ?
หมอฟรัง : แนะนำเป็นแนว Mediterranean Diet อาหารเมดิเตอร์เรเนียน เน้นอาหารแบบ Whole Food (อาหารที่ไม่ผ่านการแปรรูปหรือผ่านกระบวนการให้น้อยที่สุด) อย่างถั่วหลากหลายสี อาหารทะเล ซึ่งได้รับพิสูจน์แล้วว่าดี ทั้งช่วยเรื่องโรคหัวใจด้วย แล้วก็ผักเยอะใน 1 จาน คนไทยกินผักไม่พอรวมถึงตัวเราด้วย ซึ่งจริง ๆ แล้วควรทานผักให้ได้ประมาณ 5 portion ต่อวัน โดย 1 portion คือประมาณ 1 กำมือ

มีเรื่องสุขภาพอะไรที่อยากบอกต่อ ?
หมอฟรัง : การนอน คือ Basic เราไม่อยากเพิ่มอะไรที่ทำให้ชีวิตยุ่งยาก บางคนก็จะ Ice Bath คือรู้สึกว่าเราก็ไม่ได้มีเวลาขนาดนั้นจะเน้นทำสิ่งที่ Basic ให้ดีที่สุดก่อน เช่น พยายามนอนให้ได้อย่างน้อย 6 ชั่วโมงขึ้นไป จริง ๆ ควรจะนอน 7–9 ชั่วโมง การนอนเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ซึ่งหลาย ๆ คนมองข้าม โดยเฉพาะสำหรับคนที่ทำงานหนัก ๆ แล้วโดยรวมมันก็อยู่ในหลัก 6 เสาหลักของสุขภาพเลย คือ การนอน, การกิน, การออกกำลังกาย, หลีกเลี่ยงสารอันตราย, การมีปฏิสัมพันธ์ทางสังคม และการจัดการความเครียด เป็นสิ่งสำคัญ

สามารถติดตาม " Glow On podcast with Grace " ได้ที่ช่องทาง Facebook: Alive Dot , Youtube : Alive Dot
คลิกชมรายการย้อนหลัง : https://www.youtube.com/watch?v=B3XdaZsLiLY&ab_channel=Alivedot
“ต่อ ธนภพ” เปิดใจครั้งแรกถึงวินาทีที่ต้องเริ่มต้นใหม่ ผมเหมือนคนอกหัก! มรสุมชีวิตที่ต้องยืนคนเดียว
เปิดใจ ต่อ ธนภพ พูดครั้งแรก! ในรายการ WOODY INTERVIEW หลังค่ายนาดาวบางกอกปิดตัวลง ที่เป็นเสมือนบ้านที่หล่อหลอมมาตลอด รู้สึกเหมือนคนอกหัก! การเริ่มต้นใหม่ที่ต้องก้าวออกมายืนด้วยตัวเองเผชิญกับความท้าทาย ซึ่งเต็มไปด้วยรายละเอียดและปัญหาที่ไม่คาดคิด ผ่านมรสุมชีวิตจนเกือบจะท้อแท้

ช่วงนี้เป็นยังไงบ้าง ?
ต่อ ธนภพ : ช่วงนี้เป็นปีที่เริ่มต้นโปรเจคใหม่ และเป็นจุดเริ่มต้นของลุคนี้ในรอบ 12 ปีที่ผมไม่ได้กลับมาทำทรงผมบัซคัทเลย งานแรกที่ผมได้มีโอกาสได้ให้ผู้คนได้เห็นลุคนี้คืองานนาฏราชที่ผ่านมา พี่วู้ดดี้เป็นที่แรกที่ผมจะมาได้บอกแบบจริง ๆ ว่าผมกลับมากับลุคแบบนี้ด้วยโปรเจคการแสดงหนัง

เล่าถึงเบื้องหลังการเดินทางของงานที่เราอาจไม่รู้ ?
ต่อ ธนภพ : ผมเกิดมากับลุคนี้ที่เป็นที่รู้จักของทุกคนตั้งแต่ไผ่ฮอร์โมน ตลอด 10 ปีที่เราทำงานมาผมตั้งใจอยู่ตลอดว่า อยากหาโอกาสในการกลับมาลุคของไผ่ฮอร์โมนอีกครั้ง ผมรู้สึกว่าการเดินทางของตัวผมเองเราเดินทางมาไกลถึงจุดหนึ่ง หรือในวันที่เรารู้จักตัวเองมากขึ้น เช่น ยุคแรก ๆ ผมเป็นคนอยากลองทำไปหมดเพื่อให้ตัวเองรู้ว่าชอบอะไร จนผ่านช่วงเวลาเหล่านั้นมาตั้งแต่นาดาวยังไม่เปิดตัวลงอยู่ ๆ ก็มีความรู้สึกว่าอยากทำทรงนี้อีกครั้ง ตอนนั้นผมจำได้แม่นว่าพี่ย้งเคยพูดกับผมว่า ….ไม่ได้ต่อสิ่งนี้สำคัญกับยูมาก ๆ แล้วผมก็ถามกลับไปว่าแล้วเมื่อไหร่ถึงจะมีสัญญาณบอกผมว่าถึงเวลา เขาบอกผมว่าผมจะรู้ด้วยตัวของผมเองเมื่อผมโตขึ้น ซึ่งผมก็รู้สึกว่าตอนนี้แหล่ะ ผมก็บอกไม่ถูกว่าเหตุผลที่ผมยอมรับลุคนี้คืออะไร แต่ผมสัมผัสกับตัวเองได้ว่าถ้าอยากทำสิ่งนี้ก็ต้องทำตอนนี้เป็นตอนอื่นไม่ได้

ความรู้สึกของช่วงที่อยู่ในลุคของไผ่ฮอร์โมน ?
ต่อ ธนภพ : ประมาณ 3-4 ปีที่อยู่ในลุคของไผ่ฮอร์โมน ผมรู้สึกภูมิใจกับลุคนั้น แต่ยอมรับว่าช่วงนั้นเป็นช่วงเริ่มต้นผมปรับตัวไม่ทัน ที่อยู่ๆเด็กคนหนึ่งกับการที่มีคิวงานที่มหาศาล และชีวิตต้องรับผิดชอบมากขึ้น ก็มีช่วงที่รู้สึกไม่แน่ใจว่าเหนื่อยเกินไปไหม หรือจะไหวไหม ทุกอย่างที่ผ่านมาจนถึงวันนี้มาจากแพชชั่นที่ผมรักมันจริง ๆ อยากทำมัน ต่อให้รู้ว่าไม่ไหวเราก็ยังอยากทำต่อไป ทั้งหมดเป็นช่วงเวลาที่มีความสุข เพราะว่าผมเกิดมาในบ้านที่อบอุ่น ทุกคนดูแลกันแบบครอบครัว บ้านหลังนี้ที่มองทุกคนคือครอบครัว ไม่แบ่งกลุ่มให้เกิดชนชั้น กัน

ในวันที่นาดาวบางกอกต้องยุติลง ชีวิตเป็นยังไงหลังจากนั้น ?
ต่อ ธนภพ : เฮิร์ท ผมรู้สึกเหมือนคนอกหัก เราไม่ได้รู้สึกเจ็บแบบนี้นานมาก มันแย่ตรงที่ผมรู้เรื่องนี้ก่อน มันเหมือนสถานการณ์ที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก แล้วผมไม่เคยรู้สึกว่าค่ายที่อยู่มามันไม่ดี เพราะเขาเลี้ยงผมมาอย่างดี ผลักดันผมเต็มที่ และให้ประสบการณ์มากมายในวันที่ผมอยู่ในนั้น รวมถึงวันที่ผมต้องก้าวออกมาสู่โลกภายนอกด้วยขาของตัวเองจริง ๆ ถึงเพิ่งรู้ว่าสิ่งที่พี่ ๆ เขาให้เรามามันมากขนาดนี้เลยเหรอในแบบที่เราไม่รู้ตัว มันเลยเป็นช่วงที่ตอนนั้นผมไม่ยอมรับ วันที่ผมรู้ว่ามันจะไม่มี ไม่อยากให้ค่ายปิด ณ ตอนนั้นในมุมมองของเด็กตอนนั้นรู้สึกว่ามันไม่เห็นมีปัญหาอะไรเลย ปัญหาคืออะไร ช่วงนั้นเป็นหัวเลี้ยวหัวต่ออีกช่วงหนึ่งของชีวิต กำลังจะก้าวเข้าสู่ 30 จะเริ่มโตขึ้นแบบจริงๆ จำได้ว่าจุดที่ผมยอมรับคือตอนที่ได้ยินเหตุผลของพี่ย้งว่า เขารู้สึกว่าแพชชั่นของเขากำลังย้ายไปที่จุดอื่น ซึ่งสะท้อนกลับมาที่ตัวผมทันทีว่าผมก็เป็นมนุษย์แพชชั่น และทำทุกอย่างด้วยแพชชั่นมาตลอด เมื่อคนที่รักมากบอกว่าแพชชั่นเปลี่ยน ผมรู้สึกว่าเขาไม่เคยปฏิเสธแพชชั่นผม ผมก็ไม่มีสิทธิ์ไปก้าวก่ายแพชชั่นเขา จึงเริ่มยอมรับสิ่งนั้น และเป็นหนึ่งในศิลปินที่อยู่จนถึงวันสุดท้ายโดยไม่วิ่งหาที่อยู่ใหม่หรือพยายามเอาตัวรอด ผมแค่อยากอยู่กับพี่ ๆ จนถึงวินาทีสุดท้ายที่คำว่า "นาดาว" ใช้ไม่ได้อีกแล้ว

จุดที่ต้องหางานเอง ?
ต่อ ธนภพ : เคยได้ยินประโยคที่ว่าคนในอยากออก คนนอกอยากเข้าไหม ผมรู้สึกว่าทุกที่เป็นแบบนั้น การที่เราเป็นคนในจะชอบเห็นข้อเสีย คนนอกจะเห็นแต่ข้อดี มีจุดที่โตขึ้นเคยรู้สึกว่าการดูแลของค่ายทำแค่นี้เองเหรอ เราน่าจะทำเองได้ ไม่เห็นยากเลย นั่นเป็นวันที่เราไม่รู้ดีเทล ซึ่งในวงการมีดีเทลมากมาย แล้ววันที่ผมรู้ว่านาดาวยุติ ผมรู้ตัวว่าเราต้องโตแล้ว สิ่งที่เคยคิดว่าโตมาตลอด วันนี้มันไม่ใช่แค่คิด ความผูกพันกับบ้านหลังนี้มา ทำให้ผมเริ่มต้นตัวเองว่าจะเป็นฟรีแลนซ์ อยากลองเดินด้วยขาตัวเอง การที่จะหาคนดูแลหรือค่ายใหม่ก็ทำได้ แต่สิ่งที่ผมเลือกคืออยากให้ชีวิตนี้นาดาวเป็นเพียงค่ายเดียวของผม เขาคือรากฐานที่ฟูมฟักและเลี้ยงดูผมมา รู้สึกว่า 10 ปีตลอดการดูแลที่ผ่านมาควรจะมากพอสำหรับเด็กคนหนึ่งที่วันนี้เขาไม่ควรต้องพึ่งคนอื่น สิ่งที่ทำให้ผมเลือกคือการเปิดบริษัทเล็ก ๆ ดูแลตัวเอง ชวนพี่ที่สนิทและไว้ใจมาเป็นผู้จัดการส่วนตัว หาทีมออนไลน์เข้ามาช่วย ผมอยากลองใช้ชีวิตอีกแบบที่ต้องดูแลตัวเองจะเป็นยังไง

ช่วงแรกที่ออกมาจากนาดาว ? ต่อ ธนภพ : ต้องบอกว่าหนักครับ ปีแรก ๆ บ้ามาก คือผมไม่เคยคิดเลยว่ามันดีเทลขนาดนี้ ตอนแรกมีจุดกังวลว่าจะหางานจากไหน จะยังไงต่อ จะอยู่รอดได้ยังไง แต่สุดท้ายปัญหาที่คิดกลับไม่เกิดขึ้นเลย สิ่งที่เกิดขึ้นกลับเป็นสิ่งที่ไม่คาดคิด เช่น เมื่อก่อนอยู่กันคนเยอะ ไม่ต้องโฟกัสกันขนาดนั้น พอทีมเล็กลงจุดโฟกัสก็บีบ ทุกอย่างเข้มข้นขึ้น ปะทะทางความคิดกันง่ายขึ้น เมื่อก่อนถ้าผิดใจกับใครในค่ายที่มีคนเยอะ เรามีเวลาพักไปคุยกับคนอื่นได้ พักสติใดๆ แต่ตอนนี้ไม่มีปัญหาอะไรเกิดขึ้นต้องเคลียร์ให้จบ แล้วใช้เวลาเป็นปีในการปรับตัว กว่าจะเริ่มรู้ว่าเราขาดอะไร อะไรพอ อะไรไม่พอ มีช่วงที่ผมรู้สึกว่าท้อด้วยนะ มองว่าหรือมันหนักเกินไปสำหรับเรา หรือเราคิดง่ายไปว่าโตแล้วน่าจะไหว แต่จริง ๆ เราอาจจะไม่ไหวขนาดนั้นก็ได้ ท้อคือผมรู้สึกว่าปัญหาไม่หยุด พอเราไม่มีคนคอยเป็นแบ็คให้ขนาดนั้นก็โหวง ไม่ชิน คือความรู้สึกที่ไม่ได้คอมฟอร์ตขนาดนั้น พอเข้าสู่โหมดเอาตัวรอดตลอดเวลามันจะกังวลง่ายไปหมด พอเป็นอย่างนั้นทุกวันมันเหนื่อยมาก ๆ มีช่วงที่ผมรู้ตัวเองว่าผมอ่อนแอมาก จนรุ่นพี่หรือผู้ใหญ่เคยแนะนำว่าทุกอย่างที่เป็นการเริ่มต้นใหม่ สุดท้ายแล้วสิ่งที่สำคัญที่สุดอาจเป็นเรื่องของเวลา ผมก็ลองเชื่อ ปัญหาเข้ามาก็แก้ไม่เป็นไร แล้วพอมันผ่านไปรู้สึกว่าผมและทีมได้ยกเวท เราแข็งแรงขึ้น กล้าเผชิญมากขึ้น ผมได้ผ่านมรสุมชีวิตมาก็หลายครั้งจนรู้สึกว่าวันนี้เข้มแข็งขึ้น จนถึงจุดที่คิดว่านี่เป็นช่วงชีวิตที่ชิลที่สุด เวลาทำงานใด ๆ

ย้อนกลับไปเมื่อ 10 ปีที่แล้วที่เหนื่อยมาก จะบอกกับตัวเองว่าอะไร ?
ต่อ ธนภพ : คุณไม่ได้เดินผิดทาง และผมก็บอกไม่ได้ด้วยว่าคุณเดินถูกทาง แต่มันโชคดีมากที่คุณไม่หยุดเดิน

สิ่งที่เชื่อมั่น ?
ต่อ ธนภพ : ผมเชื่อมั่นในการอยู่กับปัจจุบัน แต่ก็ยังมองว่ามันเป็นสิ่งที่เราต้องฝึกไปเรื่อย ๆ เราไม่มีทางทำได้ ทั้งหมด

สามารถติดตาม WOODY INTERVIEW ได้ที่ช่องทาง Facebook: Woody , Youtube: Woody

คลิกชมย้อนหลัง : https://www.youtube.com/watch?v=0WpCMkhymkY&t=28s&ab_channel=WOODY
เปิดภาพล่าสุด น้องคุน-น้องจุน ลูกชาย “เคน-หน่อย” โตเป็นหนุ่มแล้ว
ยิ่งโตก็ยิ่งฉายความหล่อตามรอยคุณพ่อแบบสำเนาถูกต้องเป๊ะๆ สำหรับสองหนุ่มน้อย น้องคุน คุนนธรรมวัย 16 ปี กับ น้องจุน ธิปไตย วัย 14 ปี ลูกชายของ “หน่อย บุษกร” และ “เคน ธีรเดช วงศ์พัวพันธ์”

ล่าสุดคุณแม่ หน่อย บุษกร ก็ได้เผยภาพของ 3 หนุ่ม เคน ธีรเดช และน้องคุน-น้องจุน ที่ขณะทำกิจกรรมในวันพักผ่อนของครอบครัว เรียกว่าตอนนี้สองหนุ่มโตจนจะสูงเท่าคุณพ่อแล้ว ซึ่งโครงหน้าชัดเหมือนคุณแม่ และหล่อละมุนคล้ายคุณพ่อเอามากๆ

#หน่อยบุษกร #เคนธีรเดช #น้องคุน #น้องจุน #สยามดารา
“ดิว อริสรา” ปฏิเสธไลฟ์ขายของ-ยันขอฝึกก่อน ขอบคุณลูกค้าที่ติดต่อเข้ามา!!
ก่อนหน้านี้ นักแสดงสาว ดิว อริสรา ได้ออกมาไลฟ์ขายของ พร้อมเปิดใจถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น ยืนยันว่ากลับไทยแน่ ซึ่งยอดคนดูทะลุไปหลายหมื่นคน จากนั้น หมอของขวัญ ได้ออกมาโพสต์สเตตัส บอกว่าพร้อมจ่าย 1 ล้านบาท จ้าง #ดิวอริสรา ไลฟ์สด แต่ขอจ่ายให้ เมย์วาสนา เพื่อเคลียร์หนี้

ล่าสุด สาวดิว ได้ออกมาโพสต์ข้อความผ่านทางไอจีสตอรี่ บอกว่า ดิวขอขอบคุณทุกๆคนทุกๆกระแส และขอบคุณลูกค้าทุกๆท่านที่ติดต่อเข้ามาและพร้อมให้โอกาสดิว ในวันที่ดิวต้องการความช่วยเหลือ และกำลังใจแต่ด้วยความเป็นมือใหม่กลัวช่องโดนแบน ขอฝึกฝนและพัฒนาในด้านการ live ก่อน

บอกว่า ดิวขอขอบคุณทุกๆคนทุกๆกระแส และขอบคุณลูกค้าทุกๆท่านที่ติดต่อเข้ามาและพร้อมให้โอกาสดิว ในวันที่ดิวต้องการความช่วยเหลือ และกำลังใจ

ดิวขอขอบคุณจากใจจริงๆค่ะ แต่ด้วยความที่ดิวเป็นมือใหม่มากๆ ในการไลฟ์ และ ดิวกลัวทำได้ไม่ดีพอ กลัวช่องโดนแบน ดังนั้นในเวลานีดิวขอฝึกฝนและพัฒนาตัวเองก่อน ในด้านการ Live นะคะ บวกด้วย ณ ตอนนี้ดิวขอใช้การฝึกฝนของดิว เพื่อพัฒนาตัวเอง กับแบรนด์ Deewa ก่อน ในช่วงนี้ เพราะที่ผ่านมาเค้าโอบกอดดิว คอยช่วยเหลือ และอยู่ข้างดิว มาโดยตลอด เค้าไม่เคยทิ้งดิวจริงๆ

หากในระหว่างนี้ใครสนใจงานที่เป็นงานโพสต์ IG หรืองานอื่นๆ (เพราะในส่วนนี้ดิวพร้อมมากๆค่ะ) สามารถติดต่องานได้เลยที่ @due.manager ขอบคุณมากๆค่า

#ดิวอริสรา #ข่าวบันเทิง #สยามดารา
เกี่ยวก้อย ขวัญกวินท์ คลอดลูกคนที่ 2 แล้วตั้งชื่อ“น้องดวิน” น่าเอ็นดูมาก
ขอแสดงความยินดีกับนักแสดงสาวจากช่อง 7 “เกี่ยวก้อย ขวัญกวินท์ เกิดลาภผล” ที่ล่าสุด 25 มิ.ย. 68 ได้ออกมาแจ้งข่าวดีคลอดลูกชายคนที่ 2 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว พร้อมตั้งชื่อ "น้องดวิน" ที่มีความหมายดีสุดๆ ทั้งด้านคุณสามี ดนุ เกิดลาภผล ยังคอยอยู่ข้างให้กำลังใจไม่ห่าง

โดยเกี่ยวก้อยโพสต์ภาพ 3 คนพ่อแม่ลูกพร้อมกับแคปชั่นฝากตัวลูกชายของตัวเองกับพี่ป้าน้าอาเอาไว้ว่า "Welcome Baby Dawin สวัสดีค๊าบ ผมชื่อ น้องดวิน (Dawin) ด.ช. ดวินภัทร เกิดลาภผล มาจากคุณพ่อ ดนุ (Danu) และ คุณแม่ ขวัญกวินท์ (Kwankawin) มีความหมายว่าผู้มีชัยชนะที่ประเสริฐ Born 24/06/25 (38+1week) น้ำหนักขึ้นชก 3,162 Gram"

สยามดาราขอแสดงความยินดีด้วยอีกครั้งนะคะ

#เกี่ยวก้อย #ข่าวบันเทิง #สยามดารา
“นาเดีย” ภูมิใจเผยภาพ ”น้องนพ“ลูกชายลองชุดยูนิฟอร์มสุดเท่ห์ หลังสอบติดโรงเรียนดังที่อังกฤษ
เป็นอีกหนึ่งทายาทคนบันเทิงที่ยิ่งโตยิ่งฉายแววทั้งความหล่อและความสามารถรอบด้านสำหรับ น้องนพ-นพมงคล โสณกุล ณ อยุธยา ลูกชายคนโตวัย 13ปีของพิธีกรและนักแสดงคนเก่ง นาเดีย โสณกุล กับสามี ม.ล.อภิมงคล โสณกุล ที่ก่อนนี้”นาเดีย“ได้ออกมาเผยลูกชายสอบติด Harrow School ประเทศอังกฤษ ซึ่งเป็นหนึ่งในโรงเรียนชายล้วนที่มีชื่อเสียงระดับโลกโดย น้องนพ จะกลายเป็น Harrovian รุ่นที่ 4 ของตระกูล ต่อจากคุณพ่อ คุณปู่ และทวด ที่เคยเรียนที่นี่ ทำเอาปลื้มใจทั้ง ครอบครัว

ล่าสุด (24 มิถุนายน 2568) นาเดีย โสณกุล ได้ออกมาเผยภาพที่ควงคุณสามี ม.ล.อภิมงคล โสณกุล พา น้องนพ บินฟ้าลัดฟ้าไปเรียนต่อที่ประเทศอังกฤษเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยได้เผยภาพขณะลูกชายกำลังเลือกซื้อและลองชุดยูนิฟอร์มของ Harrow School UK ที่ต้องบอกเลยว่าหล่อเท่สุด ๆ ด้วยยูนิฟอร์มที่มีความคลาสสิกและเป็นเอกลักษณ์เฉพาะ ทั้งเสื้อสูท เสื้อโค้ท เครื่องแบบที่เต็มยศ หมวกปีก กว้าง

งานนี้ทำเอาคุณแม่นาเดีย ถึงกับออกปากว่า "ชุดนักเรียนโรงเรียนใหม่ ประมาณ 100 ชิ้น เยอะจนแม่งง"

#นาเดีย #ข่าวบันเทิง #สยามดารา
หนิง ปัทมา เคลียร์ชัด! เหตุผลสละมง MUT ชลบุรี2025
หลังจากก่อนหน้านี้เพจ มิสยูนิเวิร์สชลบุรี - Miss Universe Chon Buri ได้ออกมาประกาศข่าวสุดช็อกให้แฟนนางงามทราบว่านักร้องสาวคนดัง “หนิง ปัทมา ” ขอสละสิทธิ์ในการรับตำแหน่งมิสยูนิเวิร์สชลบุรี 2025 เนื่องจากไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ งานนี้ทำเอาแฟนๆ ต่างรู้สึกตกใจและเสียดายอย่างมาก

ล่าสุด 25 มิ.ย.68 หนิง ปัทมา ได้ออกมาโพสต์ข้อความพร้อมเผยเหตุผลที่ต้องสละสิทธิ์ บอกว่า หนิงขออนุญาตเรียนชี้แจงเกี่ยวกับการสละสิทธิ์จากการประกวด ด้วยเหตุผลที่ว่าในช่วงเวลาการเก็บตัว หนิงมีภาระงานคอนเสิร์ตและงานละครที่ได้รับไว้บ้างแล้ว ซึ่งทางทีมงานของหนิงได้พยายามอย่างสุดความสามารถในการประสานงานเพื่อปรับตารางเวลาและหาข้อตกลงร่วมกับผู้กำกับและผู้ว่าจ้างทุกฝ่าย แต่ด้วยข้อจำกัดและข้อผูกมัดที่ไม่สามารถเลื่อนวันได้ หนิงจึงมีความเห็นว่า การเปิดโอกาสให้ผู้เข้าประกวดท่านอื่นที่มีความพร้อม มีศักยภาพได้ก้าวขึ้นมารับหน้าที่อันทรงเกียรตินี้แทนจะเป็นการเหมาะสม ที่สุด

