เมื่อวันที่ 2 กันยายน 2568 จากกรณีที่ อี้-แทนคุณ จิตต์อิสระ ประธานชมรมสันติประชาธรรม พร้อมด้วย นายเก่ง สุเชษฐ์ ผู้ช่วยประธานฯ พาผู้เข้าประกวด Miss Universe Thailand (MUT) ระดับจังหวัดหลายราย ทั้งจากจังหวัดอุทัยธานี แพร่ และบุรีรัมย์ 5 ราย เข้าพบพนักงานสอบสวน กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) เพื่อแจ้งความดำเนินคดีในข้อหาฉ้อโกงและหลอกลวง โดยอ้างว่าถูกกองประกวดระดับจังหวัดฉ้อโกงเงินรางวัลและสิทธิประโยชน์ตามที่ตกลงกันไว้ ซึ่งมีมูลค่าความเสียหายรวมกว่า 10 ล้านบาท และคาดว่าจะมีผู้เสียหายรายอื่น ๆ ทยอยเข้าแจ้งความเพิ่มเติมอีกในแต่ละ ภาค ผู้เข้าประกวดที่เข้าพบ พงส.กก.1 บก.ป. ได้แก่ น.ส.ปลายฟ้า ไขทุมมา MUT อุทัยธานี, น.ส.ยลรดา วัจนะ รองอันดับ 1 MUT อุทัยธานี, น.ส.ณัฐนันท์ คันธมาลย์ รองอันดับ 2 MUT อุทัยธานี, น.ส.เอลินญาน์ รองอันดับ 2 MUT แพร่ และ น.ส.ณัฐมน ศิลาอาศน์ รองอันดับ 3 MUT แพร่ *เหยื่อถูกข่มขู่ในห้องพักโรงแรม ขู่ปล่อยคลิป หากไม่ยอมทำตาม ในส่วนของผู้เสียหาย 2 รายแรกที่ได้ให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนนานกว่า 4 ชั่วโมง คือ น.ส.ยลรดา วัจนะ และ น.ส.ปลายฟ้า ไขทุมมา ได้แจ้งความเพิ่มเติมในข้อหา "ข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด ไม่กระทำการใด หรือจำยอมต่อสิ่งใด" โดยกล่าวหาว่าถูก น.ส.มาดี หรือ "มี้กิ๊ฟ" กับพวกอีก 5 คน กระทำพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมระหว่างการเก็บตัวที่โรงแรม Palette The Travellers Hotel Bangkok เมื่อวันที่ 25-26 มิถุนายน 2568 ระหว่างเวลา 21.00-01.00 น. ที่ผ่านมา ผู้เสียหายระบุว่าถูกบังคับให้เข้าไปสัมภาษณ์ในห้องพัก(เรียกว่าห้องมืด)ซึ่งเป็นห้องนอนของโรงแรมทีละคน ภายในห้องดังกล่าวมีผู้ต้องสงสัยอยู่ด้วย 5 คน โดยผู้เสียหายรู้สึกไม่ปลอดภัยและถูกคุกคาม พร้อมทั้งถูกบังคับให้ตอบคำถามและพูดตามสคริปต์ที่กำหนดไว้ เพื่อแลกกับการไม่ถูกเผยแพร่คลิปวิดีโอที่บันทึกไว้ในระหว่างการสัมภาษณ์ รวมถึงเพื่อหลีกเลี่ยงการเสียค่าปรับตามที่ ข่มขู่ เบื้องต้น พนักงานสอบสวน กก.1 บก.ป. ได้รับเรื่องร้องทุกข์ดังกล่าวไว้เพื่อดำเนินการสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐานก่อนออกหมายเรียกผู้ถูกกล่าวหาทั้ง 5 คนมารับทราบข้อหาดำเนินการตามกฎหมายต่อไป ทั้งนี้ ทางกองประกวด Miss Universe Thailand (MUT) ได้ประกาศยกเลิกสัญญาการจัดการประกวด Miss Universe แพร่, อุทัยธานี และบุรีรัมย์ 2025 กับบริษัท เอเชีย มีเดียส์ จำกัด ผู้จัดการประกวดใน 3 จังหวัดดังกล่าวแล้ว เนื่องจากไม่สามารถปฏิบัติตามเงื่อนไขและมาตรฐานที่กำหนดไว้ได้ ประเด็นที่บรรดาผู้เข้าประกวดที่มาแจ้งความกองปราบปรามเห็นว่าไม่เหมาะสมและเป็นการคุกคาม เช่น การบังคับทำสื่อโฆษณาเกินจริง: ผู้จัดงานบังคับให้ผู้เข้าประกวดทุกคนถ่ายคลิปโฆษณาสินค้าสปอนเซอร์ โดยมีสคริปต์ที่เขียนเนื้อหาเกินจริงมาให้ หากผู้เข้าประกวดทำผิดพลาดหรือส่งช้า จะถูกต่อว่าด้วยถ้อยคำรุนแรงต่อหน้า ผู้อื่น การดูหมิ่นและแบ่งแยกผู้เข้าประกวด: ผู้จัดงานเคยสั่งห้ามผู้เข้าประกวดบางคนมานั่งใกล้ พร้อมกล่าวว่า “เด็กคนนี้ไม่น่ารัก” การกระทำดังกล่าวสร้างบรรยากาศกดดันและทำให้ผู้เข้าประกวดบางคนรู้สึกด้อยค่า การไม่ให้รางวัลตามเงื่อนไข: ผู้เข้าประกวดที่ปฏิบัติตามเงื่อนไขเรื่องการหาสปอนเซอร์ครบตามที่กำหนด กลับไม่ได้รับรางวัลตามที่แจ้งไว้ อยู่ดี การข่มขู่และกดดันในกระบวนการประกวด: มีการห้ามไม่ให้ผู้เข้าประกวดเลือกชุดจนกว่าคนอื่นจะเลือกเสร็จ และมีการใช้ถ้อยคำกดดัน เช่น “มึงไปแต่งหน้าไป” การกระทำดังกล่าวสร้างความหวาดกลัวและความกดดันทางจิตใจแก่ผู้เข้าประกวด การกล่าวหาที่ไม่เหมาะสมต่อผู้เข้าประกวดที่ป่วย: ในวันแรก มีผู้เข้าประกวดคนหนึ่งเกิดอาเจียนเพราะตื่นเต้นและไม่ได้รับประทานอาหาร ผู้จัดงานกลับกล่าวหาว่า “น้องท้อง” และถามต่อหน้าผู้เข้าประกวดคนอื่น ๆ ว่า “จะปลดออกดีไหม”