ท้ายที่สุดนี้ หนิงขอกราบขอบพระคุณ คุณณวัฒน์ อิสรไกรศีล, กองประกวด, ทีม PD, แอดมินเพจต่างๆ, ผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่าย, ผู้สนับสนุนทุกท่าน รวมถึงกำลังใจอันอบอุ่นจากด้อมและแฟนเพลงทุกท่าน ที่ล้วนมีบทบาทสำคัญในการประกวดครั้งนี้ และที่สำคัญที่สุดคือการมอบโอกาสให้หนิงได้มาพิสูจน์ตัวเองบนเวทีอันทรงเกียรตินี้ หากมีโอกาสในอนาคต หนิงขอกลับไปพัฒนาในทุกๆด้านให้ดียิ่งขึ้น รวมถึงปฎิบัติให้ตรงกับบริบทนั้นๆ และนำเสนอผลงานใหม่ๆ ไม่ว่าจะเป็นงานเพลง งานละคร ขอให้ทุกท่านติดตามและเป็นกำลังใจให้ด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ #หนิงปัทมา #หนิงปัทมา #ข่าวบันเทิง #สยามดารา #ข่าวนางงาม
หมอของขวัญ ประกาศจ้าง ดิว อริสรา 1 ล้าน แต่ขอจ่ายตรง“เมย์ วาสนา”เพื่อช่วยเคลียร์หนี้!
หลังจากที่ ดิว อริสรา ออกมาไลฟ์เปิดใจทั้งน้ำตาขอโทษกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น ไม่มีอะไรจะแก้ตัว ยืนยันว่าไม่ได้หนีไปไหน แค่ถอยออกมาตั้งหลัก อีกทั้งบอกว่ายังไงก็จะกลับไทยเพราะที่ไทยเป็นบ้านของดิว พร้อมยืนยันว่า ทุกๆ คนที่ดิวเป็นหนี้ ทุกคนจะได้รับเงินคืนรับผิดชอบทุกอย่าง ขอโอกาสจากทุกคน ให้โอกาสได้ทำงานมีเงินใช้หนี้

ล่าสุด 26 มิ.ย 68 หมอของขวัญ ฟูจิตนิรันดร์ เจ้าของคลินิกความงามชื่อดัง ก็ได้โพสต์ประกาศจ้าง ดิว อริสรา 1 ล้านบาท แต่มีเงื่อนไข โดยบอกว่า “ประกาศจ้าง ดิว อริสรา ไลฟ์ขายของ 1 ล้านบาท พร้อมจ่าย แต่ขอจ่ายให้ “เมย์ วาสนา” โดยตรงเพื่อเคลียร์หนี้ อยากเห็นความตั้งใจใช้หนี้ สังคมถึงจะเห็นใจ ต้องเป็นลูกหนี้ที่ดีด้วย ไม่ใช่แค่น้ำตากับน้ำลาย”

อีกทั้งคอมเมนต์เพิ่มเติมใต้โพสต์ อาทิ ก่อนอื่นช่วยตอบแชทชั้นก่อน, ถ้าตั้งใจเคลียร์จริง ตอบแชทชั้นด้วยจ้า, อันนี้ผ่านการคุยกับเมย์มาแล้วนะคะ ไม่ได้ทำโดยพละการ, ค่าปักตะกร้า 15% อันนี้ไม่หักนะคะ เอาไว้ใช้จ่าย ไม่รวมกับค่าจ้างไลฟ์ 1 ล้าน

#ดิวอริสรา #หมอของขวัญ #ข่าวบันเทิง #สยามดารา
“อีส อีสานพาสวบ” เปิดเมนูเด็ดที่แม้แต่ “แบมแบม-มาร์คต้วน” ยังอยากกิน!
สายแซ่บต้องร้องว้าว! สำหรับรายการ “เกิดมาเว่า” สัปดาห์นี้ที่พามาเปิดเรื่องราว "อีส อีสานพาสวบ" อินฟลูเอนเซอร์สายกินชื่อดัง จากเด็กร้อยเอ็ดผู้สู้ชีวิต ทำงานหน้าห้องน้ำ ดูแลผู้ป่วยในโรงพยาบาล สู่การเป็นเจ้าของธุรกิจร้านอาหารอีสานชื่อดัง พร้อมเปิดเมนูเด็ดที่แม้แต่ “แบมแบม-มาร์คต้วน” ยังอยากกิน

เป็นคนจังหวัดอะไร ?
อีส อีสานพาสวบ : ผมมาจากร้อยเอ็ดครับ

ชีวิตในอดีตกว่าจะมาเป็นอีสานพาสวบ ?
อีส อีสานพาสวบ : ตอนแรกก็เป็นเด็กน้อยที่อยู่บ้านนอกคนหนึ่งที่อยากได้เงินอยากได้งานเร็ว ๆ หาเงินช่วงเสาร์อาทิตย์ ทำทุกอย่างที่มีให้ทำ ตัดอ้อย ขุดมัน ทำนา หาปู ทำไปเรื่อย ๆ ชีวิตไม่ได้หาเช้ากินค่ำแต่คือ การที่หาตอนไหนคือได้กินตอนนั้นวนเวียนแบบนั้น ไม่เคยคิดถึงเรื่องอนาคตปล่อยให้มันเป็นไปทำทุกอย่าง

ก่อนหน้านี้เคยทำงานเก็บเงินหน้าห้องน้ำ ล้างส้วม จริงไหม ?
อีส อีสานพาสวบ : ครับ มันเป็นชีวิตตอนเด็ก ๆ ที่เข้ามาทำงานในกรุงเทพฯ ช่วงแรก ๆ อายุ 11-12 ปี ไปทำงานอยู่บางกวย ได้วันละ 50 บาทสู้ต่ออีกพักหนึ่งก็มาเฝ้าห้องน้ำที่บางขุนเทียนเฝ้าห้องน้ำเก็บเงินค่าเข้า 2 บาท 5 บาท ล้างห้องน้ำ ถามว่าลำบากไหมมันก็ลำบากแต่เราต้อง ยอมรับ

เป็นมายังไงถึงได้มาทำคลิป จุดเปลี่ยนคืออะไร ?
อีส อีสานพาสวบ : ผมเรียน ม.6 สอบติดวิศวะที่มหาวิทยาลัยมหาสารคาม แต่ไม่ได้เรียนเพราะที่บ้านไม่มีเงินส่ง ถ้าเรายืมทุนไปเรื่อย ๆ คงเป็นหนี้เยอะ แล้วมันมีโรงเรียนบริบาล (ผู้ช่วยพยาบาล) เขามาแนะแนวก็ไปทำงานอยู่โรงพยาบาลผมก็ไปทำงานอยู่วอร์ดคนป่วย เป็นช่วงฝึกงาน ทำงานวันแรกก็มีคนเสียชีวิตเลย เราไม่กลัวเพราะมันเป็นอาชีพของเรา บางคนมาเที่ยงเสียตอนบ่ายก็มี ชีวิตคนเรามันไม่แน่นอนจริง ๆ ครับ เราก็อาบน้ำคนไข้ ให้อาหารทางสายยาง สำหรับผู้สูงอายุที่เจาะคอทำให้ทุกอย่าง หลังจากนั้นก็ได้ทำงานจริงครับทำงานในห้องผ่าตัดก็จะมีแบบว่าผ่าคลอด ผ่าไส้ติ่ง และ ผ่าสมอง ที่ออกโรงพยาบาลก็คือ กลัวเคสผ่าสมอง เพราะหมอดุ เครื่องมือยากมาก ไม่อยากเจอจริง ๆ ดึก ๆ มาอยู่เวรแล้วมีเคสผ่าสมอง เราก็ต้องมาผ่า บุคลากรทางการแพทย์ไม่มีวันหยุดที่แน่นอน ไม่มีเทศกาล เหตุด่วน เหตุอะไรก็ต้องวิ่ง ต่อมาเราก็ออกมาทำงานที่คลินิกเสริมความงาม

เคยโดนดูถูกยังไงบ้าง ?
อีส อีสานพาสวบ : เขาพูดดูถูกคนบ้านนอกว่า "คนบ้านนอกกลับบ้านแล้วอย่ากลับมากรุงเทพฯ อีกนะ ทำให้กรุงเทพฯ รถติด ทำให้เสียอากาศ" เป็นโพสต์แรกที่เราให้เห็นสมัย Facebook ดังใหม่ ๆ ตอนนั้นผมเล่นปกติธรรมดา ไม่เคยลงคลิปเลยครับ วันนั้นไปสักลายมาใหม่เลยถ่ายลงแล้วก็ได้ยินเสียงแจ้งเตือนจากโทรศัพท์ คนแชร์เยอะ มาก

พอคลิปดังแล้วทำยังไงต่อ ?
อีส อีสานพาสวบ : พอมีชื่อเสียงก็มีคนเข้าหา มีรายการประกวดคนไทยที่หน้าเหมือนแขก ผมอยากทำสิ่งใหม่ ๆ อะไรเข้ามาก็รับ ๆ ไว้ แต่ลองทำให้เต็มที่ก่อนก็เลยได้อันดับที่ 3 พอเริ่มมีแสงส่องถึง ผมก็เริ่มอยากทำไปเรือย ๆ ไลฟ์สดฟ้อนเต้นร้องเพลงให้คนดูตั้งชื่อว่ารายการ "อีสานพาม่วน" อยากเป็นนักร้อง แต่งเองร้องเองก็มี พอเริ่มดังก็เลยรู้จัก ก้อง ห้วยไร่ กับ เบิ้ล ปทุมราช ก็เลยได้ไปเล่นหนังด้วยกัน ก้องห้วยไร่ก็ชวนมาทำเพลงทำไปทำมามันไม่ใช่ทางของเรา ทางของเราก็คือ "กิน" ตั้งชื่อรายการอาหารจะทำยังไงให้พูดชื่อนี้แล้วรู้จักเลยว่าคนนี้เป็นใครเลยได้ชื่อ อีสานพาสวบ มาจากเด็กน้อยหมาไล่สวบไปดูหนังตอนกลางคืนวิ่งหนีหมาไล่สวบแต่ผมวิ่งเร็วเจ้าของก็กัดคำใหญ่ กินแซ่บ เป็นที่มา ของชื่อ

ทำไมถึงบอกว่าเข้าวงการอากาเซ่ (ชื่อแฟนคลับGOT7) ?
อีส อีสานพาสวบ : ผมไม่รู้จักแบมแบมมาก่อน ผมไลฟ์สดในไอจีแล้วแบมแบมมาคอมเมนต์ว่า "พี่ ผมชอบพี่มากเลย ผมอยากกินหอยแครงพี่ แล้วก็บอกพี่มาร์คก็อยากกิน" ผมก็สงสัยว่าใครคือแบมแบม ตอนนี้รู้จักแล้วครับ อากาเซแฟนคลับก็บอกว่า "โห ทำไมพี่มีแต้มบุญเยอะจังเลย" ผมก็ไม่รู้จักอะไร ผมก็บอก ….อ๋อ อยากกินเหรอครับแบมแบม เดี๋ยวพี่ไปทำให้กินได้ แต่ทางนั้นต้องเตรียมให้ ผมไม่ขนไป ผมพูดแบบนี้เลยครับ เพราะตอนนั้นเรายังไม่รู้จักตั้งแต่ดังใหม่ ๆ ปี 2560 นู่นเลยครับ หลังจากนั้นก็ติดตามกันมาเรื่อย ๆ จนได้เจอกันที่งานคอนเสิร์ตแบมแบมก็ประกาศบนเวทีเลยว่า …วันนี้ผมมีเซอร์ไพรส์ ความฝันผมทำสำเร็จแล้ว วันนี้พี่อีสอีสานพาสวบจะมาตำให้ผมกินที่โรงแรมครับ วันนี้ผมเซอร์ไพรส์พี่มาร์คด้วยครับ พี่มาร์คชอบหอยแครง คนก็กรี๊ด ผมขนหัวลุกเลย

เปิดร้านส้มตำแบบนี้ มันเคยมีคนสกัดดาวรุ่งไหม ?
อีส อีสานพาสวบ : มีครับ แซ่บขนาดไหนก็ว่าไม่อร่อย คือมานั่งกินแบบว่า ทำอร่อยขนาดไหนก็บอกว่า เค็มไม่สะอาด ร้านมีแต่ฝุ่น ร้านไม่มีที่จอดรถมันก็มีครับ ล่าสุดก็คือ กระดาษทิชชูในต้มแซ่บ ที่เป็นข่าวทั่วประเทศ ผมมีคลิปวงจรปิดที่ผมไม่ลบครับ มีผู้หญิงก็ตักต้มแซ่บไป 2-3 รอบ ตักแล้วก็ถ่าย มันผิดปกติไหมครับ ถ่ายเสร็จแล้วก็ดูคลิปตักแล้วก็ถ่าย กินพออิ่มแล้วผู้ชายก็เอากระดาษทิชชูมาเช็ดปาก พอเช็ดเสร็จก็วางแปะไว้ พอจะเปิดต้มแซ่บให้ถ่ายรูปอีกก็เลยเอาฝาหม้องุ้มลงไปในทิชชูแล้วก็เอาไปปิดฝาใหม่มันก็เปื่อยไปในต้มแซ่บ วันนั้นผมกำลังกวาดพื้นอยู่ลูกค้าเรียกผมก็นึกว่าเขาเรียกไปถ่ายรูป เขาบอกว่า "ไม่ได้เรียกมาถ่ายรูปค่ะ นี่ค่ะ พี่ว่ากระดาษทิชชูไหมคะ" ผมก็ขยี้ ๆ ดู มันก็เป็นกระดาษทิชชู ไม่รู้ใช้แล้วหรือเปล่าเขาก็หน้าเสียความรู้สึกเลย "มากินหลายครั้งแล้วนะ เป็นแบบนี้ได้ยังไง สกปรกแท้" แล้วก็วิ่งหนีไปเลยครับ เราก็เลยไปงัดหลักฐานออกมาเปิดกล้องวงจรปิดเลย ฝาหม้ออุ้มกระดาษทิชชูมาตกในต้มแซ่บเป็นที่มาของต้มแซ่บกระดาษทิชชู หลังจากนั้นเขาก็หายไปเลยครับ ไม่ขอโทษด้วย

พอเราทำคลิปแบบนี้ อะไรคือความสนุกของคลิปที่ทำ ?
อีส อีสานพาสวบ : ความสนุกของเราก็คือมีคนดู มันไม่ได้ดังแค่ในประเทศไทยแต่สามารถสร้างชื่อเสียงของเราไปต่างประเทศได้ มี FC ต่างประเทศด้วยใน IG 80% จะเป็นฝั่งอินโดนีเซีย เขาบินมาเอาปลาร้าไปขายที่ต่างประเทศด้วยครับ

เสน่ห์ของความเป็นอีสานคืออะไร ?
อีส อีสานพาสวบ : เสน่ห์ของความเป็นอีสานก็คือ "มักม่วน" (ชอบสนุก) ครับ กินข้าวแซ่บ คนอีสานเป็นคนมีน้ำใจด้วยครับ

สามารถติดตาม “เกิดมาเว่า” ได้ที่ช่องทาง Facebook: WE DO , Youtube: WE DO วันอังคาร เวลา 18.00 น.
คลิกชมคลิปย้อนหลัง : https://www.youtube.com/watch?v=PSf4JgbiV20&t=56s&ab_channel=WEDO
"เสี่ยโบ๊ท" โพสต์ซึ้งถึงลูกสาว พ่อพบกับรักแท้รักที่ไม่มีเงื่อนไข พร้อมเฉลยชื่อเล่นสุดน่ารัก
เรียกว่าสมการรอคอยขึ้นแท่นเป็นคุณพ่อ-คุณแม่ป้ายแดง สำหรับนักแสดง พราวฟ้า การัญชิดา ภรรยาคนสวยของ เสี่ยโบ๊ท ณัฐเดช เจ้าของค่ายมวยชื่อดัง หลังได้คลอดลูกสาวทายาทคนแรกของครอบครัว ไปเมื่อวันที่ (21 มิ.ย. 68) ที่ผ่านมา

ล่าสุด เสี่ยโบ๊ท-พราวฟ้า ก็ได้เฉลยชื่อลูกสาวแล้ว ตั้งชื่อเด็กหญิง พลอยครินทร์ วชิรรัตนวงศ์ และชื่อเล่นที่ไม่ซ้ำใครว่า "นช่า"

ซึ่ง เสี่ยโบ๊ท ได้โพสต์ภาพครอบครัวและความน่ารักของลูกสาวฃ และยังได้เขียนข้อความสุดซึ้งถึงลูกสาวไว้ด้วยว่า "21 มิถุนายน 2568 คือวันที่พ่อได้พบกับรักแท้รักที่ไม่มีเงื่อนไข ไม่มีข้อแม้ และไม่มีวันสิ้นสุด ด.ญ.พลอยครินทร์ วชิรรัตนวงศ์ — หรือนช่าของพ่อ หนูเป็นสาวน้อยตัวจิ๋ว ที่เข้ามาเปลี่ยนโลกของพ่อให้สดใสอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนเสียงร้องไห้ครั้งแรกของเธอ ทำให้พ่อเข้าใจทันทีว่าชีวิตนี้… พ่อจะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป

พ่อเคยฝัน เคยสู้ เคยล้มแต่วันนี้พ่อมีอีกหนึ่งเหตุผลที่จะลุกขึ้นมาใหม่เสมอนั่นคือ “ลูก” ตั้งแต่นี้และตลอดไป
พ่อสัญญาว่าจะปกป้อง ดูแล และรักลูกสุดหัวใจ
ไม่ว่าจะต้องเจออะไร… ลูกจะไม่มีวันเดินลำพัง รักที่สุดในชีวิต พ่อของนช่า

#เสี่ยโบ๊ท #สยามดารา #ข่าวบันเทิง #พราวฟ้า
"ป๋อ ณัฐวุฒิ" โพสต์ซึ้งชม "เอ๋ พรทิพย์" เก่งมากสู้กับโรคร้ายมาตลอด 1 เดือน ลั่นถึงคนที่สาปแช่งขออโหสิกรรมให้
หลังจากที่ ป๋อ ณัฐวุฒิ ตัดสินใจออกมาเปิดเผยเรื่องราวที่ “เอ๋ พรทิพย์” ภรรยา ป่วยเป็นมะเร็งปอด หลังไปตรวจสุขภาพแล้วพบก้อนเนื้อ จนกระทั่งได้เข้าผ่าตัด สำเร็จแล้ว

ล่าสุด(25 มิ.ย. 2568) "ป๋อ" ออกมาโพสต์ซึ้งกินใจผ่านโซเชียลส่วนตัวถึง”เอ๋ ภรรยาสุดที่รักว่า "1เดือน!!! แม่เอ๋เก่งมากๆนะ หนึ่งเดือนที่แล้ว พี่ยังจำภาพเอ๋ ร้องไห้บนรถตู้ ร้องไห้ทุกคืนหลังเอาลูกนอนแล้ว ความกังวลที่มีลูกยังเล็ก ความกลัวที่จะต้องจบชีวิตลงจากโรคร้าย ความตกใจที่ไม่คิดว่าโรคร้ายจะมาถึงได้เร็วขนาดนี้ ทุกสิ่งทุกอย่างมันรุมเราสองคนมาตลอด งง มืด 8 ด้าน ทำอะไรไม่ถูก"

"จากเป็นผู้หญิงที่รักสวยรักงาม ทาครีมเจ็ดแปดตัวที่ผิวทุกวันทุกคืน มาวันนี้บาดแผลเต็มตัว พี่รู้เลยว่าเอ๋ต้องใช้ความกล้าขนาดไหนเพื่อที่จะก้าวข้ามมัน แผลเป็นนี้จะเป็นเรื่องราวที่สอนเราได้ดี ว่าความสุขความทุกข์ความเป็นความตายนั้นอยู่ใกล้กันมาก อยู่ที่ว่าเราเลือกจะมองสิ่งนั้น อย่างไร"

"ขอบคุณสวรรค์ ที่ให้โอกาสเอ๋อีกครั้ง ในการที่จะยังมีชีวิตอยู่ ถึงแม้จะมีคำสาปแช่งมากมายจากผู้ไม่รู้ คำด่าทอจากผู้ที่เข้าใจผิด คำเสียดสีผู้ที่เกลียดชัง ผู้ที่ไม่ชอบ ไม่ว่าจะตั้งใจหรือไม่ตั้งใจเรา2คนให้อภัยหมดนะครับ เราไม่โกรธพวกคุณเลย เรารู้สึกแต่เราไม่โกรธ เราไม่เกลียด เราให้อภัยพวกคุณทั้งหมด อโหสิกรรมให้ทั้งหมด เราขอโอกาสแค่เดินต่อไป ใช้ชีวิตต่อไปในรูปแบบของเรา ดูแลลูกอีกสองคนให้ดีที่สุดด้วยความสามารถที่เรามี เท่านั้นก็น่าจะพอแล้ว #ขอให้ทุกคนมีสุขสุภาพแข็งแรงนะครับ"

#สยามดารา #ป๋อณัฐวุฒิ #ข่าวบันเทิง #เอ๋พรทิพย์
“ณเดชน์” เผยฤกษ์แต่ง “ญาญ่า” ปี 2025 จัดงาน3รอบเหมือนคู่ “หมาก-คิม”
เก็บเกี่ยวโมเมนต์งานแต่งเพื่อนรัก “หมาก ปริญ สุภารัตน์” และ “คิมเบอร์ลี่ แอน โวลเทมัส” มาแน่นสำหรับพระเอกหนุ่ม ณเดชน์ คูกิมิยะ” ที่ล่าสุดเจ้าตัวก็ขอมาเล่าโมเมนต์ที่ได้ไปร่วมงานแต่งเพื่อนพร้อมเผยฤกษ์แต่งของคู่ตัวเองกับหวานใจสาว “ญาญ่า อุรัสยา” ที่จะมีขึ้นในปี2025

โดย “หนุ่มณเดชน์” ได้เล่าว่า “เป็นงานแต่งที่มีความสุขมาก ยินดีกับทุกอย่าง มีแต่ความสุขจากทุกคนที่ไปงาน โดยเฉพาะคู่บ่าวสาว และก่อนหน้าวันแต่งจริงคือฝนตกทุกวัน พอมาถึงวันแต่งไม่รู้ หมาก-คิมไปบนอะไร แดดออกเปรี้ยงเลยคือดีใจมากก่อนหน้านั้นเราต้องแพลนทุก ช่วยญาญ่า เพราะเขาก็เป็นมือขวาของคิม ซึ่งเราก็พยายามจะจัดการทุกอย่าง และจัดการแทนเขา เพื่อไม่ให้คิมกับหมากต้องมาเครียดหน้างาน ซึ่งทุกอย่างก็ออกมาได้ดี

อย่างนึงสถานที่ที่หมากคิมแต่งเป็นที่ที่โรแมนติกมาก เราก็รู้สึกดีใจว่าถ้าพวกเขาไม่ได้มาที่นี่ เราก็คงไม่มีโอกาสได้มา เพราะเราเองก็เหมือนได้ไปพักผ่อน ได้ไปใช้เวลาด้วยกันจริงๆ เป็นโมเมนต์ที่เราชอบด้วย

ส่วนที่มีภาพจุ๊บไหล่แฟนสาว “หนุ่มณเดชน์” ยืดอกรับหวานแข่งคู่บ่าว-สาว พอมีเวลาช่วงว่างจากการจัดงานเลยได้ใช้เวลาด้วยกัน ก็ต้องมีหวานกันบ้างเพราะที่นั้นบรรยากาศดี ก่อนเล่าอีกว่าช่วงที่ไปงานวิวาห์เพื่อนรัก เลยถือโอกาสฉลองครบรอบ 12 ปี กับ “ญาญ่า” ได้เที่ยวกันในช่วงจัดงานเสร็จ มีเพียงทานข้าวกัน ล่องเรือทุกวันเพราะราคาการเดินทางถูกกว่าแท็กซี่ ส่วนที่ญาญ่ารีเควส 7 รูปในฝัน ตนมั่นใจได้ครบตามที่ต้องการ ก็พยายามถ่ายให้ออกมาสวยสำหรับตน แต่สวยสำหรับเขาหรือเปล่าไม่รู้

มีโมเมนต์ดีๆ กับ “ญาญ่า” ด้วย ส่วนเรื่องถ่ายรป 7 รูป ณเดชน์เผยว่า ก็พยายามมากๆ ในการถ่ายรูปให้กับแฟนของตน เขาก็บอกว่าอยากได้รูปแบบนี้ๆ นะ เราก็ถ่ายๆ ก็คงถูกใจเขาในระดับหนึ่ง เราต้องมีความพยายามในการทำให้เขาถูกใจ เมื่อไหร่ที่เขาถูกใจ เราก็จะรู้สึกว่าเราทำหน้าที่ได้ดีที่สุดแล้ว ก็ภูมิใจในตัวเอง เรื่องการถ่ายรูปไม่เคยมีงอนกัน แต่เป็นฟิลตลกมากกว่า ในความหมายของคำว่า 7 รูปของญาญ่า เป็นเพราะว่าเขาไปงานแต่ของเพื่อนและอยากจะโพสต์รูปลง 7 รูปเขาก็เตรียมเสื้อผ้าไป เขาก็อยากถ่ายสวยๆ ของเขาแต่ผมว่าตอนนี้ยังไม่ครบ 7 แต่มีรูปที่คอมพลีสคือ รูปชนหน้าผากกับคิม รูปเดี่ยว รูปคู่ แต่เขาก็แฮปปี้ 

ส่วนงานแต่งงานของตัวเองกับแฟนสาว ที่ “ญาญ่า” บอกอาจไปจัดปี 2025 นั้น “ณเดชน์” กล่าว่า ก็ตามที่ฝ่ายหญิงบอก เพราะตนตามใจตามที่เขาต้องการเพราะยังมีเรื่องงานที่ต้องจัดการและรายละเอียดงานเยอะ ก็มีแพลนว่า เชิญใคร มีงานที่ไหนบ้าง เดือนไหน โรงแรมอะไร พาพ่อแม่ไปยังไง ก็มีคุยๆ ไว้บ้างแล้ว ส่วนจะจัด 3 รอบเหมือนคู่ “หมาก-คิม” หรือเปล่า ก็คาดว่าจัดเหมือนกัน ตอนนี้มีฤกษ์เยอะมากต้องยึดตามความเชื่อขอฤกษ์ที่ดีที่สุดพร้อมทั้งทิ้งท้ายว่างานแต่งตนขอให้ “หมาก-คิม” มาช่วยเป็นแม่งานต่อ”

Cr. ig : @kugimiyas
#ณเดชน์ญาญ่า #ณเดชน์ #ญาญ่า #siamdara #สยามดารา #ข่าวบันเทิง
คู่นี้ยังไง? “แจ็คกี้” เปิดรูปหวานฉลองวันเกิด “ปอ” ทำใจว้าวุ่นเลย
ฟีลแฟนเวอร์ สำหรับคู่ของนักแสดงสาวอารมณ์ดี แจ็คกี้ ชาเคอลีน มึ้นช์ และนักร้อง-พิธีกรหนุ่ม ปอ อรรณพ ทองบริสุทธิ์ ที่ก่อนหน้านี้ทั้งคู่โดนจับจิ้นหนัก หลังเคยมีภาพร่วมเฟรมในทริปเที่ยวเกาหลีสุดหวาน

ล่าสุดเมื่อวานนี้ 27 ก.ย. เป็นวันคล้ายวันเกิดของ “ปอ” ที่อายุ 30 ปีบริบูรณ์แล้ว งานนี้เพื่อนชี้ “แจ็คกี้” เลยได้ถือโอกาสแฮปปี้เบิร์ดเดย์โพสต์ภาพคู่แนบชิดลงในไอจี พร้อมเขียนแคปชั่นอวยพรวันเกิดว่า “หนีกันไม่พ้นมีอยู่จริงจ่ะ มีความสุขมากๆพบเจอแต่สิ่งดีๆน๊าาา ไม่ต้องเป่าเค้กคนเดียวนะหนูวววว เตรียมไว้แล้วว แค่รอนิสเดียวววว โอ้ยเอ็นดูววว @por_unnop”

ด้าน “ปอ” ก็เข้าคอมเมนต์ทันทีว่า “อ่าาาาาาาา ลงแบบนี้ พี่ก็ว่าวุ้น น้าาาาาาา” ด้าน “แจ็คกี้” ก็ตอบกลับไปว่า “@por_unnop ว้าาาวุ่นจ่ะ หนูวววพักกก!!!”

Cr. ig : @jackie_jacqueline
#แจ๊คกี้ชาเคอรีน #แม่น้องบอง #แจ๊คกี้ #ปออรรณนพ   #ข่าวบันเทิง #ข่าวดารา #siamdara
“แพรรี่ ไพรวัลย์” โต้ลาวงการ เพราะขาลง!?
หลังจากทำเหล่าแฟนคลับพากันใจหาย เมื่ออินฟลู-พิธีกรคนดัง “แพรรี่-ไพรวัลย์ วรรณบุตร” ประกาศเตรียมยุติบทบาทหน้าจอสิ้นปีนี้ ซึ่งจะขอไปทำตามความฝันของตัวเองตามที่ตั้งใจ แต่ไม่วายเจอชาวเน็ตขาเมาท์คอมเมนท์แซะบอกว่าเป็นแค่คอนเทนต์เรียกกระแสหรือเปล่า ล่าสุดเมื่อวันที่ 27 ก.ย 66 “แพรรี่” ได้เปิดใจถึงสาเหตุอำลาวงการผ่านรายการ “คนดังนั่งเคลียร์” ทางช่อง 8 ดำเนินรายการโดย พิธีกรฝีปากกล้า อาจารย์ยิ่งศักดิ์ จงเลิศเจษฎาวงศ์แบบเอ็กซ์คลูซีฟว่า

แพรรี่ หนูไปโพสต์อะไร เรื่องอำลาวงการ คนตกใจกันหมด?
"จริงๆ โพสต์ เพื่อต้องการจะสื่อสารให้กับแฟนคลับ และคนที่ติดตามหนู ชื่นชมเรา ให้รู้แต่เนิ่นๆ ว่า เรามีแผนที่จะไม่ได้ทำงานประจำในวงการแล้วจากบทบาทที่เขาเคยติดตามอย่าง รายการ แย่งซีน ยูทูบช่อง 8 ก็จะหยุดไปด้วย"

แต่คนเขาก็เม้าท์กันว่า สงสัยขาลงหรือเปล่า ไม่มีงานทำหรือเปล่า?
"จริงๆ ถ้ายังอยู่ หนูก็มีงานทำนะคะ มีงานทำหลายที่ด้วย ถ้าหนูยังอยู่ อยู่ได้ แต่หนูเคยให้สัญญากับตัวเองไว้ว่า หนูว่ามันถึงจุดที่พอแล้วกับตัวเองในการทำงาน 1 ปี ที่ทำอยู่ตรงนี้ค่ะ แล้วมันมีเรื่อง มีงานที่หนูมองว่ามันเป็นเรื่องหลักของชีวิตมากกว่า แต่หนูไม่ได้มองว่าอันไหนสำคัญกว่ากัน มันคือสิ่งที่เราต้องเลือกอาจารย์" แต่หลายคนก็มองอีกว่า แกล้งจะออกจากวงการหรือเปล่า เห็นไหมพอจะออกก็งานเยอะ เดี๋ยวก็กลับมาอีกที

เรียกค่าตัวเพิ่มเป็นแผนการตลาดตัวเอง?
"ไม่ค่ะ ถ้าทำแบบนั้นคนก็ดูออก โดนสาปใหญ่เลยนะคะอาจารย์ คนติดตามเพจ 3 ล้าน ถ้าหนูไปทำเป็นเรื่องเล่นๆ หนูว่าเรื่องแบบนี้ถ้าไม่ได้ตัดสินใจมาก่อน แล้วอยู่ดีๆ มาโพสต์ หนูมองว่ามันเป็นเรื่องไม่ได้"

หนูยังมีงานอยู่เยอะเลยใช่ไหม?
"หนูยังมีงานทุกวันค่ะ ทั้งงานประจำที่หนูทำที่ช่อง งานบรรยายก็มี งานรีวิวอินฟลูฯ ถ้าหลายคนติดตามที่เพจจะเห็นค่ะ"

อยากถามมีคนบอกว่าหลงผู้ชายมาก จนไม่ทำมาหากินจริงไหม?
"ไม่ใช่ ถ้าหนูหลงผู้ชายจริง หนูต้องยิ่งทำงานอยู่ในวงการจริงไหม เพราะมีช่อง มีงาน มีเงิน และสามารถดึงแฟนหนูมาทำงานด้วย จริงไหมอาจารย์ เรื่องนี้ไม่เกี่ยวเลย แล้วแฟนเขาก็ยังเรียนอยู่ อยู่บุรีรัมย์"

ถ้าหนูออกจากวงการ ไปเป็นสาวบ้านนา ความรักของหนูจะเปลี่ยนไปไหม?
"หนูไม่ได้คิดไปถึงตรงนั้น ถ้าแฟนหนูเขารักหนูจริงๆ ว่าหนูทำงานในวงการ หรือออกไปอยู่บ้านเขาก็ต้องยอมรับในตัวหนู แต่ถ้าเขาเปลี่ยนไปหนูก็ไม่ได้มีปัญหาค่ะ"

มีคนบอกอีกว่าหนูแกล้งลาออกจากวงการ เพราะจะได้มีซีนเด่น คนได้มีเมตตาหนู คนสงสาร แห่กันแย่งคิว วันละ 8-10 คิว วันนี้หนูก็วิ่ง 5-6 จ๊อบ?
"ถ้าคิดแบบนั้น หนูว่ามันไม่คุ้มนะคะ ถ้าจะมาเล่นเบอร์ใหญ่แบบนี้ เพราะถ้าเราจะมาเอาเรตติ้ง กระแส แล้วเล่นเบอร์ใหญ่ขนาดนี้ หนูว่ามันไม่คุ้ม แล้วเราก็พูดว่าออกไปแล้ว คนก็เล่นเราแค่วัน สองวัน แล้วหลังจากนั้นจะทำอย่างไร หนูไม่ได้คิดตรงนั้นเลย"

คนเขารักเธอมาก มันเร็วไป 1 ปีเอง เขาทำใจไม่ได้นะ?
"เยอะสำหรับหนูค่ะ เขาก็บอกว่าเสียใจ เสียดาย เพราะว่าเขาก็เห็นเราในบทบาทพิธีกร เขาก็บอกว่าเราทำได้ดี ให้เสียงหัวเราะ ให้ความสุขคน แต่ถ้าหนูทำงานต่อ หนูก็จะอยู่ยาวไปเลย จริงๆ มันมีเรื่องที่อยู่ในใจหนูหลายอย่างที่หนูอยากทำ อยากเป็น หนูก็จะไม่ได้ทำ และไม่ได้เป็น"

หลายคนบอกว่าหนูต้องมีเหตุผลสำคัญมาก ไม่งั้นคนอย่างแพรรี่ไม่ออกจากวงการหรอก โกรธ หรือทะเลาะ กับใครหรือเปล่า หรือหนูเกลียดอาจารย์?
"ไม่เกลียดเลย ไม่มีเลยอาจารย์ (หัวเราะ) ทุกคนเมตตาหนูหมดเลย หนูเป็นคนเลือกเอง"

เราพูดถึงคนทำงานในวงการนะ แพรรี่ดังออก เงินทองเธอก็คงกอบโกยไปเยอะ เดี๊ยนพูดในฐานะเธอไม่ใช่ คนโลภ รายได้ขนาดนี้ ไปหาที่ไหนก็ไม่ได้ เธอไม่คิดถึงส่วนนี้เหรอ เงินมันพาความสุขมานะ?
"แต่หนูพอแล้วค่ะ ไม่ใช่โกย (หัวเราะ) ก็มีคนพูดว่าน้ำขึ้นให้รีบตัก แต่หนูพอแล้ว ใช้ไม่หมด แต่ไม่ได้เยอะขนาดนั้นค่ะ แต่หนูรู้สึกว่า มันพอที่จะไปเลี้ยงดูครอบครัวหนู หรือต่อยอดทำธุรกิจ ก็คือไปอยู่บ้านแล้วทำงาน ก็คืออยู่ได้จากเงินก้อนนึงที่หนูเก็บไว้ตลอดทั้งปีค่ะ"

ความรู้สึกที่อยากไปจากวงการมันเพิ่งจะเกิด หรือเกิดนานแล้ว?
"นานแล้วค่ะ วางแผนไว้ว่าจะอยู่ 1 ปีค่ะ ถามคนที่ทำงานใกล้ชิดกับหนูได้ หนูอยู่แค่ 1 ปีนะ หนูจะไปปลูกผม"

ทำไมหนูต้องมากำหนดว่า 1 ปี อะไรเป็นตัวกำหนด?
"มันไม่ใช่ว่าปีเดียว เพราะหนูกำหนดว่าอยากอยู่ปีเดียว แต่ด้วยเหตุปัจจัยหลายอย่างที่อยู่รอบตัวหนูอย่างเช่น เรื่องครอบครัว มีพ่อแม่ แม่หนูก็ป่วย แล้วอาการตอนนี้ก็ไม่ใช่ว่าดี หรือหายจากโรคมะเร็งที่ป่วยอยู่ 100%"

อาจารย์มองในฐานะประชาชนที่นั่งชมในผลงานของแพรรี่ ที่เขาได้รับความสุข และรอยยิ้ม และหลักการพุทธศาสนาที่ใช้ได้จริง เขารักเธอ เธอไม่รักเขาเหรอ?
"ถ้าหนูตัดสินใจอยู่ตรงนี้ นั่นหมายความว่าหนูจะต้องทิ้งอะไรหลายๆอย่างที่หนูต้องรับผิดชอบ และอยู่ข้างหลังหนูค่ะ"

Cr. รายการ “คนดังนั่งเคลียร์” ภาพ FB : ไพรวัลย์ วรรณบุตร
#แพรรี่ #แพรรี่ไพรวัลย์ #ข่าวบันเทิง #ข่าวดารา #siamdara #สยามดารา
วันนี้เท่านั้น "อาร์ต" ใจป๋าแจกข้าวกระเพราหมูกรอบ 2พันกล่อง!!
เป็นอีกหนึ่งคนบันเทิงที่ออกมาตอบแทนสังคมอยู่บ่อยครั้ง สำหรับนักแสดงหนุ่มมากฝีมือ "อาร์ต-พศุตม์ บานแย้ม" ที่นอกจากการแสดงแล้ว ยังผันตัวมาเป็นเจ้าของร้านคุณชายหมูกรอบจนเป็นกระแสโด่งดังในโซเชียลโกยรายได้หลักแสนบาทต่อเดือน

ที่ล่าสุดวันนี้ 28 ก.ย 66 “อาร์ต” ขอตอบแทนลูกค้าและสังคมด้วยการแจกข้าวผัดกะเพราหมูกรอบจำนวน 2,000 กล่องให้ประชาชนที่ผ่านไปมา ณ ร้านคุณชายหมูกรอบย่านจังหวัดสมุทรสาคร ให้ทานกันแบบจุกๆ งานนี้หล่อทั้งกายทั้งใจสุดๆ

Cr. ig : @art_phasut98
#อาร์ตพศุตม์ #คุณชายหมูกรอบ #ข่าวบันเทิง #ข่าวดารา #siamdara
“ปราง” อวดภาพคู่ “เจษ” ชาวเน็ตแห่แซวฟีลแฟนสุดๆ
กำลังเข้มข้นเลยทีเดียวสำหรับละครเรื่อง บุหงาส่าหรี ที่ได้พระเอกหนุ่ม “เจษ-เจษฎ์พิพัฒ ติละพรพัฒน์” มาประกบคู่กับนางเอกสาวสุดฮอต “ปราง-กัญญ์ณรัณ วงศ์ขจรไกล” เล่นด้วยกันเป็นครั้งแรกแถมเคมีเข้ากันมากถึงขนาดที่แฟนคลับจับจิ้นสนั่น

ล่าสุดคืนวานนี้ 27 ก.ย 66 “ปราง” ก็ได้โพสต์ภาพคู่ เจษ เพื่อโปรโมตละครพร้อมแคปชั่น “ไม่ลืมนะคะ บุหงาส่าหรี คืนนี้” แต่ภาพที่โพสต์ครั้งนี้กลับเรียกฮือฮาและความฟินได้เป็นแถวที่โมเมนต์ในภาพช่างโรแมนติกฟีลแฟน

ทำเอาเหล่าแฟนคลับถึงกับเข้ามาคอมเมนต์เชียร์กันแน่น อาทิ “เคมีมันได้ แอบเชียร์ได้มั้ย ไหน ๆ ก็โสดแล้ว”, “ชอบคู่นี้มาก นาทีนี้ไม่มีใครเหมาะสมไปมากกว่านี้แล้ว เชียร์สุดใจขาดดิ้นไปเลยค่ะ”, “รอดูนะคะ ชอบปรางกับเจษมากค่ะ อยากให้เป็นคู่จริงมากค่ะ” หรือ “อยากจะบอกว่า ดูยังไง ๆ ก็เหมาะสมกันค่ะ”

Cr. ig : ladiiprang
#เลดี้ปราง #เจษ #คู่จิ้นสุดฮอต #ข่าวบันเทิง #siamdara #สยามดารา
แซ่บไม่พัก “เลดี้ปราง” สวมทูพีซทำใจละลาย
แพ๊คกระเป๋าเที่ยวทะเลอีกแล้วสำหรับนางเอกสาวหน้าหวาน “ปราง กัญญ์ณรัณ วงศ์ขจรไกล” หรือ “เลดี้ปราง” ที่ครั้งนี้ไม่พลาดเปิดโหมดสาวโสด ทวีคูณความเซ็กซี่ สวมชุดทูพีซอวดหน้าท้องแบนราบ แหวกอกลึกลงไปถึงกลางใจ เผยความเซ็กซี่ให้แฟนๆ ใจละลาย

Cr. ig : ladiiprang
#เลดี้ปราง #ปรางกัญญ์ณรัณ #สาวโสด #สาวแซ่บ #siamdara #สยามดารา
“เอวา” ขอแจงฉายา “คุณหนูหมื่นล้าน” พร้อมเงินทำคลิปเอามาจากไหน?
เป็นอีกหนึ่งสาวขวัญใจชาวโซเชียลเลยทีเดียว สำหรับยูทูบเบอร์คุณหนูหมื่นล้าน “เอวา ปวรวรรณ วีระภุชงค์” ที่ไม่ว่าจะทำคลิปหรือมีผลงานอะไรออกมาให้ได้ติดตามแฟนๆ ก็มักจะส่งแรงเชียร์และแรงใจ พร้อมซัพพอร์ต เอวา ที่ขึ้นชื่อว่าคือผู้ให้ และช่วยเหลือแบ่งปันต่อสังคมในรูปแบบต่างๆ มาโดยตลอด ที่ล่าสุด ” เอวา” ก็ได้โพสต์คลิปลงในอินสตาแกรมส่วนตัวพร้อมเปิดที่คำว่าคุณหนูหมื่นล้านและที่มาของเงินที่ใช้ในการช่วยเหลือสังคม

โดยเจ้าตัวระบุเผยว่า“ได้เงินทุกบาทที่เอวาทําคลิปการให้คือเงินที่เอวาหาได้เอง บางคนบอกอยากให้ทําใหญ่ขึ้นไปเรื่อยๆ แต่พูดจริงๆจากใจเลยเงินจํานวนมาก คําว่า "หมื่นล้าน" คือเงินของคุณปู่เอวาไม่ใช่ของเอวา มีบางครั้งที่เอวาขอสปอนเซอร์คุณปู่แต่ก็ไม่กล้าขอตลอดเพราะเกรงใจคุณปู่ค่ะ เลยอาจจะมีให้ใหญ่บ้างให้เล็กบ้าง แต่ให้ด้วยใจที่อยากให้ทุกคนแน่นอนค่ะ เอวาได้รับมาเยอะแล้ว วันนี้เลยอยากส่งต่อให้คนอื่น “

Cr. ig : @sunflowava
#เอวา #เอวาคุณหนูหมื่นล้าน #ข่าวดารา #siamdara #สยามดารา
”เจนี่“ อวดหุ่นแซ่บ ไม่วายเจอชาวเน็ตดราม่าสนั่น!
ยืนหนึ่งเรื่องความแซ่บมาโดยตลอด สำหรับคุณแม่หน้าเด็ก "เจนี่ อัลภาชน์ ณ ป้อมเพชร" ที่ดูแลรูปร่างด้วยการควบคุมอาหารและการออกกำลังกายอย่างมีวินัย

และล่าสุดวันนี่ 27 ก.ย 66 เจนี่ ก็ออกมาตอกย้ำหุ่นสุดเฟิร์มอวดสุขภาพดีโพสต์ภาพผ่านอินสตราแกรมส่วนตัว ด้วยแคปชั่นว่า Let me distract y

แต่งานนี้ก็ไม่วาย เจอชาวเน็ตคอมเมนต์ดราม่าวิจารณ์เกี่ยวกับเรื่องหุ่นของเธอไม่ว่าจะเป็น ผอมไปค่ะ ชอบเจนนี่แบบเมื่อก่อนน่ารักมาก คิดเหมือนกันแต่ไม่กล้าเม้น +1ค่ะ แต่ก็รักเจนนี่ค่ะ ใช่ค่ะพี่เจนนี่ผอมไปหุ่นตอนนั้นสวยแล้วค่ะ , ไม่อยากให้ดูเหมือนขาดสารอาหารค่ะ เป็นต้น

Cr. ig : @janienineeleven
#เจนี่ #เจนี่เทียนโพธิ์สุวรรณ์ #เจนี่อัลภาชน์ #siamdara
“อิงฟ้า” รับขอโทษ “มิสแกรนด์แคมโบเดีย” แล้วยันเท้าไม่ใช่ของต่ำ
กลายเป็นดราม่าชั่วข้ามคืนจากกรณีนางงามขวัญใจมหาชน”อิงฟ้า วราหะ” มิสแกรนด์ไทยแลนด์ และรองอันดับ 1 มิสแกรนด์อินเตอร์เนชั่นแนล 2022 ได้ใช้เท้าเขี่ยชุดของมิสแกรนด์แคมโบเดียบ ทำให้เกิดกระแสดราม่าวิจารณ์สนั่นโลกออนไลน์ แฟนนางงามก็เสียงแตกแบ่งเป็นสองฝั่ง ทั้งไม่เห็นด้วยกับการกระทำของอิงฟ้า ว่าทำไมถึงไม่ก้มลงไปใช้หยิบชายผ้าออก ขณะที่บางส่วนก็ปกป้องอิงฟ้าว่าเป็นการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า ชุดที่ใส่อยู่อาจจะไม่สะดวกต่อการก้มลงไป

ล่าสุด “อิงฟ้า” ได้เปิดใจหลังเจอดราม่าโดยเผยว่า “ก่อนอื่นขออนุญาตขอโทษทางมิสแกรนด์แคมโบเดีย แล้วก็แฟนคลับที่แคมโบเดียด้วย เพราะว่าจริงๆ ภาพมันก็ออกมาค่อนข้างที่จะดูไม่น่ารักจริงๆ แหละ อันนี้เราก็รู้ตัวนะ แต่ว่าอยากให้เข้าใจเจตนาของเรา ว่าเราไม่ได้มีเจตนาแบบนั้น เราไม่ได้อยากจะมีปัญหากับประเทศแคมโบเดียอยู่แล้ว ก่อนหน้านี้มันก็เคยมีประเด็นว่าไม่รับไหว้ ซึ่งต้องบอกว่ามันต้องแล้วแต่สถานการณ์ คือเจอน้องเขาตั้งแต่ตอนเริ่มงานแล้ว ต้องขอบคุณที่มีภาพจากแฟนคลับที่ถ่ายไว้ได้ตอนที่เรารับไหว้ และพอมันมีประเด็นเขี่ยชุดอีก คนเลยมองว่าเราไม่ถูกกันหรือเปล่า บอกตรงนี้เลยว่าไม่ได้มีปัญหากัน

คือวันนั้นใส่วิกไม่ได้ล็อคมงกับกิ๊ฟด้วย เพราะฉะนั้นโชว์ที่เดินมันเป็นฟินนาเล่ เราไม่ได้เดินคนเดียวมีคนเดินต่อกันมาเรื่อยๆ ซึ่งก็ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายจะสะบัดผ้า แล้วเราก็หยุดคิด2วิว่าจะเอายังไงต่อ ถ้าก้มชุดมันไม่สะดวกแหวกอกด้วยอันดับสองคือมง ถ้าขยับเยอะมงอาจจะล่วงได้ แต่ยังไงก็ขอโทษจริงๆ พร้อมน้อมรับคำติชมและนำไปแก้ไขต่อไป เผยถ้าไม่ใช่เท้าสะบัดออกตนต้องลื่นแน่นอนเพราะพื้นที่ข้างๆไม่มีทางด้านข่าวออกมาก็มีทักไปหาน้องเพราะห่วงความรู้สึกของน้องว่าเราไม่มีเจตนาแบบนั้นนะ ซี่งทางน้องก็ทักกลับมาเป็นภาษาไทยว่าขอโทษด้วยเพราะน้องก็ไม่ได้ต้องตั้งใจสะบัดมาตรงเรา พอได้คุยกันก็บอกกันว่าไม่ต้องคิดมากไว้ร่วมงานกันใหม่

ประมาณ 70 เปอร์เซ็นต์จะเข้าใจเรา ว่ามันเป็นการแก้ไขสถานการณ์ ณ เวลานั้น แล้วทางองค์กรเองเขาก็เข้าใจนางงาม กับการเตะสะบัดผ้า เราต้องเลือกระหว่างมงกุฎกับผ้า ซึ่งเราก็มองว่าเท้ามันก็ไม่ใช่ของต่ำอะไรสำหรับเรานะ เพราะกับนางงาม เท้าเป็นสิ่งที่สำคัญเหมือนกัน เราไม่คิดด้วยไง ว่าสะบัดกระโปรงแล้วกล้องมันจะแพนมาที่เรา เพราะมันเป็นฟินาเล่ ก็น้อมรับทุกคำติค่ะ ไม่เป็นไร”

Cr. IG : fa_engfa8
#อิงฟ้าวราหะ #อิงฟ้า #ข่าวนางงาม #ข่าวดารา #siamdara #สยามดารา
"เชอรี่ เข็มอัปสร" คัมแบ๊กวงการ หวนคืนจอเล่นละครในรอบ 8 ปี
ห่างหายจากงานแสดงในวงการบันเทิงไปนาน สำหรับนางเอกสาวมากฝีมือ "เชอรี่-เข็มอัปสร สิริสุขะ" ที่หันไปทำงานนอกวงการ แต่ที่ล่าสุดยอมใจอ่อนหวนคืนจอเล่นละครเรื่องใหม่อย่าง "ลมเล่นไฟ" ซึ่งเป็นการประกบคู่กันครั้งแรกกับพระเอกหนุ่ม "อาเล็ก ธีรเดช" และสาว "อแมนด้า ชาลิสา ออบดัม"

ซึ่งเมื่อวันที่ 26 ก.ย 66 ที่ผ่านมา “สาวเชอรี่” ได้โพสต์ภาพโปรโมทละครผ่านไอจีส่วนตัวพร้อมแปะแคปชั่นว่า “ลมเล่นไฟ” เปิดวิกบิ๊กสาม 3 ต.ค.นี้แล้วค่า ใกล้ออนแอร์แล้วน้า ตื่นเต้น" พร้อมติดแฮชแท็กชวนฮา#นักแสดงหน้าใหม่ท่านหนึ่ง"

งานนี้ทำเอาแฟนคลับตื่นเต้นกรี๊ดดีใจกันสนั่น พร้อมเฝ้าจอรอชมเจ้าตัวกันอย่างคึกคัก

Cr. ig : cherrykhemupsorn
#เชอรี่เข็มอัปสร #เชอรี่ #ข่าวดารา #ข่าวบันเทิง #siamdara #สยามดารา
“เหงา” ซิงเกิ้ลใหม่จาก “JOE TOSSAKAN” จากอาการแพนิคสู่เพลงเหงาที่น่ารักน่าหยิก
ทยอยมีผลงานดีๆ ส่งมาแฟนๆได้ติดตามกันได้บ่อยๆ อย่าง “JOE TOSSAKAN”(โจ ทศกัณฐ์) ศิลปินในค่าย PROMUAK ที่เรารู้จักกันดีจากการแร็พและร้องที่มีเอกลักษณ์และมีสไตล์ที่ชัดเจนเป็นของตัวเอง มีแนวเพลงที่ถนัดอย่าง Hiphop, Soul รับหน้าที่ในการโปรดิวเซอร์เพลงให้กับน้องๆ ศิลปินในค่ายอีกด้วย และล่าสุดส่งซิงเกิ้ลใหม่มาอ้อนแฟนๆ กับจังหวะสนุกในเพลง “เหงา” (Panic night)

“เหงา” (Panic night) จุดเริ่มต้นที่มาของเพลงนี้คือ “JOE TOSSAKAN” เล่าว่า “เมื่อประมาณ 4 เดือนที่แล้ว มีอาการป่วย และเพิ่งมารู้ว่าตัวเองมีอาการแพนิค และแน่นอนว่าความเหงา ความคิดถึงของคนเรานั้น มักจะเกิดขึ้นในช่วงเวลากลางคืน หลายครั้งที่รู้สึกเหงาในเวลากลางคืนมันเลยมีประโยคนึงขึ้นมาในหัว “อยู่คนเดียวมันเหงารู้ไหม” เลยอยากถ่ายทอดออกมาในรูปแบบความรักของหนุ่มสาว ที่อยากอ้อนใครสักคนในค่ำคืนที่อยู่คนเดียวในวันที่ห่างไกลจากแฟน สำหรับเพลงนี้เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งเพลงของ “JOE TOSSAKAN” ที่มีกลิ่นอายใหม่ ๆ จากทุกเพลงที่ผ่านมา โดยเพิ่มความป็อบทางด้านดนตรีที่มาพร้อมจังหวะและซาวด์ที่ฟังสนุกๆ สบายๆ ไม่ได้มีแค่คุณที่เหงา ยังมีเรามาเหงาเป็นเพื่อนกันนะ

รับชมเพลง “เหงา” (Panic night) “JOE TOSSAKAN” พร้อมกันได้แล้ว ทาง Youtube/PROMBUAK และ Facebook : /Instagram : prombuak
“ลีเดีย” โพสต์เดือดยื่นคำขาด “แมทธิว” ทำหมันหรือจะให้เปลี่ยนผัว?!
ฮือฮาทั้งไทม์ไลน์หลังจากเมื่อวานนี้ 26 ก.ย 66 คุณแม่ลูก 3 อย่าง “ลีเดีย ศรัณย์รัชต์ ดีน” ออกมาโพสต์เดือดกลางไอจีพร้อมแท็กหาคุณสามี “แมทธิว ดีน” ด้วยภาพที่มีข้อความเขียนไว้ว่า "จะทำหมัน หรือจะให้เปลี่ยนผัวคะ" พร้อมระบุแคปชั่น  “ก็บอกดี ๆ แล้ว เคยฟังมั้ยคะ ทำซะทีจบ ๆ@matthew.deane1 Book your vasectomy now! No more babies and no more sex until you get snipped!”

ด้านสามี “แมทธิว” ก็ไม่แผ่วออกมาโต้คืนภรรยาไปแบบเผ็ดร้อนผ่านแคปชั่นว่า "มันต้องขนาดนี้เลยเหรอ ?? คุยกันเองดีกว่าไหม WTF some matters should be discussed privately @lydiasarunrat" (บางเรื่องควรปรึกษากันเป็นการส่วนตัว) ท่ามกลางชาวเน็ตออกมาแสดงความคิดเห็นเรื่องนี้และวิพากษ์วิจารณ์กันเป็นจำนวนมาก

Cr. ig : @lydiasarunrat , @matthew.deane1
#แมทธิว #ลีเดีย #ข่าวบันเทิง #ข่าวดารา #สยามดารา #siamdara
“จ๊ะโอ๋ งามพริ้ง” เคลื่อนไหวเตือนใจคนหมิ่น ลั่นจบแบบสวยงาม!
ออกมาเคลื่อนไหวครั้งใหญ่อีกครั้ง สำหรับ CEO สาวสวยไฟแรง “จ๊ะโอ๋ งามพริ้ง” ที่เคยตกเป็นประเด็นดังถูกชาวเน็ตจับโยงเป็นมือที่ 3 ของนักร้องหนุ่ม “หนุ่ม กะลา” ซึ่งนั้นก่อนหน้านี้ “จ๊ะโอ๋” เคยออกมาโพสต์ภาพคล้ายกำลังนั่งแถลงข่าว พร้อมแคปชั่นว่า ตอบทุกประเด็น เปิดใจที่นี่ที่แรก แต่ก็ยังไม่มีการแถลงข่าวตามที่โพสต์ไปแต่อย่างใด

และล่าสุดเมื่อวันที่ 26 ก.ย 66 “จ๊ะโอ๋” ก็ได้ออกมาเคลื่อนไหวอีกครั้งโดยโพสต์ภาพถ่ายที่ "ศูนย์ไกล่เกลี่ย และประนอมข้อพิพาท" ตามด้วยข้อความว่า "การโพสต์หรือการแสดงความคิดเห็นหรือเผยแพร่ข้อมูลที่อาจกระทบต่อผู้อื่น อันเป็นเหตุให้ผู้อื่นเสียหาย ถูกดูถูก หรือถูกเกลียดชัง เมื่อส่งข้อความออกไปแล้วความผิดย่อมสำเร็จผู้นั้นไม่อาจปฏิเสธความรับผิดได้

คดีหมิ่นประมาท ต้องใช้เวลา กว่าผู้ถูกกระทำจะกอบกู้ชื่อเสียงกลับคืนมาได้ นั่นแปลว่า ความเสียหายที่โพสต์ได้สร้างไว้กับผู้เสียหายมันก็จะส่งผลเสียกับตัวผู้เสียหายไปอีกยาวนาน และราคาต้องจ่ายในฐานะผู้กระทำผิดนั้น ก็จะรุนแรงตามไปด้วย

สุดท้าย โอ๋ขอฝากข้อคิดเตือนใจกับทุกคนที่อยากให้เตือนใจตัวเองเสมอ ตอนที่ชวนกันสร้างข้อความต่างๆ ในลักษณะหมิ่นประมาท อาจมีคนร่วมวงกับคุณนับร้อยนับพัน อบอุ่นราวกับเป็นครอบครัวเพราะมีเป้าหมายเดียวกัน แต่เมื่อถึงเวลาที่ผู้เสียหายฟ้องร้องและดำเนินคดีขึ้นมา อาจมีเพียงตัวผู้กระทำผิดต้องสู้คดีอยู่เพียงลำพัง #ceoงามพริ้ง #โอ๋งามพริ้ง #จบแบบสวยงาม"

Cr. Fb : Prisana Sritachote
#จ๊ะโอ๋งามพริ้ง #ข่าวบันเทิง #ข่าวดารา #สยามดารา #siamdara
"ลูกเกด เมทินี" เตือนภัย โดนมิจฉาชีพสวมรอย หลอกขอรูปเปลือย
เป็นอีกหนึ่งคนบันเทิงที่ถูกมิจฉาชีพแอบอ้างชื่ออยู่บ่อยครั้ง สำหรับนางแบบ-นักแสดงชื่อดัง “ลูกเกด เมทินี กิ่งโพยม” ที่คร่ำหวอดอยู่ในวงการมีผู้ติดตามเป็นจำนวนมาก ที่ก่อนหน้านี้เจ้าตัวเคยออกมาเตือนภัยกันไปแล้ว ถึงเรื่องที่เคยถูกแอบอ้างและขโมยคลิปไปเพื่อชักชวนให้คนมาสมัครเรียนการแสดง โดยมีการให้ชำระเงินโอนเข้าบัญชีส่วนตัว

และล่าสุดเมื่อวันที่ 25 ก.ย. 66 “ลูกเกด” ได้ออกมาเตือนอีกครั้งเมื่อโดยเจ้าตัวโพสต์ภาพแชทสนทนาของ มิจฉาชีพสวมรอยสร้างแอคเคาต์ปลอม หลอกเหยื่อถ่ายรูปเปลือย อ้างแคสต์งาน พร้อมเผยข้อความว่า “ระวังมิจฉาชีพค่ะ มีคนทำ account ปลอมออกมาโดยแอบอ้างเป็นพี่เกด ตอนนี้กำลังดำเนินการทางกฏหมาย ฝากทุกคนระมัดระวังด้วยค่ะ”

Cr. ig : @metinee
#ลูกเกดเมทินี #ลูกเกด #ข่าวบันเทิง #siamdara #สยามดารา
YG เคลียร์ปมลือ "เจนนี่-จีซู" BLACKPINK ขอแยกทางเปิดค่ายเอง
ทั่วโลกยังคงจับตาเกี่ยวกับการต่อสัญญากับทางต้นสังกัด YG Entertainment ของ4 สาว BLACKPINK เกิร์ลกรุ๊ปชื่อดังของเกาหลีใต้ ที่มีสมาชิก โรเซ่ (Rosé) , เจนนี่ (Jennie), จีซู (Jisoo) และลิซ่า (Lisa) แถมก่อนหน้านี้ยังลือว่า “โรเซ่” เป็นสมาชิกเพียงคนเดียวของวงที่ต่อสัญญา YG

และล่าสุดเมื่อวันที่ 25 ก.ย 66 สำนักข่าวเกาหลีใต้ News1 ได้รายงานข่าวว่า "เจนนี่" กับ "จีซู" กำลังจะเปิดค่าย หรือ บริษัทของตัวเอง ซึ่งขณะนี้อยู่ในระหว่างการเจรจากับ YG Entertainment เนื่องจากบริษัทนี้จะเตรียมลุยกิจกรรมของวงต่อ รวมถึงดูแลเกี่ยวกับผลงานของแต่ละคน โดยการเปิดค่ายเพลงของ เจนนี่ และ จีซู เป็นรูปแบบการก่อตั้ง One-Man Agency หรือ จัดการดูแลศิลปินเพียงคนเดียว ซึ่งคาดว่า นี่น่าจะเป็นสัญญาณตอกย้ำการไม่ต่อสัญญาของทั้ง 4 สาวแล้ว ซึ่งครั้งนี้ คล้ายกับกลยุทธ์ของวง GOT 7 ที่แยกค่าย แต่ไม่แยกวง และล่าสุด ทางหัวหน้าวงอย่าง JayB ก็ได้ก่อตั้งค่ายของตัวเองขึ้นมา ส่วน "โรเซ่" มีข่าว่าอาจจะต่อสัญญาเพียงคนเดียว

ต่อมาในวันเดียวกันสื่อเกาหลีมีรายงานข่าวทางต้นสังกัด YG Entertainment ออกมาชี้แจงว่า ยังไม่มีการยืนยันใดๆ เกี่ยวกับการต่อสัญญา รวมไปถึงกิจกรรมในอนาคตของ BLACKPINK

Cr. koreaboo
ภาพ ig : @BLACKPINKOFFICIAL
#BLACKPINK #Jennie #Jisoo #LiSABLACKPINK #Rose
“โชค รถแห่” เปิดปมหย่าเมีย ยันไม่เกี่ยวมือที่ 3 แน่นอน
หย่าจริง ชีวิตไม่เคยมีคอนเทนน์สำหรับคู่รักนักร้องลูกทุ่งอินดี้อย่าง “โชค รถแห่” หรือ “โชค มงคล” และอดีตภรรยาสาว “นัส จุฑารัตน์” หลังจากเมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 25 ก.ย.ที่ผ่านมาทั้งคู่ได้ออกมาเผยถึงการสิ้นสุดสถานะสามี-ภรรยา พร้อมใจกันโพสต์ภาพว่าได้ไปหย่าขาดกันเรียบร้อยแล้ว

ซึ่งในวันเดียวกันหลังจากเซ็นใบหย่า “โชค รถแห่” ก็ได้เปิดเผยสาเหตุที่ทำให้ความรักครั้งนี้ต้องขาดสะบั้นว่า “มีปัญหาคาราคาซังกันมาหลายเรื่อง ผมว่าเมียผมเขาคิดดีแล้วที่ว่าเราแยกกันอยู่จะดีกว่า เราก็เลยตัดสินใจว่าถ้าอย่างนั้นต่างคนต่างเดินซึ่งในเรื่องของสินสมรส อย่างบ้าน ก็ยกให้ลูกทั้งหมด ส่วนเรื่องลูกก็ให้อยู่กับแม่เขาเพราะแม่เขาดูแลทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นค่าเลี้ยงดู หรือค่าอะไร แม่เขาจัดการเองหมด เพราะสินสมรสที่สร้างมาก็คือบ้านเราซื้อเงินสด 

ในเรื่องมือที่สาม “โชค” เล่าว่าไม่เกี่ยวหลักๆ มันน่าจะเป็นความเข้าใจมากกว่า ที่เราอยู่ด้วยกันแล้วมันรู้สึกว่าไม่มีความสุขเหมือนแต่ก่อน มันไม่เหมือนเดิม แล้วเรื่องมือที่สาม ที่เขาโพสต์มันน่าจะเป็นเรื่องความระแวง และความน้อยใจของเขามากกว่า แต่ผมก็ยอมรับว่าที่ผ่านมาก็มีตามประสาผู้ชาย แต่ถามว่าไปคุยเป็นจริงเป็นจังไหม อันนี้ไม่มีแน่นอน และก่อนหน้าที่จะมาหย่า เราไม่ได้คุยกันเลย ซึ่งตั้งใจว่าจะมาหาลูก เพราะตอนแรกผมยังไม่เห็นโพสต์เขาพอเห็นโพสต์ ผมว่าเขาโพสต์เกินความเป็นจริงเกินไป เขาโพสต์จนผมจะไม่มีที่ยืนในสังคมแล้ว จะไม่มีที่อยู่แล้ว เขาโพสต์เหยียบผมเต็มที่เลย แต่ถามว่าโกรธมั้ย ผมไม่ได้โกรธ ถ้าเขาทำแล้วเขาสะใจก็ให้เขาทำไป

ที่ผ่านมาเราแยกกันอยู่แค่ 3 วัน เพราะว่าเรื่องที่เราไม่เข้าใจกัน ซึ่งผมก็มีโลกส่วนตัวของผม ก็อาจจะเช็ด รถทำรถ อยู่กับรถมาก แต่ถามว่าลูกเลี้ยงมั้ย ผมก็เลี้ยง ไม่มีการว่าไม่เลี้ยงลูก แต่ว่าเราอาจจะอยู่กับรถ เช็ดรถมากจนเขาไม่ชอบ จนเขารู้สึกว่าเราสนใจรถมากเกินไปหรือเปล่า เลยบอกให้กลับไปอยู่บ้าน อาจจะรู้สึกดี ผมก็เลยกลับบ้าน

วันนี้ที่มาหย่า เราไม่ได้คุยอะไรกันเลย ขนาดนั่งใกล้ เขายังไม่นั่งเลย เขาบล็อกเฟซผมตั้งแต่เมื่อคืน บล็อกทุกอย่าง ผมก็อยากบอกเขาว่า ต่อให้เราหย่ากันก็ยังรักเหมือนเดิม ความรู้สึกดีๆ มันยังอยู่ในใจ ซึ่งถ้าหลังจากที่หย่ากันไปแล้วถ้าเขาจะกลับมา ผมว่าคงยาก นัสเขามีโลกส่วนตัวสูง ส่วนตอนนี้ที่ยังเป็นห่วงก็เรื่องรับงาน เรื่องวง แต่ตอนนี้ก็ยังมีงานเข้ามาเรื่อยๆ ก็อยากบอกเจ้าภาพที่รับงานไว้ว่าไม่ต้องห่วง ผมไปเล่นงานที่รับไว้แน่นอนครับ

Cr. ig : chol889 Fb. นาโอกิ เรน
#โชครถแห่ #นัสโชค #ข่าวบันเทิง #ข่าวดารา #siamdara #สยามดารา
เปิดภาพความสุข "เอส กันตพงศ์" พาครอบครัวเที่ยวทะเลสุดอบอุ่น
เป็นภาพที่คนในวงการบันเทิงและแฟนๆ อดยิ้มตามไม่ได้ เมื่อ “คิตตี้ คริสติน่า” ภรรยาสาวของพระเอกชื่อดัง “เอส - กันตพงศ์ บำรุงรักษ์” ได้เผยภาพครอบครัวลงในอินสตาแกรมส่วนตัวขณะที่สามี และ ลูกสาว “น้องวาเลนติน่า” ออกไปเที่ยวทะเลกันครั้งแรก ซึ่งภายในภาพ หนุ่มเอส ได้เผยรอยยิ้มแย้ม สีหน้าดูสดใส ร่างกายแข็งแรงเหมือนเดิมแล้ว

โดยเมื่อวันที่ 25 ก.ย 66 “คิตตี้” ได้ออกมาอัปเดตโมเมนต์แห่งความสุข พ่อแม่ลูกพร้อมเขียนแคปชั่นว่า
“First short day trip together These few hours were so meaningful especially for Valentina as she is the one asking the most about Papa getting better to play with her.I know how much she is missing these precious moments with her dad and how tough it has been on her. So it made me so happy with tears in my eyes to have been able to give her a few hours like this. Thank you so much for P Ann and P Bell for taking us.

ทริปสั้นๆครั้งแรกด้วยกันสองสามชั่วโมงนี้มีความหมายมากโดยเฉพาะสำหรับ วาเลนติน่า เนื่องจากเธอเป็นคนที่ขอให้ ป๊ะป๋าเล่นกับเธอได้ดีขึ้น ฉันรู้ว่าเธอคิดถึงช่วงเวลาอันมีค่าเหล่านี้กับพ่อของเธอมากแค่ไหน และมันยากลำบากแค่ไหน เธอมันทำให้ฉันมีความสุขทั้งน้ำตาที่ฉันได้ให้เวลาเธอแค่ไม่กี่ชั่วโมงแบบนี้
ขอบคุณพี่แอนและพี่เบลล์มากๆค่ะที่พาเราไป

Cr. ig : @thekittyway

#เอสกันตพงษ์ #คิตตี้ภรรยาเอส #คิตตี้ #น้องวาเลนติน่า #ข่าวบันเทิง #ข่าวดารา #siamdara #สยามดารา
“ตั๊กแตน” น้ำตาแตก! แฟนคลับซื้อลิขสิทธิ์เพลงให้ 1 ปี
นับเป็นเรื่องราวดีๆ ที่ทำให้นักร้องลูกทุ่งสาว “ตั๊กแตน ชลดา” (พบพร ภาคินทร์) ร้องไห้ดีใจกลางเวทีคอนเสิร์ต ที่เหล่าแฟนคลับเซอร์ไพรส์ ซื้อลิขสิทธิ์เพลงให้ร้องต่ออีก 1 ปีเต็ม หลังจากก่อนหน้านี้เมื่อปี2565 “เอ-ศุภชัย ศรีวิจิตร” ผู้จัดและนักปั้นดาราดัง ได้ควักเงินซื้อลิขสิทธิ์เพลงสังกัด GMM Grammy ให้นักร้องลูกทุ่งสาวได้ร้องเพลงตัวเองไปอีก 1 ปี ทำให้ตอนนั้นเจ้าตัวถึงกับร้องไห้หนักเพราะไม่คิดว่า เอ ศุภชัย จะทำให้เธอขนาดนี้

และล่าสุดวานนี้ 25 ก.ย 66 “ตั๊กแตน” ถูกเซอร์ไพรส์หนักอีกครั้งเมื่อมีแฟนคลับเจ้าของธุรกิจได้มีการมอบซองสีน้ำตาลให้เธอหน้าเวทีคอนเสิร์ตงานอีเว้นท์แห่งหนึ่ง เมื่อเปิดอ่านเธอได้เผยกับพิธีกรบนเวทีว่าเป็นลิขสิทธิ์ ก่อนจะร้องไห้ออกมาและพูดบนเวทีว่าเป็น

“เรื่องเซนซิทีฟของตนจริงๆ เคยประกาศบนเวทีว่า อย่าให้มีใครซื้อลิขสิทธิ์เพลงให้แตนอีก แตนไม่อยากให้สายตาคนที่มองแตนอยู่ตรงนั้นว่า ตั๊กแตน มีตังค์แล้วทำไมไม่ซื้อเอง ทำไมต้องให้แฟนเพลง คนอื่นๆซื้อให้ แตนไม่อยากให้คนมามองแตนแบบนี้ เพราะเรื่องบางเรื่องเรามีเงิน ก็ไม่ได้หมายความจะซื้อได้” และได้กล่าวขอบคุณทางค่ายบอกว่า “ขอบคุณ จีเอ็มเอ็ม ที่ยอมขายลิขสิทธิ์เพลงให้แฟนเพลง ของตั๊กแตน มาให้ตั๊กแตนร้องค่ะ”

และ “ตั๊กแตน” ยังได้โพสต์เฟซบุ๊กเผยความในใจอีก ว่า “ขอบคุณมากนะคะ สำหรับความรักความเมตตาที่พี่จุ๋มมีให้แตน จุ๋ม เพิ่มทรัพย์วัสดุก่อสร้าง พูดไม่ออกเลยค่ะ เพราะมีหลายสิ่งอยู่ในหัวมากเลยทำอะไรไม่ถูกเลย จะมีสักกี่คนที่รักเราแบบนี้ แตนจะรักษามิตรที่ดีแบบนี้ไว้ให้นานที่สุดนะคะ เพราะสิ่งที่หายากที่สุดคือความจริงใจของคน ขอบคุณที่รักแตนนะคะ”

Cr. ภาพ Fb : ลูกทุ่งเน็ตเวิร์ก , ตั๊กแตน ชลดา , Takkatan Chollada
#ตั๊กแตน #ตั๊กแตนชลดา #ข่าวบันเทิง #ข่าวดารา #siamdara #สยามดารา
ย้อนส่องโมเมนต์ “ไฮโซนิกม์” คุกเข่าขอ “วุ้นเส้น” แต่งงานที่ปารีส
ทำเอาเพื่อนพ้องร่วมวงการและแฟนแห่ยินดีกันคับคั่ง เพราะล่าสุดนักแสดงสาว "วุ้นเส้น วิริฒิพา" ถูกแฟนหนุ่มไฮโซ "นิกม์ ธนะภูมิกุล" ทำเซอร์ไพรส์คุกเข่าขอแต่งงานหน้าโรงแรมชื่อดัง ที่ปารีส ประเทศฝรั่งเศส หลังคบหาดูใจกันมานานกว่า 4ปี

โดยเมื่อวานนี้ 25 ก.ย 66 ว่าที่เจ้าสาว “วุ้นเส้น" ได้เผยคลิปโมเมนต์สุดพิเศษแฟนหนุ่มคุกเข่าขอแต่งงาน พร้อมแคปชั่นรูปอิโมจิแหวนเพชนและรูปหัวใจสีขาว และเขียนข้อความระบุว่า "24.09.23"

สำหรับเส้นทางความรักของ ‘วุ้นเส้น’ และ ‘นิกม์’ เริ่มจากเป็นเพื่อนของเพื่อนกลุ่มเดียวกัน เคยเจอกันมา 5-6 ปีแล้ว เจอกันตามงานแต่ง งานปาร์ตี้ ต่างก็มีแฟนกันทั้งคู่  ก็รู้สึกว่าผู้ชายคนนี้เป็นแนวที่เราชอบ แล้ว 3 ปีก่อนที่จะคบกันก็ไปนั่งวิปัสสนาด้วยกันทุกปี เราก็รู้สึกว่าประทับใจ ชอบผู้ชายที่มีการเข้าวัด เข้าวา และมาเจอกันเมื่อทั้งคู่ต่างเลิกกับแฟน เลยได้ทำความรู้จัก คุยกันมาเรื่อยๆ ในช่วงโควิดที่ผ่านมา มาถึงตอนนี้ก็เป็นปีที่ 4 ก่อนที่ฝ่ายชายจะขอแต่งงานในวันที่ 24 ก.ย 66

Cr . ig : @vjwoonsen
#วุ้นเส้น #ไฮโซนิกม์ #ข่าวบันเทิง #ข่าวดารา #สยามดารา #siamdara.
“ตรี ชัยณรงค์” ฉลองวันเกิดวัย 36 ปี แฟนคลับแห่คล้องมาลัยหลักล้าน
เหล่าเแม่ยกเล่นใหญ่ไฟกระพริบเปย์หนักสุดอลังในงานฉลองวันเกิดวัย 36 ปีของศิลปินลูกทุ่ง “ตรี ชัยณรงค์ โยธา” ที่บรรดาแฟนคลับกลุ่ม "คนรักตรี" ร่วมสร้างปรากฏการณ์นำมาลัยปีกเงินล้านมาเซอร์ไพรส์นักร้องหนุ่ม สร้างความฮือฮาในโลกโซเชียลอีกครั้ง

ที่ล่าสุดวันนี้ 25 ก.ย 66 “ตรี ชัยณรงค์” ได้เผยความรู้สึกหลังจากที่ได้จัดงานวันเกิดร่วมกับแฟนคลับว่า “ขอขอบคุณสำหรับของขวัญทุกชิ้น ดอกไม้ทุกช่อ มาลัยทุกพวงที่มอบให้ตรีในงานวันเกิดปีนี้นะครับ ขอบคุณที่ยังรักและและเอ็นดูตรีมาตลอด งานวันนี้เห็นแฟนคลับทุกคนมาร่วมงานและมีความสุขกันตรีก็มีความสุขมากๆ ขอขอบคุณพี่ๆน้องๆศิลปินที่มาร่วมงานวันนี้ด้วยครับ สำหรับมาลัยปีกในปีนี้ตรีเซอร์ไพรส์มากเลยครับ

ไม่คิดว่าแฟนคลับจะทำมาอลังการขนาดนี้ เพราะก็ต้องยอมรับว่าตรีรู้จักกับแฟนคลับมาหลายปีแล้ว จนปีนี้แฟนคลับก็ยังคงมอบแต่สิ่งดีๆให้กับตรีมาตลอดเลย ขอบคุณแฟนคลับแฟนเพลงทุกๆท่านเลยไม่ว่าเราจะเคยเจอกันหรือไม่ แต่ทุกคนก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ตรีได้มีโอกาสเป็นศิลปินและทำตามความฝัน ขอบคุณจากหัวใจจริงๆครับผม”

#ตรีชัยณรงค์ #คนรักตรี #ข่าวบันเทิง #สยามดารา #siamdara
รอบนี้เลิกจริง ! “นัส” เดือด “โชค รถแห่” นอกใจไม่พอยังแจ้งความจับอีก
ทำเอาขาเผือกหูผึ่งเมื่อ “นัส จุฑารัตน์” ภรรยา “โชค รถแห่”นักร้องลูกทุ่งคนดัง ออกมาโพสต์แฉเดือดถูกสามีนอกใจตลอดเวลาที่คบกันมา 2 ปี แถมยังโดนฝ่ายชายไปแจ้งความเอาผิดอีก

ล่าสุดเช้าวันนี้ 25 ก.ย 66 “นัส จุฑารัตน์” ออกมาโพสต์เดือดใส่สามีพร้อมประกาศชัดรอบนี้ไม่ทนแล้ว เลิกแน่นอน โดยระบุข้อความไว้ว่า ‘นั่งคิดอยู่ 4-5 ชม.ว่าจะโพสต์ดีไหม แต่ก็กลั่นกรองมาแล้วว่าให้มันจบกันไปในโพสต์นี้เลย ตลอดเวลาที่คบกันมา 2 ปีกว่า เมิงไม่เคยซื่อสัตย์กับกูเลยแม้แต่ครั้งเดียว จนกระทั่งวันนี้ ยังไม่ได้หย่ากับกู แต่พา…เข้าโรงแรม เมิงจะไม่มีวันเจอรักแท้เพราะตัวเมิงมันไม่เคยรักใคร กูทำทุกอย่างเพื่อลูกเพื่อครอบครัว แต่ความดีฉุด ผช แบบเมิงขึ้นมาไม่ได้จริงๆ กูรู้มาตลอดว่าเมิง… และเห็นแก่ตัว แต่กูคิดไม่ถึงไงว่าเมิงจะ…ได้ขนาดนี้ ซ้ำเติมได้ ไม่ต้องปลอบ คนนี้ไงเล่าที่เราเลืองเอง’

ต่อมายัง โพสต์ภาพสามียืนอยู่หน้าสภ.โนนไทย พร้อมระบุข้ความว่า “อ้าวลบโพสต์เหรอ.. มานี่กูลงให้ เอาลูกเอา ทำร้ายกู ทำให้กูเสียใจ ทิ้งกูทิ้งลูกไปอยู่กับผญ แล้วมาแจ้งจับกู อู้วหูวว ลูกผู้ชาย” #คนนี้ไงเล่าที่เราเลือกเอง

Cr. นาโอกิ เรน
#โชครถแห่ #นัสโชค #ข่าวบันเทิง #ข่าวดารา #siamdara #สยามดารา
“ณวัฒน์” โร่เคลียร์ดราม่า “อิงฟ้า” ใช้เท้าเขี่ยชุดเพื่อนนางงาม ลั่นเป็นผมก็ทำ!
จากกรณีดราม่าร้อนของสาว “อิงฟ้า วราหะ” มิสแกรนด์ไทยแลนด์ 2022 และรองอันดับ 1 มิสแกรนด์อินเตอร์เนชั่นแนล 2022 ใช้เท้าเขี่ยชุดราตรีของมิสแกรนด์แคมโบเดีย 2022 ขณะที่นางงามเพื่อนบ้านกำลังสะบัดผ้าโชว์ลูกเล่นของชุด ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกันกับที่อิงฟ้าเดินเข้ามายืนข้าง ๆ พอดี

โดยเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้มีแฟนๆ นางงามวิพากษ์วิจารณ์ถึง “อิงฟ้า” ไม่ควรใช้เท้าเขี่ยชุดเพื่อนนางงามด้วยกัน ควรใช้มือหยิบชุดให้พ้นทาง แต่อีกฝ่ายหนึ่งก็เห็นด้วยกับการที่อิงฟ้าแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าที่เกิดขึ้นด้วยการใช้เท้าเขี่ย 

ที่ล่าสุดเมื่อวันที่ 24 ก.ย 66 “ณวัฒน์ อิสรไกรศีล” บอสใหญ่แห่งเวทีมิสแกรนด์ ได้ออกมาไลฟ์สด เคลียร์ประเด็นดราม่าที่ชาวเน็ตกำลังวิจารณ์กันอยู่ในตอนนี้เอาไว้ว่า “พี่ฟ้าเขี่ยกระโปรงเป็นเรื่องปกติ เขาก็ต้องเขี่ยสิ กระโปรงมันขวางที่ยืนอยู่ แล้วจะให้เขาเอามือลงไปมันก็ไม่ได้ มันก็ดีแล้ว เป็นผม ผมก็เอาขาเขี่ย นี่เอาขาเขี่ยก็ดีแล้วไง เขาฉลาดไง เขาใช้สมอง เพราะถ้าก้มลงไปจับ มันต้องก้มลงไปลึกมาก

ผมเขี่ยประจำเลยเวลาผมไปถ่ายรูปกับนางงามชุดมันยาว ผมค่อยๆ ใช้ขาเขี่ย ไม่งั้นผมก็เหยียบชุดเขามันก็ไม่ดี แล้วเหยียบชุดเขามันก็ลื่น เหยียบก็สกปรก ต้องใช้เท้าเขี่ย ถูกแล้ว ดีกว่าเหยียบบนชายผ้า ดึงกันก็มีปัญหาอีก มันไม่มีดราม่าหรอก ดราม่าไปเรื่อย เป็นผม ผมก็ใช้ขาก่อนจะยืนยันว่า อิงฟ้า กับมิสแกรนด์แคมโบเดียไม่มีอะไรเลย ไม่ต้องถามเลยนะ เรื่องไม่เป็นเรื่อง ใช้ขาเขี่ยกระโปรงผิดปกติตรงไหน ทัวร์จะมาลงอะไร”

Cr. ภาพ IG : nawat.t
#ณวัฒน์ #บอสณวัฒน์ #อิงฟ้าวราหะ #อิงฟ้า #ข่าวนางงาม #ข่าวบันเทิง #ข่าวดารา #สยามดารา #siamdara
คลอดแล้ว ! “น้ำฝน-อาร์ม” อวดโฉมทายาทคนแรก “น้องเวลา”
ขอแสดงความยินดีกับคุณพ่อคุณแม่ป้ายแดงนักแสดงสาว “น้ำฝน พัชรินทร์” และพิธีกรหนุ่ม “อาร์ม พิพัฒน์ วิทยาปัญญานนท์” โดยล่าสุดเมื่อวันที่ 23 ก.ย 66 คุณแม่น้ำฝน ได้คลอดลูกชายแล้วหลังตั้งตารอคอยกันมานานหลายเดือน พร้อมตั้งชื่อว่า “น้องเวลา”

 ซึ่งงานนี้หลังจากที่คุณแม่พักฟื้นแล้วก็ได้มาอัปภาพแรกของครอบครัว พร้อมร่ายยาวด้วยความดีใจว่า "มีคนบอกว่า สิ่งสำคัญที่สุดของชีวิตคือ สุขภาพร่างกายที่ดี คือ สติปัญญา คือ เงินทองมากมาย คือ ความสุขที่ไขว้คว้ามาได้และคือ อะไรอีกมากมาย ฯลฯที่ชีวิตเล็กๆ จะได้ก้าวผ่านไปอย่างมีสติ"แต่สิ่งใดๆ เหล่านั้นอาจมีความหมายน้อยลง...หากไม่มี "เวลา" แหม ป๊าอาร์มกะม่ามี๊ฝน คิดเยอะไปไหมนะครับ!?! แต่จากนี้ไป ป๊ากะม่ามี๊มี "เวลา" เป็นของตัวเองแล้วนะครับ สวัสดีครับพี่ๆ ผมชื่อว่า "น้องเวลา" มารายงานตัวครับ! 23/09/23"

Cr. ig : @namfonpatcharin_
#น้ำฝนพัชรินทร์ #อาร์มพิพัฒน์ #ข่าวบันเทิง #ข่าวดารา #สยามดารา #siamdara
วิวาห์หมื่นล้าน “พีท-แก้มบุ๋ม” ตื่นเต้นพาพ่อแม่เจอกันครั้งแรก !
ขึ้นแท่นว่าที่ลูกสะใภ้หมื่นล้านเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สำหรับนักแสดงสาว “แก้มบุ๋ม-ปรียาดา สิทธาไชย” กับแฟนหนุ่มนักธุรกิจทายาทโรงพยาบาลดังอย่าง “พีท กันตพร หาญพาณิชย์” ที่กำลังจะเตรียมเข้าพิธีวิวาห์ในวันที่ 12 พ.ค 67 ที่จะถึงนี้หลังจากทั้งคู่คบหาดูใจกันมานานกว่า 4 ปี

และล่าสุดวันนี้ 24 ก.ย 66 หนุ่มพีทว่าที่เจ้าบ่าว ได้เผยภาพโมเมนต์สุดประทับใจขณะพาคุณพ่อ-คุณแม่ของตน ไปเจอกับคุณพ่อเจน-คุณแม่ลีของว่าที่เจ้าเจ้าสาว พร้อมเขียนแคปชั่นออกอาการตื่นเต้นว่า “อีก 1 วันสำคัญของเราทั้งคู่ครับ วันนี้เป็นวันที่ผู้ใหญ่ของเราทั้ง 2 ฝ่ายมาพบกันอย่างเป็นทางการครั้งแรก ทำความรู้จัก และวางแผนเรื่องงานแต่งงานนะครับ ตื่นเต้นนะบอกเลยครับ #แก้มพีท”

โดยเพื่อนๆ และแฟนคลับได้เห็นภาพโมเมนต์นี้แล้วต่างเข้ามาคอมเมนต์รัวๆ บอกเป็นเสียงเดียวว่าน่ารัก และ ยินดีกับทั้งสองครอบครัว อาทิ น่ารักมากค่ะ ทั้งครอบครัวเลย , อบอุ่นมากค่ะดีใจแทนน้องทั้งสองนะคะ , เป็นภาพที่ดูแล้วอบอุ่นมากๆ , งานวิวาห์สุดอลังการแน่นอน เป็นต้น

Cr. ig : peace.kan
#แก้มบุ๋ม #แก้มพีท #พี่พีท #ข่าวบันเทิง #ข่าวดารา #สยามดารา #siamdara
วิวาห์หมื่นล้าน “พีท-แก้มบุ๋ม” ตื่นเต้นพาพ่อแม่เจอกันครั้งแรก !
ขึ้นแท่นว่าที่ลูกสะใภ้หมื่นล้านเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สำหรับนักแสดงสาว “แก้มบุ๋ม-ปรียาดา สิทธาไชย” กับแฟนหนุ่มนักธุรกิจทายาทโรงพยาบาลดังอย่าง “พีท กันตพร หาญพาณิชย์” ที่กำลังจะเตรียมเข้าพิธีวิวาห์ในวันที่ 12 พ.ค 67 ที่จะถึงนี้หลังจากทั้งคู่คบหาดูใจกันมานานกว่า 4 ปี

และล่าสุดวันนี้ 24 ก.ย 66 หนุ่มพีทว่าที่เจ้าบ่าว ได้เผยภาพโมเมนต์สุดประทับใจขณะพาคุณพ่อ-คุณแม่ของตน ไปเจอกับคุณพ่อเจน-คุณแม่ลีของว่าที่เจ้าเจ้าสาว พร้อมเขียนแคปชั่นออกอาการตื่นเต้นว่า “อีก 1 วันสำคัญของเราทั้งคู่ครับ วันนี้เป็นวันที่ผู้ใหญ่ของเราทั้ง 2 ฝ่ายมาพบกันอย่างเป็นทางการครั้งแรก ทำความรู้จัก และวางแผนเรื่องงานแต่งงานนะครับ ตื่นเต้นนะบอกเลยครับ #แก้มพีท”

โดยเพื่อนๆ และแฟนคลับได้เห็นภาพโมเมนต์นี้แล้วต่างเข้ามาคอมเมนต์รัวๆ บอกเป็นเสียงเดียวว่าน่ารัก และ ยินดีกับทั้งสองครอบครัว อาทิ น่ารักมากค่ะ ทั้งครอบครัวเลย , อบอุ่นมากค่ะดีใจแทนน้องทั้งสองนะคะ , เป็นภาพที่ดูแล้วอบอุ่นมากๆ , งานวิวาห์สุดอลังการแน่นอน เป็นต้น

Cr. ig : peace.kan
#แก้มบุ๋ม #แก้มพีท #พี่พีท #ข่าวบันเทิง #ข่าวดารา #สยามดารา #siamdara
ตร. บุกค้นบ้านแฟนเก่า “เบียร์ เดอะวอยซ์” หลังถูกโยงปมคลิปหลุด
จากกรณี เบียร์ ภัสรนันท์ หรือ เบียร์ เดอะวอยซ์ นักร้องสาว ถูกผู้ไม่หวังดีปล่อยภาพหลุดผ่านช่องทางออนไลน์ เป็นเหตุให้ได้รับความเสียหาย ทั้งเหตุดังกล่าวยังโยงไปถึงอดีตคนสนิทของเบียร์ เดอะวอยซ์ ทำให้หลายฝ่ายได้รับผลกระทบและถูกสงสัยว่าเป็นผู้ปล่อยภาพหวิว

ความคืบหน้าล่าสุด มีรายงานว่า เบียร์ เดอะวอยซ์ ได้แจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน บก.สอท.1 ไว้แล้ว เมื่อวันที่ 18 ก.ย. 66 ตำรวจได้สอบปากคำและรวบรวมพยานหลักฐาน

เมื่อวันที่ 23 ก.ย. พล.ต.ต.อำนาจ ไตรพจน์ รองผบช.สอท. กล่าวว่า กรณีดังกล่าวเข้าข่ายความผิด ตามพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ มาตรา 14(4) นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใดๆ ที่มีลักษณะอันลามกและข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้นประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือ ปรับไม่เกิน 100,000บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ในส่วนของคนแชร์หรือส่งต่อ ก็เข้าข่ายความผิด ตามพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ มาตรา 14(5) ผู้ใดเผยแพร่หรือส่งต่อซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์โดยรู้อยู่แล้วว่าเป็นข้อมูลคอมพิวเตอร์ ตาม (1) (2) (3) หรือ (4) มีอัตราโทษ จำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บ. เช่นเดียวกัน

นอกจากนี้ในส่วนผู้กระทำความผิดที่เปิดลักษณะการเปิดรับสมาชิก หรือเรียกเก็บค่าเข้ากลุ่ม เพื่อรับชมคลิปหรือภาพลามกอนาจาร โดยผู้ที่ปรากฏในคลิป ผู้ผลิต หรือ ผู้นำคลิปไปเผยแพร่ได้รับประโยชน์ จากผู้อื่นเป็นค่าตอบแทน ถือว่า “มีความผิดตามกฎหมาย” ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 287 (1) เพื่อความประสงค์แห่งการค้า หรือโดยการค้า เพื่อการแจกจ่ายหรือเพื่อการแสดงอวดแก่ประชาชน ทำ ผลิต มีไว้ นำเข้าหรือยังให้นำเข้าในราชอาณาจักร ส่งออกหรือยังให้ส่งออกไปนอกราชอาณาจักร พาไปหรือยังให้พาไปหรือทำให้แพร่หลายโดยประการใด ๆ ซึ่งเอกสาร ภาพเขียน ภาพพิมพ์ ภาพระบายสี สิ่งพิมพ์ รูปภาพ ภาพโฆษณา เครื่องหมาย รูปถ่าย ภาพยนตร์ แถบบันทึกเสียง แถบบันทึกภาพหรือสิ่งอื่นใดอันลามก ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

"ขอฝากประชาสัมพันธ์ ว่า กรณีที่เกิดขึ้นอยากให้มองเป็นอุทาหรณ์ว่าการกระทำในลักษณะดังกล่าว แม้ช่วงเวลานั้น เกิดจากความยินยอมไว้เนื้อเชื่อใจโดย ไม่ได้มีการบังคับ แต่หากเกิดมีภาพเผยแพร่ออกไป ไม่ว่าด้วยวิธีการใดก็ตาม ก็จะส่งผลกระทบต่อชื่อเสียงและหน้าตาของบุคคลนั้น และย้อนกลับมาทำร้ายตัวเอง ไม่อาจที่จะแก้ไขได้ นอกจากนี้ฝากถึงผู้ใช้สื่อสังคมออนไลน์ เมื่อพบเห็นการกระทำในลักษณะดังกล่าวอย่าเข้าไปดู แสดงความคิดเห็น หรือส่งต่อ ซึ่งอาจจะเข้าข่ายการกระทำความผิด เพราะยิ่งมีการส่งต่อเรื่องราวดังกล่าว ก็ยิ่งเป็นการตอกย้ำผู้เสียหายและส่งเสริมการกระทำที่ไม่เหมาะสม “ รองผบช.สอท. กล่าว

มีรายงานว่ากรณีดังกล่าวทางนักร้องสาว“เบียร์ เดอะวอยซ์ ซีซั่น 3 ” ได้แจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนบก.สอท.1 เมื่อ 18 ก.ย.ที่ผ่านมา ภายหลังการสอบปากคำและรวบรวมพยานหลักฐาน วานนี้(22 ก.ย.) ทางพนักงานสอบสวนได้ขออำนาจศาลขอหมายค้นบ้านพักของผู้ถูกกล่าวหาเบื้องต้นได้ตรวจยึดอุปกรณ์,มือถือ,ไอแพด โน้ตบุ๊ค และคอมพิวเตอร์แมคบุ๊ก ไว้ให้ทางบก.ตอท.ตรวจสอบ พร้อมกันนี่ได้เชิญตัวผู้ถูกกล่าวหามาสอบปากคำในฐานะพยานโดยได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี ซึ่งระบุว่าไม่ทราบว่าภาพดังกล่าวหลุดได้อย่างไร ในส่วนรายละเอียดอื่นๆอยู่ในสำนวน และอยู่ในระหว่างดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป

Cr. ภาพ ig : @beerpassaranan

#เบียร์เดอะวอยซ์ #ข่าวบันเทิง #ข่าวดารา #สยามดารา #siamdara
“ก้อง สหรัถ” เปิดโฉมรักแรก 30 ปีไม่เคยวอกแวกแม้อยู่ในวงการ
คบแฟนสาวนอกวงการมายาวนาน 30 ปี โดยไม่เคยเปิดเผยออกสื่อมากนักสำหรับพระเอกนักร้องมาดนุ่ม เจ้าของฉายา "หล่ออมตะ" อย่าง “ก้อง สหรัถ สังคปรีชา” ที่ล่าสุดยอมเปิดใจในรายการแฉ ทำเอา “มดดำ คชาภา” พิธีกร ยังอึ้งแทบไม่อยากเชื่อว่าจะมีผู้ชายที่รักเดียวใจเดียวแบบนี้ในโลก

โดย “ก้อง สหรัถ” ได้เล่าว่า “แฟนคนนี้เริ่มจากจุดคำว่าศูนย์มาด้วยกัน เริ่มตั้งแต่ยังไม่มีชื่อเสียง ไม่มีเงินไม่มีอะไรเลย นั่งรถเมล์ด้วยกัน แชร์ค่ารถเมล์กัน คบมาตั้งแต่ประมาณอายุ 20 ปีเขาก็ร่วมเห็นความสำเร็จของเรามาเรื่อย ๆ

เมื่อ “ก้อง”ถูกถามว่าอยู่ในวงการมานานไม่มีวอกแวกเลยเหรอเจ้าตัว ก็ได้เผยว่า วอกแวกตกข้างทางเราต้องรีบขับกลับขึ้นมาบนทางหลวงอย่าไปตกข้างทางนาน เดี๋ยวยางแตกข้างทางนี่ยุ่งเลย นิยามความรักของตนคือความรักเป็นพลังในการขับเคลื่อนชีวิตเรา งานนี้เล่นเอา “มดดำ” พิธีกรถึงกับอึ้งและบอกว่าจะมีผู้ชายที่รักเดียวใจเดียวแบบนี้ในโลกหาซื้อรักแท้แบบนี้ได้ที่ไหน

Cr. รายการ แฉ  
ภาพ ig : @realsaharat

#ก้องสหรัถ #แฟนก้อง #รัก30ปี #ข่าวบันเทิง #ข่าวดารา #สยามดารา #siamdara
สุดภูมิใจ! “มิ้นต์ ชาลิดา” ประกาศข่าวดีเรียนจบป.โทแล้ว
ขอแสดงความยินดีกับนางเอกมากความสามารถอย่าง "มิ้นต์ ชาลิดา วิจิตรวงศ์”สวยเก่งครบเครื่อง ที่แม้จะทุ่มเทเวลาให้งานในวงการบันเทิง แต่เธอก็ให้ความสำคัญกับการเรียน ซุ่มศึกษาต่อทันทีหลังคว้าปริญญาตรีคณะ IBM บริหารธุรกิจระหว่างประเทศ มหาวิทยาลัยแสตมฟอร์ด

ที่ล่าสุดเมื่อวานนี้ 23 ก.ย 66 สาว "มิ้นต์" ได้เผยข่าวดีโพสต์ภาพตนเองใส่ชุดครุยหลังเรียนจบปริญญาโท หลักสูตรธุรกิจเทคโนโลยีและการจัดการนวัตกรรม (สหศึกษา) จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ลงในอินสตาแกรมส่วนตัวพร้อมเขียนข้อความว่า จบโทแล้วจ้า พรุ่งนี้เรามีนัดกันนะคะ #ปริญญาโทจ๋าชาลิดาจบแล้ว

ท่ามกลางเพื่อนๆในวงการและแฟนคลับเข้ามาแสดงความยินดีกันอย่างคึกคัก

Cr. ig : @mint_chalida
#มิ้นต์ชลิดา #มิ้นต์ #ข่าวบันเทิง #ข่าวดารา #สยามดารา #siamdara
“ดีเจเพชรจ้า” แจ้งข่าวเศร้าสูญเสีย “คุณแม่” อันเป็นที่รัก คนบันเทิง-แฟนคลับ ร่วมอาลัย
ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวของ “ดีเจเพชรจ้า วิเชียร กุศลมโนมัย” หลังได้ออกมาแจ้งข่าวร้ายว่าได้สูญเสียคุณแม่ หลังล้มป่วยมาสักระยะ

  โดย “เพชรจ้า” ได้โพสต์รูปคู่คุณแม่ พร้อมข้อความสุดเศร้าระบุว่า “RIP MY SUPER MOM อยากพิมพ์ข้อความสักล้านตัว แต่ แค่ กดแป้น ก็ น้ำตาไหลไม่หยุด รักแม่ มากๆน้า ชาติหน้าชาติไหนก้ขอเกิดเป็นลูกแม่เหมือนเดิมนะ ขอบคุณที่แม่เป็นเสียงหัวเราะให้ลุกมาตลอดเวลา หลับให้สบาย นะแม่ #รักอาม่าพี่เพขรจ้า”

และโพสต์ต่ออีกว่า RIP แม่ = สุดที่รัก โชคดีที่ถ่ายคลิปแม่ไว้เป็น1000 คลิป แม่คือความสุข ของทุกคนนะครับ รักแม่มากๆนะ และ love u so much

ในขณะที่นิวเคลียร์อดีตภรรยา ได้ออกมาโพสต์แสดงความเสียเช่นเดียวโดยระว่า "RIP หลับให้สบายนะคะอาม่า ขอแสดงความเสียใจกับพี่เพชรและครอบครัวด้วยนะคะ"

ท่ามกลางเพื่อนในวงการรวมไปถึงแฟนคลับที่เข้ามาร่วมส่งกำลังใจให้ “ดีเจเพชรจ้า” จำนวนมาก

Cr. ig : @newclear_hansa @djpetjah
#ดีเจเพชรจ้า #ข่าวเศร้า #นิวเคลียร์หรรษา #ข่าวบันเทิง #สยามดารา #siamdara **ลงเว็บ
“เอ๋ มิรา” ฟาดเดือดอีกรอบ! ถามหาค่าเลี้ยงดูลูกจาก “ครูไพบูลย์”
เดือดสนั่นโซเชียลอีกครั้งกับดราม่ามหากาพย์ระหว่าง “เอ๋ มิรา” กับอดีตสามี “ครูไพบูลย์” นักแต่งเพลงชื่อดังจากกรณีที่ “เอ๋ มิรา ชลวิรัลวานิศร์” ได้ยื่นฟ้องร้อง อดีตสามี “ครูไพบูลย์ แสงเดือน” เกี่ยวกับการเรียกค่าเลี้ยงดูบุตรโดยศาลอุทธรณ์พิพากษาให้โจทก์และจำเลยใช้อำนาจ ปกครองบุตรร่วมกัน แต่ให้โจทย์เป็นผู้กำหนดที่อยู่ของบุตรผู้เยาว์ แต่เพียงผู้เดียว และให้จำเลยชดใช้ค่าอุปการะเลี้ยงดูเดือนละ 10,000 บาท ตั้งแต่วันนี้จนบุตรบรรลุนิติภาวะ ซึ่งเวลาผ่านมา 4 เดือนแล้ว ทางฝั่งครูไพบูลย์ ยังไม่มีความเคลื่อนไหวใดๆ

ที่ล่าสุดทางด้านทนายของ เอ๋ มิราได้โพสต์เฟซบุ๊ก บอกว่า "ลิซ่าไม่มาแน่ๆ แต่หมายตั้ง และยึดทรัพย์ ขายทอดตลาด ไปถึงบ้านแน่ๆ เป็นพ่อคน แต่ความรับผิดชอบไม่มี คนแบบนี้ไม่ต้องมีที่ยืน"

โดยสาวเอ๋ได้แชร์โพสต์ของทนาย พร้อมระบุข้อความเพิ่มเติมบอกว่า "คดีถึงที่สุดแล้วตั้งแต่วันที่ 24 พฤษภาคม 2566 ผ่านมา 4 เดือนแล้ว ค่าอุปการะเลี้ยงดูบุตร ยังไม่จ่ายสักบาท เดือนละ 10,000฿ มันมากไปหรอหรือยังไง ให้มาก็เป็นเงินเก็บลูกทั้งนั้น ส่างเกิดมาเป็นพ่อคนน้อ คิดบ่ได้คักแหน่ #ความรับผิดชอบไม่มี #กะเลยเกิดมาเสียชาติ" และได้คอมเมนต์ใต้โพสต์ตัวเอง บอกว่า "ขายของหาเงินเลี้ยงลูกว่าเหนื่อยแล้ว ยังต้องเสียเวลาตามคดีตามเงินให้ลูกบ่แล้วจักเทือ ทั้งที่ศาลเป็นคนสั่งแท้ๆ จิตสำนึกของคำว่าพ่อคนมันหายไปกับ กี เบิ่ดบ่"

ก่อนที่เมื่อวานนี้ 22 ก.ย 66 เอ๋ มิรา ตอบคอมเมนต์ที่มีคนแนะนำว่าลองให้อีกฝ่ายเอาลูกไปเลี้ยงเองไหม เขาจะได้รู้ค่าใช้จ่าย โดยตอบกลับไปว่า "ไม่ค่ะ ไม่แน่นอน ถ้าเขาไม่รู้สึก ไม่มีจิตสำนึก มันมีทางออกที่ดีกว่านั้น เอ๋จะไม่เอาลูกไปเป็นเครื่องพิสูจน์ความรู้สึกใครทั้งนั้น โลกของลูกเต็มไปด้วยความรัก บริสุทธิ์ ในความคิดลูก พ่อกับแม่คือเซฟโซนของเขา ถึงพ่อเขาจะคิดไม่ได้ เอ๋จะไม่ดึงลูกมารับรู้เรื่องนี้แน่นอนค่ะ"

นอกจากนี้ เอ๋ มิรา ยังได้แคปภาพที่ตนเองตอบคอมเมนต์ดังกล่าวมาแชร์ในเฟซบุ๊ก พร้อมแคปชั่นว่า "ถ้าไม่ส่งเสีย อย่าหาว่าฉันใจร้ายละกัน ปัญหามันไม่ใช่เรื่องเงิน แต่มันคือความรับผิดชอบ ถ้าทำตามข้อตกลง มันคงไม่มีปัญหา #มีเงิน แต่ไม่มีความคิด !"

Cr. Fb : มิรา ชลวิรัลวานิศร์ , ไพบูลย์ แสงเดือน
#เอ๋มิรา #ครูไพบูลย์ #ข่าวบันเทิง #ข่าวดารา #สยามดารา #siamdara
“อิงฟ้า” เสียอาการเจอ “ซุปตาร์ตัวแม่” โผล่เมนต์สุดจึ้ง!
สมนางงามขวัญใจมหาชนจริงๆ สำหรับ "อิงฟ้า วราหะ" มิสแกรนด์ไทยแลนด์ 2022 เป็นที่รักของแฟนคลับทั้งในและนอกประเทศ ที่ล่าสุดยังสร้างเสียงฮือฮาออกมาโชว์สเต็ปเต้น ลง TIKTOK เซ็กซี่ขยี้ใจเเบบสุดปังทำเอาแฟนเข้ามาคอมเมนต์ชื่นชมในความสวยกันมากมาย

แถมยังมีเรื่องให้ “อิงฟ้า” ออกอาการดีอกใจดีปลื้มปริ่มสุดๆ เมื่อนักแสดงตัวแม่ที่ชื่นชอบมาตั้งแต่เด็กๆ อย่างซุปตาร์สาว “อั้ม พัชราภา ไชยเชื้อ” เข้ามาคอมเมนต์ชม “อิงฟ้า” ว่า สวย พร้อมอิโมจิความรัก งานนี้เมื่อสาว “อิงฟ้า” ได้เห็นก็รีบเข้ามาตอบกลับอย่างไวว่า “งื้ออออ พี่อั้ม” พร้อมอิโมจิหัวใจสีขาว

Cr. Tikkok : Engfa32
ภาพ ig : @aum_patchrapa

#อิงฟ้าวราหะ #อิงฟ้า #อั้มพัชราภา #ข่าวบันเทิง #ข่าวนางงาม #สยามดารา #siamdara
ใจหาย! “แพรรี่ ไพรวัลย์” ประกาศลาจอปลายปีนี้
โลดแล่นบนเส้นทางบันเทิงจนประสบความสำเร็จอย่างมาก สำหรับ “ไพรวัลย์ วรรณบุตร” หรือ “แพรรี่” อดีตพระสงฆ์ชื่อดัง ที่หลังจากลาสิกขาออกมาเป็นฆราวาสเดินหน้าสร้างความสุขผ่านจอให้แฟนๆได้ติดตามผลงานกันต่อเนื่อง

แต่ล่าสุดวานนี้ 22 ก.ย 66 ทำเอาแฟนๆคลับใจหายไม่น้อยเมื่อ “แพรรี่” ได้เขียนข้อความร่ายยาวผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว แจ้งข่าวว่าขอลาจอ พักงานในวงการบันเทิงและไปทำตามความฝันของตัวเองจริงจัง”โดยได้ระบุไว้ว่า “ทำงานหน้ากล้องมากว่า 1 ปีเต็ม ตอนนี้ใกล้ถึงเวลาแล้วนะคะ ที่ดิฉันจะอำลาหน้าที่การงานที่ได้ทำอยู่ตอนนี้ ขอบคุณแสงสีที่สาดส่องเข้ามาตลอดระยะเวลาของการทำงานอยู่ในวงการบันเทิง (คงจะพูดได้แหล่ะ)

ขอบคุณโอกาสและความเมตตาเอ็นดูจากผู้ใหญ่หลายๆ ท่าน ซึ่งมองเห็นศักยภาพและความสามารถอันเล็กน้อยที่มีอยู่ในตัวของดิฉันนะคะ ถ้าไม่มีท่านเหล่านี้ ต่อให้ดิฉันจะอยากได้แสดงความสามารถแค่ไหน ก็คงไม่มีเวทีให้ได้แสดงมีดวงเรืองก็ต้องมีดาวโรยอันนี้มันเป็นของคู่กันนะคะ ตอนนี้ดูเหมือนว่าดิฉันอยากจะรับบทเป็นดาวโรยแล้วหล่ะ ดิฉันคิดว่า ถึงเวลาที่ดิฉันควรจะหยิบหิ้วกระเป๋าสัมภาระและเก็บของนั่งรถกลับบ้านนาที่จากมาได้แล้วต้องบอกนะคะว่า การที่ดิฉันได้มาอยู่ตรงจุดนี้ จุดที่ตัวเองกำลังยืนอยู่ มันเป็นเรื่องที่เกินฝันมากๆ และถึงตอนนี้ก็ไม่มีความทะเยอทะยานอะไรที่ดิฉันอยากจะได้รับมากไปกว่านี้แล้วค่ะ

คงต้องขออนุญาตขอบคุณและบอกลากันตั้งแต่เนิ่นๆ ว่า หลังปลายปีนี้ คงจะไม่ได้เห็นดิฉันในบทบาทฐานะของนักแสดงและพิธีกรตามรายการต่างๆ อย่างที่เคยเห็นมาแล้วนะคะ และก็ไม่ใช่เป็นเพราะว่ามีใครที่ไหนมาขับไล่ไส่ส่งดิฉันให้ไปจากจุดนี้ ไม่มีค่ะทุกเรื่องเป็นเพราะดิฉันได้ตัดสินใจด้วยตัวเองแล้วว่าดิฉันต้องการให้ชีวิตของตัวเองดำเนินต่อไปแบบไหน ด้วยหน้าที่การงานอย่างไร เมื่อตัดสินใจแล้วก็ต้องเลือกและแลกค่ะ

ปีหน้าหลังหมดงานในวงการ คงมีหลายเรื่องที่ดิฉันอยากทำและได้ทำเพื่อตัวเองอย่างจริงๆจังๆ ทั้งการปลูกผมที่คิดไว้นานแล้ว การได้อยู่ดูแลแม่ด้วยตัวเอง ซึ่งระยะหลังนี้ แม่ก็พูดเปรยๆ ว่ารู้สึกมีความสุขและมีกำลังใจมากขึ้นเวลาที่เราอยู่บ้านด้วย อีกเรื่องก็การทำคาเฟ่ร้านอาหาร นี่ก็เป็นความฝันที่เคยสัญญากับตัวเองไว้ตอนสึกใหม่ๆ ว่าอยากทำ คงถึงเวลาที่ต้องทำตามสัญญาแล้วหล่ะ

ขอบคุณทุกคนที่คอยติดตามและให้กำลังใจกับดิฉันมาโดยตลอดนะคะ ขอบคุณที่รักและเอ็นดูความเป็นแพรรี่ในตัวของดิฉัน ขอบคุณที่เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้บทบาทของการทำงานในวงการบันเทิงของดิฉันประสบความสำเร็จในแบบที่ดิฉันพอใจ ขอบคุณค่ะ”

ทั้งนี้ “แพรี่” ยังทิ้งท้ายเอาไว้ด้วยว่า ลาก่อน = เจอกันในโซเชียลทุกวันค๊าาา สติ

Cr. FB ไพรวัลย์ วรรณบุตร
#แพรรี่ไพรวัลย์ #แพรรี่ #ข่าวบันเทิง #ข่าวดารา #สยามดารา #siamdara
“โอ๊ต ปราโมทย์ “ เจอไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ A เล่นงานต้องยกเลิกงานด่วน!
ทำเอาบรรดาแฟนคลับเข้าไปคอมเมนต์ให้กำลังใจกันยกใหญ่หลังนักร้องหนุ่มอารมณ์ดี “โอ๊ต ปราโมทย์ ปราทาน” เจอไข้หวัดใหญ่สายพันธ์ A เล่นงานจนต้องขอโทษเจ้าภาพที่ยกเลิกคิวงานเพื่อหยุดพักรักษาตัว โดยก่อนหน้านี้ กรมควบคุมโรค ได้ออกมาประกาศเตือนหลัง “ไข้หวัดใหญ่” กลับระบาดเตือนประชาชนฉีดวัคซีนป้องกัน

ที่ล่าสุดเมื่อวานนี้ 22 ก.ย 66 หนุ่มโอ๊ต ได้ออกมาแจ้งข่าวโพสต์ภาพใบรับรองแพทย์ พร้อมข้อความระบุว่า “นอกจากแม่ก็นี่ละครับ “ไข้หวัดใหญ่สายพันธ์เอ” ที่เอากูลง ขอโทษเจ้าภาพงานทุกงานที่ต้องยกเลิกคิวนะครับ แล้วไว้เจอกันใหม่ขอไปพักแป๊บ “

Cr. ig @oatpramote

#โอ๊ตปราโมทย์ #โอ๊ต #พ่อหมี #ข่าวบันเทิง #ข่าวดารา #siamdara #สยามดารา
“หมาก” โพสต์ซึ้งครบรอบ10ปี “คิมเบอร์ลี่”
เริ่มต้นใช้ชีวิตคู่สามี-ภรรยาอย่างเป็นทางการแล้วสำหรับคู่รักแห่งปีพระเอกหนุ่ม “หมาก-ปริญ สุภารัตน์” และ นางเอกสาว คิมเบอร์ลี่ แอน โวลเทมัส ที่เพิ่งผ่านพ้นงานวิวาห์เมื่อวันที่ 14 ก.ย ไปอย่างชื่นมื่น

โดยล่าสุดวันนี้ 22 ก.ย 66 “หมาก ปริญ” ได้โพสต์ภาพงานวิวาห์เพื่อเป็นการฉลองวันครบรอบ 10 ปี พร้อมพรั่งพรูความในใจถึง “คิมเบอร์ลี่” ระบุว่า "วันสำคัญที่สุดในชีวิต วันที่คนที่เรารักและคนที่รักเรามาอยู่ร่วมกัน วันที่มีความสุขที่สุด เติบโตเก็บเกี่ยวประสบการณ์ เก็บหอมรอมริบและสร้างทุกอย่างมาด้วยกัน และในที่สุดก็มีวันนี้ ขอบคุณโอกาสและบุคคลรอบตัวรวมถึงแฟนๆที่คอยสนับสนุนเป็นกำลังใจ อวยพร และเกิดสิ่งดีดีครับ นี่ไม่ใช่ละครและยังไม่ใช่ตอนจบ บทชีวิตใหม่ของผมกับน้อง ยังคงดำเนินและเกิดขึ้น ต่อไปครับ 10th year Anniversary"

Cr. ig : @mark_prin
#หมากคิม #หมากปริญ #คิมเบอร์ลี่ #ข่าวบันเทิง #ข่าวดารา #สยามดารา #siamdara
แซ่บตาค้าง ! “เอ ศุภชัย” เสิร์ฟความเซ็กซี่ แหวกอกริมสระ
สวยแซ่บขึ้นทุกวันสำหรับ ผู้จัดการดาราคนดัง “เอ ศุภชัย ศรีวิจิตร” ที่ล่าสุดทำโซเชียลลุกเป็นไฟลุกเพราะดาวดวงใหม่แจ้งเกิดอีกแล้ว ออกมาฟาดลุคเซ็กซี่ในชุดว่ายน้ำวันพีซเว้าสูงปรี๊ด แต่งหน้าฉ่ำผมบลอนด์สายฝอ และโชว์อกอึ๋มทะลัก แถมท่าโพสเด็ดไม่แพ้นางแบบมืออาชีพ ทำหลายคนเห็นแล้วตาแทบค้างกันเลยทีเดียว

งานนี้ก็มีเหล่าดาราคนดังรวมถึงแฟน ๆ เข้ามาคอมเมนต์ชมและแซวกันสนั่น อาทิ แซ่บที่สุด, สวยเกินไปมากดาราสาววววว, สวยไฟลุก, ฮอตเเซ่บเวอร์, น้องคนนี้มีแฟนรึยังคะ, พี่เอ สาว , ว้าว..ว้าวุ่นเลย ฯลฯ

Cr. @a_supachai1
#เอศุภชัย #พี่เอ #แซ่บสะบัด #เซ็กซี่มากแม่ #ข่าวบันเทิง #ข่าวดารา
ดารารุ่นใหญ่ “อาวอ จิราวัฒน์” โล่งรอดคดีหมิ่น
วันที่ 22 กันยายน พศ.2566 ศาลจังหวัดนนทบุรี ผู้พิพากษาได้ออกนั่งพิจารณาอ่านคำพิพากษา คดีที่นางสาวจัญจุรา คงเจริญสุข โจทก์ ฟ้องนายกนก รัตน์วงศสกุล กับพวกรวม 17 คนเป็นจำเลย ข้อหาร่วมกันหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา คดีหมายเลขดำที่ อ.231/2563 โดยศาลพิพากษายกฟ้องจำเลยที่เหลือทั้งหมด

สืบเนื่องจากก่อนสืบพยานโจทก์มีการถอนฟ้องจำเลยบางส่วนแล้ว เพราะตกลงกันได้แล้ว เหลือจำเลยบางคนที่ต่อสู้คดีต่อ จำเลยที่เหลือให้การปฏิเสธต่อสู้คดี จนวันนี้ ผู้พิพากษาศาลจังหวัดนนทบุรี ได้มีคำพิพากษาในส่วนจำเลยที่เหลือว่าการแสดงความคิดเห็นของจำเลยเป็นการแสดงความคิดเห็นทางการเมืองเช่นเดียวกับโจทก์ มิใช่การยืนยันข้อเท็จจริง จึงไม่ได้ทำให้โจทก์ได้รับความเสียหาย พยานหลักฐานโจทก์จึงไม่อาจรับฟังได้ว่าจำเลยที่เหลือกระทำผิดฐานร่วมกันหมิ่นประมาทโดยการโฆษณาตามฟ้อง พิพากษายกฟ้อง

นายกิตติวัฒน์ จำเลยที่ 16 กล่าว “เป็นความยากลำบากที่จำต้องต่อสู้คดี และเป็นภาระกับตนเป็นอย่างยิ่ง ต้องหายืมหลักทรัพย์มาทำเรื่องประกันตัว โชคดีที่ศาลกรุณาให้ตนใช้สิทธิ์จำเลยต่อสู้อย่างเต็มที่ จนศาลมีคำพิพากษายกฟ้องแล้วในวันนี้”

ทนายวันนที กล่าว “ประชาชนมีสิทธิแสดงความคิดเห็นได้โดยสุจริต โดยเฉพาะความคิดเห็นทางการเมืองตามที่ศาลท่านได้พิพากษาไว้ และไม่ใช่เป็นการยันข้อเท็จจริง ตนเห็นด้วยต่อคำพิพากษานี้ ขอบคุณพี่น้องทนายในคดีนี้ที่ช่วยเหลือกัน”

คดีนี้มีดารานักแสดงที่โดนฟ้องร่วมกับนายกนก พิธีกร อยู่ด้วยคือนายจิราวัฒน์ โดยได้กล่าวว่า “นับตั้งแต่ปี 2563 ถึง 2566 ตนรู้สึกลำบากใจมาก ยิ่งก่อนสืบพยานจำเลยคนอื่นๆ ยอมจ่ายเงินให้โจทก์ จนมีการถอนฟ้องจำเลยคนอื่นๆ แต่ตนยังเชื่อ และได้พยายามพิสูจน์ตนเองในชั้นศาล ยืนยันในความบริสุทธ์ ต่อสู้คดีจนเหลือตนและจำเลยอีก 3 คน วันนี้ ศาลได้พิพากษายกฟ้องตนว่า ตนมีสิทธิ์โต้แย้งคัดค้านโจทก์ทางการเมืองเช่นเดียวกับโจทก์ และไม่เป็นการยันข้อเท็จจริง จึงไม่เป็นการหมิ่นประมาท พิพากษายกฟ้อง นับเป็นความกรุณาเป็นที่สุด ขอขอบคุณผู้พิพากษาและองค์คณะ ขอบคุณทนายความ และพยานทุกคน จึงขอฝากไว้เป็นวิทยาทาน โปรดระมัดระวังการแสดงความคิดเห็นทางสังคมออนไลน์ เนื่องจากมีคนถูกฟ้องเช่นนี้ อยู่ที่ศาลนี้เป็นจำนวนมาก และอยากให้นำคำตัดสินคดีนี้เป็นแนวทางในการสู้คดีอื่นๆ เพราะศาลท่านได้วินิจฉัยเป็นประโยชน์ต่อสังคมโซเชียลมีเดียเป็นอย่างยิ่ง”
ชัดเจน “เบสท์ รักษ์วนีย์” เผยสาเหตุเป็นเพื่อนกับแฟนเก่าไม่ได้
หายข้องใจกันไปเลยสำหรับคำตอบสุดปังของยูทูปเบอร์สาว “เบสท์ รักษ์วนีย์ คำสิงห์” หลังขึ้นแท่นสาวโสดก็มักจะเจอคำถามยอดฮิตว่าจะมีโอกาสรีเทิร์นรักเก่าไหม? ซึ่งเธอก็ยืนยันชัดเจนว่าไม่ และไม่เป็นเพื่อนด้วย

และล่าสุดในรายการ De - Talk ทางช่องยูทูบของ ตั้ม วราวุธ กับ โดม จารุวัฒน์ ก็ได้ถาม “เบสท์” ว่า เลิกกันไปแล้วสามารถเป็นเพื่อนกับแฟนเก่าได้มั้ย 

งานนี้ “เบสท์” รีบบอกทันทีว่า “ไม่เคยเป็นเพื่อนกับแฟนเก่าเลย เพราะว่าเขาก็มีแฟนใหม่ไง ถ้าเราไปเป็นเพื่อนกับแฟนเก่า แฟนใหม่เขาก็คงไม่ชอบ เราให้เกียรติแฟนใหม่เขาและให้เกียรติแฟนใหม่เราในอนาคตด้วย แต่ถ้าเกิดร่วมงานกัน ร่วมงานได้ ส่วนจะรีเทิร์นกลับไปหาคนเก่ามั้ย “เบสท์” ขอบอกชัดเลยว่า ไม่เป็นคนที่เลิกแล้วเลิกเลย ไม่เคยรีเทิร์น ก็มูฟออนกันไป เป็นคนที่ชัดเจนมากๆ ตั้งแต่สมัยเรียนแล้ว เลิกก็คือเลิกเลย”

Cr. ig : @bestkamsing
รายการ De - Talk
#เบสท์ #เบสคำสิงห์ #ข่าวบันเทิง #ข่าวดารา #สยามดารา #siamdara
หัวใจอินเลิฟ! “ดีเจเพชรจ้า” เผยโมเมนต์หวานกับสาวนอกวงการ!
ก่อนหน้านี้เป็นที่ฮือฮาเมื่อคุณพ่อลูกหนึ่ง “ดีเจเพชรจ้า วิเชียร กุศลมโนมัย” ได้โพสต์สตอรี่รูปคู่สาวสวย ตาโตเห็นแค่ครึ่งหน้าจนทำเอาคนลุ้นกันว่าเป็นรักครั้งใหม่ของเจ้าตัวหรือเปล่า

ซึ่งภายหลัง “หนุ่มเพชรจ้า”ได้พร้อมยอมรับเต็มปากว่าหัวใจตอนนี้ไม่ว่างแล้วกำลังศึกษาดูใจกับสาวน้อยนักศึกษาที่วัยต่างกันถึง 20 ปีเจอกันที่ร้านอาหารตอนนี้คุยกันมาได้ประมาณ 3 เดือน ซึ่งต้องปรับตัวเยอะ เพราะฝ่ายหญิงยังวัยรุ่นมาก ๆ ส่วนภาพลักษณ์คาสโนวาตัวพ่อก็บอกมีผลต่อความเชื่อใจกับเพื่อน ๆ หวานใจสาวอยู่เหมือนกัน แต่ย้ำชัดตอนนี้คุยอยู่คนเดียวนะจ๊ะ แถมอีกฝ่ายยังเคยเจออดีตภรรยา “นิวเคลียร์” กับลูกชาย “น้องไทก้า”แล้วด้วย

แถมล่าสุดวานนี้ 21 ก.ย 66 ทำเอาฮือฮาอีกรอบเมื่อเจ้าตัวได้โพสต์ภาพคู่กับมือของสาวหวานใจพร้อมแคปชั่นระบุว่า "ทรงอย่างแบด เนอะ หม่าล่า ยามดึก" ขณะที่เพื่อนๆและแฟนคลับแห่เข้ามาคอมเมนต์เชียร์ให้เปิดตัวหวานใจ เช่น ถ้าแน่ ก็เปิดหน้ามาเลยครับเฮีย , มือออออ ใคร อะเฮีย , อินเนอร์มาเต็มนะคะ , อยากเห็นคนข้างๆค่ะเฮีย

Cr. ig : @djpetjah
#ดีเจเพชรจ้า #ข่าวบันเทิง #ข่าวดารา #สยามดารา #siamdara
"ยิปซี” ควง “นิโคลัส" เข้าประตูพิธีวิวาห์บรรยากาศสุดอบอุ่น
เข้าพิธีวิวาห์ไปอย่างชื่นมื่นสำหรับนักแสดงสาวเซ็กซี่ “ยิปซี คีรติ มหาพฤกษ์พงศ์” ที่ควงแฟนหนุ่มชาวต่างชาติ “นิโคลัส ฮอว์” เข้าพิธีวิวาห์ เมื่อช่วงสายวันที่ 21 ก.ย. 66 ที่ผ่านมา หลังจากคบหาดูใจกันมานานถึง 5ปี โดยงานแต่งของทั้งคู่จัดขึ้นแบบเรียบง่าย มีแค่ครอบครัวและเพื่อนสนิท บรรยากาศเต็มไปด้วยความอบอุ่น

ซึ่งภายหลังจากจบงานวิวาห์เจ้าบ่าวสุดหล่อ “นิโคลัส” ได้โพสต์ภาพคู่กับเจ้าสาวยิปซีพร้อมทั้งเขียนข้อความว่า Such a great day for us @gypsykeerati @alexanderfrancishaw thank you for all the love and support.  (เป็นวันที่ดีสำหรับพวกเรา ขอบคุณสำหรับความรักและการสนับสนุนทั้งหมด)

Cr. ภาพ ig : @nicholas_haw @gyp.so @gypsykeerati
#ยิปซีคีรติ #นิโคลัส #สละโสด #งานวิวาห์ #ข่าวดี #ข่าวบันเทิง #ข่าวดารา #สยามดารา #siamdara
“เบียร์ ภัสรนันท์” เคลื่อนไหว เปิดภาพรอยยิ้มสดใส!
พายุร้ายกำลังผ่านพ้นไปแล้วหลังต้องเผชิญปัญหาครั้งใหญ่ สำหรับนักร้องสาวเสียงหวาน ‘เบียร์ เดอะวอยซ์’ หรือ เบียร์ ภัสรนันท์ อัษฎมงคล หลังถูกโยงลือปล่อยภาพลับในโลกโซเชียลจนกลายเป็นกระแสร้อนแรงไปทั่วออนไลน์ จนแฮชแท็ก #เบียร์เดอะวอยซ์ ขึ้นติดเทรนด์ X (ทวิตเตอร์) ท่ามกลางเหล่าแฟนคลับรวมไปถึงบรรดาศิลปินและนักแสดงในวงการต่างร่วมส่งกำลังใจให้กับศิลปินสาวกันเป็นจำนวนมาก

และเมื่อวันที่ 21 ก.ย 66 ‘เบียร์ เดอะวอยซ์’ ได้โพสต์ภาพแจกรอยยิ้มสดใสตามแบบฉบับของเจ้าตัว ลงบนอินสตาแกรมส่วนตัวพร้อมระบุข้อความอิโมจิยิ้ม :’) และแนบอิโมจิดอกกุหลาบร่วงโรยต่อท้าย

ด้านแฟนคลับร่วมคอมเมนต์นับพันส่งกำลังใจผ่านข้อความดี ๆ ไม่เว้นแม้แต่นักแสดงและพิธีกรชื่อดัง ‘หนุ่ม กรรชัย’ ได้เข้ามาส่งอิโมจิหัวใจสีแดง เช่นกัน

Cr. ภาพ ig : @beerpassaranan

#เบียร์เดอะวอยซ์ #ข่าวบันเทิง #ข่าวดารา #สยามดารา #siamdara
ลือแรง “โรเซ่” ต่อสัญญา YG Ent. เพียงคนเดียว!
ทั่วโลกจับตามองสำหรับเรื่องการต่อสัญญาของสมาชิก วง BLACKPINK เกิร์ลกรุ๊ประดับโลกกับค่าย YG Entertainment ที่ก่อนหน้านี้มีข่าวลือของสมาชิกสาวชาวไทย “ลิซ่า BLACKPINK” หรือ “ลิซ่า ลลิษา มโนบาล” ได้ปฏิเสธข้อเสนอการต่ออายุสัญญากับทาง  YG

แต่ที่ทำเอาแฟน ๆทั่วโลกต่างฮือฮาอีกครั้งเมื่อในวันนี้ 21 ก.ย. 66 สื่อดังของเกาหลีใต้อย่าง Sports Seoul ได้รายงานว่า “ สมาชิกวง BLACKPINK อยู่ในขั้นสุดท้ายของการเจรจาสัญญาที่จะเป็นแบบสมาชิกอยู่แยกสังกัดแต่จะยังคงมีกิจกรรมกับวง BLACKPINK ต่อไปที่เป็นแบบนั้นก็เป็นเพราะว่ามีเพียง “โรเซ่” เท่านั้นที่ตกลงต่อสัญญากับค่าย YG

ขณะที่สมาชิกอีก 3 คน เจนนี่ , จีซู และ ลิซ่า ไม่ต่อสัญญากับค่ายแต่มีความตั้งใจเดินหน้าในฐานะสมาชิกวง BLACKPINK ด้วยกันต่อไป โดยใน 1 ปี จะโปรโมตกับวงเป็นเวลา 6 เดือนหรือครึ่งปีด้วยกัน

ทั้งนี้ ตามข่าวระบุว่าสำหรับ “เจนนี่” นั้นยังไม่ชัดเจนว่าจะเซ็นกับค่ายไหน แต่ “จีซู” กับ “ลิซ่า” นั้นมีการเซ็นกับบริษัทในเกาหลีใต้เพื่อให้ดูแลงานให้กับพวกเธอ ขณะเดียวกันยังเชื่อว่า จีซู จะขยายเส้นทางในวงการไปสู่การแสดงหลังจากเป็นสมาชิกวงคนแรกที่ได้เป็นนางเอกซีรีส์เต็มตัว โดยในคอนเสิร์ตปิดโชว์ ‘Born Pink’ ของ BLACKPINK ในกรุงโซลเมื่อวันที่ 17 ก.ย ที่ผ่านมา” เจนนี่” กล่าวต่อหน้าแฟนๆ ว่า “เราจะยังคงเป็น BLACKPINK ที่คุณรักต่อไป” ซึ่งบ่งบอกถึงความตั้งใจที่จะยังอยู่ด้วยกันเป็นกลุ่ม

และสื่อ Sports Seoul ยังได้รายงานต่ออีกว่า YG ได้ออกมาปฏิเสธข่าวดังกล่าว โดยระบุว่า “ยังไม่มีการยืนยันใดๆ และเรากำลังหารือกัน”

Cr. ที่มา AllKpop/ BLACKPINK

#Rose #Jennie #Jisoo #lisa #LiSABLACKPINK #siamdara #BLACKPINK
อย่าให้แม่ขึ้น! “ใหม่ สุคนธวา” ฟาดคนขี้สงสัย ปมสามีรวยไหม-ทำงานอะไร?
ออกมาโพสต์ชี้แจ้งพร้อมฟาดแบบจุกๆ สำหรับนักแสดงสาว “ใหม่-สุคนธวา เกิดนิมิตร” หลังเจอประเด็นข่าวเม้าท์มอยซุบซิบลอยเข้าหูในทำนองว่า สามี (ดีเจต้น) ทำงานอะไร? มีอาชีพอะไร? ทำไมรวย? ที่ล่าสุดวานนี้ 19 ก.ย 66 เป็นให้ “สาวใหม่” ฐานะภรรยาเกิดอาการของขึ้นต้องออกมาร่ายยาวฟาดคนขี้สงสัยผ่านทางอินสตาแกรมส่วนตัวเอาไว้ว่า

“ #อย่าให้แม่ขึ้น มีคนถามเยอะ สงสัยเยอะว่า สามี “ใหม่ สุคนธวา” ทำงานอะไร? มีอาชีพอะไร? สามี “ใหม่ สุคนธวา”รวยไหม? สามีใหม่ทำไมรวย ? (ถึงกระทั่งเสิร์ชในเน็ตกันเลยทีเดียว55) แม่ก็งงว่าคิดอะไรกันอยู่? ทำไมถึงมีคำถามเหล่านี้เกิดขึ้นได้? คิดว่าสามีใหม่ทำอาชีพอะไรที่ไม่ดีเหรอคะ? แล้วทำไมเราจะต้องกลัวเป็นข่าว แบบที่คนอื่นเขาเป็นกันด้วยคะ?

บอกเลยเรา 2 คน ทำอาชีพสุจริตมากค่ะ พื้นฐานครอบครัวเรา 2 คนสอนมาดีว่า อยากรวยเร็ว ทำอาชีพไม่ดี มันเป็นเงินร้อน ใช้ได้ไม่นานหรอก สุดท้ายมันก็ไม่ใช่เงินเรา / เราเหนื่อยกันมาตลอดในการหาเงินเข้าบ้าน โดยเฉพาะสามีแทบไม่ได้นอน และทำงานวันละ 6-7 งานด้วยค่ะ ถึงเวลาหลับก็ยังตาไม่หลับ คิดเรื่องงานจนเช้าเลย ถ้าคนใกล้ตัวน่าจะเห็นๆกันอยู่นะคะ ว่าตื่นเช้าไปทำงานยังไง

เจอสามีใหม่กันตลอด ทุกค่ายทุกช่อง! แต่...ไอ้คนที่มันไม่เคยเจอสามีเวลาทำงาน ก็คือ พวกคุณชาวเน็ตทั้งหลาย ที่ไม่เคยเจอ ก็จะสงสัย แม่ก็ไม่ว่าหรอกค่ะ เพราะคุณอยู่แต่ในโลกโซเชียลเท่านั้น! เอาเป็นว่า คล่องใจทักถามกันได้ อย่าเอาไปคิด แล้วนินทา หรือพูดให้เราเสียหายกันค่ะ คนทำมาหากินแบบเครื่องจักรที่ไม่ได้หยุดพัก มันจะหมดกำลังใจทำดีกันค่ะ

อ่อ...และถ้าทำอาชีพอะไรที่ไม่ดีนะ ป่านนี้เรา 2 คนรวยเละเทะไปแล้วค่ะ (ตอนนี้ยังเป็นหนี้ หาเงินใช้หนี้ ผ่อนบ้านผ่อนรถกันอยู่เล้ย!) และที่สำคัญ แม่ไม่ต้องมานั่งขายของอยู่แบบนี้หรอกค่ะ เคนะ จบค่ะ รู้เรื่อง ชัดเจน ! #เลี้ยงลูก2คนแม่ก็เหนื่อยจะบ้าอยู่แล้ว #ต้องมาตอบคำถามบ้าๆไปอีก #ประสาทแ_กกันพอดี #แม่เป็นคนไม่แรง #แต่อย่างกับแม่ก่อน”

Cr. ig : @maisukhon
#ใหม่สุคนธวา #ฟาดแรง #ข่าวบันเทิง #ข่าวดารา #สยามดารา #siamdara
แม่แซ่บมาก ! “หนิง” โพสต์แรงถึง “จิน” รู้สึกผิดจริงขอให้ทำที่รับปากไว้สักนิด
หลังจากกรณีที่ “จิน จรินทร์ ธรรมวัฒนะ” อดีตสามีของนักแสดง-ผู้สาวคนดัง “หนิง ปณิตา ธรรมวัฒนะ” ออกมาเปิดใจปมดราม่ามือที่สามและได้ยอมว่ารู้สึกผิดกับสิ่งที่ได้ทำลงไป

ที่ล่าสุดวันนี้ 21 ก.ย 66 “หนิง ปณิตา” ได้เคลื่อนไหวโพสต์เฟซบุ๊กหลังเห็นบทสัมภาษณ์ของอดีตสามี “จิน โดยระบุข้อความว่า  “ข่าวนี้จริงๆหนิงก็พยายามทำทุกอย่างให้สงบลงแบบค่อยเป็นค่อยไปแล้ว (แบบที่กระทบคนในครอบครัวให้เบาที่สุด) ไม่คิดว่าจะเป็นประเด็นอะไรขึ้นมาอีกจนคุณจินออกมาให้สัมภาษณ์เอง ขออนุญาติตอบตรงนี้เลยนะคะ และกราบขอโทษพี่ๆสื่อที่ไม่ได้รับสาย

การสัมภาษณ์ทุกครั้งไม่เคยมีคำไหนออกมาจากปากหนิงเลยนะคะว่า “เลิกกัน “ หนิงจะใช้คำว่า “เป็นพ่อเป็นแม่ที่ดีของลูก” เสมอ และที่สำคัญใช้คำว่า “เลิกแล้วไม่ควรมีคนอื่น” (ใช่หรอคะ ใช้คำผิดไหม ) ทั้งนี้เหตุผลเป็นเพราะทางจินเองนั้นได้ขอหนิงไว้ว่าไม่ต้องการให้ทางคุณพ่อคุณแม่ของตนทราบเรื่องนี้ เนื่องด้วยเหตุผลและสำคัญที่สุดรักษาใจของลูกให้ดีที่สุดแบบค่อยเป็นค่อยไปค่ะ

ที่ผ่านมาอึดอัดมาตลอดในการสัมภาษณ์สื่อ ที่หลังๆ ทุกการสัมภาษณ์ ต้องเลี่ยงคำและระมัดระวังในการพูดเพื่อไม่ให้กระทบความรู้สึกของใครโดยเฉพาะคนในครอบครัว (ตอบดีก็แค่เสมอตัว และถ้าไม่ดีก็เป็นความผิด ) ทั้งๆที่รู้ว่า #ความจริงเป็นสิ่งไม่ตาย และเป็น #ความจริงที่ประกอบด้วยหลักฐานขอบคุณคุณจินนะคะที่ออกมาตอบข้อสงสัยของสังคมและใครอีกหลายๆคนแทนนะคะ แล้วถ้ารู้สึกผิดตามที่ให้สัมภาษณ์ไว้จริงๆ ขอความกรุณาและความเมตตาทำทุกอย่างตามที่รับปากกันไว้ให้ได้จริงๆซักนิดนึงค่ะ เพราะนั่นคือ #สิ่งที่ดีที่สุดสำหรับลูก”

Cr. Fb: Ning Panita

#หนิงปณิตา #จินจรินทร์ #ข่าวบันเทิง #ข่าวดารา #สยามดารา #siamdara
“จิน” ยันรู้สึกผิดต่อ “หนิง” รับเคยโดน “เป๊ก” ตบเตือนสติ !
ออกมาเปิดใจครั้งแรกสำหรับ "จิน จรินทร์ ธรรมวัฒนะ" อดีตสามีของนักแสดง-ผู้สาวคนดัง “หนิง ปณิตา ธรรมวัฒนะ” ที่ทำผิดต่อภรรยาและครอบครัว จนกลายเป็นข่าวโด่งดังโดย “จิน จรินทร์” ได้มาเป็นแขกรับเชิญในรายการ คนละเป็ก EP.2 ทางช่องยูทูบของ เป๊ก สัณณ์ชัย กับ ธัญญ่า ธัญญาเรศ รวมไปถึง เอมี่ กลิ่นประทุม

จิน : ได้เปิดฉากเล่าว่ามี 3 คนในชีวิตที่กลัวมาก คือ พ่อ, เป๊ก สัณณ์ชัย และ อากบ ทรงสิทธิ์ เมื่อถามว่า กบ ทรงสิทธิ์ ดุมากเหรอเป๊กถึงกับบอกว่าโอ้โห ไม่ธรรมดา 
เอมี่ : ประเด็นตั้งแต่เกิดเรื่อง (ปัญหาชีวิตคู่กับ หนิง ปณิตา) พี่จินยังไม่เคยพูดอะไรเลยจะพูดที่นี่เป็นครั้งแรก 

จิน : ทำตัวไม่ดีครับตอนนั้นไม่มีสติครับผม 11 ปีที่เราแต่งงานเราอ่ะเห็นแก่ตัวในการ คือการที่เราเลิกกับภรรยาเก่าแล้วเราไม่ควรมีคนอื่น รู้สึกว่าจินผิดนะ จินรู้สึกผิดกับใครหลายๆ คน พอเวลามันผ่านไปสักแป็บนึงมันคิดได้หมดเลย ทุกอย่างมันก็เลยจบหมดเลย ตอนนี้ก็กลับมาใช้ชีวิตดูแลลูกให้ดี ไม่ใช่แค่ฝังจินจะทุกข์นะ ฝั่งหนิงเขาก็ทุกข์เหมือนกัน เพราะเราเป็นคนทำผิด พอเรากลับมาเราใช้ชีวิตใหม่ สุดท้ายเราคือต้องดูแลลูก
เป๊ก : คือเราก็รักณิริน รักหนิง มันใกล้ตัวซะจนตกใจ (พี่เป๊ก เรียนจินมาคุยอะไร) ไม่ได้เรียกว่าคุยอะไรเรียกมาตบ (หัวเราะ) อาจจะดูรุนแรง แต่เป็นการเตือนสติให้น้องเผื่อมันจะคิดได้นิดนึง ครั้งแรกเราพูดไปแล้วก็ไม่ฟัง พี่กบ ทรงสิทธิ์ พูดไปแล้วก็ไม่ฟัง รอบสามพี่ไม่พูดละนี่น้องเรา เราปล่อยให้น้องเราเป็นแบบนี้มันไม่ถูกต้อง จินอาจจะหลงระเริงด้วยอะไรไม่รู้ ซึ่งพี่เข้าใจดี มันผิดที่จิน ไม่ได้ผิดที่ผู้หญิง จินเป็นคนผิด จินต้องรับผิดชอบ

จิน: คือตอนนี้เป็นพ่อแม่ของลูกที่ดี
เป๊ก : ตอนนี้จินอาจจะพูดแบบนี้ แต่เวลาผ่านไปสักระยะนึงมันก็อาจจะมีโอกาส 
จิน : พอเขาเลิกกับจิน เขาสวยขึ้นนะ ส่องตลอด  
จิน: ถ้าเจอคนดีก็จบ แต่ถ้าเขามีปัญหาก็จะเข้าไปช่วยเขา 
เป๊ก : ให้พูดตามตรงถ้ามีผู้หญิงเข้ามา ไม่เลือกที่จะเข้าไปยุ่งเลย ต้องปล่อยผ่านเลย ไม่อย่างนั้นพี่ไม่มีวันจบหรอก 

จิน : รักในฐานะที่เขาเป็นแม่ของลูก เรายังเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน สิ่งสำคัญที่สุดคือณิริน ขอบคุณพี่เป๊กที่สอนจิน โกรธนะที่เรียกมาด่า ด่าเสร็จมึงก็ต้องนั่งกับกูนี่แหละ
ธัญญ่า : มีวันหนึ่งไหมที่จะมีโอกาสกลับมาเป็นครอบครัว
จิน : คือตอนนี้เป็นพ่อแม่ของลูกที่ดีต่อกันดีกว่า

Cr. รายการ คนละเป็ก

#จินหนิง #หนิงปณิตา #จินจรินทร์ #ข่าวบันเทิง #ข่าวดารา #สยามดารา #siamdara
แต่งรอบ 2 “เคลลี่” ประกาศวิวาห์ “พลอยไพลิน” 2 ต.ค นี้
ออกมาประกาศข่าวดีแบบสายฟ้าแลบสำหรับพระเอกรุ่นใหญ่ “เคลลี่ ธนะพัฒน์” ที่ได้ฤกษ์ดีเตรียมควงแฟนสาว “พลอย พลอยไพลิน ภมรมนตรี” หลานสาวของนักแสดงรุ่นใหญ่อย่าง “แซม ยุรนันท์ ภมรมนตรี” ” เข้าสู่ประตูวิวาห์ในวันที่ 2 ต.ค. นี้หลังคบหาดูใจกันมานานกว่า2 ปี

โดยวานนี้ 20 ก.ย 66 “เคลลี่” ได้เผยข่าวดีว่าตื่นเต้นมากๆ เพราะใกล้จะถึงวันงานเต็มทีแล้วต้องบอกว่างานนี้น่าจะเร็ว เพราะเราทั้งสองกำลังยุ่งกับเรื่องจัดงาน ก็ฉุกละหุกนิดนึง จริงๆ แพลนไว้ว่าจะแต่งงานต้นปี แต่กลายเป็นว่าพอไปดูฤกษ์แล้วได้มา ตอนแรกเขาบอกว่าควรจะแต่งก่อนที่จะถึงวันเกิดผม เพราะผมเกิด 8 พ.ย. แล้วได้วันที่ดีที่สุดคือวันที่ 2 ต.ค. ก็เลยกลายเป็นวันนั้น แต่จริงๆ ใจผมอยากจะแต่งประมาณเดือน 2-3 ปีหน้า ยังมีเวลาวางแพลนเตรียมงาน และอย่างแรกเลยต้องขอโทษเลยที่อาจจะไม่ได้เชิญในวงการ เพื่อนๆ พี่ๆ ผู้ใหญ่ในวงการมา เพราะเนื่องจากเราจัดงานเล็กๆ กันก่อน และเกรงใจด้วยเพราะค่อนข้างจะเร็ว”

ตอนนี้ก็สงสารพลอยครับ เขาเหนื่อยในการจัดงาน ส่วนผมสไตล์ผู้ชายเนอะ ก็แล้วแต่พลอยเลย พี่อะไรก็ได้ เราต้องตามใจแฟนเราอยู่แล้ว เราให้ไอเดียได้แต่ก็ตามใจเขาเป็นหลัก เต็มที่อยู่แล้ว เราไม่ได้จัดเป็นงานใหญ่ มีแต่ครอบครัว แขกประมาณ 140 คนครับ เป็นสไตล์ฝรั่ง มีพิธีสงฆ์ สวมแหวน รดน้ำสังฆ์ตามประเพณีไทย และจะมีทานข้าวกลางวันกัน เรียบง่าย จะไม่มีแห่ขันหมากหรือโขว์สินสอดอะไรเลย และก็มีจดทะเบียนด้วย

ส่วนกระแสข่าวลือที่ปรากฏบนโซเชียลว่าฝ่ายหญิง ท้องก่อนแต่งนั้น หนุ่มเคลลี่ก็ปฏิเสธพร้อมชี้แจงข้อเท็จจริงว่า เรารู้อยู่แล้วว่าคนต้องคิดไม่ใช่เรื่องแปลกเพรามันปุบปับจริง ๆ แต่ไม่ได้ท้องก่อนแต่ง อย่างที่บอกว่าไปดูฤกษ์มาเราแพลนที่จะแต่งอยู่แล้วสิ่งที่กังวลตอนนี้คือจะจัดงานทันไหมมากกว่า

Cr. ภาพ IG : kellytanapat
#เคลลี่ #พลอยพลอยไพลิน #วิวาห์รอบ2 #ข่าวบันเทิง #ข่าวดารา #สยามดารา #siamdara
"ไบร์ท" รับคุยกับ "โบกี้" ยันแฟนเก่าก็มูฟออนไวเหมือนกัน!
จบความสัมพันธ์กับ “มิ้น” อดีตแฟนสาวนอกวงการไม่นานก็โดนลือเป็นพระเอกมูฟออนไวทันที สำหรับพระเอกหนุ่มสุดฮอต “ไบร์ท นรภัทร วิไลพันธุ์” ที่ถูกเปิดวาร์ปซุ่มคบกับ “โบกี้ เฌอริสา ธนะ” มิสแกรนด์ปัตตานี 2022 หลังมีภาพเช็กอินเที่ยวญี่ปุ่นในสถานที่คล้ายๆกัน

โดยล่าสุดวานนี้ 20 ก.ย 66 “ไบร์ท” ยอมรับผ่านสื่อชัดๆว่าไปเที่ยวกับ “โบกี้” จริง ก่อนจะรีวิวว่าทริปญี่ปุ่นเป็นทริปที่สนุกดี ถือเป็นช่วงพักผ่อน และเรื่องมูฟออนเร็วไม่ใช่ผมคนเดียว น้องแฟนเก่าเราก็มูฟออนเร็วเหมือนกัน ก็ยังคุยกันอยู่ทุกวันนี้ก็ติดต่อกัน ก็คือคุยกันตรงๆ ก็ไม่รู้จะอยู่ทำไมเนอะ จบไปแล้วเลิกไปแล้ว ทำไมไม่รู้ไปดีกว่า มูฟออนดีกว่า แฟนเก่ามูฟออนเร็วกว่าผมอีก ไม่มีอะไรเลย ยังติดต่อกันอยู่เป็นพี่น้องกันได้

ด้านความสัมพันธ์กับ “โบกี้ มิสแกรนด์ปัตตานีคือรู้จักกันมาตั้งแต่สมัยมหาวิทยาลัย ตั้งแต่ปี2-3 รู้จักกันนานมากและก็เพิ่งได้มีโอกาสมาคุยๆ กัน ไม่ได้ศึกษาดูใจแค่คุยๆ ปีนี้ผมจะไม่มีแฟน เหลืออีก 4 เดือน (หัวเราะ) ที่คุยๆ กันอยู่ก็โอเคยังไม่ถึงขั้นแฟน ก็ลองคุยกันก่อน

ส่วนคนที่ไปวาร์ปอดีตแฟนเก่า “มิ้น” รับรู้อีกฝ่ายไม่ค่อยโอเค เอาจริงๆ ไม่ใช่แค่เขาคนเดียว ใครหน้าไหนก็ตามส่วนมากไม่ค่อยโอเคกับอะไรแบบนี้ คือเราชินแต่เขายังไม่ชินหรอก ก็สงสารเขาที่มีคอมเมนต์ที่ดีและไม่ดี คอมเมนต์ที่ไม่ดีผมก็รู้สึกสงสารเขาเหมือนกัน ก็เป็นอย่างนี้แหละ อย่าไปแคร์มาก ก็แค่คำพูดของไอ้หน้าไหนก็ไม่รู้ พูดร้ายๆ ใส่เราอย่าเก็บไปคิด อย่าเก็บไปคิด แคร์คนทั้งโลกเราก็เป็นบ้าพอดี”

Cr. ig : @brightnorr @bgcherisa

#ไบร์ทนอ #โบกี้ #ไบร์ทนรภัทร #มิสแกรนด์ปัตตานี #ข่าวบันเทิง #ข่าวดารา #สยามดารา #siamdara
ต้นสังกัด “ท็อป lazyloxy” จ่อเอาผิดคนโยงคลิปหลุด “เบียร์ เดอะวอยซ์”
กำลังเป็นประเด็นร้อนที่สังคมจับตาในตอนนี้ สำหรับกรณีปมลือคลิปหลุดที่ชาวเน็ตพุ่งเป้าว่าสาวในคลิปหน้าคล้ายนักร้องสาว “เบียร์ เดอะวอยซ์” หรือ”เบียร์ ภัสรนันท์ อัษฎมงคล” ซึ่งทางด้านอดีตคนรักอย่าง ท็อป Lazyloxy ก็ได้ออกมาให้กำลังใจและช่วยปกป้องอดีตแฟนสาว แต่ก็มีชาวเน็ตหลายคนวิพากษ์วิจารณ์และจับโยง “หนุ่มท็อป” เข้าไปเอี่ยวกับประเด็นร้อนดังกล่าว

ล่าสุดวันนี้ 20 ก.ย 66 ขณะที่ บริษัท วอร์มไลท์ สตูดิโอ จำกัด ต้นสังกัดของ ท็อป Lazyloxy ได้มีการร่อนจดหมายปกป้องศิลปินโดยระบุข้อความว่า “สืบเนื่องจากการกล่าวหาและพาดพิงถึงศิลปิน Lazyloxy หรือ นายปฐมภพ พูลกลั่น (ศิลปิน) เกี่ยวกับกรณีที่เป็นข่าวอยู่ในขณะนี้นั้น บริษัท วอร์มไลท์ สตูดิโอ จำกัด (บริษัท) ในฐานะผู้ดูแลศิลปินขอยืนยันว่า ศิลปินไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับกรณีดังกล่าวตามที่ถูกกล่าวหาทั้งสิ้น

บริษัทฯ จึงขอให้หลีกเลี่ยงหรือยุติการโพสต์ หรือส่งต่อข้อความ รูปภาพ หรือเนื้อหาอื่นใดที่ไม่เป็นความจริง อันนำมาซึ่งความเสียหายต่อชื่อเสียงของศิลปินและบริษัทฯ หากมีการกระทำใดที่ไม่เหมาะสม มีความจำเป็นที่จะต้องดำเนินการทางกฎหมาย กับผู้ที่กระทำดังกล่าวเพื่อปกป้องสิทธิและชื่อเสียงของศิลปินต่อไป”

ซึ่ง “หนุ่มท็อป” ยังได้โพสต์เพิ่มเติมว่า “หากใครมีโพสต์หรือความคิดเห็นที่ไม่เหมาะสมเพิ่มเติม ส่งมาได้ทางไอจี”

Cr. ig : @reallazylife, @beerpassaranan 
#เบียร์เดอะวอยซ์ #ท็อปlazyloxy #ข่าวบันเทิง #ข่าวดารา #สยามดารา #siamdara
“เบนซ์อเลิ๊ต” ยันโสดสนิท “ต่าย” แค่รุ่นพี่คนสนิทเท่านั้น
โดนชาวเน็ตจับตาสัมพันธ์กับนักแสดงสาว”ต่าย-ชุติมา ทีปะนาถ” อย่างหนักสำหรับนักแสดงหนุ่ม-นักร้องมากฝีมืออย่าง "เบนซ์-ณัฐพงศ์ ผาทอง" หรือ "เบนซ์อเลิ๊ต" หลังจากที่สาวต่ายโพสต์รูปนั่งอิงแนบชิดอยู่กับหนุ่มรายหนึ่งจนทำให้ชาวเน็ตแห่เปิดวาร์ปโยงว่าเป็นเจ้าตัว

โดยล่าสุดวานนี้ 19 ก.ย 66 หนุ่มเบนซ์ได้ออกมาก็ขอเคลียร์ใจประเด็นนี้ว่าตอนนี้หัวยังโสดสนิท ส่วนพี่ต่ายจริงๆ ก็เป็นแค่รุ่นพี่ที่สนิทกันเป็นแก๊งๆ เดียวกัน ก็สนิทกันมาสักพักแล้วถามว่ารู้จักได้ไง เป็นเพื่อนของเพื่อนก็เลยอาจจะสนิทกัน อาจจะอยู่ใกล้ชิดกัน คนอื่นเลยคิดว่าไปสนิทกันได้ยังไง แต่เรามีกลุ่มที่เป็นก้อนเดียวกัน

ส่วนชาวเน็ตแห่เปิดวาร์ปยอมรับตกใจนิดนึง แต่เรารู้อยู่แก่ใจอยู่แล้วว่าคืออะไร แต่พี่ต่ายก็ส่งมาให้ดูเหมือนกันว่าเป็นข่าวนะ ถูกโยงนะ เราก็ตกใจนิดหน่อยว่ามันเป็นไปได้ยังไง แต่ด้วยความไปจอยทริปกันมั้ง ด้วยความที่เราถ่ายรูปในโลเคชั่นเดียวกันมั้งคนก็เลยจับโยง ก็เป็นเรื่องที่เข้าใจได้ ยืนยันว่าไม่ได้เป็นหนุ่มคนพิเศษของพี่ต่ายถ้าถามความสัมพันธ์ก็เป็นรุ่นพี่ที่สนิท ถูกโฟกัสก็เรื่องธรรมดาอยู่แล้วเพราะเขากำลังอยู่ในกระแส และคิดว่าการเจอกันในที่สาธารณะคนก็จับจ้องอยู่แล้ว ถ้าโอกาสลุ้นให้เป็นเรื่องของอนาคตผมก็ไม่รู้ว่าอนาคตจะเป็นยังไง แต่ตอนนี้ก็เป็นรุ่นพี่ที่สนิทอยู่ในแก๊งเดียวกันแฟนคลับก็ตกใจ ผมยังตกใจเองเลย แต่เข้าใจได้

ตอนนี้โสดสนิทเป็นสีแดง เจาะมาก็เป็นเลือดธรรมดา (หัวเราะ) โสดครับมั่นใจๆ ถ้าถามถึงสเปกเอาจริงๆ ตอนนี้ชอบคนที่คุยกับเรารู้เรื่อง ชอบคนทำงานครับตอนนี้ยังไม่มี โฟกัสเรื่องงานมากกว่า (หัวเราะ) ตอบเหมือนดารามากเลย แต่โฟกัสเรื่องงานจริงๆ

Cr. ภาพ ig : @tye.chutima @bbenzalert
#ต่ายชุติมา #เบนซ์อเลิ๊ต #ข่าวบันเทิง #ข่าว #ข่าวดารา #siamdara #สยามดารา
“ใหม่ ดาวิกา” ร่ายยาวถึง “ตั้ม-สไมล์” พร้อมตัดพ้อถึงชาวเน็ต!?
จากประเด็นร้อนของนักร้องสาว “สไมล์ เดอะสตาร์” หรือ “ภาลฎา ฐิตะวชิระ” ได้ออกมาเล่าเรื่องราวในชีวิตของตนเองในรายการ “De-Talk EP.17” โดยมีพิธีกรเป็นสองหนุ่มนักร้อง"โดม จารุวัฒน์" และ "ตั้ม วราวุธ"

ที่บางช่วงของรายการที่สไมล์ได้พูดถึงว่าเธอนั้นถูกผู้จัดการดาราสาวท่านหนึ่งใช้ให้ทำรายงานให้ ซึ่ง “ตั้ม” พูดเสริมว่าตอนนั้น “สไมล์” โดนโขกสับทุกกระเบียดจนมีชาวเน็ตต่างคาดเดาและโยงไปถึงดาราสาวคนดังอย่าง “ใหม่ ดาวิกา โฮร์เน่” ซึ่งต่อมาเมื่อ “ตั้ม - สไมล์” ออกมาเบรกดราม่าชี้แจงว่า “ใหม่ ดาวิกา” ไม่ใช่ดาราใช้ทำรายงานพร้อมขอโทษและอ้อนวอนชาวเน็ตหยุดโยง

และล่าสุดวานนี้ 19 ก.ย 66 “สาวใหม่” ได้ออกมาเคลื่อนไหวผ่านทาง (X) เขียนข้อความร่ายยาวว่า "น้องตั้มและน้องสไมล์เป็นน้องที่น่ารักเราเคยเล่นหนังเรื่องเดียวกันพี่ดีใจมากที่พี่ได้รู้จักน้องทั้งคู่...พอเกิดเรื่องในรายการขึ้นน้องก็ไม่ได้นิ่งนอนใจเลยออกมาปกป้องพี่ใหม่สุดๆขอบคุณน้องทั้งคู่มากแต่ต่อไปนี้น้องไม่ต้องออกมาแก้หรือถ่ายคลิปขอโทษพี่น้า(เพราะน้องบอกว่าให้ทำคลิปมั้ย) เรื่องนี้ปัญหาจริงๆคือชาวเน็ตบางคนต่างหากที่พยายามใบ้ให้เป็นใหม่ และอยากให้ใหม่เป็นคนผิด รักน้องที้งคู่เสมอและพี่จะsupportน้องตลอดไป #สไมล์ภาลฎา #ใหม่ดาวิกา"

Cr. (X) @DavikaH

#ใหม่ดาวิกา #สไมล์เดอะสตาร์ #ตั้ม #ข่าวบันเทิง #siamdara
ชาวเน็ตดราม่า! ราคาบัตรคอนเสิร์ต vvip “เฌอปราง” สูงถึง 1.5 แสนบาท
กลายเป็นกระแสฮือฮาวิพากษ์วิจารณ์ไปทั้งโซเชียลหลังเพจ “BNK48” หลังเพจ BNK48 ได้ประกาศขายบัตรคอนเสิร์ตจบการศึกษาของ “เฌอปราง อารีย์กุล” หรือ “เฌอปราง BNK48” กับคอนเสิร์ต Cherprang BNK48’s Graduation Concert ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 29 ตุลาคม 2566 ที่ธันเดอร์โดมเมืองทองธานี

แต่งานนี้สิ่งที่สร้างความฮือฮาให้กับแฟนๆ และชาวเน็ตหลายคนคือการขายบัตรโดยทางเพจโพสต์ข้อความระบุว่า #BNK48_DepartCHER BNK 072 SHN 4812 – Cherprang BNK48’s Graduation Concert – DATE: 29 OCT 2023 TIME: 15:00 VENUE: Thunder Dome, Muang Thong Thani 150,000 / 6,500 / 4,800 / 3,800 / 3,200 / 3,000 / 2,800 / 2,200 / 2,000 / 1,800 / 1,200 / 720 THB”

ซึ่งราคาบัตร VVIP ราคา 150,000 บาท แต่เมื่อได้เข้าไปดูรายละเอียดแล้วบัตราราคา 150,000 บาทนั้น จะเปิดขายแค่ 2 ใบเท่านั้น โดย 1 ใบ มีสิทธิที่จะรวมกลุ่มกันได้ 15 คน และผู้ที่ซื้อบัตร VVIP นี้ จะได้ถ่ายรูปกับ “เฌอปราง” ตัวต่อตัว จำนวน 2 ช็อต อีกด้วย ซึ่งถ้าหารกัน 15 คน จะตกคนละ 10,000 บาท นั่นเอง

ซึ่งมีแฟนคลับของสาวเฌอปรางเข้ามาเคลียร์ดราม่าพร้อมอธิบายสาเหตุการขายบัตรราคานี้เพราะว่า จะมีแฟนคลับที่รวมกลุ่มกัน หรือที่เรียกว่า "เหล่าแมว" เป็นแฟนคลับที่ต้องการจะรวบกลุ่มกันเพื่อทำโปรเจคจบการศึกษาให้กับ "เฌอปราง"ดังนั้น บัตรราคา 150,000 บาท ที่ขายเพียงแค่ 2 ใบนั้น จึงเป็นบัตรที่ออกแบบมาเพื่อแฟนคลับของ เฌอปราง เป็นหลักอยู่แล้ว ซึ่งเป็นเรื่องปกติ

Cr. ภาพ BNK48 @cherprang.bnk48offcial
#เฌอปรางbnk #bnk48 #ข่าวบันเทิง #ข่าวดารา #siamdara #สยามดารา
“เบียร์ ภัสรนันท์” เคลื่อนไหวไอจีขอบคุณ “ท็อป LAZYLOXY” หลังถูกโยงคลิปหลุด
หลังจากข่าวลือสะพัดถึงปมคลิปหลุดปริศนาที่ชาวเน็ตพุ่งเป้าว่าสาวในคลิปหน้าคล้ายนักร้องสาว เบียร์ เดอะวอยซ์ หรือ เบียร์ ภัสรนันท์ อัษฎมงคล จนเกิดแฮชแท็ก #เบียร์เดอะวอยซ์ พุ่งติดเทรนด์ (X) หรือ ทวิตเตอร์ ร้อนแรงบนโลกโซเชียลท่ามกระแสสังคมที่ออกมาปกป้องนักร้องสาวพร้อมกับพากันฟาดคนที่เข้ามาคอมเมนต์ขอวาร์ปคลิปหลุด

จนล่าสุดกลางดึกของวันที่ 19 ก.ย 66 พบว่าในสตอรี่อินสตาแกรมส่วนตัวของ “สาวเบียร์” ได้มีการรีโพสต์ของอดีตแฟนหนุ่ม “ท็อป LAZYLOXY” หรือ “ปฐมภพ พูลกลั่น” เป็นขณะภาพวีดีโอคอลให้กำลังใจพร้อมเขียนข้อความว่า ‘Thank you so much naka When i’m sad you’re sad.When you’re sad I’m Sadder. (ขอบคุณมากๆนะคะ ในวันที่ฉันเศร้า เธอก็เศร้า วันที่เธอเศร้า ฉันเศร้ากว่า)’

Cr. ig : @reallazylife, @beerpassaranan 

#เบียร์เดอะวอยซ์ #ท็อปlazyloxy #ข่าวบันเทิง #ข่าวดารา #สยามดารา #siamdara
“ลิซ่า BLACKPINK” ทุบสถิติโลกมียอดสตรีม 1 พันล้านครั้ง บน Spotify
กระแสแรงอย่างต่อเนื่องจริงๆ สำหรับเพลง MONEY ของศิลปินสุดฮอต "ลิซ่า ลลิษา มโนบาล" หรือ ลิซ่า BLACKPINK ที่ล่าสุดวันนี้ 19 ก.ย 66 “ลิซ่า”สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ด้วยการทุบสถิติระดับโลกจากผลงานเพลง  "MONEY ขึ้นเป็นผลงานเพลงจากศิลปินเดี่ยวเคป๊อป , ศิลปินหญิงเคป๊อปเพลงแรก , ศิลปินคนแรกจากค่าย YG และเป็นเพลงเปิดตัวครั้งแรกของศิลปินเคปป๊อปที่มียอดสตรีมบน Spotify ถึง 1,000 ล้านครั้ง

ทั้งนี้บลิ๊งค์ทั่วโลกยังร่วมเฉลิมฉลอง ติดแฮชแท็ก #CongratulationsLisa และ #MONEY900MYTViews ที่คลิป " MONEY EXCLUSIVE PERFORMANCE" ของ ลิซ่า ลลิษา มียอดสตรีมในยูทูปทะลุ 900 ล้านวิวเป็นที่เรียบร้อย

ซึ่งเพลง “Money” ของ ลิซ่า ได้เปิดตัวเมื่อวันที่ 9 ตุลาคม 2021 ในอัลบั้มเดี่ยว “Lalisa” แม้จะไม่ใช่เพลงไตเติ้ล แต่ “Money” ก็สร้างความฮือฮาไปทั่วโลกอย่างรวดเร็ว

Cr. (X) #Congratulations Lisa #MoneySpotifyBillionClub

#LALISA #MONEY #lisa #LiSABLACKPINK #siamdara
“ท็อป Lazyloxy” ฟาดแรงเตือนสติชาวเน็ตหยุดคุกคาม “เบียร์ ภัสรนันท์”
ร้อนระอุติดเทรนด์เอ็กซ์ (ทวิตเตอร์) สำหรับแอชแท๊ก #เบียร์ เดอะวอยซ์ หลังมีเพจดังออกมาปั่นประเด็นเรื่องภาพหลุดของนักร้องสาว “เบียร์-ภัสรนันท์ อัษฎมงคล” หรือ เบียร์ The Voice ที่ถูกบุคคลไม่หวังดีปล่อยภาพหวิวออกมาในโลกโซเชียล จนทำให้เจ้าตัวต้องตั้งทนายความขึ้นมาเพื่อเอาผิดกับคนที่ปล่อยภาพ

ล่าสุดวันนี้ 19 ก.ย 66 ทางด้านอดีตคนรักอย่าง “ท็อป Lazyloxy” หรือ “ท็อป-ปฐมภพ พูลกลั่น” ก็ได้ออกมาปกป้อง “เบียร์ เดอะวอยซ์” โพสต์ข้อความลงในสตอรี่ไอจี ระบุว่า “ถึงท่านผู้เจริญทั้งหลายที่อาจจะมีห* แต่ไม่มีสมอง แล้วออกมาแสดงความคิดเห็นโง่ๆ แบบไม่ให้เกียรติผู้หญิง หลังจากกำ ห* ตัวเองเสร็จแล้ว อย่าลืมกำเงินกันไว้ด้วยนะครับ”

และด้านอดีตคนรักอีกหนึ่งคนอย่าง “วาน้อย หรือ Wanioz” คนดังจากวงการเกมก็ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นกับเรื่องนี้ว่า “ผมไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น รวมถึงไม่ได้ติดต่อทนายไปด้วย เบื้องต้นมีไปแจ้งความ พ.ร.บ. บ้างแล้วครับ” พร้อมกับส่งข้อความไปให้กำลังใจทางเบียร์ด้วย

Cr . Fb : wanoiz วาน้อย
ig : @beerpassaranan @reallazylife

#เบียร์ เดอะวอยซ์ #ท็อป #ข่าวดารา #ข่าวบันเทิง #สยามดารา #siamdara
หมดลุ้นรีเทิร์น! "กรีน" เคลียร์สถานะ "ธันวา" หลังมีภาพอดีตคนรักมาหาถึงบ้าน
ทำเอาชาวเน็ตแห่จับตาอดีตคู่รักของสาวนางเอก “กรีน-อัษฎาพร สิริวัฒน์ธนกุล” และ พระเอกหนุ่ม “ธันวา สุริยจักร” จ่อลุ้นรีเทิร์นรักอีกครั้งหรือไม่ หลังฝ่ายหญิงได้โพสต์คลิปวิดีโอลงในสตอรี่อินสตาแกรมส่วนตัว ขณะหนุ่ม “ธันวา” อดีตคนรักแวะมาหาที่บ้านของตน ซึ่งภายหลังจากสาวกรีน ได้โพสต์คลิปดังกล่าวทำให้ชาวเน็ตหลายคนแอบลุ้นว่าทั้งคู่กลับมามีข่าวดีอีกครั้ง

และล่าสุดวานนี้ 18 ก.ย 66 สาวกรีนไม่ปล่อยให้ทุกคนสงสัยนานได้ออกมาเฉลยว่า “เขาแค่มาเอาของ เราเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน ด้วยความที่เราเลิกกันด้วยสาเหตุที่มันไม่ผิดศีลธรรม มันเป็นการตัดสินใจของคนทั้งสอง เราเลยพูดคุย เป็นเพื่อน หวังดีต่อกันได้”

Cr. ig : @green_ausadaporn
#กรีนธันวา #กรีนอัษฏาพร #ข่าวดารา #ข่าวบันเทิง #สยามดารา #siamdara
ศาลสั่งจำคุก "หมอของขวัญ" กรณีหมิ่นประมาท "แซน วิศาพัช"
จากกรณีที่ “แซน วิศาพัช มโนมัยรัตน์” ฟ้องหมิ่นประมาท “หมอของขวัญ ฟูจิตนิรันดร์” เรียกค่าเสียหาย 1 ล้านบาท จากเหตุการณ์ถูกหมอของขวัญไลฟ์สดวิจารณ์การเสียชีวิตของดาราสาว “แตงโม นิดา พัชรวีระพงษ์” พร้อมเล่านิทาน ทำให้ตนเองได้รับความเสื่อมเสีย เข้าข่ายหมิ่นประมาท

โดยวันนี้ 19 ก.ย.66 ศาลอาญาธนบุรี ศาลอ่านคำพิพากษาคดีที่นาย วิศาพัช มโนมัยรัตน์ หรือ “แซน วิศาพัช” เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง พญ.ของขวัญ ฟูจิตนิรันดร์ หรือ หมอของขวัญ ในคดีหมิ่นประมาทฯ กรณีไลฟ์สดวิจารณ์การเสียชีวิตของดาราสาว “แตงโม นิดา” พร้อมเล่านิทานทำให้โจทก์ได้รับความเสื่อมเสีย โดยเรียกค่าเสียหาย 1 ล้านบาท

ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 328 , 393 เป็นกรรมเดียวผิดต่อกฎหมาย หลายบท ให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 328 ซึ่งเป็นบทที่มีโทษหนักที่สุด ฐานหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณาเป็นการกระทำหลายกรรมต่างกันให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไป รวม 2 กระทง จำคุกกระทงละ 2 ปีและปรับกระทงละ 120,000 บาท จำเลยรับว่าโพสต์ข้อความและไลฟ์สดจริงเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณามีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กระทงละหนึ่งในสาม คงจำคุกจำเลยกระทงละ 1 ปี 4 เดือน ปรับกระทงละ 80,000 รวมจำคุก 2 ปี 8 เดือนและปรับ 160,000 บาท

จำเลยไม่เคยต้องโทษจำคุกมาก่อน เห็นควรให้โอกาสกลับตัวเป็นคนดี โทษจำคุกจึงให้รอการลงโทษไว้ 2 ปี ห้ามจำเลยโพสต์ข้อความใดใดในสื่อสังคมออนไลน์เกี่ยวกับโจทก์ทั้งในทางตรงและทางอ้อม ภายในระยะเวลารอการลงโทษ หากไม่ชำระค่าปรับให้จัดการตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 29,30 กลับให้จำเลยโฆษณาคำพิพากษาทั้งหมดในบัญชีเฟซบุ๊กของจำเลยที่ว่า Doctorkatekate เป็นเวลา 15 วัน ด้วยค่าใช้จ่ายของจำเลย ส่วนคำขออื่นนอกจากนี้ให้ยก ส่งคำขอให้นับโทษจำคุกในคดีนี้ต่อจากโทษจำคุกในคดีหมายเลขดำที่ อ.1770/2565 ของศาลอาญามีนบุรี เนื่องจากคดีนี้ศาลรอการลงโทษ จึงไม่อาจนับโทษต่อได้ให้ยกคำขอในส่วนนี้

Cr. ig : @doctorkatekate @sanddsandd

#หมอของขวัญ #แซนวิศาพัช #ข่าวดารา #ข่าวบันเทิง #สยามดารา #siamdara
ปังต่อเนื่อง! “ไบร์ท วชิรวิชญ์” กระทบไหล่นักเตะซุปตาร์ “ซนฮึงมิน”
กระแสฮอตเกินต้านสำหรับพระเอกหนุ่ม “ไบร์ท-วชิรวิชญ์ ชีวอารี” ที่ได้โกอินเตอร์ลัดฟ้าร่วมชมแฟชั่นโชว์คอลเล็กชั่น Spring/Summer 2024 โดย Daniel Lee ในสถานะแบรนด์แอมบาสซาเดอร์ของ Burberry

และเป็นที่ฮือฮาเมื่อล่าสุด 19 ก.ย 66 ในอินสตราแกรม Cloud9 Entertainment ต้นสังกัดใหม่ของพระเอกหนุ่มได้เผยภาพโมเมนต์ของหนุ่ม “ไบร์ท” ร่วมเฟรมยืนกระทบไหล่ "ซนฮึงมิน" (Son Heung Min) นักฟุตบอลชื่อดังชาวเกาหลีใต้ และสโมสรฟุตบอลทอตแนม ฮอตสเปอร์ (Tottenham Hotspur) ในพรีเมียร์ลีกของประเทศอังกฤษ ที่มาร่วมชมแฟชั่นโชว์ในครั้งนี้นับเป็นอีกหนึ่งโมเมนต์ที่แฟนๆ ตั้งตาคอยที่จะให้ทั้งสองคนได้พบกันในงานของ Burberry

Cr. ig : @Cloud9 Entertainment
#ไบร์ทวชิรวิชญ์ #ซนฮึงมิน #ข่าวดารา #ข่าวบันเทิง #siamdara #สยามดารา
เขินตัวบิด! “ใหม่” เปิดซีนหวานอวยพรวันเกิด “เต๋อ” อายุครบ40ปี
คบหาดูใจกันเข้าสู่ปีที่ 6 แล้วแต่ความหวานไม่มีแผ่ว สำหรับคู่รักลุง-ลิง อย่างนักแสดงหนุ่ม “เต๋อ ฉันทวิชช์ ธนะเสวี” และนางเอกสาว “ใหม่ ดาวิกา โฮร์เน่” ที่ในวันนี้ 18 ก.ย 66 เป็นวันคล้ายวันเกิดของ “หนุ่มเต๋อ” อายุครบ 40 ปีบริบูรณ์

ทางด้านหวานใจ “สาวใหม่” ไม่พลาดออกมาเปิดโหมดสวีตทำคนโสดร้องกรี๊ดโดยได้โพสต์ภาพอวยพรวันเกิดฝ่ายชายรับอายุครบ 40 ปีผ่านอินสตราแกรมส่วนตัว ด้วยแคปชั่นสั้นๆ แต่รู้เลยรักมากว่า “Happy Birthday babyyyyyy @terchantavit” ซึ่งก่อนหน้านั้นทั้งสองได้ควงแขนกันไปทำบุญปล่อยโค - กระบือที่วัด เพื่อเป็นสิริมงคล

Cr. ig : davikah
#เต๋อใหม่ #ใหม่ดาวิกา #เต๋อฉันทวิชช์ #ข่าวบันเทิง #ข่าวดารา #siamdara #สยามดารา **ลงเว็บ